การพัพั พัพั ฒนาการ ด้ด้ ด้ด้ านการละครไทย
จัจัจั จั ด จั ด จั ดทำทำทำทำทำทำโโโดดดยยย เด็ด็ด็ ด็ ก ด็ ก ด็ กหญิญิญิ ญิงญิญิสุสุสุสุกสุสุ ฤตา มีมีมี มีนิ่มีนิ่มีนิ่ นิ่มนิ่นิ่ ม.2/1 เลขที่ที่ที่ ที่ที่ที่38 นำนำนำนำนำนำเเเสสสนนนอออ
การละครไทยมีมาตั้ง ตั้ แต่ส ต่ มัย มัโบราณ เป็นศิล ศิปะและวัฒ วั นธรรมไทยเป็นสัญ สั ลัก ลั ษณ์แ ณ์ ม้ว่ ม้ า ว่ การแสดงนั้น นั้ ๆจะ ได้รั ด้ บ รั แบบแผนหรือ รื อิธิพลในทางวัฒ วั นธรรมมาจากชาติอื่ ติ อื่ นก็ตามแต่ไต่ ด้ดั ด้ ด ดั แปลงปรับ รั ปรุง จนเป็นรูปลัก ลั ษณะของไทยแล้ว ล้ ก็ถือว่า ว่ เป็นไทย ประวัติการละครไทย
ไทยมีนิยายเรื่อ รื่ งหนึ่ง นึ่ คือเรื่อ รื่ ง "มโนห์ร ห์ า"ซึ่ง ซึ่ ปัจจุบั จุ น บั นี้ก็ นี้ ก็ ยัง ยั มีอยู่ใยู่ นประเทศจีนตอนใต้ใต้ นอาณาจัก จั ร น่า น่ นเจ้า จ้ เดิม ดิ นั่น นั่ เอง นิยายเรื่อ รื่ งนั้น นั้ คือ นามาโนห์ร ห์ า เรื่อ รื่ งนามา โนห์ร ห์ านี้จ นี้ ะนามาเล่น ล่ เป็นละครหรือ รื ไม่นั้ ม่ น นั้ ยัง ยัไม่มี ม่ มี หลัก ลั ฐานปรากฎเด่น ด่ ชัด ชั ส่ว ส่ นการละเล่น ล่ ของไทยน่า น่ นเจ้า จ้ นั้น นั้ มีพวกระบำ อยู่แ ยู่ ล้ว ล้ คือ ระบำ หมวกและระบำ นกยูง ยู สมัยน่านเจ้า
เป็นสมัย มั ที่เริ่ม ริ่ มีความสัม สั พัน พั ธ์กั ธ์ บ กั ชาติที่ ติ ที่ นิยมอารยธรรมอินเดียไทยได้รู้ ด้ รู้ จั รู้ ก จั เลือ ลื กเฟ้น ฟ้ ศิล ศิปวัฒ วั นธรรม ที่ดีของชาติที่ ติ ที่ สมาคมด้ว ด้ ย เมื่อไทยได้รั ด้ บ รั วัฒ วั นธรรมด้า ด้ นการละครของอินเดียเข้า ข้ ศิล ศิปะแห่ง ห่ การละ เล่น ล่ พื้น พื้ เมืองของไทย คือรำ และ ระบำ ก็ได้วิ ด้วิ วัฒ วั นาการขึ้น ขึ้ มีการกำ หนดแบบแผนแห่ง ห่ ศิล ศิปะการ แสดงทั้ง ทั้ 3ชนิดไว้ สมัยสุโขทัย
มีการตั้ง ตั้ ชื่อละครที่เคยเล่น ล่ กัน กั อยู่ใยู่ ห้ เป็นไปตามหลัก ลั วิชานาฏศิล ศิปขึ้น ขึ้ มีการแสดงเกิดขึ้น ขึ้ในสมัย มั นี้ หลายอย่า ย่ ง เช่น ช่ ละครชาตรี ละครนอก ละครใน โขน การแสดงบางอย่า ย่ งรับ รั วัฒ วั นธรรมเพื่อนบ้า บ้ น และวัฒ วั นธรรมต่า ต่ งชาติเ ติ ข้า ข้ มาผสมได้ ละครไทยเริ่ม ริ่ จัด จั ระเบียบแบบแผน ให้รั ห้ ด รั กุม กุ ยิ่งขึ้น ขึ้ มีการตั้ง ตั้ ชื่อละครที่เคยเล่น ล่ กัน กั อยู่ใยู่ ห้เ ห้ป็นไปตามหลัก ลั วิชานาฏศิล ศิปขึ้น ขึ้ สมัยกรุงศรีอยุธยา
เหล่า ล่ ศิล ศิปินได้ กระจัด จั กระจายไปในที่ต่า ต่ งๆเพราะผลจากสงคราม บางส่ว ส่ นก็เสีย สี ชีวิตแล้ว ล้ ครั้น รั้ พระเจ้า จ้ กรุงธนบุรี บุ รี ทรงส่ง ส่ เสริม ริฟื้นฟูก ฟู ารละครขึ้น ขึ้ใหม่ และรวบรวมศิล ศิปินตลอดทั้ง ทั้ บทละคร เก่าๆที่กระจัด จั กระจายไปให้เ ห้ ข้า ข้ มาอยู่ร ยู่ วมกัน กั ตลอดทั้ง ทั้ พระองค์ไค์ ด้ท ด้ รงพระราชนิพนธ์บ ธ์ ทละครเรื่อ รื่ ง รามเกียรติ์ ขึ้น ขึ้ อีก5 ตอน และมีคณะละครหลวงและเอกชนเกิดขึ้น ขึ้ หลายโรง สมัยกรุงธนบุรี
การละครต่า ต่ งๆ ล้ว ล้ นได้รั ด้ บ รั การสนับ นั สนุน นุ จากพระมหากษัตริย์ ริ แ ย์ ห่ง ห่ พระบรมราชจัก จั รีว รี งศ์สืศ์ บ สื เนื่อง ต่อ ต่ กัน กั มาเป็นลำ ดับ ดั ตั้ง ตั้ แต่…ต่.. สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
สมัยรัชกาลที่ 1 สมัย มั รัช รั กาลที่ 1 พระบาทสมเด็จ ด็ พระพุท พุ ธยอดฟ้า ฟ้ จุฬ จุ าโลก ได้ท ด้ รงฟื้นฟูร ฟู วบรวมสิ่ง สิ่ ต่า ต่ งๆที่สูญสู เสีย สี และกระจัด จั กระจายให้สห้ มบูร บู ณ์ ในรัช รั สมัย มั นี้ไ นี้ ด้มี ด้มี การรวบรวมตำ ราฟ้อ ฟ้ นรำ ขึ้น ขึ้ไว้เ ว้ป็นหลัก ลั ฐานสาคัญ คั ที่สุด สุ ใน ประวัติ วั ก ติ ารละครไทย มี บทละครที่ปรากฎตามหลัก ลั ฐานอยู่4 เรื่อ รื่ ง คือ บทละครอุณ อุ รุฑ บทละครเรื่อ รื่ งรามเกียรติ์ บทละครเรื่อ รื่ งดาหลัง ลั และบทละครเรื่อ รื่ งอิเหนา
สมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จ ด็ พระพุท พุ ธเลิศ ลิ หล้า ล้ นภาลัย ลั เป็นสมัย มั ที่วรรณคดีเจริญ ริ รุ่ง รุ่ เรือ รื ง เป็นยุค ยุ ทองแห่ง ห่ ศิล ศิปะการละคร มีนัก นั ปราชญ์ร ญ์ าชกวีที่ปรึก รึ ษา 3 ท่า ท่ น คือกรมหมื่นเจษฎาบดิน ดิ ทร์กรมหลวง พิทัก ทั ษ์ม ษ์ นตรีและสุน สุ ทรภู่ มีบทละครในที่เกิดขึ้น ขึ้ ได้แ ด้ ก่เรื่อ รื่ งอิเหนาซึ่ง ซึ่ วรรณคดีสโมสรยกย่อ ย่ งว่า ว่ เป็นยอดของบทละครรำ บทละครนอกได้แ ด้ ก่เรื่อ รื่ งไกรทอง คาวี ไชยเชษฐ์ สัง สั ข์ท ข์ อง มณีพิชัย ชั
พระบาทสมเด็จ ด็ พระนั่ง นั่ เกล้า ล้ เจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั เป็นยุค ยุ ที่ละครหลวงซบเซา เนื่องจากพระองค์ไค์ ม่ส ม่ นับ นั สนุน นุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ล้ ฯ ให้เ ห้ ลิก ลิ ละครหลวงเสีย สี แต่มิ ต่ มิได้ขั ด้ ด ขั ขวางผู้จ ผู้ ะจัด จั แสดงละคร ทำ ให้เ ห้ กิดคณะละครของเจ้า จ้ นายและขุน ขุ นางขึ้น ขึ้ แพร่ห ร่ ลายมากมาย สมัยรัชกาลที่ 3
สมัย มั นี้ไ นี้ ด้เ ด้ ริ่ม ริ่ มีการติด ติ ต่อ ต่ กับ กั ชาวต่า ต่ งชาติ โดยเฉพาะชาวยุโ ยุ รปบ้า บ้ งแล้ว ล้ พระบาทสมเด็จ ด็ พระจอมเกล้า ล้ เจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั จึง จึ ทรงโปรดเกล้า ล้ ฯ ให้ฟื้ห้ฟื้ นฟูล ฟู ะครหลวงขึ้น ขึ้ อีกครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ พร้อ ร้ มทั้ง ทั้ ออกประกาศสาคัญ คั เป็นผล ให้ก ห้ ารละครไทยขยายตัว ตั อย่า ย่ งกว้า ว้ งขวาง ดัง ดั มีความโดยย่อ ย่ คือ พระราชทานพระ บรมราชานุญนุ าต ให้ค ห้ นทั่ว ทั่ไปมีละครชายและหญิง ห้า ห้ มบัง บั คับ คั ผู้ค ผู้ นมาฝึกละคร! สมัยรัชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จ ด็ พระจุล จุ จอมเกล้า ล้ เจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั การละครในยุค ยุ นี้เ นี้ ริ่ม ริ่ มีการ เปลี่ย ลี่ นแปลงเนื่องจากการละครแบบตะวัน วั ตกหลั่ง ลั่ไหลเข้า ข้สู่ว สู่ งการ นาฏศิล ศิป์ ทาให้เ ห้ กิดละครประเภทต่า ต่ งๆขึ้น ขึ้ มากมายเช่น ช่ ละครพัน พั ทาง ละครดึก ดึ ดาบรรพ์ ละครร้อ ร้ ง ละครพูด พู และลิเ ลิ ก ทรงส่ง ส่ เสริม ริ การละครโดย เลิก ลิ กฎหมายการเก็บอากรม ทำ ให้กิ ห้กิ จการละครเฟื่องฟูขึ้ ฟู น ขึ้ กลายเป็นอาชีพ สมัยรัชกาลที่ 5
สมัย มั ที่การละครและการดนตรีทั้ รี ง ทั้ หลายได้เ ด้ จริญ ริ รุ่ง รุ่ เรือ รื งถึง ถึ ขีดสุด สุ นับ นัได้ว่ ด้ า ว่ เป็นยุค ยุ ทองแห่ง ห่ ศิล ศิปะการละครยุค ยุ ที่ 2 พระองค์ไค์ ด้ท ด้ รงพระกรุณา โปรด เกล้า ล้ ฯ ให้ตั้ ห้ ง ตั้ กรมมหรสพขึ้น ขึ้ เพื่อบารุงวิชาการนาฏศิล ศิป์ และการดนตรี และยัง ยั ทรงเป็นบรมครูของเหล่า ล่ ศิล ศิปิน ทรงพระราชนิพนธ์บ ธ์ ทโขน ละคร ฟ้อ ฟ้ นรำ ไว้เ ว้ป็นจำ นวนมาก สมัยรัชกาลที่ 6
พระบาทสมเด็จ ด็ พระปกเกล้า ล้ เจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั การเมืองเกิดภาวะคับ คั ขัน ขั และ เศรษฐกิจของประเทศทรุดโทรม เสนาบดีสภาได้ต ด้ กลงประชุม ชุ กัน กั เลิก ลิ กรม มหรสพ เพื่อให้มี ห้มี ส่ว ส่ นช่ว ช่ ยกู้ก กู้ ารเศรษฐกิจของประเทศ และต่อ ต่ มาจึง จึ กลับ ลั ฐานะมาเป็นกองขึ้น ขึ้ อีกจนกระทั่ง ทั่ เมื่อ พ.ศ. 2478 กองมหรสพจึง จึ อยู่ใยู่ นสัง สั กัด กั หรมศิล ศิปากร สมัย มั นั้น นั้ มีละครแนวใหม่เ ม่ กิดขึ้น ขึ้ คือ ละครเพลง สมัยรัชกาลที่ 7
รัช รั สมัย มั พระบาทสมเด็จ ด็ พระเจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั อานัน นั ทมหิดล การแสดงนากศิล ศิป์ โขน ละครอยู่ใยู่ นการกำ กับ กั ดูแ ดู ลของกรมศิล ศิปากร ในสมัย มั นี้ หลวงวิจิตรวาทการ เป็นผู้ริ ผู้ เ ริ ริ่ม ริ่ ก่อตั้ง ตั้ สถาบัน บั การเรีย รี นการสอน ศิล ศิปะการแสดง โขน ละคร ดนตรี สมัยรัชกาลที่ 8
พระบาทสมเด็จ ด็ พระเจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั ภูมิ ภู มิ พลอดุล ดุ ยเดชโปรดเกล้า ล้ ฯให้บั ห้ น บั ทึก ทึ ภาพยนตร์ส่ร์ ว ส่ นพระองค์ บัน บั ทึก ทึ ท่า ท่ รำ หน้า น้ พาทย์อ ย์ งค์พ ค์ ระพิราพ ท่า ท่ รำ เพลง หน้า น้ พาทย์ข ย์ องพระ นางยัก ยั ษ์ ลิง ลิ ได้โด้ปรดเกล้า ล้ให้จั ห้ ด จั พิธีไหว้ค ว้ รู มอบท่า ท่ รำ องค์พ ค์ ระพิราพและปรานผู้ป ผู้ ระกอบพิธีไหว้ค ว้ รูให้แ ห้ ก่ศิล ศิปินกรม ศิล ศิปากรในสมัย มั นี้ การละครได้รั ด้ บ รั การสนับ นั สนุน นุ ทำ ให้เ ห้ฟื่องฟูม ฟู าก สมัยรัชกาลที่ 9 - ปัจจุบัน
ขอขอบพระคุณคุ