ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 44
์
่
ี
้
ี่
่
้
ิ
ิ
ู
้
้
่
ิ
ั่
็
หลวงประดษฐฯ กอนททานจะสนชวตทานสงไววาเธอตองเปนพยานใหครนะ วา
่
่
็
็
็
ี
บรรดาความรตาง ๆ เหลาน้มันเปนหลักเปนเกณฑ มันเปนมาตรฐานอยางไรตามท ี่
่
์
่
ู
่
้
้
ิ
ิ
ู
ี
ี่
้
้
้
ู
ู
็
็
ี่
ครสอนเธอไปนั้นเนยเธอตองเปนพยานใหครหลังจากทครสนชวตไปแลว มันเปน
้
ึ
ี
็
์
ั
่
ขอนาสงสยไหมครบ ถาเปนอยางน้เรานกไปถงงานภาพยนตรโหมโรงดู ไปดู
ั
้
ึ
่
็
้
ี่
์
้
ุ
ิ
์
ภาพยนตรโหมโรงเสรจแลวเนย สดทายหลวงประดษฐฯ ก็ชนะพระยาเสนาะฯ โดย
ื่
้
่
้
ื
่
็
่
ภาพรวม แตความไขวเขวในนั้นคอความชนะทวาดวยเรองของการท าความเรววา
ี่
่
่
ี
่
ี่
็
ใครท าความเรวไดมากกวากัน แตในค าทมความหมายวา ‘ไหว’ ของนักบรรเลง
้
์
ี่
้
้
ั
้
้
ี
ี
้
็
ั
ระนาดเอกนั้นเนยเคามเกณฑนะเคามหลักนะ เรวตองชดชดแลวตองเสมอนั่น
ื
ึ
ื
่
ี
้
ื
้
ี
้
้
หมายถงวาตองตองท ามอสองมอความสามารถสองมอเนยตองมเสยงเสมอกันแลว
ี่
่
่
ไมบกพรองดวยความเรวสงสดแตในหนังนั้นความเรวทชนะคอใชสองมอชวยกัน
้
ุ
็
ี่
ู
้
่
ื
ื
่
็
็
ื
ื
็
็
้
่
ี่
ี
ี
ื
ื
่
ชวยกันใหไดความเรวก็แนละสองมอท าเปนมอเดยวไปสองมอเปน มอเดยวทม ี
้
่
ี
ี
ื่
้
่
ู
้
่
่
สองพลังมันก็สกันไมไดอยูแลว แตมันตองมรายละเอยดในนั้น นั่นก็แปลวาเรอง
้
้
้
ั
่
ี
ิ
รายละเอยดนั่นหมายถงวาในมุมหนงถาผูปรบวงถาจะปรบใหไดอดมคตของการต ี
ุ
ึ
้
้
ั
้
้
ึ่
้
ี่
ู
่
่
ระนาดไหวเนยก็จะตองรวาปจจยในการทเขาตองการนั้นนอยูตรงไหนแตไมใชวา
้
ี่
่
่
่
้
่
ั
ั
ี่
้
่
็
่
็
้
ึ่
เอาแตเรวกวากันซงมันตองเรวกวากันและมันก็ตองดกวากันดวยแตตองดใน
้
่
้
ี
ี
่
่
้
ี่
ี
ุ
่
ิ
็
ี
ี
คณสมบัตทก าหนดทฤษฎดนตรดนตรไทยก าหนดตองก าหนดวาเรวและก็ตอง
้
ั
้
เสมอและก็ตองชด โอเคนะครบเรองน้ไปปรบเอาตามพระยาเสนาะฯ เลยนะ
ั
ั
ี
ื่
การปรบวงดนตรไทยก็คอการปรบเขาสเปาหมายภายใตหลักวชาการ
ี
ั
ื
้
้
ู
ิ
้
่
ั
่
ิ
้
่
่
่
์
่
ี
ดุรยางคไทยในก าหนดท าไมตองพูดวาเชนนั้นก็เพราะวาดนตรไทยไมใชดนตร ี
พ้นบานและก็ไมใชดนตรพ้นเมองซงถาเผอจะเฉพาะดนตรไทยทจะเปนดนตร ี
ึ่
ี
่
ื
ื
ี
่
็
้
ื
้
ื่
ี่
ิ
์
ี
ิ
ิ
ุ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 45
้
้
ี
ื
้
ื
ี่
ื
้
ื
่
่
ุ
พ้นบาน หรอพ้นเมองจะตองเลากันในขอกระจางเนย ก็จะตองถกเถยงกับคณหมอ
่
้
พูนพศอกแลว ตอไปถาหวขอแบบน้อยาใหไดเจอกันเดยวจะไปเถยงทานยังไงก็
้
้
ิ
่
้
่
ี
ี
ี๋
ี
้
ั
ิ่
่
ี่
ตองเคารพทานเพราะวาทานเปนครแตวาไอสงทไมถูกเนยในทางวชาการมันก็ม ี
้
่
่
ิ
่
่
็
ู
่
ี่
่
ี่
้
็
ี
้
ู
ี
ี่
้
้
้
ื
้
็
ความจ าเปนทผูท เปนนักดนตรผูมความรก็ตองชวยกันยนยันใหความถูกตองนั้น
ี่
ี่
ึ
ื
ี
่
ี
ี
ั
้
่
มันอยู นะครบ นั่นหมายถงวาดนตรทเราจะพูดกันขนาดน้คอดนตรไทยท สราง
ววัฒนาการภายใตหลักวชาการก าหนดทสมบูรณถาดนตรพ้นบานเคาวาดวยเรอง
ื
้
ี
้
่
้
ี่
ิ
ิ
ื่
์
้
้
้
ของสภาพพ้นบานเคามภูมปญญาอยางไรเขาก็เอามาสรางระบบดนตรโดยม ี
ี
่
ื
้
ิ
ี
ั
้
์
ี
ื่
ี่
ื่
่
วัตถุประสงคเพอทจะผอนคลายพักผอน ใหหายเหนอยจากการประกอบอาชพท า
้
่
้
ิ
็
เกษตรท าอะไรตาง ๆ สวนดนตรพ้นเมองก็คอเปนศลปะทสรางข้นภายใตสภาพท ี่
ื
ี่
ื
่
้
ื
ึ
ี
่
ความรอยูใด ๆ ก็ตามภายในเมองนั้น ๆ มเทาไหรก็สรางไปตามวัตถุประสงคท ี่
่
์
้
่
ื
้
ี
ู
่
้
ี่
ึ
ั
ึ
ิ
็
้
่
่
่
้
้
อยากจะสรางอยากจะท าแตไมไดค านงถงหลักวชาการทถูกตองเปนส าคญ แตถา
ึ
ิ
ิ
ี่
ี่
็
ี่
ิ
่
เกดวาดนตรชนดททเราศกษาเลาเรยนกันนเดมท ผมใชค าวาราชส านักซงเปนค า
่
ี
ี
้
ึ่
ี
่
ี่
้
่
้
้
ี่
้
ิ
ึ่
้
เดมทเคาก็ผูหลักผูใหญเขาใชกันมา แตผมก็ไปชอบค าค าหนงทเคาเรยกวาประจ า
่
ี
่
ื
ี
่
ี่
ิ
ื่
่
่
่
ี
้
ิ
ี
ี
ชาตก็แลดูดแตก็คงเถยงกันตอไปเรองดนตรพ้นบานไมใชดนตรประจ าชาตเนย
่
ิ
ี
่
่
่
ดนตรไทยสากลไมใชดนตรประจ าชาตก็เถยงกันยังไมจบอยูเลยแตวาสาระส าคญ
่
ี
ี
่
ั
่
็
ี่
้
ึ
ิ
ี
้
ี่
ิ
ี
ั
มันอยูทเปนศลปะดนตรเปนภูมปญญาดนตรทถูกสรางข้น ดวยหลักการและเหตุผล
็
ั
ในทางวชาการดนตรไทยทไดผานการสรางผานการหลอมรวมผานการคดผานการ
่
้
ิ
่
่
่
้
ี
ี่
ี
จดระเบยบพอพูดถงตรงน้เราก็ตองไปพูดถงเรองของ ยุคของการจดการระเบยบ
ื่
ึ
้
ึ
ี
ั
ั
ี
ิ
ี
ั
ี
ั้
่
่
้
่
วชาการอกก็จะเสยเวลากันไปใหญตองคงอกหลายครงหนอยนะวากันไปนะครบ
ี
็
ี
ั
ี่
่
ิ่
ี
สาระทเราพูดกันไปนั้นก็ตองการจะชประเด็นน้เหนวาการปรบวงในสงท ี่
้
้
ี่
่
่
็
ั
ี
่
จะพูดตอไปน้จะเปนการปรบวงทอยูภายใตขอก าหนดและหลักการตาง ๆ ในทาง
้
้
ี
ิ
วชาการของดนตรไทยในมตของความไพเราะทน ามาสการมองประเด็นในเชงของ
ี่
ิ
ู
่
ิ
ิ
ิ
การปรบวงไปสมตของความไพเราะทสมบูรณ ์
ั
ู
่
ี่
ิ
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 46
ิ
ี
้
ั้
่
ี
ี
ิ
โดยเฉพาะส านักดนตรถามภูมปญญาชนเลศ แตนักดนตรขาดความ
ั
้
ิ
ี
่
์
็
ื
้
ิ
สมบูรณเสยแลว มันสละความเปนเลศนั้นออกไมได ตัวทสงคอกาลเทศะ ผลงานท ี่
ี่
ิ
ิ
ิ
ิ
จะสรางความไพเราะมันมสองมตอยูในนั้น มตหนงคอตามหลักวชาการ อกอยาง
่
่
ี
ี
ึ่
ิ
ื
้
ี
คอมตทพงใชในสถานการนั้น มความส าเรจอยางไร ซงมาจากการบรการตาม
ึ่
ื
ึ
ิ
ิ
่
ิ
็
ี่
้
้
ึ่
ิ
วชาชพ ถาเขาตองการความไพเราะ ในแบบน้แตเราเอาความไพเราะอกแบบหนง
ี
่
ี
้
ี
้
ิ
่
่
ั
็
่
้
้
้
ไป ผูจางก็คงตองตัดราคา เชน ผูฟงนยมความไพเราะและรวดเรว แตเราไมสามารถ
้
ั
้
้
้
็
ี
ตอบความตองการของผูฟงได จะดวยเหตุผลใด ๆ ก็ตามของนักดนตร นั้นก็เปน
้
ื่
ิ
ิ
ี
์
ิ
เรองของความสมบูรณในทางการบรการวชาชพและทางวชาการ มันคนละดานกัน
้
์
มันเปนองคประกอบคนละตัวกัน มันข้นอยูกับกาลเทศะ แลวอะไรจะเปนแรงขับ
็
็
่
ึ
่
ุ
์
์
ึ
์
ิ
ของคณคาของศลปะทสมบูรณทพงประสงค องคประกอบในการปรบวง แนนอน
ี่
ั
ี่
่
้
้
วา ถาไมมความรปรบไมได ถาความสามารถไมพอปรบไมได ถาวัฒนธรรมไม ่
่
่
่
่
ั
้
ั
้
ู
ี
้
้
่
ี
้
ู
เพยงพอ ถาปรบแลวจะไดพวงมาลัยหรอพวงหรด ความร ประสบการณ จรยธรรม
์
ิ
ี
้
ั
ื
้
้
้
้
ตองมากพอดวย ในสวนของผูรบการปรบวงนั้น ก็ตองมความรเพยงพอ
ั
้
้
ั
่
ู
้
ี
ี
ู
ี
ความสามารถเพยงพอ วัฒนธรรมเพยงพอเชนเดยวกัน ไมงั้นจนเขาหากันไมได ้
้
่
่
ี
่
ี
่
ุ
ั่
่
ึ
ู
ั
ี่
ิ
กลไกของผูปรบวงทจะพงสง กลเม็ดเด็ดพรายตาง ๆ ก าเนดไปสคณคาของผลการ
่
้
ี่
ั
ี
้
ั
ั
ื
่
ปรบวง และวัตถุทจะรบจะสง มันคนละตัวกัน ปจจยทหนงคอผูปรบตองมความ
ึ่
ี่
ั
้
ั
ู
้
้
่
รอบร ในความร ความสามารถและวัฒนธรรมใหตรงกัน ไมงั้นสอกันไมได และผู ้
้
ู
้
ื่
่
้
ี
้
้
ถูกปรบตองมความพรอมในการรบวา ผูปรบจะสงอะไร จะปรบอะไร ตองให ้
ั
ั
่
ั
ั
่
้
เปนไปตามนั้น
็
์
ิ
ิ
ิ
ี
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 47
ุ
ื่
่
ึ่
้
ู
็
่
ั
็
เรองครและบุคคลนับเปนสวนหนง แตสาระส าคญทจะตองปรากฏเปน
ี่
ี่
ั
ี
ุ
้
็
ั
้
ั
่
เรองเพลง ทจะเปนปจจยในการสะทอนใหผลของการปรบวงน้ไดคณคาของการ
ื่
้
้
้
ั
้
็
้
ู
ี่
ั
็
่
ปรบวง ไดมากนอยประการใดตองรทเพลง เหนการปรบวงนั้นอาจจะไมเหนกัน
ั
้
่
ั
ี
ื
เลยก็ได สาระส าคญ สวนส าคญของเพลง คอ ท านองดนตรในลักษณะส าคญท ี่
ั
ี
ี
้
ี่
่
ิ
เรยกวาท านองทเรยกวาการด าเนนท านอง หรอท านองเก็บ ท าความถไป ถาเปน
่
ื
็
ี่
่
โนตก็มักจะเปนแบบเต็มชอง 5-6 ตัวโนต เปนเพลงทมลักษณะด าเนนท านอง
็
ิ
็
ี่
้
ี
้
ี
ี
ี่
็
็
ี่
ื
ึ่
ั
ลักษณะ อกลักษณะหนงทเปนพ้นฐานคอ เพลงทมท านองเปนลักษณะบังคบทาง
ื
่
ี่
่
ิ
ี
้
ี
็
ี
ึ่
อกตัวหนงก็จะเปนคณสมบัตทเรยกวาลูกลอลูกขัด บางเพลงอาจจะมแตด าเนน
ิ
ุ
ั้
ั
็
ท านองทงเพลง บางเพลงอาจจะเปนบังคบทางทงหมด แตบางเพลงอาจจะเปนลูก
ั้
่
็
ั้
่
้
่
ี
ี
้
ี
่
ิ
ลอลูกขัดทงเพลงนั้นไมม ในวชาการดนตรไทย ยังไมมใครสราง ยังไมใครท า แต ่
่
้
์
ถาหากวาจะมผูสมฤทธ์สรางผลงานในความเปนปราชญ ทสะทอนใหเหนวา เพลง
้
็
้
ี่
่
้
ี
็
้
ิ
ั
ิ
่
่
ี
ทมแตลูกลอลูกขัดนั้นดกวาเพลงบังคบทาง และเพลงด าเนนท านองทมมาในอดต
ี่
ี
ั
ี
ี่
้
ี
ื
ื
ี
้
ิ
หรอ ดกวาเพลงบังคบทางประสมด าเนนท านองหรอลูกลอลูกขัด มาในอดต ถาม ี
้
่
ี
ั
แตเพลงลูกลอลูกขัดมันดกวา มันก็ไมเลวนะ หากวาจะพงม ถามวาจรง ๆ มหรอไม ่
ี
ี
ึ
่
้
ี
่
่
่
่
ื
ิ
้
ิ
ี
ก็ตองมการพสจน
์
ู
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 48
ิ
ุ
ี
ื่
ั
ั
‘ดนตรดตองมกลอน’ นั้น เปนเรองใหญส าหรบวงวชาชพในปจจบัน
่
ี
ี
้
ี
็
ี
้
่
ั
ู
ี
้
ี
่
ื
ี
ี่
ี่
้
ั
นักดนตรทเรยนดนตรรจกกลอนหรอเปลา ทเรยนกันอยูนั้นรจกกันมากนอยแค ่
ู
่
็
่
่
่
่
ื
่
ไหน แตถามวาเปนหรอไม เลนทนั่นเปนไหม เลนทนเปนไหม เลนเปน แตเลน
็
็
่
ี่
ี่
็
ี่
่
ี
ู
ี
ี่
้
่
่
เพราะครบอกให แตสงทเราไดเรยนมานั้น นั่นเปนกลอนหรอเปลา บางทเลนไป
่
ื
้
ิ่
็
์
่
ตลอดชวตยังไมทราบเลย ยกตัวอยางเชนตัวผมเอง พอมาพบอาจารยประสทธ ทาน
ิ
่
่
ิ
ิ
่
ี
ี่
ี
่
้
่
ิ
ี
้
บอกวาดนตรดตองมกลอน แลวกลอนอยูตรงไหน กอนทจะมาศกษาในวชา
่
ี
ึ
้
ี
ี
นาฏศลปในดนตรไทย ผมเองไดเรยนจากบดามาหมดแลว แลวมาเรยนม.ตนของ
้
ิ
้
์
ี
ิ
้
ึ่
ิ
ั
ิ
่
ื
ู
ิ
์
วทยาลัยนาฏศลป ผมดูถูกภูมปญญาของครบดาผมซงผมสบไปภายหลังวา เพราะ
ิ
ื่
์
ู
่
่
ี
ั
่
คุณปผม คณครเทยบเรยกวา พขัน แสดงวาสายสมพันธเชอมโยง มาจากสายพระยา
ุ
ู
ี
ี่
ั
ี
็
่
่
เสนาะดุรยางค และปผมเปนนายวงอยูจงหวัดพระนครศรอยุธยา พอเวลามงาน
ู
ี
ิ
์
ุ
ส าคญ ๆ ก็มาเอานักดนตรคนส าคญ ๆ จากกรงเทพฯ โดยเอานักดนตรสายครหลวง
ั
ั
ู
ี
ี
ิ
ิ
่
ู
้
ิ
ี
ื
ประดษฐไพเราะไป ไปสบรทหลัง แตวาก็ไดยกเลกภูมปญญาครบดาผมไปเสยสน
้
์
่
ิ
ู
ิ
้
ี
ั
ื่
ิ
ิ่
่
หมดแลว มาเรมตนเรยนใหมทกรมศลปากร เพราะเชอวากรมศลปากรนั้นตอง
่
้
้
ี่
้
ี
ิ
ึ
ดกวาชนบทอยุธยาแน ๆ ในตอนนั้นผมอายุเพยง 11 ขวบ จงไดมความคดแบบนั้น
ี
้
ี
่
ี
ิ
่
้
ื่
ิ
ี
เพราะฉะนั้นจงใหความส าคญวา ดนตรดตองมกลอน ถาจะบอกอธบายในเรองของ
ี
้
ี
้
ึ
่
ั
ิ
ี่
ี
ิ
ี่
่
ิ
กลอนก็แนะน าทมหาวทยาลัยเเหงน้ (หอสมุดกลาง มหาวทยาลัยมหดล) ทผมท า
วทยานพนธเรอง แขกมอญบางขุนพรหม ในบทบาทของวัฒนธรรม ก็ไดแทรกซม
์
ิ
ื่
้
ิ
ึ
่
่
้
ิ่
่
ี่
สงตาง ๆ เหลาน้ไว เพราะคาดวาจะไมมโอกาสไดบอกใคร ๆ เพราะไปทไหนเขาก็
้
ี
ี
่
ไมเอาอะไรทงนั้น เอาแตนวัตกรรมใหม ไมรอะไรใหม
่
ั้
ู
้
่
่
่
่
ี
ื
่
กลอน คราว ๆ หลัก ๆ คอท านองหลักทมาตรฐานดนตรไทยจะตอง
้
ี่
ี
้
บรรเลงนั้น แตเดมเขาเรยกลูกฆอง เอาลูกฆองมาเถยงกัน มันมลูกตรงไหน พูดแลว
่
้
ี
ี
้
ิ
่
่
่
ู
ี
้
่
้
่
ุ
คนรนใหมไมเขาใจ ครมนตร ตราโมทเลยแนะน าวา ใหค าวาท านองหลักในวง
ื่
การศกษาทสบทอดโดยสายกรมศลปากรนั้น จงใชค าวาท านองหลักเรอยมา แลวค า
้
ิ
้
ึ
่
ื
ึ
ี่
ิ
ึ
ั
ึ
น้จงออกไปยังกระทรวงศกษาธการ หากพูดถงการปรบวงกลอนของท านองหลัก
ี
ึ
บทโครงสรางของท านองเพลง ท านองหลักนั้น มันมความเปนกลอนของเขาอยู ่
็
ี
้
้
ิ
ี
่
แลว กลอนชนดนั้นเรยกวากลอนของท านองหลัก กลอนของท านองหลักจะเปน
็
ี
์
ั
่
รางใหกลอนแปล หรอทเรยกวาท านองแปลสมพันธกัน แตวธสมพันธก็จะมหลัก
้
่
ิ
์
ั
่
ี่
ื
ี
ี
ี
์
ิ
ิ
ุ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 49
ิ
้
่
่
่
้
์
ั
วาจะสมพันธกันในมุมไหน อยางไร แลวก็ดวยวธอะไร ในสวนของท านองแปล ค า
ิ
ี
ื่
่
ิ
ื
ี
้
่
ิ
วาแปลในทางวชาการดนตรไทย นั้นตองใช ล. ลง ไมใช ร. เรอ เนองจากกรม
่
้
ึ่
ี
็
ึ
์
ิ
้
่
ิ
่
ศลปากรเปนผูบัญญัตศัพท โดยค าน้มาจากค าวาแปล ซงหมายถง แปลภาษา เชน
็
ั
็
ั
ื
แปลจากภาษาไทยเปนภาษาองกฤษหรอภาษาองกฤษเปนภาษาไทย ในท านองแปล
็
ั
ี่
ั
้
้
นั้นเปนสาระส าคญทจะสรางสสนของการบรรเลงทจะสรางรสชาต ใหไดอรรถรส
ิ
้
ี
้
ี่
ทพงประสงคในคณคาของความไพเราะของเพลงอะไร วงอะไร กาลเทศะอะไร
ี่
่
ึ
ุ
์
่
ื
ี
ี
การเรยนเพลงไทยนั้นเรยนมอยูสองพวก คอการบรรเลงรวมวงและการ
ี
ี่
ี่
้
ี่
ี่
ี่
ื่
ื
่
ื
บรรเลงเดยว สาระส าคญทจะพูดคอการบรรเลงเดยวทวาดวยเรอง เพลงเดยว ทถอ
ี่
ั
ี
ี่
ิ
ี่
เปนชยภูมของนักดนตรรนหลัง นักดนตรตาง ๆ ก็ใฝ ่ฝันทจะบรรเลงเพลงเดยวได ้
็
ี
ุ
่
ั
่
ี่
จะไดบรรเลงเดยวทไหน จะอวดไดอยางไร เพลงเดยวในสมัยน้กลับกลายเปนสด
่
้
ุ
ี่
ี
ี่
็
้
ยอดของวชาการบรรเลง เปนสดยอดของนักดนตรศลปน ถาใครบรรเลงนั้น
ี
ิ
ิ
็
้
ิ
ุ
่
้
ี่
ี่
่
้
ี่
หมายความวามันจะตองเด็ด แลวอาจารยทอยูในระดับทสอนเพลงเดยวเนย เหลอ
์
ี่
ื
ู
้
ี
สองคนสดทาย พ้นฐานเรยนมาหมด จนมาเหลือสองทานสดทาย ตองพสจน ใน
้
้
์
ุ
ุ
ิ
ื
่
่
่
การบรรเลงเดยวเปนอยางไร การบรรเลงเพลงขั้นสง การบรรเลงหมู การบรรเลง
็
ู
ี่
่
่
่
้
ี
ิ
ี
รวมวง จรง ๆ แลวการรวมวงน้ควรเรยกวาการบรรเลงหมู การบรรเลงหมูกับการ
้
ึ
ี
บรรเลงเดยวท ายังไงถงจะเขากัน การบรรเลงรวมวง แตการบรรเลงเดยวก็มวง
ี่
ี่
่
้
เหมอนกัน สรปแลว ค าทเหมาะสมคอตองพูดวาการบรรเลงหมูคกับการบรรเลง
ู
้
ื
ุ
่
่
ื
ี่
่
ั้
ี
ี่
ี
ิ
่
่
้
เดยว ค าน้มบัญญัตมาแตเดมแลว การบรรเลงทงหมูและเดยวนั้น ก็มการบรรเลง
ิ
ี่
ี
เฉพาะเครองดนตร สมัยกอนน้ค าวาการบรรเลงของวง บรรดานักวชาชพจะเขาใจ
่
่
ี
ิ
้
ื่
ี
ี
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 50
ี
่
ี
็
่
ื่
ี่
้
ี
้
่
ี
้
วาเปนการบรรเลงแบบเครองดนตรอยางเดยว ไมมนักรองเขามาเกยวของในอดต
่
้
ี
้
เขาใจแบบน้ แลวอกชนดคอการบรรเลงรวมกับขับรอง จะไปทางวชาการ ของ
ี
ิ
้
ิ
ื
่
้
ี
่
้
ี
ดนตรไทย เขาจะใชค าวาบรรเลงขับรอง ดนตรไทยนั้นไมมค าวาบทเพลง ดนตร ี
ี
่
่
้
ี
ื
่
ไทยมแตค าวาบทขับรอง เพลงท านองก็ท านอง เพลงก็คอเพลง บทก็คอบท ดนตร ี
ื
้
ี
่
ี่
ิ่
ไทยมแตค าวาบทขับรอง ค าวาบทเพลงน้ไมม บทเพลงทเขาเรมใชคอดนตรไทย
ื
ี
่
ี
้
่
ี
่
ี่
้
ึ
ั
สากล เขาพยายามทจะก าหนดลักษณะเฉพาะข้น ถาการปรบวง การบรรเลงก็ปรบ
ั
ี
้
่
่
ิ
ั
ไปอยางหนง การบรรเลงรวมกับการขับรองก็จะปรบอกอยางหนง มันก็จะมมต ิ
ึ่
่
ี
ึ่
ิ
ื
ั
้
ิ
ื
่
ี
ของมัน มตก็คอความไพเราะในระบบ สาระส าคญอกอยางคอ การใชระดับเสยง
ี
ื
อะไร หรอบรรเลงทางอะไร ทางในหรอทางนอก หรอทางกลาง หรอทางชวา
ื
ื
ื
ิ
ี่
้
เพราะ เพราะฉะนั้นมันเกยวของกับการใชวชาการ สงหรอต ่าเกนไปเครองดนตร ี
ิ
ื
ื่
ู
้
ิ
่
ี
้
่
ี
่
ิ
์
เกณฑมันมอยูเทานั้น ชวงของเสยง ผมไดท างานถวายสมเด็จพระกนษฐาธราช
ื่
ุ
้
ิ
ั
ั
ี
กรมสมเด็จพระเทพรตนราชสดา สยามบรมราชกุมาร ไดท าวจยเรองระบบความถ ี่
ี
้
้
่
ี
ู
้
ี
้
่
ี
ของเสยงดนตรไทย ไดค าตอบวาดนตรไทยมสองชวงระดับเสยง แลวไดน าทลเกลา
ี
ี
์
่
ถวายในหลวงรชกาลท 9 พระองคทานทรงตอบวา ดนตรไทยนั้นไมใชสองชวง
ั
่
่
ี่
่
่
้
้
ี
ี
่
ระดับเสยง แตมมากกวาน้ ตองยอนกลับมาตรวจ จงไดค าตอบวาดนตรไทยนั้นใช ้
ึ
้
่
่
ี
ี
่
ชวงเสยงถง 5 ชวงเสยงคแปด (octave) ตัวน้เปนตัวแปร
ู
ี
ึ
่
ี
่
็
ี
์
์
ี่
์
ึ่
โดยเฉพาะปพาทย ปพาทยมตัวแปรมาก ปพาทยดกด าบรรพก็ใชเสยงหนง
ี่
ี
ี่
์
ึ
ี
้
ึ
่
ี
้
ึ่
์
ี่
ี่
ปพาทยพธก็ใชเสยงหนง ปพาทยนางหงสก็ใชอกเสยงหนง แตตัวแปรก็ข้นอยูกับ
์
ี
ิ
ี
ี
่
ึ่
้
์
้
การใชระบบและทฤษฎในการใชระบบเสยงนั้น ๆ และของแตละเครองดนตร ี
่
้
ี
ี
ื่
ิ
ี
ิ
์
ุ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 51
ี
ื่
ี
้
ี
เครองสายใชแคสามเสยง คอ ทางเพยงออ เพยงออบน และทางชวา มโหรใชสอง
ื
ี
่
้
่
ี
ี
่
ิ
้
ี
ิ
้
ั
เสยง แตเดม ตัวแปรอกอนคอ ผูขับรอง นักรองมคอเทาเดม แตตองรบภาระทงป ี่
ื
ั้
้
้
่
ั
ื่
ุ
ี
์
่
้
ึ
้
ี
ี
้
ิ
พาทย เครองสายและมโหร เพราะฉะนั้นคณสมบัตของผูขับรองจงตองมชวงเสยง
้
ื
้
ในการรองครบทงสามเสยง คอ สง กลาง ต ่า แตโดยหนาทของนักรองตองรองให ้
ู
ี
ี่
้
่
ั้
้
้
ี
ื่
้
ี่
้
้
ี
้
่
ู
ี
ไดทกวง และทกระดับเสยง ถามแตเสยงสงรองเครองสายปชวาก็แลวกันเลย รอง
้
ุ
ุ
ี่
ไมไดเลย ถามเสยงสงแลวไปรองกระบวนของปพาทยเสภา ซงมความตง แตตง
้
ี
ึ่
้
้
่
์
้
ึ
่
ึ
ี
ู
ี
แลวด เสยงของเสภาจงนยมยกยองในการกระบวนวชาการขั้นสงทบรรดาผูเรยน
ี
ี่
ิ
้
ี
้
ู
ึ
ี
ิ
่
ื่
ี่
้
ี
์
ี
่
ี่
ี่
ดนตรเครองปพาทยในการบรรเลงปพาทยเสภา กอนทจะไปถงเพลงเดยว ตองเรยน
ี่
ึ
์
่
เพลงเสภาเสยกอน แลวถาเกดเรยนเพลงเสภาไมครบถ้วน ครไมมวันตอเดยว แตใน
้
่
ี่
ี
่
่
้
ี
่
ิ
ี
ู
้
ี่
ิ่
่
่
สมัยน้พอมาเรยนพอเตาะแตะได กลัวลูกศษยจะสใครไมได เลยเรมตอเดยวนั้น
้
์
ู
ิ
ี
้
ี
ั
ึ
ี่
้
เดยวน้ ใหออกแสดงได ท าใหเกดการใหความส าคญกับเพลงเดยว ท าอยางไรถงจะ
่
้
ี่
้
ิ
้
ี
ไดเพลงเดยว แตการตอเพลงอยางเปนระบบเรยบก็ควรท า แตถาหากตองใชเพอ
่
่
้
้
ี่
้
็
่
่
ื่
ี
้
้
่
่
การศกษาตอ ก็เปนกรณ ๆ ไปใหมโอกาสในการศกษา ผมก็วาไปตามเกณฑ ไมได ้
่
็
ึ
ึ
ี
์
ี
ไมใช ถาจะแปลวาตาม มันก็ดูไมนาฟงอะนะ ปรากฏการณเคยมมาเชนนั้นนะครบ
ั
่
่
ี
่
์
่
่
่
่
้
ั
โอเค
ระบบการบรรเลงเพลงไทย ผูปรบวงจะตองรวา ระบบการบรรเลงเพลง
ั
้
้
่
ู
้
่
ี่
ไทยนั้นมันมระบบของมันอยู ระบบนั้นจะประกอบกัน ทงดานท านองเนย จะตอง
้
ั้
้
ี
ั
้
ี่
็
่
ี่
้
้
็
ี่
ี่
้
้
ี่
่
เปนผูทท าหนาทเปนผูน า ท าหนาทเปนหลัก ท าหนาทตกแตงเนย ฝายของจงหวะ
็
ุ
้
ึ่
้
ผูท าหนาทในการก ากับหนง ควบคมหนง จงหวะยอยท าหนาทก ากับนะครบ มัน
้
ี่
ึ่
่
ั
ี่
ั
้
ี่
์
่
้
์
้
้
้
ู
ื่
ก ากับเกณฑใหมันสม ่าเสมอเพอจะใหท านองมาเขากับเกณฑแลวเนย จะรวามัน
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 52
เปนยังไง สวนจงหวะหนาทบเนยก็จะท าหนาทควบคม จงหวะหนาทบจะท าหนาท ี่
ี่
ั
ุ
ี่
ั
้
้
็
้
ั
ั
่
้
ี
ั
ุ
้
ึ
ั
้
ี่
ั
้
็
้
ควบคมเขาจงใหความส าคญผูบรรเลงหนาทบเนยมความส าคญเสมอดวยเทพ เปน
ั
ี่
ี
่
เจาทเรยกวา พระประคนธรรพ ในการวงการดนตรไทยทจะใหความส าคญเกยวกับ
ี
ี่
้
ี่
้
ื
ี
่
ี
ระบบนั้นมองคเดยว คอ พระประคนธรรพแตวาถาบางคนท าก็ตองท าตามพระ
้
้
์
่
้
่
่
่
่
ประคนธรรพจรง ๆ นะ แตไมใชวาตอเพลงอะไรก็ไมได เขาออกก็ไมถูก เพลง
้
ิ
่
้
่
่
่
้
้
่
่
ั
่
็
่
้
่
่
อะไรก็ไมได แปลวาเปนผูบรรเลงเครองน า ไมใชใครจะมายุงกับฉนไมได ไมใช ่
ื่
้
็
้
็
้
้
ู
่
อยางนั้นนะ พระประคนธรรพก็ตองเปนพระประคนธรรพ ตองเปนผูรอบรใน
้
ระดับทจะบอกไดวาการบรรเลงของเธอเนย ถูกหรอผดถูกผดในทน้ พระ
ี่
่
ิ
ี่
ิ
ี
ื
ี่
ื
ั
่
ประคนธรรพจะตรวจวาครบหรอขาด ครบอะไร ครบจงหวะหนาทบ ขาดอะไร
ั
้
ั้
ั
ี
์
ิ
้
ั
่
้
ขาดจงหวะหนาทบ ค าตาง ๆ เหลาน้ก็ลวนแตเปนศัพทสงคตทงสนนะครบ
็
ั
่
่
้
ั
ี
ั
่
้
ี
็
้
เพราะงั้นระบบมันจะตองเปนอยางน้ ในการปรบทางบรรเลงของผูน าก็
้
้
ี่
่
ั
่
้
ึ่
จะตองปรบไปอยาง ๆ หนง ในสวนของหลักเนย จะตองไมท าใหเขว จะตองยน
ื
้
่
ี่
่
่
้
ิ
้
้
ี่
หลักตลอด การตกแตงเนยจะตองใหเกดความงดงามตามขอก าหนดทหลักแหง
์
่
ื่
ี
ี
ี่
่
ื
ศาสตรนั้นก าหนด แตบรรดานักดนตรททกเครองมอทบรรเลงอยูในวงนั้นเน้ย
ุ
ี่
ื
่
ี่
่
้
ี่
่
ึ่
แมวาจะมหนาทตามต าแหนงน้ก็ตามเนย ก็จะท าหนาทสองอยาง อยางทหนงก็คอ
้
ี
ี่
ี
่
้
ี่
่
ท าหนาทของตัวเอง อยางผูน านก็คอ ระนาดเอก ซอดวง กลุมเน้ยกลุมผูน า ก็จะตอง
้
้
ื
้
ี
่
่
ี่
้
้
ี่
ท าหนาทในการน า ใชส านวนก็ด ใชลลาการบรรเลงตองไปในเชงน า ในเชงน าเน้ย
ี
้
ี่
้
ิ
้
ี
ิ
้
ี
มันมลักษณะสองอยาง ในเชงน าเน้ยมลักษณะวา ถาพวกเรามองเหนภาพนะครบ
่
ี
ี
็
ี
ั
้
ิ
่
ึ่
ี่
้
ั
่
้
ี่
่
้
ี่
ึ่
่
ท าหนาทสองอยางนะครบ ท าหนาทของตัวเองอยางหนง ท าหนาทรองอยางหนง
ี
ี
่
ิ่
่
่
้
็
ั
ี
้
่
่
ค าพวกน้ไมตองไปหาในต ารานะครบ ไมมใครเขยน แตวาเปนสงทมาอยูแลว แต ่
ี่
้
ี่
่
ี่
ี
ี่
้
ี่
่
้
้
้
ในอดต ท าหนาทสองอยาง หนาทหลักกับหนาทรอง หนาทรองนก็จะท าหนาทชวย
ี่
ี่
้
ั
็
ี่
้
ี่
้
้
และก็ตองท า ปฏบัตหนาทของตัวเองใหชดเจน เชน หนาทของผูน าก็จะตองเปน
้
ิ
่
้
ิ
็
ผูน าใหชดเจน ในลักษณะการน าเนย ถาดูภาพตามภาพเนย เราจะเหนสทเปนพ้น
ี่
็
ี
ี่
ื
้
้
ี่
ั
้
์
่
หลังใชไหมของภาพหนง แลวมันจะมองคประกอบในภาพ ตกแตง ภาพตกแตง
่
ึ่
ี
่
้
ั
ั้
้
ั
ี
ั้
ื
้
ี
แลวในภาพนั้นตองมทงพ้นหลังก็ด ก็ตองมทงปจจยหลักของภาพนั้นแลวก็จะมใน
ี
้
้
ี
์
่
่
ั
ี
สวนขององคประกอบของภาพนั้นใชไหม ก็ไมตางกันครบดนตรเหมอนกับมัน
่
่
ื
ี่
ี่
ั
์
้
็
เปนภูมปญญาในศาสตรเดยวกัน ศาสตรศลปะ เพราะฉะนั้นผูทท าหนาทผูท าวงเนย
ี
้
ิ
์
ี่
้
ิ
ี่
ื
้
้
้
้
้
่
้
้
ี่
ี
จะตองท าหนาทของตัวเอง เครองมอหลักจะตองท าหนาทเรยบรอยแลว แตพอซอม
ื่
ิ
์
ี
ิ
ิ
ุ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 53
้
้
ั
่
ั
่
ั
้
้
่
้
้
แลวใชไหมครบ พรอมแลวใชไหมครบ ตกลงกันแลวใชไหมครบ แมนดวยกันแลว
่
่
่
ั
่
้
ใชไหมครบ แมนแลวก็ยังบรรเลงไมไดยังตองช านาญกอนนะ ถาช านาญแลวถง
้
้
้
้
่
ึ
ั
ั
ี่
่
ี
้
ี
ิ
จะตองบรรเลงใหด มันก็มระดับของมันนะครบ แตวาในยามทมันดแลว สตปญญา
่
้
ี
้
ี
ี่
ทจะชวยท าหนาทรองก็คอแตงปรง ปรงใหการบรรเลงเนยมอรรถรสยงข้น ทก
่
ื
่
้
ิ่
ุ
ี่
ุ
ี่
ุ
ึ
้
่
ี
ื
ี่
้
ื่
ี่
เครองดนตรจะท าหนาทหลักและหนาทรองก็คอหาชองในการทจะตกแตงตรงไหน
้
่
ี่
้
ึ
้
้
ใหเกดเพมอรรถรส ในการบรรเลงในครงนั้นใหไดมากข้น ตองปฏบัตหนาทนั้นไม ่
ิ
ี่
ิ
้
้
ั้
ิ
ิ่
่
่
้
ิ่
ี
้
ี่
่
่
ั
ิ่
้
้
้
ั
เวนแมแตกรบ ฉง ฉาบเล็ก โหมง ไมเวน มหนาทในการชวยเพมน าหนักในจงหวะ
่
่
ยอยนั้นก็จรง แตวาบทบาทตรงไหนทอรอยและเวลาซมเปนไง ฉาบเล็กท าหนาท ี่
่
ี่
้
่
ิ
้
็
ุ
่
ยอยสวนยอยของจงหวะยอยก็ตามเนย ฉาบเล็กมบทบาทแจว โอโหสดยอด กรบ
ี่
่
ุ
ั
ั
ี
๋
่
่
้
ิ่
่
ั
เปนไง กรบเพมมาหนอย ฉาบเล็กเขามาจงหวะกรบมความชดเจน แหมท าให ้
ี
ั
ั
่
ั
้
็
ึ่
ั
่
้
ู
ิ
้
ึ
ี่
ั
้
กระบวนการจงหวะเนยมันเราความรสก บทบาทของจงหวะยอย ซงจรง ๆ แลวมัน
่
ั
ี
่
ี่
้
ื่
ี
่
ไมคอยเกยวกันเทาไหร มันท าหนาทใหมความชดเจน เพอทจะใหนักดนตรทงวง
ั้
ี่
ี่
้
่
้
้
นั้นประมาณไดวาดนตรของตัวเอง ทางเพลงของตัวเองคลาดเคลอนจากแนวท ี่
ี
ื่
่
็
ื
ื
ี
ี่
ื่
้
ั
ี่
ิ
้
ปฏิบัตเปนอนเดยวกันน้หรอไม ทกเครองมอจะตองท าหนาทหลัก หนาทรอง
ี
้
ุ
่
์
้
ั
่
่
์
หนาทหลักก็อยาง ฆองวงใหญ ก็มปญหามาถามผม อาจารยขา อาจารยครบ แลว
้
ี
ี่
ั
้
เครองสายผูทท าหนาทท าหลักอะใคร เวรละส เพราะฉะนั้นเนย ก็ ผมก็ไมทนพระ
ี่
่
ั
้
ิ
่
ี่
ื่
้
ี่
่
่
้
ประดษฐฯ ทานอะนะ แตทานเลาไวตั้งแต โอโห ตั้งแตรชกาลทาน แตผมจรง ๆ ไม ่
้
ิ
่
่
่
่
ั
่
่
ิ
่
์
ื่
ทนนะ พอมาไดค าถามน้ เออแลวเครองสายท านองหลักอยูทไหน ก็ตองตอบครบ ก็
ี
ี่
ั
้
้
่
้
ั
ื่
ี
ี่
้
้
เครองดนตรทอยูในวงทงหมด เครองดนตรใดบาง ชนใดบางทจะท าหนาทดูแล
ั้
ี
่
้
ื่
ิ
ี่
้
ี่
ั้
ั
ื่
ท านองไดมากทสดและครบครนมากทสด ทงน้นะครบมจะเขเครองเดยวเทานั้น ม ี
ุ
้
ุ
ี
ี่
้
ั
ี
ี
่
ี่
่
ิ
่
้
่
ื่
ั้
ิ
ี
่
้
้
สทธใชเสยงกวางกวาเพอน เพราะงั้นจะรองรบท านองตาง ๆ นั้นไดทงหมด ไมวา
ั
่
่
็
จะต ่า กลาง สง สามารถบรรเลงไดครบครน แตในทางปฏบัตเนยไมคอยเปนนะ
ี่
ั
ิ
ู
่
ิ
้
้
ิ
้
่
้
ื
้
ั
กวาจะบรรเลงไดครบครนจรง ๆ เนยตองอายุถอไมเทาแลว ก็อยากจะไปเลน
ี่
่
้
้
่
้
้
้
้
ขางหนา คนเลนจะเขจะตองสวยซะดวย ถาไมสวยเลนจะเขไมได เพราะฉะนั้น ผูท ี่
่
้
้
้
่
้
่
จะท าหนาทในการดูแลท านองหลักก็คอจะเขนั้นแหละ แตวาดวยศักยภาพทเรม
ี่
ื
้
ิ่
้
ี่
่
้
่
ี่
ื
้
ื
้
่
้
้
ื
ี
้
แมนแลว สอง ในล าดับทใชฝมอไดแลว เลอกสรรท านองไดแลว ก็จะไปยนท านอง
้
ิ
่
ื่
่
้
้
ี
ั
หลักอยูท าไมหละ แหม แลดูมันดอยคา ประมาณนั้น แตถาเกดมันมปญหาเรอง
่
ี
่
ี
ท านองหลักจะใหใครดูแล ซอดวงสสายขาดวงยังไมกลับมาเลย ซออเสยงฟงไมชด
้
ู
่
้
้
ั
ั
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 54
่
่
่
้
ี
่
ี
่
็
่
ใครชวยได ขลุยเหรอ เปาโหยไปโหยมาโหนเปนชะน แตในอดตคนเปาแมนเพลง
ิ
็
่
ิ่
์
ุ
ื
ี
ู
นะ พระประดษฐฯ เปนไง ถายทอดสบมาจนปจจบันยงใหญขนาดไหน ครเทยบ
ั
่
่
่
เปนคนบอก ท านองน้ใครแมนนูนนท านอง แมนเพลง เมอกอนผมเรยนกับครเทยบ
็
ี
ู
ี
ี่
ื่
่
่
ี
ึ
ี
ิ
เรองเครองเปา แตบังเอญเรยนกับทานเรยนคนเดยว นั่งฝกฝนอยูคนเดยวทโบสถวัง
่
ี
่
ื่
่
ื่
์
ี
ี่
่
ี
ั
ั่
ั
์
ุ
ุ
้
ั่
้
่
หนา ตั้งแตโบสถหกพัง จนกระทงปรบปรงสวยงาม แลวจนกระทงช ารด ผมก็ไป
รบราชการทจฬาฯ กลับมารนใหมก็สมบูรณอกแลว ก็จะใชค าวาโบสถพังจนท า
ี
่
ั
้
่
้
่
ี่
ุ
์
ุ
์
่
ู
ิ
ี
่
ี
ใหม บังเอญเรยนคนเดยวก็นั่งทองเพลงคนเดยว ผมเรยนเครองเปากับครเทยบ เขา
ื่
ี
่
ี
ี
้
ู
็
้
วาผมเปาปด แตผมไมรนะ เพราะผมเปนไงก็ไมร ถาปจจบันคงไมไหว ตั้งแต ่
่
ี
ี่
ุ
่
่
ั
่
้
่
่
ู
้
ี๊
์
่
ึ
ี
์
อาจารยปบเปาป ผมก็ยกเลกภาระน้ใหอาจารยปบทนท แลวพอมาถงผม ผมแมน
่
ี๊
ิ
ี่
ั
้
ี
่
ั
้
่
่
่
็
ี
ิ
ี่
ิ
เพลงแตในอดตนะ เปนศลปนเนยกอนจะใหคนมาปรบวงความแมนตองอยูใน
้
ี
้
่
่
ู
ิ
้
่
้
ุ
้
สายโลหตแลว ตองอยูในวญญาณแลว เพราะครจ้จดไหนตองถูก ตองแมนกวา
ิ
้
้
ิ
คอมพวเตอร อาวโอเค ทน้ก็พัก ๆ กันบางนะ
้
์
ี
ี
ึ่
้
้
ผลงานการปรบวงคงจะสะทอนอะไรไดบาง อยางหนงคอสะทอนความ
ื
่
้
ั
้
เปนแบบแผน แบบแผนก็คอมาตรฐานของวชาการนั้นเอง ท าไมตองเปนแบบแผน
ื
ิ
้
็
็
ู
้
้
่
ื
็
ก็ ผมเคยเหนคนตระนาด สซอ ประเภททเขาไมเขาใจหรอไมไดถูกครบังคบใหเขา
ี
่
้
ี
ี่
ั
้
ี
ู
ิ
่
่
้
้
่
สมาตรฐานอะนะ คอเขาตแบบกล้ง แบบขยม ไมไดแบบแผน มาตรฐานไมได ซอก็
่
ื
สแบบบังคบไมอยู เพราะแบบแผนตองมความสมบูรณของแบบแผนนั้นเปนขั้น
่
่
ี
็
้
ี
ั
์
ื่
ื
การบรรเลงตองมความกลมกลนกับท านองหลังของใครของมันกอน เครองดนตร ี
้
ี
่
ื่
้
ื่
ิ
่
ื่
่
้
ื่
ุ
ทกเครองตองพจารณาวา เพอไมใหเครองท านองใดมันจะขัดจะขวางท านองเครอง
้
ดนตรอน ผูปรบวงตองตองพจารณาวาอะไรจะตองอยู อะไรจะตองปรบแก ้
้
ั
ี
ื่
ั
้
ิ
้
้
่
่
่
่
เพราะฉะนั้นนักดนตรตองมวนัยในการฝกฝนใหเพยงพอ เทคนคตาง ๆ ตองผาน
ิ
ี
ี
้
้
ี
้
ึ
ิ
ี
ิ
์
ิ
ุ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 55
่
้
้
ี่
ี
ื
ึ
ื
้
ื
การฝกตองผานการฝนทเพยงพอ ก็คอการท าซ า ซอมคอการท าใหรวมกัน ฝนคอ
้
้
ั
ี
่
ี่
ื่
่
ี
การท าทมปญหาอยูใหแหลมคม กลมกลนระหวางเครองดนตรกับท านองหลักแลว
้
ื
ี่
้
ื
้
้
้
็
ั
จะตองมาสรางความกลมกลนทฟงโดยรวมแลวท านองหลักเปนหลัก ท านองผูน า
้
ั
ื
ี
้
ื่
่
ของเครองหลัก ท านองของเครองตกแตง ฟงแลวจะตองมความกลมกลนท ี่
ื่
ื่
้
ี
ื
ั้
ี
้
็
ี
เหมอนกับทงวงนั้นเปนผลงานของคนคนเดยว ผลงานชนเดยว เครองดนตรสบชน
ิ
ิ
ิ
ุ
์
ั
ั
ั
้
ี
ิ
ผลงานสบเวอรชน (version) ระดับพัฒนาการของการปรบวง ปจจบันน้ ถาพูดโดย
ื่
ั่
็
้
ู
ี่
ิ
ทว ๆ ไป จากรปธรรมเปนนามธรรม เพราะผมไดขยายเรองของวชาการเกยวกับ
ู
ึ่
ั
ิ
ื่
่
ั
ั
การปรบวง ผมขยายในเรองของการพัฒนาการไปสนามธรรม ซงโดยปจจยจรง ๆ
ิ
ู
์
ดวยความเปนมตของศลปสมบูรณจะตองถอดรปจากรปธรรมไปเปนนามธรรม
์
ิ
็
ิ
ู
้
้
็
ึ
ิ่
้
ี
่
่
็
้
อยางเปนเอกภาพแตสงน้ผมไมไดใชมัน แตในวงวชาการพูดถงเรองของการเรยน
่
ื่
่
ี
ิ
้
้
ู
การสอนในระดับอดมศกษา ตองรขอบเขตของมันวาถงไหน ขอบเขตคอนามธรรม
ุ
ื
ึ
่
ึ
ู
ี่
ี
ความเปนเอกทเปนเอกของในรปธรรมทก ากับไวนั้น จะตองมความช ่าชอง ความ
้
้
็
็
ี่
่
็
เปนเอกจะตองหลุดลอยจากรปธรรมไปเปนนามธรรม และการลอยไปสนามธรรม
ู
้
็
ู
ั
้
้
ั
เนย การลอยไปสนามธรรมผูฟงจะตองสมผัสไดดวย ตองชดเจนในความเปน
้
็
่
้
้
ู
ี่
ั
ุ
ี่
ู
ี
้
ู
ี
รปธรรม เรามความช ่าชองจนผลงานลอยไปสนามธรรมท จะมค าถามสดทาย พ ี่
่
ิ่
ิ
ิ
่
่
้
ี
ั
ั
ี
่
ี
ู
่
ครบ ครครบเลนกันไดยังไงครบ ดนตรไทยมประสทธภาพไมยงหยอนกวาน้ โอเค
ั
์
ั
ิ
้
ั
์
นะครบ ไปถงระดับของศลปสมบูรณ ในการปรบวงโดยเฉพาะผูปรบวงตองม ี
ั
ึ
้
ั
์
ื่
ความชดเจนในเรององคประกอบของเพลงไทย องคประกอบของเพลงไทยหาตัวน้ ี
้
์
ี
์
่
ั
นะครบ ตองมความชดเจนวาอยูตรงไหนของเพลง องคประกอบของเพลงเปนยังไง
้
่
ั
็
ื่
์
ี
ิ
์
์
่
ื
้
ขอชนชมอาจารยบุษยา ทานไดเขยนหนังสอเรองทฤษฎดุรยางคไทย องคประกอบ
ื่
ี
ี
่
ู
ี
ี
่
้
ื่
เพลงไทยและจะมเรองราวตาง ๆ อยูในน้ ขอแนะน าวาหนังสอเลมน้จะใหความรผู ้
่
ื
่
้
ื
ี่
ี่
ี
ื
ทสนใจวาเพลงไทยนั้นคออะไร มทมาการวเคราะหเพลง วาสาระคออะไร หนังสอ
่
่
ิ
์
ื
็
ื
้
น้เปนเครองมอยอยเพลง วาเพลงนั้นมาจากอะไรไปไหน และโดยเฉพาะผูปรบวง
ื่
่
ั
ี
่
ู
้
่
ี่
้
้
จะตองรจกโครงสรางเพลงน้ซะกอนวามสาระและเกยวของประการใดบาง ความ
่
้
ี
้
ั
ี
่
์
่
ิ
ี
้
สมบูรณจะตองรวมกันอยางน้ แตวาก็ยังไมคอยมใครบรรเลงจนกระทง ณ มตหนง
ิ
ั่
่
ี
่
่
ึ่
ี
๊
ั้
้
ุ
บรรเลงไปถงความเปนนามธรรมแลว ปบ ! หายไปทงเสยงทงคนทงวงเลย
็
ั้
ั้
ึ
ี่
ั
่
์
ปรากฏการณน้ยังไมมนะครบ นคอปจจยทมันทาทายเราอยู ความเปน ‘มโนคตของ
้
่
ี
ี
ิ
ั
ื
ี่
็
ั
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 56
้
ี่
่
ี
่
ั
ื่
่
ความไพเราะ’ นั้นเนย ท าไดเมอไหร ตามหลักการปรบมันมอยางนั้น ในหลักแหง
์
ั
่
ี
ิ
ศาสตรหลักของความคดเขามความหวังอยางนั้น โอเคนะครบ
์
ั
้
้
ั
‘องคประกอบของเพลงไทย’ ในการปรบวง โดยเฉพาะผูปรบวง ตองม ี
์
์
ี
ั
ี
้
ความชดเจนในเรององคประกอบของเพลงไทย ม 5 ตัวน้ (ในสไลด) ตองมความ
ื่
ี
่
์
็
ี
้
ู
ชดเจน วาอยูตรงไหนของเพลง รปรางหนาตาของเพลงเปนยังไง มองคประกอบ
่
่
ั
้
่
ื่
ึ
่
อยางไร มอะไรอยูตรงไหน พอมาถงตรงน้ก็ตองขออนุญาตชนชมกับผูชวย
ี
่
้
ี
ื่
ี
ิ
ุ
้
่
ศาสตราจารยบุษยา ชตทวมครบ ทานไดกรณาเขยนหนังสอเรอง ทฤษฎดุรยางค ์
ั
์
ื
้
ิ
ี
่
ี
ื่
ื่
์
ี่
ี
่
ไทย เรององคประกอบเพลงไทย และจะมเรองราวตาง ๆ อยูในน้ ทตั้งใจจะเอามา
ุ
้
้
ิ
ใหคณหมอพูนพศดูดวย เพราะคณหมอพูนพศทาน ดูแลวไมคอยเขาใจอะไรใน
่
้
้
่
ุ
่
ิ
่
้
้
ื่
ี
เรองตาง ๆ เหลาน้เทาไหร ตั้งใจจะน ามาใหทานดูแตทานกลับไปกอนแลว เลย
่
่
่
่
่
่
่
้
่
็
ั
่
ู
่
่
้
่
่
่
ไมไดดู อยากจะจดไปใหทานแตก็ไมอยากเจอเทาไหร เพราะทานเปนครของผมนะ
ครบ ขอแนะน าวาหนังสอเลมน้ จะท าใหผูทอยากรวาเพลงไทยนั้นคออะไร มสาร
้
ื
ู
ั
่
ื
้
ี
่
้
ี
ี่
่
ทมา ทบอกวาเปนแนวคดทเขาอธบายวาเพลงนเนยเปนนั่น ๆๆๆ เปาหมายน ๆๆ
็
่
ี่
ี่
็
ี่
ิ
ิ
่
้
ี่
ี่
ี่
ไปนูน ผลตองเปนนั่น มันมสารมาจากอะไร อนน้เปนเครองมอทจะไปยอยทก
ื่
็
ื
ั
็
่
่
ี่
้
ุ
ี
ี
้
้
ั
่
ี
เพลง วาเพลงนั้นเพลงน้จะมาจากอะไรไปไหน และโดยเฉพาะผูปรบวง จะตอง
้
่
ี่
ิ่
้
ี่
ี
้
เรมตนจากการรจกโครงสรางของเพลงนั้น ๆ เสยกอน วามสาระทเกยวของ
้
ี
ั
ู
่
ั
ิ
ิ
ี
ี
ี
ื่
ิ
้
ี
ประการใดบาง ในเชงของเรองเสยงก็ด เชงล าน าก็ด เชงท านองก็ด เชงจงหวะก็ด ี
ิ
ุ
ี
ิ
ี่
เชงการประสมท านองก็ด ครบทกอนเลย โดยเฉพาะโครงสรางหลักในสวนท 5
้
่
ั
์
(ในสไลด) วาดวยเรองของการประสมท านอง โครงสรางน้ เขาวางพ้นทไวใหใช ้
้
้
ี่
ื
ี
้
่
้
ื่
ิ
ี
ิ
์
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 57
ุ
ู
้
่
้
้
ู
้
ิ
ั
ื
่
ี่
้
่
ี่
ภูมปญญาในการทจะประสมท านองดวยกลไกอยางไร ถาไมรพ้นท ถาไมรแผนท ี่
่
่
้
ู
ี่
ี
มันใสไมถูก ไมรจะเอาไปใสตรงไหน ไมรพ้นทน้จะเปนของใครหรอเปลา ไมร ้ ู
ื
่
่
็
้
่
่
่
ู
ื
ี่
็
ื
ื
่
้
ี
่
็
ี
ี่
ื
็
พ้นทน้จะเปนของเราหรอเปลา พ้นทน้ควรจะเปนของผูน าหรอเปลา พ้นทไหนเปน
ื
ี่
ื
่
ู
ี
ี่
ิ
ี
้
ึ
ิ
ิ
ิ่
้
ิ
ิ
ของใคร การตกแตงใหมประสทธภาพ พ้นทน้เพมเตมแลว ประสทธภาพจะสงข้น
ื
้
็
หรอดอยลง ผูปรบวงตองใชเครองมอใหเปน เพราะจะตองเอาเพลงนั้นมาวเคราะห ์
ื
ั
้
้
ื่
้
ิ
ื
้
้
็
้
่
่
้
็
่
ใหเหนโครงสรางเสยกอน โดยเฉพาะขั้นตน ตองเหนกอนวาเพลงน้ตองการอะไร
้
ี
ี
้
้
ี
ในฐานะของผูปรบวง ตองมาดูเสยกอน แลวจงจะไปดู พจารณาใชในสงทเหนนั้น
ึ
ี่
็
ิ่
้
้
้
ั
ิ
้
่
ั
ี่
้
้
ไปมองหาโอกาสวา เออ ! แลวในการปรบวงเนย เราจะใชกระบวนวชาการกตัว
ิ
่
ี่
้
่
ื่
ี่
่
้
่
ของแตละเครองมอเนย จะใชตรงไหนอยางไร ตองอานแผนทเสยกอน ไมงั้น
่
ี
ี่
่
ื
้
่
ั
ิ
์
ี่
เดนทางไมถูก ไมเหนแผนทเดนทางไมถูก นะครบ เออ...ผมไมรวาทศูนยหนังสอ
ิ
่
ี่
้
ู
ื
่
่
่
็
่
้
้
ู
ุ
จฬาฯยังมขายอยูหรอเปลา แตถามเขาไดเขานาจะรถาสมมตวายังมอยู ถาใครสนใจ
่
่
ี
ิ
่
่
ี
้
้
่
ื
่
ื
ี
็
ิ
่
้
์
ื
ั
ื
้
อยากจะซอ สาระส าคญคอหนังสอเลมน้เปนเอกสารทางดุรยางคศาสตร ดวยภูม ิ
็
ี่
ี
ิ
ั
์
้
ี
ปญญาและบรรทดฐานของนักวชาชพทสมบูรณเปนผูเขยน เฉพาะอาจารยบุษยาท ี่
ั
์
่
ี
ี
้
์
่
่
ื
ื่
ี
จะท าการเขยนหนังสอเลมน้ได อาจารยตามดูผมสอนเรองน้มา ไมนอยกวา 30 ป
้
ี
ี
ื
ึ
ิ
้
ี
้
้
์
ี
้
แลวอาจารยจงไดมาเขยนหนังสอเลมน้ ใชเวลา ตดตาม แลวก็เอามาเขยนหนังสอ
่
ื
่
ี
้
่
่
ี
ึ
์
่
ื
แลวมาถามอาจารยบุญชวยวันน้วาท าไมถงไมเขยนหนังสอ ก็ไมรจะเขยนไปท าไม
ี
้
ู
์
ี่
ั
่
้
ื
้
้
เพราะเขยนสอาจารยบุษยาไมได นคอค าตอบงาย ๆ เพราะงั้นก็ตองถอวา ส าหรบ
่
ี
่
ู
ื
ี
้
ี
ุ
้
์
ผมก็ขอขอบคณถาผมจะเปนผูแทนของศาสตร วชาชพดนตรไทยได ขอขอบคณใน
้
็
ุ
ิ
่
ั
ี
ี
่
ี่
การทอาจารยชวยท าใหวชาการน้มความชดเจนข้นอกเลมหนง ตอจากเลมแรกทวา
่
้
ี่
ึ่
์
ิ
่
ี
่
ึ
ิ
ี
่
ดวยเรองของดุรยางคศาสตรไทย นอกนั้นก็มครบ แตไมรวาคนเขยน เอามาจาก
้
้
ื่
ู
่
์
ั
่
ี
่
ิ
์
ศาสตรไหน อะไรตอมอะไรตาง ๆ เขาก็เขยนกันตามทศนะของเขา ใชเหตุผลตาง ๆ
่
ี
้
่
ั
่
ี
ี
่
ิ
่
่
่
ี
ี
ื
แตวาเลมน้ แน ๆ มาจากนักวชาชพน้โดยตรง มสายสบทอดมาจากราชส านักแน ๆ
ื
ี
่
ี
ี่
ตนของกรมศลปากรก็คอกรมมหรสพ มสายแน ๆ ครมนตรทเขยนในนามของกรม
ี
ิ
ู
้
่
ี
ั
็
ั
ิ
ี่
ิ
ี
ศลปากรนั้นก็เปนสายของวชาชพน้ทครบครนจรง ๆ ขอแนะน าวาใครจะปรบวง
ิ
้
็
ื
นั้นจ าเปนตองใชจรง ๆ นะครบ ไมงั้นไมเหนนะครบ ก็เทากับวาถาไมมก็เหมอน
่
่
้
ี
่
้
่
่
ั
็
ิ
ั
ู
ื่
ิ
ื
เดนทางไปแบบไมมแผนท ไมมเครองมอจะดู ไมรจะเอาแวนอะไรสองดูจรง ๆ แต ่
่
่
ี่
ี
่
่
่
้
ิ
ี
์
่
ิ
่
ี
่
ื
้
ั
ิ
ี
ื่
้
้
หนังสอเลมน้ชวยทานไดจรงนะครบ ถาใครคดจะท าเรองน้ใหสมบูรณ และท าให ้
ิ่
็
ี่
่
ิ
ั
ื
ั
็
ี
ิ
จรงจงตอไป อนน้ก็ยนยันวาเปนสงทเปนของดนตรไทยแน เปนภูมปญญาไทย
็
่
่
ี
ั
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 58
ี
ิ
่
่
ี
่
ิ
่
่
ี
ั
็
ี
่
เพยว (pure) แน ไมใชปญญาอาศัย ไมใชนักวชาชพอาศัย เปนนักวชาชพเพยวแน ๆ
ี
้
ิ
ั
ี
่
นะครบ วชาการดนตรไทยก็เพยวแน ๆ วัฒนธรรมดนตรก็ตองตรวจสอบกันอยู ่
ี
้
ั
แลวนะครบ โอเค
ั
ิ
ู
้
ี
ึ
ื่
ี
้
ี
ทน้ก็มาถงเรอง มตของผลงาน ผูทจะท าการปรบวงดนตรไทย ตองร 6 ตัวน้ ี
ี่
้
ิ
้
์
้
(ในสไลด) นะครบ เปาหมายสงสดของเพลง ระดับของความไพเราะทตองการจะ
ู
ี่
ั
ุ
ี่
์
ู
ี่
้
่
ุ
็
ใช รปแบบของการบรรเลงทจะสะทอนใหเหนปรากฏการณทแสดงคณคาของ
้
้
์
ู
ี่
ิ
ี่
็
มโนคตของความสมบูรณนั้นเนย รปแบบของการบรรเลงเนยมันเปนยังไง ลักษณะ
ี่
ื
ู
์
่
ผลงานเนยมันสมพันธกันไหม แลวมันแลกลักษณะเฉพาะกันหรอเปลา รปแบบ
ั
้
ี
็
้
ุ
ของเพลงมสไตล รปแบบมันเปนยังไง และสดทายระดับของการใชกลวธพเศษ
ู
ี
ิ
้
ิ
์
ครบ ใชระดับไหน เพลงทกเพลงในบรรทดฐานของความเปนมาตรฐานวชาชพ
ั
ุ
ิ
ี
ั
้
็
ุ
ดนตรไทย มันมเปาหมายในการใชระดับของมันนะครบ อยางในปจจบันเนยเรา
ั
ั
ี่
้
้
ี
ี
่
ู
่
ุ
เขาใจกันวาสงสดก็ตองเดยว ๆๆๆ ใชไหมครบ ไปบรรเลงเพลงอะไรก็เดยว เพลง
ั
่
ี่
้
้
ี่
ั
้
่
้
่
ี่
่
ี่
่
ี
หมูก็เดยว เพลงเดยวก็เลนหมู มั่ว ๆ กันไป แตในฐานะของผูปรบวงจะตองมความ
่
ื่
ี
้
เขาใจในเรองน้ดวย ผลงานวจยงานของพระยาประสานฯ ก็มขอมูลเรองน้อยูนะ
ี
ี
ั
้
ื่
ิ
้
ิ
่
ั
้
ิ
ี
ี
ู
ี
ครบ ทน้ ในมตอยางนั้นนะมันเปนมตของผูสรางงาน ตองรในรายละเอยดของมัน
้
้
ิ
้
็
่
ิ
ื่
่
้
้
้
วาตองใชน าหนักอะไรอยางละเทาไหร เพอทผูฟงจะไดสมผัส อยางนอยทสดเขา
่
่
่
้
่
ั
้
ุ
ี่
ั
้
ี่
ตองเหนศาสตรตัวน้ พอบรรเลงเสรจเรยบรอย ปรบเรยบรอย อะไรตออะไรแลว ใช ้
ี
้
่
้
ี
ี
็
็
้
์
้
ั
ู
้
้
้
วชาการอะไรเรยบรอยแลว ผูฟงตองเหนจดท 1 (ในสไลด) จะมความรหรอไมเรา
่
้
้
์
ี่
ี
ุ
ื
ั
ิ
็
ี
่
่
้
ิ
ิ
่
่
ไมสามารถประเมนได แตถาหากวาประเมนในเชงคณคาของศลปะในตัวแรก ยอม
้
ิ
่
ิ
ุ
้
ี
็
้
ิ
สะทอนใหเหนไดในเรองของแนวคด เขาควรไดรบวาเพลงน้มแนวคดอยางไร
ี
่
ั
ิ
่
้
้
ื่
ิ
ิ
์
ี
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 59
ิ
ุ
ิ
ี
ั
ี
ี
ั
ี
้
ี่
กรณทผลงานการปรบวงน้ ผูปรบวงน้ปรบวงดวยแนวคดอะไร ก็จะมหลักของมัน
้
ั
ี่
่
ี่
้
ทเกยวของอะนะครบ
ั
้
่
่
ตัวอยางทสองก็คอตองไปดูวาแนวคดหรอรปแบบทเราเหนเนย มัน
ื
ิ
ี่
็
ื
ู
ี่
ี่
้
ิ
่
ั
์
้
ิ
ิ
ิ
ี
้
สอดคลองและสมพันธกันในเชงแนวคดไหม ถาในเชงลบ ถาเกดวาผลงานน้มัน
ิ
ั
่
ึ
้
้
ู
แลดูแปลก ๆ คนฟงรสกแปลก ๆ ใหตามไปดูวาแนวคดของเขามันอาจจะขัดกัน
ี
่
่
ี
้
็
ื
ี
้
ู
้
้
ดวยรปแบบทเอามาท าการแสดงหรอเปลา อยางน้เปนตน กรณน้เปนเปาใหผูฟงใช ้
ั
้
ี่
็
่
้
็
้
ั
ี่
ี่
อะไรเปนขอสงเกตไดบาง ตัวทสามครบ ความสงต ่าของคณคาผลงานนั้นเนย มัน
ั
ุ
้
ู
ิ
้
้
ิ
เกดจากการใชเทคนคมาก-นอย ประการใด แลวเทคนคนั้นเหมาะสมกับผลงาน
้
ิ
่
ี
ั
ั
ื่
ั
เทาไหร โอเคนะครบ อนน้ก็เปนเรองทจ าเปนนะครบ
ี่
่
็
็
ั
้
ี่
์
็
ื่
่
ื
็
่
ิ
ตัวทจ าเปนกวา เปนตัวแปรส าคญคอเรองของการวจารณทไมไดระดับ
ี่
ิ
ึ
ี่
ี่
ั
ิ
์
่
ไมไดมาตรฐาน ไอททะเลาะกันมากทสดก็คอตัวแรกเลยครบ ‘จตวจารณ’ (ทยด
ื
ุ
้
ี่
ี่
ตามอคต ทฐ รสนยม คานยมสวนบุคคล ทมเรองของความนยมชมชอบเปนหลัก
ี
่
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
็
ื่
่
ี
์
ั่
ิ
่
ี่
ทางใครทางมัน ครใครครมัน เปนตน) ตัวทสอง ‘อรรถวจารณ’ ระดับน้คอยยังชว
ู
้
็
ู
้
้
ื
ี
่
ึ
่
้
่
ุ
หนอย ก็จะมหลักเหตุผลข้นมาบาง แตสดทายก็ลงจบดวยความชอบหรอไมชอบอยู ่
ิ
้
ิ
ื
ี
์
ิ
ิ
ุ
้
ี่
ื
์
์
ด สดทายทควรจะใชจรง ๆ เลยก็คอ ‘วพากษวจารณ’ คอ การวจารณโดยอาศัยวา
่
้
่
่
หลักนั้นคออะไร ไมใชทศนะสวนตัวเขามาเกยวของปะปนกับตัวผลงาน ถาม ี
ั
้
้
ี่
ื
้
ี่
้
้
่
ึ
่
้
ึ
้
โอกาสอยากจะใหบอกกลาวแกผูชมใหเขาใจและค านงถงบรรทดฐานทจะใชน ามา
้
ั
ิ
์
ิ
วพากษวจารณเหลาน้ หากเราน ามาใชก็จะลดปญหาความขัดแยงในวงการดนตร ี
่
้
ี
้
ั
์
้
่
่
ไทยใหนอยลง ไปได ก็จะนับไดวาเปน ‘การน าพานาวาแหงวชาชพน้ใหเลอนลอย
ิ
้
ี
้
้
้
็
ื่
ี
ั
่
ิ่
ู
ี่
ึ
ไปสความเจรญทยง ๆ ข้นไป’ นะครบ
ิ
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 4 / 60
ั
่
ิ
‘คณสมบัตของงานการปรบวง’ ก็แนนอนครบวาเปาหมายจะตองอยูท ี่
ุ
้
่
้
ั
่
์
้
้
ความสมบูรณแลวละ ตัวท 1 (ในสไลด) ก็คอจะตอง ‘สะทอนภูมปญญา’ ตัวท ี่
ื
์
ี่
้
่
ั
ิ
ื
ื
์
้
สองคอจะตอง ‘สะทอนความสามารถ’ ตัวทสามคอ ‘สะทอนปรากฏการณในทาง
ี่
้
้
็
่
ู
่
ิ
ดนตร’ นั่นก็คอความจรง ในแตละรป ในแตละกรณศกษาวาเปนรปอะไร กรณ ี
่
ี
ู
ี
ื
ึ
ั
่
่
ี
่
่
่
อะไร เพราะฉะนั้นไมสามารถจะฟงดนตรไทย โดยลงวาชอบไมชอบนั้น ไมนาจะ
่
่
ชอบดวยเหตุผล ยกเวนแตเหตุผลสวนตัว แตในเชงวาความสมบูรณแหงศาสตร ์
่
้
ิ
้
์
่
่
ุ
ี
ึ
้
ั
และภูมปญญาแหงชาต ส าคญสงน้ ก็จะมเปา มจดในแตละจดนั้น ก็ควรจะไดศกษา
่
ิ
่
ุ
ี
ิ่
ั
ิ
ี
้
้
็
ี
ิ
ในความเปนเหตุเปนผลในทางวชาการนั้นเพมเตม มากก็ด นอยก็ด ลวนแตเปน
็
่
ี
้
ิ่
็
ิ
้
ั้
ิ
ประโยชนทงสน”
์
4.4 ชวงถาม-ตอบ (Q&A) ทายงานสมมนา
้
ั
่
่
์
1. เราจะรบมือกับค าวิจารณอยางไร ?
ั
็
ุ
ิ
่
ี
ื
ั
ี
ตอบ : รบมอกับค าวิจารณ ก็ไม่เหนยากเลย ถ้าสมมตว่าค าวิจารณน้ประดจดั่งอาจมทเขาสาด
์
์
มาหาเราแล้วถ้าเราไม่ได้ท าตัวให้ไปถกอาจมทเขาสาดมา มันก็ไม่ได้กระทบกระเทอนอะไร แล้วค า
่
ู
ื
ี
วิจารณต่าง ๆ เหล่านั้นก็ไม่ได้เปนสมบัตของเรา การวิพากษ์วิจารณของคนมันไม่ใช่ว่ามาข้างหน้า
ิ
์
็
์
ิ
ิ
ี
ุ
ิ
์
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 61
ุ
อย่างเดยว มันถอยหลังกลับไปหาผู้วิจารณด้วยนะ เพราะฉะนั้นเราต้องใช้เหตใช้ผลในทางวิชาการว่า
์
ี
ั
ุ
ุ
ื
็
์
เขาวิจารณมานั้นมันตรงประเดนหรอเปล่า ใช่เหตผลไหม ถ้ามันพอปรบปรงความเข้าใจให้ตรงมัน
์
ื
ุ
ื
่
์
่
ได้ ก็จะเอ้อประโยชนซงกัน และกัน ทางทดทสดก็คอ ถ้าค าวิจารณในทางลบมันมากระทบทัศนะ
ึ
่
ี
ี
ี
ิ
็
ั
ของเรา ก็อย่าไปน าเอามา มันจะได้ไม่เปนสมบัตของเราครบ
2. ระดับของความไพเราะ มีกี่ระดับ ?
ตอบ : ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสง และระดับพิสดาร ระดับ ๆๆๆ ในมโนคตทเหมาะสม
ู
ี่
ิ
่
ี
้
่
้
่
ึ
3. แนะนาแหลงขอมูลทางดนตรไทยทีนาสนใจไปศกษาคนควาเพิมเติม
้
่
ตอบ : ทกสถาบันการศกษาทเปดหลักสตรการศกษา (สาขาวิชาดนตรไทย) ถงระดับ
ี
ึ
ี่
ึ
ู
ิ
ุ
ึ
็
ี
ปรญญาเอก มหน้าทเก็บรวบรวมข้อมูลทเปนพื้นฐานของงานเกียวกับวิชาชพน้ ไว้เปนศูนย์กลางของ
่
่
่
ี
ิ
ี
็
ี
ี
ี
ี
ี
์
ุ
ุ
ิ
ึ
การให้บรการทางการศกษา แต่ขณะน้หลัก ๆ ก็จะมหอสมดดนตรไทย จฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
ี
ื่
และสถานทอน ๆ อกมากมาย
ี่
่
ี
เนองจากว่าผมไม่ได้ไปล่วงรว่าทไหนเขาอะไรไว้บ้างแล้วเท่าไร แม้แต่ตัวผมเองทไป
้
ู
่
ี
ื
่
่
ิ
์
ช่วยงานอยู่สถาบันบัณฑตพัฒนศลป ก็รวบรวมส่งต่าง ๆ เหล่าน้ ียังไม่ได้มาก ทจรงตั้งใจจะท า
ิ
ิ
ี
ิ
ี
่
ี
ี
มาแล้ว 4 ป แต่ยังไม่ได้เร่มสักท หาเจ้าภาพไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มนะ แต่อาจจะมในลักษณะทอยู่ในตัว
ี
ิ
ี
บคคล เปนเอกสารส่วนตัวของคณาจารย์
ุ
็
4. ท าอยางไรจงจะปรบวงไดอยางดีเลิศ ?
ั
ึ
่
้
่
ี
ี
ตอบ : มค าตอบเดยวครบ ต้องเรยน แล้วก็ต้องฝก แล้วก็ต้องทดลองใช้ ตามหลักวิชาการท ี ่
ึ
ี
ั
่
ี
่
ี
ี
่
ก าหนดนั้น ให้มความช านาญและช าชอง ในฐานะทเปนผู้ปรบวงก็จะต้องมความช าชอง ในฐานะผู้ท ่ ี
็
ั
ิ
้
ื
์
ถกปรบก็จะต้องรบเอาประสบการณ แล้วไปเรยนรให้ประจักษ์ว่าข้อเท็จจรงนั้นคออะไร แล้วก็พา
ั
ู
ู
ั
ี
ี
ิ
ึ
ี
่
ิ
ึ
กันไปให้ถงความเชยวชาญ จงจะเพียงพอ ท าทั้งหมดน้ครบ เปนอันว่า ‘ภูมปญญาชาต’ ไม่ต้องห่วง
็
ั
ี
ิ
ั
อกแล้ว เพราะพวกเราทั้งหลายจะช่วยกันดแลให้ถาวรสบไป ท าส่งต่าง ๆ เหล่าน้ได้ ภมปญญาน้ไม่
ิ
ี
ี
ู
ื
ู
ี
ู
ั
สญไปจากแผ่นดนของโลกใบน้แน่นอนครบ
ิ
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 5 / 62
บทที่ 5
้
สรุปผลโครงการและขอเสนอแนะ
ั
5.1 สรุปผลโครงการสมมนาทางวิชาการ
ู
ิ
้
ู
ในการจัดท าโครงการสัมมนาทางวิชาการ ภายใต้หัวข้อเรอง “เสนทางความรส่ความเปนเลศ
้
็
ื่
ี
ี
็
ั
ึ
ี
ี
ี
่
ด้านการปรบวงดนตรไทย” โดยนักศกษาชั้นปท 4 สาขาดนตรไทยและดนตรตะวันออกนั้น เปนการ
ึ
ิ
รเร่มรปแบบงานสัมมนาทางด้านวิชาการในหลักสตรการศกษาระดับชั้นปรญญาตร แขนงวิชาปฏบัต ิ
ิ
ี
ู
ู
ิ
ิ
ี
ิ
่
ู
์
้
ุ
ี
็
ดนตร ถอเปนประสบการณใหม่ทให้ความรแก่สมาชกในโครงการทกท่านในการท างานร่วมกันเปน
ื
็
ี
็
่
หมู่คณะ สรางความสามัคคระหว่างการด าเนนงาน ได้รบข้อมูลทเปนสาระส าคัญซงเปนประโยชนอย่าง
็
ั
้
ิ
ึ
่
ี
์
ี
มากต่อการน ามาพัฒนาการสรางผลงานทางดนตรไทยในรปแบบของวงดนตรไทยประเภทต่าง ๆ
้
ู
ี
์
่
ี
นับตั้งแต่เรองเล่าทางประวัตศาสตร ความส าคัญและคณประโยชนของการปรบวงดนตรไทยโดยตรง
ุ
์
ื
ิ
ั
ิ
ี่
ี
ั
ั
จากศาสตราจารย์เกียรตคณ นายแพทย์พูนพิศ อมาตยกุล และแนวทางการปรบวงดนตรไทยทได้รบการ
ุ
็
ึ
ุ
่
ั
ถ่ายทอดมาจนถงปจจบันจากอาจารย์บญช่วย โสวัตร ซงวิทยากรรบเชญทั้งสองท่านน้ล้วนเปนผู้ทม ี
ี
ี
ิ
ึ
่
ุ
ั
ี
ื
ุ
่
ู
ี
็
ี
ี
ั
์
ี
์
ความร ความเชยวชาญ มประสบการณอย่างล้นเหลอ มความล่มลกในศาสตรดนตรไทยจนเปนทยอมรบ
้
ึ
่
ึ
้
็
ี
่
ิ
ี
ี
ู
ในสังคมวงการดนตรไทยอย่างแท้จรง คณะผู้จัดท าจงมความมั่นใจเปนอย่างยิ่งว่าความรทผู้ร่วมงาน
ทกท่านได้รบไปประยุกต์ใช้นั้นมความน่าเชอถอมากทสด
ุ
ื
ื
ุ
ี
่
ั
่
ี
ี
ี
ั
ี
การปรบวงดนตรไทย เปนการพัฒนาการบรรเลงให้มคณภาพในทางทดข้น ลักษณะการ
ุ
ี
่
ึ
็
็
ื
ิ
ุ
บรรเลงทกส่วนในวงด าเนนไปอย่างสอดคล้องกลมกลนกัน เปนไปตามความหมายของเพลงและ
ผู้ปรบวง การปรบวงทดต้องมครควบคมวงทมความร ความเชยวชาญจากการอาศัยการสั่งสม
ี
ี
่
ี
ี
่
้
ี
่
ู
ั
ู
ี
ุ
ั
็
ี่
์
ื่
ึ
ิ
ประสบการณทจ าเปนในแนวทางทถกต้องเหมาะสม รวมถงมความสามารถในการปฏบัตเครองดนตร ี
ิ
ี่
ู
ี
ิ
ี
ึ
ิ
ี
ี
ไทยได้หลายชนด อกทั้งยังต้องมความเข้าใจถงบทบาทของวงดนตรแต่ละประเภทในสังคม สมาชกใน
วงดนตรต้องมระดับฝมอและประสบการณในมาตรฐานใกล้เคยงกัน
์
ี
ื
ี
ี
ี
ั
้
ั
ิ
5.2 สภาพปญหาและการแกไขปญหาที่เกิดขึ้นในการด าเนนโครงการ
5.2.1 สภาพปญหาและการแก้ไขปญหาทเกิดข้นระหว่างการด าเนนโครงการ
ั
ิ
ึ
ั
ี
่
5.2.1.1 ด้านการจัดการภายในโครงการ
ี
่
ั
- ปญหา : การกระจายภาระงานตามหน้าทของสมาชกแต่ละต าแหน่งในระยะขั้นต้น
ิ
จนถงระยะการเตรยมงานสัมมนายังไม่เหมาะสมเท่าเทยมกัน
ี
ี
ึ
ี
ิ
์
ิ
ุ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 63
ิ
ู
วิธการแก้ปญหา : ปรบเปลยนภาระหน้าทการจัดท ารปเล่มโครงการในระยะหลังการ
ี
่
ี
ั
ี
ั
่
สัมมนา
ิ
ั
- ปญหา : สมาชกใช้เวลาด าเนนงานทไม่ตรงกัน การแบ่งงานไม่ชัดเจนและไม่กระจาย
ิ
ี
่
่
ี
ี
ิ
่
ุ
่
็
งาน เปนการแบ่งงานทไม่ได้ประชมกันอย่างสม าเสมอ เมอมงานสมาชกส่วนใหญ่ไม่ได้น าเรองใน
ื
ื่
ประเดนต่าง ๆ มาพูดคยหารอกันอย่างจรงจัง จงท าให้สมาชกทเหลอไม่ทราบรายละเอยดของงาน
ื
ี
ื
ึ
ี
ิ
็
ุ
่
ิ
และไม่สามารถด าเนนงานต่อได้ในบางส่วน
ิ
วิธการแก้ปญหา : สมาชกต้องมการพูดคยกันไม่ว่าจะช่องทางใด (ส่วนใหญ่
ี
ุ
ิ
ั
ี
ั
ื
ั
์
่
่
ื
สามารถใช้สอสังคมออนไลน) เพือรบทราบความคบหน้าของงานและการปรบแก้ไขตลอดเวลา
อย่างต่อเนองร่วมกัน
่
ื
็
ั
- ปญหา : สมาชกบางส่วนขาดทักษะและมศักยภาพไม่มากเพียงพอในการท างานทเปน
ี่
ี
ิ
่
ี
็
็
่
รปแบบทางวิชาการ ท าให้เสยเวลาในการแก้ไขงานรปเล่มมากเกินกว่าทควรจะเปน เปนเหตผลทไม่
ู
ู
ุ
ี
ี
สามารถกระจายงานได้ เพราะไม่ค่อยมความแตกต่างกันจากการท างานโดยสมาชกบางส่วนอยู่ด ี
ิ
ี
ิ
ี
ี
วิธการแก้ปญหา : สมาชกในโครงการควรมพื้นฐานภาษาไทยทมมาตรฐานส าหรบ
ั
ี
ี่
ั
การศกษาในระดับชั้นปรญญาตร เพือการท างานเอกสารให้มประสทธภาพมากข้น
ึ
ึ
ี
่
ิ
ิ
ิ
ี
5.2.1.2 ด้านการบรหารจัดการของวิทยาลัย
ิ
ี
ิ
่
- ปญหา : การด าเนนงานเปนไปอย่างล่าช้ากว่าทก าหนด ด้วยเรองของการด าเนน
็
่
ิ
ื
ั
ิ
เอกสารและการด าเนนงานของทางวิทยาลัย
ิ
ั
วิธการแก้ปญหา : ควรด าเนนงานและก าหนดเวลาให้ชัดเจน เพือให้ทางวิทยาลัย
ี
่
ึ
็
ด าเนนการอนมัตโครงการได้เรวข้น เพราะในส่วนทเปนปญหาอยู่ในเรองของความถกต้องของ
ุ
ิ
็
่
ี
ู
ั
ื่
ิ
เอกสาร จงท าให้การด าเนนงานช้า
ิ
ึ
5.2.1.3 ด้านเวลาในการจัดท าโครงการ
่
ี
- ปญหา : สมาชกรวมถงอาจารย์ประจ าโครงการมระยะเวลาทมาประชมด าเนนงานกัน
ึ
ิ
ี
ั
ุ
ิ
ื
่
อย่างไม่สม าเสมอและไม่ต่อเนอง เช่น สมาชกเข้าเรยนในคาบสาย อาจารย์ตดประชมกับคณาจารย์
ุ
ิ
ี
ิ
่
ิ
ื่
ของวิทยาลัยในบางคาบเรยน ท าให้ขาดความสมบูรณในเรองของเวลาในการปฏบัตงาน
ี
์
ิ
ิ
่
ื
วิธการแก้ปญหา : สมาชกและอาจารย์ต้องมการตดต่อกันเปนประจ า โดยใช้เครองมอ
ื
ั
ี
ี
ิ
็
สอสาร ได้แก่ โทรศัพท์แบบสมารทโฟนหรอแบบธรรมดา คอมพิวเตอร โน้ตบ๊ก เปนต้น
์
็
์
ื
ุ
่
ื
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 5 / 64
ี
ึ
่
ั
ั
5.2.2 สภาพปญหาและการแก้ไขปญหาทเกิดข้นในวันจัดงานสัมมนา
ื
่
5.2.2.1 ด้านการตดต่อสอสารภายในโครงการ
ิ
ิ
- ปญหา : สมาชกเดนทางมาถงสถานทจัดงานค่อนล่าช้าเกินจากเวลาทนัดหมาย
ี
่
ิ
ึ
ี
ั
่
ั
ี
ึ
ิ
ึ
วิธการแก้ปญหา : ควรนัดหมายสมาชกให้มาถงจดนัดพบอย่างน้อย 1 ชม. ก่อนถงเวลาท ี่
ุ
ี
ิ
นัดหมายลงทะเบยนและเร่มงานในก าหนดการ
ี
ึ
ั
ิ
- ปญหา : วิทยากร (ศ.นพ.พูนพิศ) ไม่ทราบพิกัดสถานทจัดงานเมอเดนทางมาถง
ื
่
่
วิทยาลัย
ิ
ี
่
ี
ั
ึ
่
ั
วิธการแก้ปญหา : ผู้ตดต่อนัดหมายวิทยากรควรแจ้งข้อมูลสถานทล่วงหน้าซ ้าอกคร้งหนง
ี
่
- ปญหา : สมาชกสับสนกับรายละเอยดในภาระหน้าทของฝายตนเองในวันสัมมนา
ี
่
ี
ั
ิ
ิ
ี
ึ
ั
ี
วิธการแก้ปญหา : ควรมอบหมายแจกแจงงานให้ชัดเจนอกคร้ ังก่อนถงเวลาเร่มงาน เช่น
ิ
ึ
็
ื
ในวันก่อนวันงาน หรอภายใน 1 ชม. ล่วงหน้าก่อนถงเวลาเร่มงาน เปนต้น
ี
5.2.2.2 ด้านความรบผิดชอบต่อภาระหน้าทของสมาชก
่
ิ
ั
ี
ั
้
- ปญหา : มความล่าช้าของข้อมูลบางส่วนทต้องใช้ในวันงาน เช่น ปายบอกทาง บทพูดของ
ี่
ี
คณบดและพิธกร เปนต้น
ี
็
ี
ึ
่
็
ี
วิธการแก้ปญหา : ควรเร่งการท างานในส่วนน้ให้เสรจทันท่วงทก่อนทจะถงวันงาน
ั
ี
ี
ั
ี
ี
- ปญหา : ไม่มผู้เขยนใบค าถาม
็
ี่
ี
ั
วิธการแก้ปญหา : ท าเปน QR CODE และให้พิมพ์ค าถามทผู้ร่วมงานต้องการจะท าการ
ื
ิ
ิ
ู
สอบถาม/ซักถาม เหมอนกับสจบัตร และ แบบประเมน
ั
ี่
- ปญหา : ผู้ร่วมงานกล่มแรกทมาลงทะเบยนไม่ได้รบแจกใบค าถาม
ั
ี
ุ
วิธการแก้ปญหา : ควรระมัดระวังในขั้นตอนของการลงทะเบยนให้มากกว่าน้ ได้แก่ การ
ี
ั
ี
ี
่
ี
ตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสารทจ าเปนต่อผู้ร่วมงานก่อนทจะให้ผู้ร่วมงานผ่านประตเข้า
็
ี
่
ู
ห้องสัมมนา
่
ี
่
ี
ี
- ปญหา : ไม่มพื้นทรองรบส าหรบผู้ทต้องการรบประทานอาหารเช้าก่อนทจะเข้าร่วมงาน
ั
ั
ี
่
ั
ั
ตามเวลานัดหมายทก าหนด
่
ี
์
ิ
ิ
ิ
ุ
ี
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 65
ี
วิธการแก้ปญหา : ควรแจ้งเพิ่มเตมเรองข้อมูลทอยู่โรงอาหารของวิทยาลัยในการ
ิ
ื่
่
ี
ั
ประชาสัมพันธ ์
้
ั
5.3 แบบประเมินและขอเสนอแนะจากการจดท าโครงการ
- แบบประเมนจากผู้เข้าร่วมงาน
ิ
ี่
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บทท 5 / 66
ิ
ิ
ุ
ี
ิ
์
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 67
่
้
้
ที่มา : วรากร ตรโชควิพุธ รวบรวมจากผูเขารวมงานที่กรอกแบบประเมินวันที่ 31 มกราคม 2563
ี
้
่
้
- ขอเสนอแนะจากผูเขารวมงาน
้
ี
ี
1. แสดงความชนชมและต้องการให้มการจัดโครงการสัมมนาทางวิชาการเช่นน้ต่อไป
ื
่
ุ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ บรรณานกรม / 68
บรรณานุกรม
ิ
ู
ิ
์
ุ
ิ
ี
ส านักบรหารศลปวัฒนธรรม จฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. (2556). สจบัตร การแสดงดนตรไทย
ุ
ุ
ุ
วงจฬาวาทต . กรงเทพฯ: ส านักพิมพ์แห่งจฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
ิ
์
นวัตร กองเพียร, (2552). เมอลมพัดหวน. นครปฐม: วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล.
ิ
์
ิ
ิ
ุ
ิ
ื่
ั
ี
ู
ื
ุ
บญช่วย โสวัตร. (2539). การปรบวงดนตรไทยขั้นสง. กรงเทพฯ: โรงพิมพ์เรอนแก้วการพิมพ์.
ุ
ุ
ิ
ุ
ื
ี
์
มนตร ตราโมท. (2538). ดนตรไทย. หนังสออนสรณงานศพ. กรงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานช.
ี
ี่
ิ
ี
ุ
ี
ิ
์
ิ
ี
ั
อัศนย์ เปลยนศร. (2558). ดนตรในพระราชพธสมัยรตนโกสนทร. ศลปกรรมสาร. กรงเทพฯ: คณะ
ี
ิ
์
ศลปกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร.
์
ออนไลน ์
์
ิ
วิทยาลัยราชสดา มหาวิทยาลัยมหดล. สภาคณาจารย์, (ม.ป.ป.). ประวัตศาสตราจารยเกยรตคณ
ุ
ุ
ี
ิ
ิ
ิ
นายแพทยพูนพศ อมาตยกุล. [เว็บไซต์] เข้าถงได้จาก
์
ึ
https://rs.mahidol.ac.th/thai/about_faculty/teacher-profile/poonpit-amatyakul.html
ี่
ื
(สบค้นวันท 20 มกราคม 2563)
ส านักบรหารศลปวัฒนธรรมจฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. บคลากร, (ม.ป.ป.). อาจารยบุญชวย โสวัตร.
่
์
ุ
ิ
ุ
์
ิ
[เว็บไซต์] เข้าถงได้จาก https://www.cuartculture.chula.ac.th/people/521
ึ
ื
(สบค้นวันท 29 มนาคม 2563)
ี่
ี
ี
ี่
http://culturalartcu.blogspot.com/2013/05/blog-post_7405.html (สบค้นวันท 29 มนาคม 2563)
ื
https://www.matichon.co.th/columnists/news_328458 (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ี่
ื
https://img.tnews.co.th/userfiles/images/4(543).jpg (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ี่
ื
http://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2012/10/M12792742/M12792742-1.jpg (สบค้น
ื
วันท 29 มกราคม 2563)
ี่
ิ
ุ
ี
ิ
์
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 69
https://www.baanjomyut.com/library_4/thailand_instruments/04_12.html (สบค้นวันท 29 มกราคม
ี่
ื
2563)
http://tkapp.tkpark.or.th/stocks/content/developer1/thaimusic/22_peechawa/web/big3.html
ื
ี่
(สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
https://www.matichon.co.th/columnists/news_329686 (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ี่
ื
ี่
http://wongdontrith.blogspot.com/2018/01/blog-post_88.html (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ื
ี่
ื
http://www.thailifemusic.com/2009/06/waikru-mahidol/ (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ื
ี่
http://thailandclassicalmusic.com/thaimusic/5pinprss.htm (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ี่
ื
https://sites.google.com/site/wngpiphathynaneiy/home/4 (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1004239_example.pdf (สบค้นวันท 29
ื
ี่
มกราคม 2563)
ื
ี่
http://www.finearts.go.th (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ื
http://fineart.tu.ac.th/mainfile/journal/10-2558-1/8.pdf (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ี่
ื
ี่
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_396790 (สบค้นวันท 29 มกราคม 2563)
ี
https://chakrabhand.org/puppetry/index05-07.asp (สบค้นวันท 28 มนาคม 2563)
ี่
ื
ี่
ื
ี
http://tkapp.tkpark.or.th/detail.php?id=226&refer=43 (สบค้นวันท 28 มนาคม 2563)
ื
ี่
ี
http://tkapp.tkpark.or.th/detail.php?id=207 (สบค้นวันท 28 มนาคม 2563)
ื
ี
ี่
https://www.youtube.com/watch?v=Y-TBPH4flPI (สบค้นวันท 28 มนาคม 2563)
https://pantip.com/topic/34198244 https://siamrath.co.th/n/95884 (สบค้นวันท 28 มนาคม 2563)
ี
ี่
ื
ื
ี่
ุ
www.royin.go.th/?parties=ศาสตราจารย์เกียรตคณ-7 (สบค้นวันท 30 มกราคม 2563)
ิ
ื
ี่
ุ
https://www.facebook.com/pg/อาจารย์บญช่วย-โสวัตร-265134476984449/photos/ (สบค้นวันท 30
มกราคม 2563)
ั
้
ถอดขอความเทปบันทึกงานสมมนา
ุ
บญช่วย โสวัตร. ผู้เชยวชาญด้านดนตรไทย จฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. บรรยาย, 31 มกราคม 2563
ี
ุ
์
ี่
ิ
ุ
พูนพิศ อมาตยกุล. เลขานการและกรรมการ มูลนธราชสดา. บรรยาย, 31 มกราคม 2563
ุ
ิ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 70
ภาคผนวก ก
ิ
์
ุ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 71
ี
ิ
์
่
ึ
้
คณาจารยผูควบคุมและทีปรกษาโครงการ
ื
์
อาจารย ดร.ณฐชยา นัจจนาวากุล อาจารยดวงเดอน หลงสวาสด์ ิ
์
ั
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 72
ั
้
ิ
สมาชกผูจดท าโครงการ
ประธานโครงการ นายภมพล แท่นสงค์
ี
เกิดวันท 25 กันยายน พ.ศ. 2540
ี่
สถานทเกิด จังหวัดสราษฎรธาน ี
์
ี
่
ุ
ึ
ประวัติการศกษา
ุ
ิ
ี
ึ
ระดับชั้นประถมศกษา 1-6 : โรงเรยนมานตานเคราะห ์
ี่
ี
ี
ึ
ระดับชั้นมัธยมศกษาท 1-3 : โรงเรยนสราษฏรธาน 2
ุ
์
ุ
ุ
ี
ระดับชั้นมัธยมศกษาท 4-6 : วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล หลักสตรเตรยมอดม
์
ิ
ิ
ู
ิ
ี่
ึ
ดนตร ี
ประวัติการเรยนดนตร ี
ี
ั
ิ
ึ
ปจจบันก าลังศกษาอยู่ในระดับชั้นปรญญาตรปท 4 สาขาวิชาดนตรไทยและดนตร ี
ี
ี่
ุ
ี
ี
ิ
ุ
ี
ู
ี
ิ
ิ
ื่
ิ
์
ื
ตะวันออก (เรยนวิชาเครองมอเอก ระนาดเอก กับครเสร หรมพานช) ณ วิทยาลัยดรยางศลป
มหาวิทยาลัยมหดล
ิ
โทรศพท 096-780 8333
์
ั
E-mail: [email protected]
ั
ี
้
่
ื่
ี
ผลงานการวิจย เรอง กระบวนการเตรยมความพรอมของนักดนตรไทยกอนการประกวด
ิ
ิ
ุ
ตามหลักสตรดรยางคศาสตรบัณฑต วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล พ.ศ. 2562
ิ
ุ
ิ
์
ิ
ู
ิ
ิ
ุ
ี
ิ
์
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 73
ี
รองประธานโครงการ นายวรากร ตรโชควิพุธ
่
เกิดวันท 6 กันยายน พ.ศ. 2540
ี
สถานทเกิด กรงเทพมหานคร
ุ
ี
่
ประวัติการศกษา
ึ
ึ
ระดับชั้นประถมศกษา 1-6 : โรงเรยนอัสสัมชัญแผนกประถม
ี
ั
ึ
ี่
ระดับชั้นมัธยมศกษาท 1-6 : โรงเรยนอัสสัมชัญ บางรก
ี
ี
ประวัติการเรยนดนตร ี
ื
ี
ู
่
ิ
ี
็
เร่มเรยนเครองดนตร ระนาดเอก กับครทวีศักด์ อัครวงษ์ และเปนนักดนตรไทยประจ า
ิ
ี
ั
วงโรงเรยนอัสสัมชัญ บางรก
ี
ิ
ปจจบันศกษาระดับปรญญาตรปท 4 สาขาวิชาดนตรไทยและดนตรตะวันออก (เรยน
ี
ี
ี
ี
ี
ี่
ั
ึ
ุ
ิ
ิ
ี
์
ู
วิชาเครองมอเอก ระนาดเอก กับครเสร หรมพานช และครพารณ ยืนยง) ณ วิทยาลัยดรยางศลป
ุ
ิ
ิ
ื่
ื
ู
มหาวิทยาลัยมหดล
ิ
์
ั
โทรศพท: 087-530-2535
E-mail: [email protected]
ผลงานการวิจย เรอง ความคดเหนของนักศกษาทมตอการเรยนรายวชาพ้นฐานฆองวงใหญ
ี
ื
ี
่
ี่
็
ิ
่
ิ
ึ
้
ื่
ั
ิ
ิ
์
ในวทยาลัยดุรยางคศลป มหาวทยาลัยมหดล ตามหลักสตรดรยางคศาสตรบัณฑต วิทยาลัย
ิ
ิ
ิ
ุ
ิ
ิ
ู
ิ
์
ิ
ดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล พ.ศ. 2562
ุ
ิ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 74
ิ
เลขานุการและฝายขอมูลโครงการ นางสาวชตมณฑน์ สระนาค
ุ
้
่
่
ี
เกิดวันท 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2541
สถานทเกิด จังหวัดชลบร ี
ุ
ี
่
ประวัติการศกษา
ึ
ึ
ิ
ี
ระดับชั้นประถมศกษาปท 1-2 : โรงเรยนเทศบาลวัดโขดทมทาราม
่
ี
ี
ี
ึ
่
ี
ี
ระดับชั้นประถมศกษาปท 3-6 : โรงเรยนเซนต์โยเซฟระยอง
ี
ี
ี
่
ระดับชั้นมัธยมศกษาปท 1-6 : โรงเรยนระยองวิทยาคม
ึ
ี
ประวัติการเรยนดนตร ี
ิ
ี
ี
่
ี
เร่มฝกเครองมอระนาดเอกทชมรมดนตรไทย โรงเรยนเซนต์โยเซฟระยอง ระหว่าง
ึ
ื
ื
่
ี
่
ึ
ี
ี
จบการศกษาระดับชั้นปท 6 ต่อมาได้สอบเข้าโควตาเปนนักดนตรไทยประจ าของวงโรงเรยน
็
ี
ึ
ี
ึ
ระยองวิทยาคม ร่วมกิจกรรมทางดนตรตลอดระยะเวลาทศกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศกษา
ี
่
ี
ี
ิ
ั
ปจจบันก าลังศกษาอยู่ในระดับชั้นปรญญาตร ปท 4 สาขาวิชาดนตรไทยและดนตร ี
ุ
ึ
ี
ี่
ี
ิ
์
ิ
ุ
ิ
ิ
ื่
ิ
ื
ตะวันออก (เรยนวิชาเครองมอเอก ขม กับครชัยพร จรจตโกศล) ณ วิทยาลัยดรยางคศลป
ู
ิ
มหาวิทยาลัยมหดล
้
ผลงานและรางวัลดานดนตร ี
ี
ิ
ี
ิ
- พ.ศ. 2555-2558 รางวัลเหรยญทองและเหรยญเงน ในการประกวดรายการศลปหัตถกรรม
ั
่
ี
นักเรยน คร้งท 60-62 ประเภทวงดนตรไทยและการเดยวเครองดนตรขมสาย
ี่
ี
ี
ิ
ื่
ี
ิ
ิ
ุ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 75
์
ี
ี
ิ
ิ
ุ
- พ.ศ. 2555 รางวัลชนะเลศ การประกวดเดยวขล่ยเพียงออ ณ โรงเรยนสาธตมหาวิทยาลัย
ี
่
บูรพา
ิ
- พ.ศ. 2556-2559 รางวัลชนะเลศ 3 ปซ้อน ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ การประกวด
ี
ี
ี
ึ
่
ี
ิ
เดยวขมสายระดับชั้นมัธยมศกษา การประกวดดนตรไทยระดับนักเรยนภาคกลางและภาค
ตะวันออก ณ มหาวิทยาลัยบูรพา
ั
็
- พ.ศ. 2556 ได้รบการคัดเลอกเปนตัวแทนจังหวัดระยองโดยผ่านการ Audition กับอาจารย์
ื
ี
์
ิ
ิ
่
ิ
ี
ุ
ธนสร ศรกล่นด (ศลปนแห่งชาต) โดยตรงเพือเดนทางไปเรยนขล่ยกับอาจารย์
ิ
ี
ิ
ิ
ื
- พ.ศ. 2557-2558 รางวัลเข็มฝมอศรทอง รายการประกวดดนตรไทย “ศรทอง” จัดโดยมูลนธ ิ
ิ
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ั
ี
่
หลวงประดษฐ์ไพเราะ (ศร ศลปบรรเลง) ประเภทการบรรเลงขม (คร้งท 4-5)
ุ
์
ิ
- พ.ศ. 2557 ได้รบรางวัล ผู้ท าคณประโยชนต่อกระทรวงวัฒนธรรม ระดับจังหวัด ด้านศลปะ
ั
ี
ดนตร ประเภทเยาวชน
ิ
ุ
ุ
ี
ี
ิ
ึ
- พ.ศ. 2559-2561 นักศกษาทนเรยนด วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล
ิ
์
ี
- พ.ศ. 2559-2562 ร่วมบรรเลงดนตรไทยในงานภายในและภายนอกต่าง ๆ ของ
ิ
มหาวิทยาลัยมหดล
- พ.ศ. 2560 ร่วมบรรเลงขล่ยเพียงออและขล่ยหลบในงานดนตรไทยอดมศกษา คร้งท 43 ณ
ุ
ิ
ุ
่
ั
ี
ี
ุ
ึ
มหาวิทยาลัยพะเยา
ึ
้
ี
- พ.ศ. 2560 ร่วมบรรเลงขล่ยเพียงออในรายการ “รอยใจดนตรไทย น้อมราลกองค์อัคร
ุ
ิ
ศลปน” ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ิ
ิ
ิ
ุ
ี
- พ.ศ. 2561 ร่วมบรรเลงขล่ยเพียงออในรายการแสดงดนตรไทยเฉลมพระเกียรตสมเดจพระ
็
เจ้าอยู่หัว ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
- ฯลฯ
์
โทรศพท: 081-454 4696
ั
E-mail: [email protected]
่
์
ผลงานการวิจย เรอง การสบทอดองคความรดนตรประกอบการแสดงหนังใหญวัดบานดอน
ู
ั
ี
้
ื่
้
ื
ิ
ิ
ุ
์
ิ
ุ
ู
ิ
ตามหลักสตรดรยางคศาสตรบัณฑต วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล พ.ศ. 2562
ิ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 76
ั
่
่
ฝายขอมูลโครงการและติดตอวิทยากร นางสาวญาตกานต์ ทองรกษ์
้
ิ
่
์
เกิดวันท 14 กุมภาพันธ พ.ศ. 2540
ี
ี
่
ุ
สถานทเกิด จังหวัดชมพร
ึ
ประวัติการศกษา
่
ระดับชั้นประถมศกษาปท 1-6 : โรงเรยนอนบาลชมพร
ี
ุ
ี
ี
ึ
ุ
ี่
ึ
ิ
ี
ี
ุ
ระดับชั้นมัธยมศกษาปท 1-6 : โรงเรยนสอาดเผดมวิทยา จังหวัดชมพร
ประวัติการเรยนดนตร ี
ี
ี
่
ิ
ึ
ี
ู
ี
ิ
ี
เร่มเรยนดนตรไทยในช่วงชั้นมัธยมศกษาปท 2 กับครวิวัฒน ภัยวิมต ครดนตรไทย
์
ี
ุ
ู
ิ
โรงเรยนสอาดเผดมวิทยา
ี
ั
ิ
ี
ึ
ปจจบันก าลังศกษาอยู่ในระดับชั้นปรญญาตร ปท 5 สาขาวิชาดนตรไทยและดนตร ี
ี
ี
ุ
ี
่
ตะวันออก (เรยนวิชาเครองมอเอก ขม กับครชัยพร จรจตโกศล) ณ วิทยาลัยดรยางคศลป
ู
ิ
์
่
ิ
ื
ิ
ี
ุ
ิ
ื
ิ
ิ
มหาวิทยาลัยมหดล
โทรศพท: 099-406 2185
ั
์
E-mail: [email protected]
ิ
ี
ั
ั
ผลงานการวิจย เรอง ปจจยทสงผลตอการพัฒนาดนตรไทยในโรงเรยนสอาดเผดมวทยา
ื่
ี่
่
ี
ิ
่
ั
ิ
ู
ุ
ุ
จงหวัดชมพร ตามหลักสตรดรยางคศาสตรบัณฑต วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล
ั
ิ
ิ
์
ิ
ิ
ุ
พ.ศ. 2562
ี
ิ
ิ
์
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 77
ุ
ั
ั
ิ
ฝายสถานที่จดงานสมมนา นายสันตกานต์ วงศ์แหลมทอง
่
่
ุ
เกิดวันท 31 ตลาคม พ.ศ. 2540
ี
่
สถานทเกิด กรงเทพมหานคร
ุ
ี
ประวัติการศกษา
ึ
ี
ึ
ี่
ิ
ระดับชั้นประถมศกษาปท 1-3 : โรงเรยนนานาชาตแอ๊ดเวนต์ รามค าแหง
ี
ระดับชั้นประถมศกษาปท 3-6 : โรงเรยนปฐมพัชร (โรงเรยน “ณ ดรณ” ณ ปจจบัน)
ี
ี
ุ
ุ
ั
ี
ี่
ึ
ระดับชั้นมัธยมศกษาปท 1-3 : โรงเรยนนวมนทราชนทศ เตรยมอดมศกษาน้อมเกล้า
ี
ิ
ี
ุ
ึ
ิ
ู
ิ
ี่
ี
ึ
ี่
ระดับชั้นมัธยมศกษาปท 4-6 : หลักสตรเตรยมอดมดนตร สาขาวิชาดนตรไทยและดนตรี
ี
ี
ู
ุ
ี
ึ
ี
ุ
ิ
ิ
์
ิ
ตะวันออก วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล
ี
ประวัติการเรยนดนตร
ี
ี
ี
ี
ี
่
ปจจบันก าลังศกษาอยู่ในระดับชั้นปรญญาตร ปท 4 สาขาวิชาดนตรไทยและดนตร ี
ิ
ั
ุ
ึ
์
ิ
ตะวันออก (เรยนวิชาเครองมอเอก จะเข้ กับครสหรฐ จันทรเฉลม) ณ วิทยาลัยดรยางคศลป
ิ
ั
์
ี
ื
ุ
ื่
ิ
ู
ิ
มหาวิทยาลัยมหดล
้
ผลงานและรางวัลดานดนตร ี
ี
ั
ิ
ุ
ิ
- พ.ศ. 2555 - ปจจบัน ร่วมบรรเลงดนตรไทยกับมูลนธบ้านดรยประณตในโอกาสต่าง ๆ
ี
ุ
ิ
ิ
ี
- พ.ศ. 2556 - 2562 ร่วมบรรเลงดนตรไทยในงานภายใน ของมหาวิทยาลัยมหดล
่
ี
ี
- พ.ศ. 2560 ร่วมบรรเลงจะเข้ในงานดนตรไทยอดมศกษา คร้งท 43 ณ มหาวิทยาลัยพะเยา
ั
ุ
ึ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 78
ิ
็
- พ.ศ. 2561 ร่วมบรรเลงจะเข้ในรายการแสดงดนตรไทยเฉลมพระเกียรตสมเดจพระเจ้าอยู่หัว
ิ
ี
ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ั
่
ี
ึ
- พ.ศ. 2562 ร่วมบรรเลงจะเข้ในงานดนตรไทยอดมศกษา คร้งท 44 ณ มหาวิทยาลัยศลปากร
ิ
ี
ุ
์
ั
โทรศพท: 098-658 5442
E-mail: [email protected]
้
ื
้
ื่
ุ
ผลงานการวิจย เรอง คณลักษณะไมดดจะเข และการเลอกใชไมจะเข ้
ั
้
ี
้
ู
ิ
ุ
ตามหลักสตรดรยางคศาสตรบัณฑต วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล พ.ศ. 2562
ิ
ิ
ิ
์
ุ
ิ
ิ
ิ
ิ
์
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 79
ี
ุ
ภาคผนวก ข
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 80
้
ี
ั
่
้
รายชอผูลงทะเบยนเขารวมงานสมมนา
่
ื
์
ิ
ี
ิ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 81
ุ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 82
ิ
ิ
ิ
์
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 83
ี
ุ
์
่
ประมวลภาพวันงานสมมนา (วันศุกรที 31 มกราคม พ.ศ. 2563)
ั
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 84
์
ิ
ี
ิ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 85
ุ
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 86
์
ิ
ิ
ี
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 87
ุ
ิ
้
ั
ที่มา : ภีมพล แทนสงค บันทึกภาพทายงานสมมนา วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563
่
์
โครงการสัมมนาทางวิชาการ ภาคผนวก / 88
ภาคผนวก ค
ี
์
ิ
ุ
ิ
ิ
วิทยาลัยดรยางคศลป มหาวิทยาลัยมหดล ดศ.บ. (ดนตร) / 89
ั
์
บันทึกวีดิทัศนบรรยากาศงานวันสมมนา
์
์
- บรรยายโดย ศาสตราจารยเกียรติคุณ นายแพทยพูนพิศ อมาตยกุล
่
์
ในหัวขอ “เรองเลาทางประวัติศาสตร ความสาคัญ และคุณประโยชนของการปรบวงดนตรไทย”
ื่
ั
์
้
ี
ี
่
ทอยู่เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=3sYHFySszTs&feature=youtu.be
่
์
- บรรยายโดย อาจารยบุญชวย โสวัตร
้
่
ในหัวขอ “แนวทางการปรบวงดนตรไทยทีไดรบการถายทอดมาจนถึงปจจุบัน”
ั
้
่
ี
ั
ั
ทอยู่เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=wpFLgLQQ5uQ&feature=youtu.be
่
ี