The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี (ฉบับเต็ม)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 116, 2022-08-21 23:52:26

มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี (ฉบับเต็ม)

มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี (ฉบับเต็ม)

“…ดูกรสงฆ์ผู้ทรงพรหมจารี เมื่อสมเด็จพระมัทรีกำสรดแสน

กัมปนาทเพียงพระสันดานจะขาดจะดับสูญ นางเสวยพระอาดูร

พูนเทวษในพระอุรา น้ำพระอัสสุชลนาเธอไหลนองครอง

พระเนตร ทรงพระกันแสงแสนเทวษพิไรร่ำ ตั้งแต่ประถมยาม
ค่ำไม่หย่อนหยุดแต่สักโมงยาม นางเสด็จไต่เต้าติดตามทุก

ตำบลละเมาะไม้ไพรสณฑ์ศิขริน…”

ประถมยาม
คือกี่โมง

“…เทพเจ้าทุกพระองค์ กอดพระหัตถ์ เงี่ยพระโสตสดับสาร
พระเยาวมาลย์เธอเที่ยวหาพระลูก พระนางเธอเสวยทุกข์
แสนเข็ญ ตั้งแต่ยามเย็นจนรุ่งเช้าก็สุดสิ้นที่จะเที่ยวค้น
ทุกตำแหน่ งแห่งละสามหนเธอเที่ยวหาถ้าจะคลี่คลายขยายมรคา

ก็ได้สิบห้าโยชน์ โดยนิยม นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคม

บาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง…”

1 โยชน์
= 16 กิโลเมตร

แสดงให้เห็นถึงความ

ห่วงใยที่มีต่อลูก

“…นี่ก็เหลือที่แม่จะเที่ยวแสวงสืบเสาะหา เมื่อเช้าแม่จะเข้าไปสู่ป่ า

พ่อชาลีแม่กัณหายังทูลสั่งแม่ยังกลับหลังมาโลมลูบจูบกระหม่อม

จอมเกล้าทั้งสองรา กลิ่นยังจับนาสาอยู่รวยรื่นโอ้พระลูกข้านี้จะ

ไม่คืนเสียแล้วกระมังในครั้งนี้ กัณหาชาลีลูกรักแม่ นับวันแต่

ว่าจะแลลับล่วงไปเสียแล้วหนอ ใครจะกอดพระศอเสวยนม

ผทมด้วยแม่เล่า ยามเมื่อแม่จะเข้าที่บรรจถรณ์ เจ้าเคียงเรียง

หมอนนอนแนบข้างทุกราตรี แต่แม่นี้จะกล่อมใครให้นิทรา…”

เทวดาสงสารมัทรี 1 โยชน์ =
16 กิโลเมตร
“…เทพเจ้าทุกพระองค์ กอดพระหัตถ์ เงี่ยพระโสต
สดับสาร พระเยาวมาลย์เธอเที่ยวหาพระลูก

พระนางเธอเสวยทุกข์แสนเข็ญ ตั้งแต่ยามเย็น

จนรุ่งเช้าก็สุดสิ้นที่จะเที่ยวค้น ทุกตำแหน่งแห่ง

ละสามหนเธอเที่ยวหาถ้าจะคลี่คลายขยายมรคา

ก็ได้สิบห้าโยชน์ โดยนิยม นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่

พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวา

จะวางวายทำลายล่วง…”

“…นี่ก็เหลือที่แม่จะเที่ยวแสวงสืบเสาะหา เมื่อเช้าแม่จะเข้า

ไปสู่ป่ าพ่อชาลีแม่กัณหายังทูลสั่งแม่ยังกลับหลังมาโลมลูบจูบ


กระหม่อมจอมเกล้าทั้งสองรา กลิ่นยังจับนาสาอยู่รวยรื่นโอ้พระ


ลูกข้านี้จะไม่คืนเสียแล้วกระมังในครั้งนี้ กัณหาชาลีลูกรักแม่


นับวันแต่ว่าจะแลลับล่วงไปเสียแล้วหนอ ใครจะกอดพระศอ


เสวยนมผทมด้วยแม่เล่า ยามเมื่อแม่จะเข้า

ที่บรรจถรณ์ เจ้าเคียงเรียงหมอนนอนแนบข้าง นางมัทรีรำพึง
ทุกราตรี แต่แม่นี้จะกล่อมใครให้นิทรา…” รำพันหาลูก
พรรณนาโวหาร

ได้เด่นชัด

“…ควรจะสงสารเอ่ยด้วยนางแก้ว
“…จะทูลสั่งก็ยังมิทันที่ว่าจะทูลเลย

กัลยาณี น้อมพระเกศีลงทูลถามหวังจะ
แต่พอตรัสว่าพระคุณเจ้าเอ๋ยคำเดียว

ติดตามพระลูกรักทั้งสองรา กราบถวาย
เท่านั้น ก็หายเสียงเอียงพระกายบ่า

บังคมลาลุกเลื่อนเขยื้อนยกพระบาท
ยศิโรเพฐน์ พระเนตรหลับหับ

เยื้องย่างพระกายนางให้เสียวสั่นหวั่น
พระโอษฐ์ลงทันที นางถึงวิสัญญี

ไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลัง
สลบลงตรงหน้าฉาน ปานประหนึ่ง

ลมอยู่ลิ่ว ๆ …” ว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาด

ขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรงหน้ า

โดดเด่นโวหาร พระที่นั่งเจ้า นั้นแล…”
เปรียบเทียบ

“…พระทัยท้าวเธอสำคัญว่าพระนางเธอวางวายสะดุ้ง


พระทัยหายว่าโอ้อนิจจามัทรีเจ้าพี่เอ๋ย บุญพี่นี้น้อย


แล้วนะเจ้าเพื่อนยาก เจ้ามาตายจากพี่ไปในวงวัด

เจ้าจะเอาป่ าชัฏนี่หรือมาเป็ นป่ าช้า จะเอาพระ
พระเวสสันดร
บรรณศาลานี่หรือเป็ นบริเวณพระเมรุ ทอง…” คิดว่ามัทรีตาย

พระเวสสันดรได้สติ
จึงช่ วยนางมัทรีให้ฟื้ น

“…ครั้นท้าวเธอค่อยคลายลงที่โศกศัลย์จึ่งผันพระพักตร์มา

พิจารณาก็รู้ว่ายังไม่อาสัญจึ่งเข้าไปยังพระคันธกุฎีจับเอาคนทีอัน

เต็มไปด้วยน้ำมาทันใด ตั้งแต่พระองค์ทรงพระผนวชไพรมาได้

ถึงเจ็ดเดือนปลาย จะได้ต้องพระกายนางมัทรีก็หามิได้ เมื่อความ

ทุกข์พ้นวิสัยที่จะกำหนดว่าอาตมะนี้เป็ นดาบสฤๅษี ยกเศียรพระ

มัทรีขึ้นใส่ตักวักเอาพระวารีมาโสรจสรงลงที่อุระพระมัทรี หวังว่า

จะให้ชุ่มชื่นฟื้นสมปฤๅดีคืนมาแห่งนางพระยา นั้นแล…”

พระเวสสันดร “…ด้วยตัวมานอนอยู่บนตักพระราชสามีมิบังควร

ทูลความจริง จึงอุฏฐาการโดยด่วนเลื่อนพระองค์ ลงจากพระ

ราชสามี พระมัทรีจึ่งทูลถามว่าพระพุทธเจ้าข้า

แก่มัทรี พระลูกรักทั้งสองเราไปอยู่ไหนนะฝ่ าพระบาท

ท้าวเธอจึ่งตรัสประภาษว่า ดูกรเจ้ามัทรีอันสอง

กุมารนี้พี่ให้เป็ นทานแก่พราหมณ์ แต่วันวานนี้

แล้ว พระน้องแก้วเจ้าอย่าโศกศัลย์ จงตั้งจิต

ของเจ้านั้นให้โสมนัสศรัทธา ในทางอันก่อ

กฤดาภินิหารทานบารมี…”

“…สมเด็จพระมัทรีทูลสนองพระโองการว่า


พระพุทธเจ้าข้า แต่วันวานนี้เหตุไฉนจึ่งทราบเกล้า

ท้าวเธอจึ่งตรัสว่าพระน้องเอ่ย พี่จะเล่าให้เจ้าฟังก็สุดใจ


ด้วยเจ้ามาแต่ป่ ายังเหนื่อยนัก พี่เห็นว่าความร้อนความ


รักจะรุ กอก ด้วยสองดรุ ณทารกเป็ นเพื่อนไร้ เจ้ามัทรีเอ่ย


จงผ่องใสอย่าสอดแคล้น อันสองพระลูกแก้วไปไกลเนตร
มัทรีอนุโมทนาด้วย
พระนางจึ่งตรัสว่า พระพุทธเจ้าข้าอันสองกุมารนี้ เกล้า
"ปิ ยบุตรทาน"

กระหม่อมฉานได้อุตสาหะถนอม ย่อมพยาบาลบำรุ งมา
การให้ลูกเป็ นทาน
ขออนุโมทนาด้วยปิ ยบุตรทานบารมี ขอให้น้ำพระหฤทัย


พระองค์จงผ่องแผ้วอย่ามีมัจฉริยธรรมอกุศล อย่ามา


ปะปนในน้ำพระทัยของพระองค์ เลย…”

กิจกรรมกลุ่ม (10 คะแนน)
"เปลี่ยนตอนจบกัณฑ์มัทรี"

ให้นักเรียนทำชิ้นงานเป็ น
infographic ขนาด A4

แล้วนำเสนอในคาบถัดไป

บทวิเคราะห์ คุณค่า

มหาเวสสันดร

ชาดก

กัณฑ์มัทรี

คุณค่าด้านเนื้อหา

รู ปแบบการประพันธ์
แต่งด้วยร่ายยาว เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง และสาระสำคัญของเรื่อง

องค์ ประกอบของเรื่อง
สาระสำคัญ - แสดงความรักของแม่เมื่อต้องพลัดพรากจากลูก
โครงเรื่อง - เทพแปลงการเป็ นสัตว์ 3 ชนิด มาขวางทางนางมัทรี
เพื่อให้การบริจาคทานของพระเวสสันดร จนถึงเมื่อคลายทุกข์ก็อนุโมทนา

คุณค่าด้านเนื้อหา (ต่อ)

ตัวละคร
1. พระเวสสันดร คุณธรรมสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์

ใช้จิตวิทยาคลายทุกข์โศกของพระนางมัทรี
2. พระนางมัทรี จงรักภักดีต่อพระสวา มีความความเป็ นกุลสตรี ปฏิบัติ

หน้าที่ภรรยา และมารดาได้สมบูรณ์ มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยาก

ลำบาก มีจิตใจเป็ นกุศลอนุโมทนาในการบริจาคทานของพระเวสสันดร

คุณค่าด้านเนื้อหา (ต่อ)

กลวิธีการแต่ง
- โวหารที่โดดเด่น คือ พรรณนาโวหาร
และอุปมาโวหาร
- ลีลาการประพันธ์ที่เด่นชัดที่สุดคือ
สัลลาปังคพิสัย และอันดับรองลงมาคือ
พิโรธวาทัง

คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การสรรคำ

1. การใช้ถ้อยคำรำพึงรำพัน 2. การใช้ถ้อยคำตัดพ้อ

ใครจะกอดพระศอเสวย
ช่ างค้อนติงปริภาษณาได้

ผทมด้วยแม่เล่า ยามเมื่อ
ลงคอไม่คิดเลย พระคุณเอ่ย

แม่จะเข้าที่บรรจถรณ์ เจ้า
ถึงพระองค์ จะสงสัยก็น้ำใจขอ

เคยเรียงเคียงหมอนนอน
งมัทรีนี้กตเวทีเป็ นไม้เท้าก้าว

แนบข้างทุกราตรี เข้าสู่ทางที่ทดแทน

คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (ต่อ) การสรรคำ (ต่อ)

3. การใช้ถ้อยคำแสดงอารมณ์ หึง
4. การใช้คำซ้ำและพยัญชนะต้น
หวงให้เจ็บแค้น ที่เหมือนกัน

ราวกะว่าจะลอยลิ่วเลื่อนลงจาก
อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดละห้อย

ฟ้ า ใครได้เห็นเป็ นขวัญตา
ทั้งดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อยลง

เต็มหลงละลายทุกข์ปลุก
ลับไม้ สุดที่แม่จะติดตามเจ้า

ไปในยามนี้
เปลื้องอารมณ์ ชายให้เชยชื่น

คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (ต่อ) การใช้โวหาร

1. โวหารอุปมา 2. การใช้สำนวนสุภาษิต


โอ้พระจอมขวัญของแม่เอ่ย

นางก็วิสัญญีสลบลงตรงหน้ า
เจ้ามิเคยได้ความยากย่างเท้า

ฉาน ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตร
ลงเหยียบดิน ริ้นก็มิได้ไต่ไรก็

ทองอันต้องสายอัสนีฟาดขาด
มิได้ตอม
ระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรง

หน้ าพระที่นั่งเจ้านั้นแล

คุณค่าด้านสังคม

สะท้อนภาพ
สะท้อนค่านิยมเกี่ยวกับสังคมไทย
สังคมไทย
โบราณจะให้สิทธิสามีมีสิทธิในภรรยา
สะท้อนธรรมชาติของมนุษย์
อย่างไรบ้าง ความรักย่อมนำมาซึ่ งความทุกข์
ความพลัดพราก เสียใจ
สะท้อนเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี
การเทศน์ มหาชาติ
สะท้อนความเชื่อ โชคลาง ของสังคมไทย

คุณค่าด้านสังคม (ต่อ)

ขณะที่บางเรื่อง มุมมองเรื่องลูกและภรรยานับเป็ น

สมบัติของสามี หรือสามีมีอำนาจ

เปลี่ยนไปแล้ว เหนือกว่าภรรยา
ในสังคมปัจจุบัน
หน้ าที่ของภรรยาที่ต้องคอย

ปรนนิบัติสามี


Click to View FlipBook Version