The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารอบรม งานสรรพากร(18.2-08-2563)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by audamnat.rd, 2020-08-20 03:13:19

เอกสารอบรม งานสรรพากร(18.2-08-2563)

เอกสารอบรม งานสรรพากร(18.2-08-2563)

โดย นายจักรินทร์ รกั ขาว
นักวิชาการสรรพากรชานาญการพิเศษ

1

1. โครงสร้างหน้าทีง่ านในความรบั ผิดชอบของ สส.

ฝา่ ยบรหิ ารงานท่ัวไป สรรพากรอาเภอ ฝา่ ยสารวจและเรง่ รดั ภาษีอากรคา้ ง
งานธุรการ ฝ่ายรบั ชาระและคนื ภาษี
ทีมสารวจ 1
งานบัญชอี าเภอและรายงาน รับชาระ ทมี สารวจ 2
ทีม พส. (ถ้ามี)
งานเลขและจดทะเบียน คืนภาษี
งานลกู หน้ีคา่ ภาษี 2
ทมี งาน E-mar

งานข้อมลู ข่าวสารของทางราชการ

1. นวัตกรรมใหมใ่ นการจดั การภาษี

RD-News ขา่ วสรรพากร E-Book สื่อความรู้ นาเสนอความรู้ดา้ นภาษี

อพั เดทเร่อื งเดน่ ความเคล่อื นไหว ขา่ วสาร และกฎหมายใหมด่ า้ นภาษี ส่ือความรู้ นาเสนอความร้ดู ้านภาษี เชน่ วารสารสรรพากร รายงานประจาปี

E-FILING ย่นื แบบออนไลน์ RD-MAP แผนทีส่ รรพากรทต่ี งั้ หน่วยงานสรรพากรและหนว่ ยชาระภาษี

บรกิ ารยน่ื แบบ พมิ พ์แบบแสดงรายการภาษี และใบเสร็จรบั เงนิ โปรแกรมชว่ ย แผนทส่ี รรพากร ช่วยค้นหาที่ตั้งหน่วยงานสรรพากร และหน่วยชาระภาษที ว่ั ประเทศ
คานวณบรหิ ารจัดการภาษี ตรวจสอบสถานการณ์คนื ภาษี

2. แบบแสดงรายการภาษี 4

(1) แบบแสดงรายการภาษี

1 1.1 ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา
1.2 ภาษเี งนิ ไดน้ ิติบุคคล
1.3 ภาษีมลู ค่าเพิม่
1.4 ภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.5 ภาษเี งนิ ได้ปิโตรเลยี ม
1.6 ภาษีมรดก

(2) แบบยน่ื รายการภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี า่ ย

(3) แบบขอเสียอากรแสตมป์เปน็ ตัวเงิน

(4) แบบขอซ้ือแสตมป์อากร ทอี่ ธบิ ดีกาํ หนด

3. กระบวนงานเกยี่ วการย่ืนแบบฯ

เลขประจําตวั ผเู้ สยี ภาษี การขอหมายเลขผใู้ ช้(User ID) พรอ้ มรหสั ผ่าน
(Password) การยื่นแบบผา่ นอินเทอรเ์ นต็ (ภ.อ. 01)

กรณีบคุ คลธรรมดา 1. คลกิ www.rd.go.th เลือก “ยื่นแบบผา่ นอินเทอร์เน็ต”
2. เลือก “สมัครสมาชิก” เลอื กหวั ข้อ “ยื่นแบบอนื่ ๆ”
ให้ใชเ้ ลขประจาตวั ประชาชนทก่ี รมการปกครองออกให้ 3. กรอกขอ้ มูลใน แบบคาขอย่ืนแบบแสดงรายการผ่านเครอื ขา่ ย
อินเทอรเ์ นต็ (ภ.อ.01) ให้ครบถว้ น จากน้นั กดปุ่ม “ตกลง” ส่ัง
กรณีนติ บิ ุคคล พมิ พแ์ บบ ภ.อ.01 เพอื่ ใหก้ รรมการลงลายมอื ช่อื และประทับตรา
ของนติ ิบุคคล
ใหใ้ ชเ้ ลขทะเบียนนิตบิ ุคคลที่กรมพัฒนาธรุ กจิ การค้าออกให้ 4.ภายใน 15 วนั หลังจากลงทะเบียนให้นาเอกสารประกอบการ
สมัครขอใชบ้ ริการ ยนื่ ต่อสานกั งานสรรพากรพื้นท่ที ี่สถาน
กรณอี ื่นๆ ประกอบการตง้ั อยู่ หรอื กองบริหารการเสียภาษีทาง
อเิ ล็กทรอนกิ ส์
ให้ใชเ้ ลขประจาตวั ผเู้ สยี ภาษีอากร ๑๓ หลกั ทกี่ รมสรรพากรออกให้ (แนวทางปฏบิ ัติ 5.กรมสรรพากรจะออกหมายเลขผูใ้ ช้ (User ID) พรอ้ มรหัสผา่ น
กรมสรรพากร ที่ มจ. ๑ /๒๕๕๕ ต้งั แต่วนั ที่ ๑ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นไป) (Password)
6.เอกสารประกอบการสมัคร

- แบบ ภ.อ. 01
- ขอ้ ตกลงในการย่ืนแบบแสดงรายการ
- หลกั ฐานการแสดงตน

3. กระบวนงานเก่ียวการยืน่ แบบฯ (ตอ่ )

การจดทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพมิ่

1. กาหนดเวลายนื่ คาขอจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิม
1.1 กรณีจะเร่ิมประกอบกิจการภายในกาหนด 6 เดอื นก่อนวนั เรม่ิ ประกอบกจิ การขายสินค้าหรือใหบ้ ริการ
1.2 กรณีผู้ประกอบการไม่มีสิทธิย่นื คาขอจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพิ่มตามขอ้ 1.1 ใหย้ น่ื คาขอจดทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพมิ่ เมอ่ื

เรมิ่ ประกอบกิจการขายสนิ ค้าหรอื ใหบ้ ริการ
1.4 กรณีประกอบกิจการแลว้ ภายใน 30 วันนับแตว่ ันท่มี ลู คา่ ของฐานภาษีในการประกอบกจิ การเกนิ มูลคา่ ของฐานภาษี

ของกจิ การขนาดย่อม
1.5 กรณปี ระกอบกจิ การท่ีไดร้ ับยกเว้นภาษมี ูลค่าเพ่ิมและไดแ้ จง้ ต่ออธบิ ดีกรมสรรพากรเพอ่ื ขอจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่มิ

ให้ผู้ประกอบการย่ืนคาขอจดทะเบียน ภาษีมลู คา่ เพิม่ ภายใน 30 วันนบั แต่วันทไ่ี ดแ้ จง้ ตอ่ อธบิ ดีกรมสรรพากร
2. สถานที่ยน่ื คาขอจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพม่ิ และคาขอแจง้ ขอใชส้ ิทธิเพือ่ ขอจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ ได้แก่

2.1 ในเขตกรงุ เทพมหานคร ไดแ้ ก่ สานกั งานสรรพากรพืน้ ที่ หรอื สานักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ท่สี ถานประกอบการ หรือ
สถานประกอบการที่เป็นสานกั งานใหญ่

2.2 นอกเขตกรงุ เทพมหานคร ไดแ้ ก่ สานกั งานสรรพากรพื้นที่สาขาทสี่ ถานประกอบการ หรือสถานประกอบการท่ีเปน็ สานกั งาน
ใหญ่ (กรณมี สี ถานประกอบการหลายแห่ง) ต้งั อยู่

2.3 ผา่ นระบบอนิ เทอรเ์ นต็ (ตามแนวทางปฏบิ ตั กิ รมสรรพากรท่ี มจ.6/2560 เร่ือง การรับคาขอจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิ่มและภาษธี ุรกจิ เฉพาะผา่ น

เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ประกาศ ณ วนั ที่ 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2560)

2.4 กรณจี ดพรอ้ มการจดทะเบยี นจดั ตัง้ หา้ งหนุ้ ส่วนจดทะเบยี นและบริษทั จากัดกรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ หรือสานักงานพาณิชย์
จังหวดั กระทรวงพาณิชย์ ทั่วประเทศ (ให้ปฏบิ ัติเชน่ เดียวกบั 2.3)

4. การยน่ื แบบแสดงรายการผา่ นระบบอเิ ล็กทรอนิกส์

ย่ืนแบบแสดงรายการเพ่อื เสียภาษีผา่ นอนิ เทอร์เนต็

ย่นื แบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษผี า่ นอินเทอร์เนต็ เม่อื ได้รับหมายเลข 1. ประโยชนข์ องย่ืนแบบฯผ่านอนิ เทอรเ์ นต็
ผใู้ ช้ (User ID) และรหัสผา่ น (Password) แล้ว ผ้เู สยี ภาษีสามารถยนื่ ขยายเวลายน่ื แบบฯออกไปอีก 8 วนั นับตั้งแต่วนั
แบบผ่านอนิ เทอร์เนต็ คลิก www.rd.go.th เมนู ยน่ื แบบผา่ น สุดท้าย
อนิ เทอร์เนต็ –ย่ืนแบบออนไลน์-เลือกประเภทแบบท่ตี อ้ งการย่นื -กรอก 2. ได้รบั สทิ ธิพเิ ศษคนื ภาษมี ลู ค่าเพมิ่ รวดเร็ว
รายละเอียดฯลฯ-ตกลง-ยนื ยนั การยืน่ แบบ-พมิ พ์แบบฯ-เลือกช่องทาง ผู้สง่ ออกทดี่ ี คืนเร็วภายใน 15 วนั
การชาํ ระภาษี (ทุกครั้งท่ียืนยันการยืน่ แบบแลว้ ต้องพมิ พ์แบบเก็บไว้เปน็ ผู้ประกอบการข้นึ ทะเบยี น คนื เรว็ ภายใน 30 วัน
หลักฐานก่อนเลอื กช่องทางการชาํ ระภาษที ุกครงั้ )

บรกิ ารย่นื แบบฯภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา(ภ.ง.ด.90/91/94 (เปิดบริการตลอด 24 ชัว่ โมง)
ย่นื แบบอนื่ ๆ (เปดิ บรกิ าร 06.00-22.00 น. ของทกุ วนั )
บรกิ ารชาํ ระภาษชี ่องทาง E-Payment (Online Realtime) ATM บนอนิ เทอรเ์ น็ต (เปดิ บริการ 06.00-22.00 น.ของทกุ วัน)
ชอ่ งทางอืน่ ๆ (เวลาเปิดบริการเป็นไปตามเวลาของหน่วยรบั ชําระภาษีนัน้ )
บรกิ ารอื่นๆ เปิดบรกิ าร 24 ชั่วโมง

สิง่ ที่ควรแนะนาํ สาํ หรบั การย่นื แบบฯผา่ นอนิ ทราเนต็ 1. ธนาคารทหารไทยฯยกเวน้ คา่ ธรรมเนยี มถงึ สนิ้ ปี 2563
2. การขอคนื ด้วยระบบฯพร้อมเพย์สะดวกกว่า
3. ชําระภาษเี งนิ ท่ี สส.ไมไ่ ด้

4. การยื่นแบบแสดงรายการผา่ นระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (ต่อ)

ระบบยื่นแบบด้วยส่ือฝากไฟล์ออนไลน์ svs swc และ ofs

หลักการทาํ งาน
1. เป็นการนําข้อมลู ใบแนบของแบบภาษเี งินได้หกั ณ ท่จี า่ ยนีไ้ ปฝากไวบ้ น server ของกรมสรรพากร
2. นาํ หน้าแบบทีม่ หี มายเลขอา้ งอิงไปยืนยัน ณ สํานักงานสรรพากรพ้ืนทสี่ าขา
3. กาํ หนดระยะเวลายื่นแบบเหมอื นกับย่นื แบบปกติ มไิ ดข้ ยายระยะเวลาการยื่นแบบเหมอื นการยนื่ แบบผา่ น

อนิ เทอรเ์ น็ต
4. การชําระเงิน ต้องไปชําระที่สรรพากรพ้นื ที่สาขาเท่านนั้ สามารถชาํ ระได้ทงั้ เชค็ เงินสด บัตรภาษี บตั รเครดติ

หรอื QR Payment เหมอื นเดิม แต่วา่ ไม่สามารถนําไปชาํ ระช่องทางออนไลนอ์ ืน่ ๆหรือเคานเ์ ตอร์เซอรว์ ิสแบบการ
ย่นื แบบทางอินเทอร์เนต็

5. ระบบยน่ื แบบดว้ ยสอ่ื ฝากไฟล์ออนไลน์ svs swc และ ofs สามารถเอาไฟล์ขอ้ มูลนไี้ ปย่ืนอนิ เทอร์เนต็ ไดเ้ ชน่ กัน
และย่นื แบบผ่านอินเทอร์เนต็ ขยายระยะเวลาใหอ้ กี 8 วนั

การใช้งาน แบ่งออกเป็น 3 แบบตามลักษณะการใชง้ าน
แบบที่ 1 โปรแกรมภาษเี งนิ ได้หัก ณ ทีจ่ ่ายสําหรบั ซอฟตแ์ วรส์ ําเร็จรปู (WHT Software Component : SWC)
แบบท่ี 2 ระบบให้บริการภาษเี งนิ ไดห้ ัก ณ ทจี่ ่ายสาํ หรบั ใชง้ าน online (WHT Services System : SVS)
แบบที่ 3 โปรแกรมระบบงานภาษเี งินไดห้ กั ณ ท่จี า่ ย สาํ หรับตดิ ตั้งทีส่ ํานกั งานผูเ้ สยี ภาษีอากร (WHT Office System : OFS)

8

4. การยืน่ แบบแสดงรายการผา่ นระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ตอ่ )

การจา่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินดว้ ยระบบ e-Withholding tax

หลักการและข้อกาํ หนด
หากชาํ ระเงนิ ผ่านระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ตอ้ งทําข้อตกลง e-Withholding Tax กรณมี กี ารจ่ายหกั ณ ที่จา่ ย พรอ้ ม

การชาํ ระเงินทางระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ธนาคารจะเป็นผ้สู ง่ ขอ้ มูล e-Withholding Tax และโอนเงนิ ใหก้ รมสรรพากร

ขอ้ ดี
1. ลดขั้นตอน : ไม่ต้องจัดทําและยนื่ แบบหกั ณ ที่จ่าย และไมต่ อ้ งจัดเกบ็ เอกสารหลกั ฐานทเ่ี ปน็ กระดาษ
2. ลดต้นทนุ : ไม่ตอ้ งออกหนังสือรบั รองการหกั ภาษี ณ ทจ่ี ่าย
3. ลดภาษี : ลดภาษีหกั ณ ทจ่ี า่ ย จาก 3 % เป็น 2 % สําหรับการจ่ายเงินได้พงึ ประเมนิ ดว้ ยระบบ
e-Withholding tax ต้งั แตว่ นั ที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันท่ี 31 ธนั วาคม 2564
4. ตรวจสอบได้ : สามารถตรวจสอบขอ้ มูลการหกั ภาษี ณ ที่จา่ ยไดท้ ่ี www.rd.go.th ตลอดเวลา

9

5. อํานาจหน้าท่ีสรรพากรอาํ เภอ

คาํ สงั่ กรมสรรพากร ที่ ท.159/2563 (มอบอํานาจเปรยี บเทียบปรบั )

มอบอํานาจส่งั และปฏิบัตริ าชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ในส่วนทีเ่ ก่ยี วข้องกับการดาํ เนนิ คดีสาํ หรับตําแหน่งอธิบดกี รมสรรพากร ขอ้ 9 ให้
สรรพากรพ้นื ทส่ี าขาในเขตกรุงเทพมหานครหรอื ผ้รู ักษาราชการแทน มอี าํ นาจสงั่ และปฏบิ ัตริ าชการแทนอธบิ ดีกรมสรรพากร ในสว่ นท่เี กี่ยวกบั
การเปรยี บเทียบโดยกําหนดคา่ ปรับตามมาตรา 3 ทวิ (1) แหง่ ประมวลรัษฎากร เฉพาะกรณีผู้เสียภาษีอากรยน่ื แบบแสดงรายการเพ่อื เสียภาษี
เกินกําหนดเวลา และกรณบี รษิ ัทหรอื หา้ งหุน้ ส่วนนติ ิบุคคลยื่นบญั ชีตามมาตรา 69 แหง่ ประมวลรษั ฎากรเกินกาํ หนดเวลา โดยใหม้ ีอํานาจอนุมัติ
ให้เปรียบเทียบปรับโดยกาํ หนดคา่ ปรบั ตามอตั ราท่ีกรมสรรพากรกาํ หนดและให้มอี ํานาจลงนามในแบบเปรียบเทียบกาํ หนดคา่ ปรับ (แบบ ป.2)

ระเบียบกรมสรรพากรว่าดว้ ยการงดหรอื ลดเบีย้ ปรบั หรือเงินเพม่ิ ภาษอี ากรตามประมวลรัษฎากร
พ.ศ.2550 (มอบอาํ นาจกรณีขอลดเบยี้ ปรับหรือเงนิ เพ่ิมตามมาตรา 67 ตรี)

สํานักงานสรรพากรพ้นื ท่สี าขา กรณีผ้รู ้องยืน่ แบบแสดงรายการภาษพี ร้อมกบั ชาํ ระภาษี โดยขอลดเบ้ียปรับหรอื เงนิ เพ่ิมตามมาตรา 67 ตรี แหง่
ประมวลรษั ฎากร หรอื กรณยี ื่นคาํ รอ้ งขอลดเงินเพ่มิ อากรเป็นหนังสอื ต่ออธบิ ดี

กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 129 (พ.ศ.2512) (ลดเงนิ เพ่มิ อากร)

1. กรณตี ราสารไดป้ ิดแสตมป์แล้วแตม่ ิไดป้ ิดแสตมปบ์ ริบูรณเ์ สียรอ้ ยละ 20 ของเงินเพิม่ อากรทกี่ ําหนดไว้ในมาตรา 113 หรอื มาตรา 114 10
2. กรณีตราสารมไิ ดป้ ดิ แสตมป์ เสียร้อยละ 25 ของเงนิ เพ่มิ อากรทีก่ าํ หนดไวใ้ นมาตรา 113 หรือมาตรา 114
ทัง้ น้ี เวน้ แต่อธบิ ดกี รมสรรพากรจะพจิ ารณาอนุมัติ ให้เสียเงินเพิ่มอากรน้อยกว่า (1) ถึง (5) แตต่ อ้ งไม่ต่าํ กวา่ รอ้ ยละ 1 ต่อเดอื นหรือเศษของ
เดอื นของเงินอากรโดยเร่มิ นบั แต่วันท่ีต้องปิดแสตมป์บริบรู ณ์

5. อาํ นาจหน้าท่สี รรพากรอําเภอ(ต่อ)

คาํ สั่งกรมสรรพากรท่ี ท.ป.84/2542 (ลดเงนิ เพ่ิมอากร)

หลักเกณฑก์ ารลดเงนิ เพ่มิ อากร ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แหง่ ประมวลรัษฎากร ใหผ้ มู้ หี นา้ ท่ีเสยี อากรซงึ่ ตอ้ งรบั ผดิ เสยี เงินเพ่มิ อากร
ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แหง่ ประมวลรษั ฎากร เนอ่ื งจากนาํ ตราสารทีถ่ กู กาํ หนดให้ชําระอากรเปน็ ตัวเงินแทนการปดิ แสตมปอ์ ากร
ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ซ่งึ ออกโดยอาศยั อํานาจตามมาตรา 123 ทวิ แห่งประมวลรษั ฎากรไปชําระอากรโดยวิธีปดิ แสตมป์ลงบนตรา
สารดังกล่าว เมือ่ ผูม้ หี นา้ ที่เสยี อากรนาํ ตราสารดงั กลา่ วไปชาํ ระอากรเป็นตวั เงินพร้อมกบั เงินเพม่ิ อากรใหเ้ สยี เงินเพ่ิมอากรร้อยละ 1.5 ตอ่ เดอื น
หรอื เศษของเดือนของเงินอากรนบั แต่วันท่ีตอ้ งชาํ ระอากร

คําสง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.ป.81/2542 (ลดเบี้ยปรับภาษีมลู คา่ เพมิ่ และลดเงนิ เพิม่ ภาษีนติ ิบุคคลครึ่งปี)

การลดเบี้ยปรับตามมาตรา 89(1) มาตรา 89(2) มาตรา 89(3) และ กรณีบคุ คลท่ีจะตอ้ งเสียเงินเพม่ิ ได้ยื่นแบบแสดงรายการและชาระ 11
มาตรา 89(4) แห่งประมวลรษั ฎากร ภาษีพรอ้ มกบั การยืน่ แบบแสดงรายการ โดยไมไ่ ดร้ บั คาเตอื นหรือคา
1. ถ้าชาระภายใน 15 วนั นับแตว่ นั พ้นกาหนดเวลาชาระภาษี เรยี กตรวจสอบไต่สวน โดยตรงเปน็ หนังสือ ให้ลดเงินเพ่ิมได้ แตต่ อ้ ง
มูลคา่ เพม่ิ ให้เสยี รอ้ ยละ 2 ของเบย้ี ปรับ เสยี ในอัตราและตามเงือ่ นไขดังต่อไปน้ี
2. ถา้ ชาระภายหลัง 15 วนั แตไ่ ม่เกิน 30 วนั นบั แต่วนั พ้น 1. ถา้ ชาระภายใน 2 วัน นบั แตว่ นั พ้นกาหนดเวลาย่ืนรายการ ให้เสยี
กาหนดเวลาชาระภาษีมูลคา่ เพิ่ม ใหเ้ สยี รอ้ ยละ 5 ของเบ้ยี ปรบั ร้อยละ 0.10 ของเงินภาษีทต่ี อ้ งชาระ
3. ถ้าชาระภายหลัง 30 วนั แต่ไม่เกนิ 60 วนั นบั แต่วันพน้ 2. ถา้ ชาระภายหลัง 2 วนั แต่ไม่เกนิ 7 วนั นบั แต่วนั พน้
กาหนดเวลาชาระภาษีมูลคา่ เพิม่ ใหเ้ สียรอ้ ยละ 10 ของเบ้ียปรบั กาหนดเวลายื่นรายการ ใหเ้ สียรอ้ ยละ 0.50 ของเงนิ ภาษีท่ตี ้องชาระ
4. ถ้าชาระภายหลงั 60 วนั นับแต่วันพน้ กาหนดเวลาชาระภาษี 3. กรณอี น่ื นอกจาก (5.2.1) ให้เสียร้อยละ 1.5 ตอ่ เดอื น หรอื เศษ
มลู ค่าเพม่ิ ให้เสยี รอ้ ยละ 20 ของเบ้ียปรับ ( ดคู าส่งั กรมสรรพากร ที่ ของเดอื นของเงินภาษที ่ีตอ้ งชาระ แต่ไมเ่ กนิ เงินเพ่มิ ตามทีก่ ฎหมาย
ป.117/2545) กาหนด

5. อาํ นาจหน้าทีส่ รรพากรอาํ เภอ(ต่อ)

การแต่งตัง้ เจ้าพนกั งานสรรพากรให้ปฏิบัติหน้าที่เปน็ เจา้ พนักงานประเมนิ พนักงานเจ้าหน้าทอ่ี ากรแสตมป์
และเจ้าพนกั งานรบั แบบแสดงรายการ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการคลัง อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา 4
ออกประกาศกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการแตง่ ตงั้ เจา้ พนักงาน (ฉบบั ที่ 54) ลงวนั ที่ 4 กนั ยายน 2552

1. ใหข้ ้าราชการพลเรือนสามญั ดังต่อไปนี้ เป็นเจ้าพนักงานประเมนิ ตามมาตรา 16 ...(4) สังกดั สํานักงานสรรพากรพ้ืนที่สาขา ในเขต
ทอ้ งทสี่ าํ นกั งานสรรพากรพื้นท่ีสาขาน้ัน การใช้อาํ นาจของเจ้าพนักงานตามวรรคหนึ่ง สาํ หรบั กรณกี ารทาํ การประเมินภาษี การส่งั ลด
เบย้ี ปรับเงินเพม่ิ ภาษี การไต่สวน สอบสวนหรือซักถามผเู้ สยี ภาษหี รอื ผนู้ ําสง่ ภาษี หรอื พยานบคุ คล ใหก้ ระทาํ ได้เฉพาะเจ้าพนักงานซงึ่
เปน็ ขา้ ราชการพลเรอื นสามัญประเภทบรหิ าร ประเภทอํานวยการ ประเภทวิชาการ และประเภททว่ั ไประดบั ชาํ นาญงานขึ้นไป แตจ่ ะ
ใหเ้ จา้ พนกั งานทีเ่ ป็นข้าราชการพลเรอื นสามญั ประเภททว่ั ไประดับปฏบิ ัติงาน เป็นผจู้ ดคําให้การกไ็ ด้ แตไ่ มร่ วมถงึ กรณที ่ีเจ้าพนักงาน
ซ่ึงเป็นข้าราชการพลเรอื นสามญั ปฏิบัตหิ นา้ ทใี่ นตําแหนง่ สรรพากรพนื้ ทสี่ าขา ในเขตทอ้ งท่ีสาํ นักงานสรรพากรพ้ืนท่ีสาขานน้ั
2. ใหข้ า้ ราชการพลเรือนสามัญดังต่อไปนี้ เปน็ พนักงานเจา้ หน้าท่ีอากรแสตมป์ นายตรวจอากรแสตมปต์ ามความในมาตรา 103 ...
(4) สงั กัดสาํ นักงานสรรพากรพน้ื ทีส่ าขา ในเขตท้องทีส่ าํ นักงานสรรพากรพน้ื ทสี่ าขานน้ั
3. ใหข้ ้าราชการพลเรอื นสามญั ดงั ตอ่ ไปน้ี เป็นเจ้าพนักงานรับแบบแสดงรายการตามบทบัญญัติแห่งประมวลรษั ฎากร... (4) สงั กัด
สํานกั งานสรรพากรพ้ืนทสี่ าขา ในเขตท้องท่ีสาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทีส่ าขานั้น

หมายเหตุ เจ้าพนักงานประเมิน พนักงานเจ้าหน้าท่อี ากรแสตมป์ นายตรวจอากรแสตมป์ และเจ้าพนกั งานรบั แบบ
แสดงรายการ ใหห้ มายความรวมถงึ ลกู จา้ งประจําหรอื ลกู จา้ งช่ัวคราวสังกดั กรมสรรพากรซึ่งหัวหน้าส่วนราชการสงั กดั กรมสรรพากร
มอบหมายให้ปฏิบตั งิ านในหนา้ ที่หรอื ตาํ แหนง่ ดงั กลา่ วดว้ ย เพื่อประโยชนใ์ นการตรวจสอบภาษอี ากร ในกรณีท่อี ธบิ ดกี รมสรรพากรส่งั
ให้เจ้าพนักงานประเมิน พนักงานเจา้ หนา้ ที่อากรแสตมป์ นายตรวจอากรแสตมป์ และเจา้ พนักงานรบั แบบแสดงรายการตามข้อ 2 ขอ้
3 และข้อ 4 ไปชว่ ยราชการหรอื ไปปฏิบัติราชการในท้องท่ใี ดทอ้ งทหี่ นึ่งให้เจ้าพนกั งานดงั กลา่ วมีอาํ นาจตามทก่ี าํ หนดไวใ้ นขอ้ 2 ขอ้
3 และขอ้ 4 ในทอ้ งที่ท่ไี ปช่วยราชการหรอื ไปปฏิบัติราชการนนั้ ดว้ ย

12

5. อํานาจหนา้ ท่ีสรรพากรอําเภอ (ตอ่ )

หนงั สอื กรมสรรพากร สํานกั มาตรฐานการจดั เก็บภาษี ที่ กค 0727/10888-99 ลงวนั ท่ี
11 ตุลาคม 2550 (มอบอาํ นาจคดั แบบ)

1. ให้สรรพากรพื้นทห่ี รือสรรพากรอําเภอหรือผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมายมีอํานาจอนมุ ัตคิ ําขอคัดขอ้ มูลและรบั รองเอกสาร
กรณเี ปน็ ข้อมูลแบบแสดงรายการภาษีและแบบยนื่ รายการภาษีเงินได้หกั ณ ทจี่ า่ ยท่ีไดร้ ับจากผู้เสียภาษอี ากรและอย่ใู น
ครอบครองของสํานกั งานสรรพากรพน้ื ทห่ี รอื สํานกั งานสรรพากรพืน้ ท่สี าขา
2. ผ้ยู ่ืนคาํ ขอข้อมลู ตอ้ งเป็นเจา้ ของขอ้ มลู ขา่ วสาร (ผ้มู ีหน้าทีย่ ื่นแบบแสดงรายการภาษหี รอื ผถู้ กู หกั ณ ที่จา่ ย) หรือผู้
ที่ไดร้ บั มอบอํานาจจากเจา้ ของขอ้ มูลเท่านั้น
3. กรณผี ยู้ ่ืนคาํ ขอเป็นผ้ถู ูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ใหค้ ัดรายการและรบั รองเฉพาะรายการเสยี ภาษขี องผู้ยนื่ คําขอ
เทา่ นน้ั โดยใหใ้ ช้หนังสือรบั รองเงนิ ได้พงึ ประเมนิ และภาษีเงนิ ไดห้ ัก ณ ท่ีจา่ ย ตามตัวอย่างทีแ่ นบ หา้ มถ่ายสําเนาแบบ
ยนื่ รายการภาษเี งนิ ได้หกั ณ ท่จี า่ ยและใบแนบฯให้ผ้ยู นื่ คาํ ขอ
4. ใหเ้ รียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมการขอสําเนาหรือการขอเนาท่ีมีคาํ รบั รองถกู ตอ้ งในอัตราตามระเบียบกรมสรรพากรว่า
ด้วยการบริหารข้อมลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ.2548 และแนวทางปฏบิ ัติกรมสรรพากรท่ี มจ.4/2550 เรอื่ ง การ
เรยี กเกบ็ เงินคา่ ธรรมเนียมการให้บริการขอ้ มลู ขา่ วสารของกรมสรรพากร ลงวนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2550
5. กรณหี น่วยงานราชการอน่ื ขอขอ้ มุลการเสยี ภาษอี ากรท้ังทีม่ แี ละไมม่ กี ฎหมายพเิ ศษใหอ้ าํ นาจการขอข้อมูล รวมทง้ั
ภาคเอกชนท่ขี อขอ้ มลู ของบุคคลหรือนติ ิบคุ คลอ่ืนทไ่ี มม่ ีอํานาจตามกฎหมาย ใหส้ ่งเรอื่ งให้กรมสรรพากรพจิ ารณาตาม
บนั ทึกท่ี กค 0705/ว.3214 ลงวันท่ี 20 เมษายน 2549 และท่ี กค 0705/ว.8563 ลงวนั ที่ 13 ตุลาคม 2549
เรอ่ื งการใหบ้ ริการขอ้ มลู แบบแสดงรายการภาษแี ละขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กรมสรรพากร

13

5. อํานาจหน้าทีส่ รรพากรอําเภอ (ต่อ)

แนวทางปฏบิ ัติกรมสรรพากร ที่ บก 1/2555 (มอบอาํ นาจให้ข้อมลู ข่าวสาร)

“หน่วยพิจารณา” หมายความวา่ หนว่ ยงานในสังกดั กรมสรรพากรทคี่ รอบครองหรอื ควบคมุ ดแู ลข้อมลู ขา่ วสารตามคาํ ร้องขอ

พระราชบญั ญตั ิระเบยี บบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

มาตรา 3/1 การบรหิ ารราชการตามพระราชบัญญัติน้ีตอ้ งเปน็ ไปเพอ่ื
ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน เกดิ ผลสมั ฤทธ์ติ อ่ ภารกจิ รฐั ความมปี ระสทิ ธภิ าพ
ความคุม้ ค่าในเชิงภารกจิ แห่งรัฐ การลดขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน การลดภารกิจ
และยุบเลิกหนว่ ยงานท่ีไมจ่ ําเปน็ การกระจายภารกจิ และทรัพยากรใหแ้ ก่
ท้องถ่นิ การกระจายอํานาจการตัดสนิ ใจ การอาํ นวยความสะดวก การ
ตอบสนองความต้องการของประชาชน ท้ังนโ้ี ดยมผี ู้รับผิดชอบตอ่ ผลของงาน

14

6. การจดั ทาํ คาํ ส่งั ต่างๆ

(1) คาส่ังกรมสรรพากร ท่ี......./....เรือ่ งแตง่ ตั้งขา้ ราชการให้รักษาราชการแทน

(2) คาสงั่ สานกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขา.....ท.ี่ ....../.... เรือ่ ง เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการและลูกจ้าง
ปฏิบตั ิงาน

(3) คาสง่ั สานักงานสรรพากรพ้นื ทส่ี าขา... ท่.ี ....../....เรื่อง มอบอานาจใหข้ า้ ราชการลงนามใน
ใบเสรจ็ รบั เงิน

(4) คาสง่ั สานกั งานสรรพากรพื้นท่สี าขา...ท่ี......./....เร่อื ง แตง่ ต้ังคณะกรรมการสง่ มอบเงินผ่าน
บริษทั กรงุ ไทยธุรกิจบริการ จากดั

(5) คาส่งั สานกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขา...ท.่ี ....../....เรื่อง แต่งตง้ั เจ้าหนา้ ทส่ี ารวจปฏบิ ตั งิ านเกย่ี วกับ
การเสยี ภาษีอากร

(6) คาสั่งสานักงานสรรพากรพนื้ ทีส่ าขา...ท่ี......./....เรอื่ ง แต่งต้งั คณะกรรมการตรวจสอบพสั ดุ 15
ประจาปี

6. การจัดทําคาํ สั่งตา่ งๆ (ตอ่ )

(7) คาสั่งสานกั งานสรรพากรพ้ืนท่ีสาขา...ท่ี......./....เรือ่ ง แต่งตง้ั เจ้าหนา้ ท่รี ับผดิ ชอบการใหบ้ ริการ
ข้อมูลข่าวสารของทางราชการและการเรยี กเกบ็ เงนิ คา่ ธรรมเนียมการให้บริการขอ้ มลู ข่าวสาร

(8) คาสัง่ สานกั งานสรรพากรพื้นท่สี าขา...ท่.ี ....../....เร่อื ง แต่งตัง้ คณะกรรมการเก็บรักษาเงนิ

(9) คาสงั่ สานักงานสรรพากรพืน้ ท่ีสาขา...ท่ี......./....เรอ่ื ง แต่งต้ังเจา้ หนา้ ที่รบั ส่งหนังสอื และข่าวสาร
ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์

(10) คาส่ังสานกั งานสรรพากรพ้ืนที่สาขา...ท่.ี ....../....เรอื่ ง แต่งตงั้ เจา้ หน้าท่ีใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์
ของกรมสรรพากรอยา่ งปลอดภยั

(11) คาส่ังสานักงานสรรพากรพืน้ ทส่ี าขา...ท่.ี ....../....เร่อื ง แตง่ ตั้งเจา้ หน้าทด่ี ูแลเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
และเครอื ขา่ ยสือ่ สาร

16

6. การจดั ทาํ คําสง่ั ตา่ งๆ (ต่อ)

(12) คาสงั่ สานกั งานสรรพากรพนื้ ทีส่ าขา...ท่ี......./....เร่อื ง แตง่ ต้งั กรรมการเบกิ แสตมป์อากร
(13) คาส่ังสานักงานสรรพากรพืน้ ท่ีสาขา...ท่ี......./....เร่อื ง แตง่ ตง้ั คณะทางานดูแลมาตรการ
ประหยัดพลังงาน
(14) คาสงั่ สานักงานสรรพากรพืน้ ทส่ี าขา...ท่ี......./....เร่อื ง แตง่ ต้ังเจ้าหนา้ ท่ขี บั รถยนตร์ าชการ

(15) คาส่งั สานกั งานสรรพากรภาค...ท.ี่ ..../....เรอ่ื ง อนุมัตใิ ห้ เกบ็ รักษาเงนิ ไวใ้ นต้นู ริ ภัยของหนว่ ยจัด

17

7.การรับแบบฯ ตรวจแบบรายการขั้นต้น การแนะนาํ ผเู้ สียภาษเี กีย่ วแบบฯ

1. ให้กรอกรายการในฯ และเอกสารแนบให้ครบถ้วน

2. กรณีผูเ้ สียภาษีไมไ่ ดใ้ ชแ้ บบฯ ซ่ึงพมิ พ์เลขประจาํ ตัวผู้เสยี ภาษอี ากร และช่อื ทอ่ี ย่จู ากกรมสรรพากรและไม่ได้กรอกเลข
ประจําตัวผ้เู สยี ภาษอี ากร ให้แนะนาํ ผ้เู สยี ภาษีกรอกเลขประจําตัวผู้เสยี ภาษีอากร ถา้ ผ้เู สียภาษไี มท่ ราบเลขประจําตวั
ผเู้ สียภาษอี ากร ให้เรียกดูจากระบบเลขประจาํ ตัวผู้เสยี ภาษีอากร แลว้ แจง้ ผู้เสยี ภาษีกรอกในแบบแสดงรายการภาษี
เพ่ือใชอ้ ้างองิ ในระบบ TCL และระบบงานอนื่ ๆ

3. กรณใี นฐานข้อมูลไมม่ เี ลขประจาํ ตัวผู้เสียภาษอี ากร ให้จัดทําแบบคํารอ้ งขอมเี ลขและบตั รประจาํ ตัวผู้เสยี ภาษอี ากร/
แก้ไขรายละเอียดผเู้ สยี ภาษี (ล.ป.10.1, ล.ป.10.2, ล.ป.10.3 หรอื ล.ป.10.4) บนั ทกึ ข้อมลู เข้าส่รู ะบบเลขประจาํ ตัว
ผู้เสียภาษอี ากร แลว้ นาํ เลขประจาํ ตัวผู้เสยี ภาษอี ากรกรอกลงในแบบแสดงรายการภาษี เว้นแต่ กรณีมเี หตจุ ําเปน็ ไม่
สามารถออกเลขประจาํ ตัวผเู้ สยี ภาษีอากรได้ทัน ใหบ้ ันทึกเปน็ ศูนย์ไป

4. ลงชื่อเจา้ หน้าทีใ่ นแบบฯแลว้ ส่งใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีจัดทําทะเบยี นคมุ รายการฯ

5. กรณีผู้เสยี ภาษียนื่ แบบแสดงรายการภาษีเกินกําหนดเวลา และยังไมส่ ิ้นอายุความตามกฎหมายให้จัดทาํ
แบบเปรยี บเทียบกําหนดค่าปรับ (ป.2) 1 ชุด จาํ นวน 2 ฉบบั เสนอหัวหน้าหน่วยจัดเก็บหรอื ผู้ทไ่ี ด้รบั
มอบหมายเพ่ือส่งั เปรยี บเทียบปรับด้วย

18

7.การรบั แบบฯ(ตอ่ ) ตรวจแบบรายการขั้นตน้ (ตอ่ ) การตรวจแบบฯภาษีมูลค่าเพิม่

1. กรอกรหัสสาขาหรอื ไม่ หากไมก่ รอกเลขสาขาข้อมูลการยน่ื แบบฯจะไปซา้ํ กบั สํานกั งานใหญ่
2. ทําเครอ่ื งหมายในชอ่ งยืน่ ปกตหิ รอื ยื่นเพิ่มเตมิ หรอื ไม่
3. ในชอ่ ง 1-12 ต้องกรอกใหค้ รบทุกช่อง หากไมม่ ีให้ขดี ด้วยและพึงระมัดระวังการกรอกชอ่ งผิด หรือการสลับช่อง
4. ยอดขายในชอ่ งท่ี 1 ต้องรวมยอดขายทง้ั หมด ทงั้ มี VAT อตั รารอ้ ยละ0 และยกเวน้ VAT
5. กรณยี ่นื เพิ่มเติมยอดขาย ตอ้ งทําเครือ่ งหมายในชอ่ ง ยอดขายแจง้ ไวข้ าดหรอื ยอดซอื้ แจ้งไว้เกนิ และกรณียน่ื เพิ่มยอดซอื้ ตอ้ งทาํ
เคร่ืองหมายในชอ่ งยอดซอื้ แจ้งไว้ขาด หรือยอดขายแจง้ ไว้เกนิ
6. กรณยี ืน่ แบบฯเพิ่มเตมิ ในเดอื นใดจะนําภาษีทช่ี าํ ระเกิน ไปกรอกในช่อง 10 ของเดอื นถัดไปไมไ่ ดเ้ ดด็ ขาด
7. กรณยี ืน่ แบบฯเกนิ กาํ หนดเวลาใหค้ ํานวณเบยี้ ปรบั 2 เทา่ ของชอ่ ง 8 ไม่ใชข่ อ้ 11 และสามารถลดเบยี้ ปรบั ไดต้ ามทป.81/2542 ข้อ 5
และใหป้ ฏบิ ตั ิตามตวั อยา่ งในคาํ สง่ั ท่ี ป.81/2542
8. กรณที ่แี บบฯฉบบั แรกภายในกาํ หนดตอ่ มามีการยื่นแบบฯเพ่ิมเตมิ ให้คาํ นวณเบีย้ ปรบั 1 เทา่ ของช่อง 5 และสามารถลดเบี้ยปรบั ได้ตาม
ทป.81/2542 ข้อ 5 และใหป้ ฏบิ ัตติ ามตวั อยา่ งในคาํ สั่งที่ ป.81/2542
9. กรณยี ่ืนแบบฯฉบบั แรกเกนิ กาํ หนดเวลาต่อมามีการยื่นแบบฯเพ่ิมเติมให้ทาํ การเปรยี บเทยี บความผิดฐานยื่นแบบเกินกาํ หนด กบั ความผดิ
ฐานย่ืนแบบฯปกตไิ วผ้ ดิ พลาดว่าบทลงโทษใดหนักกว่ากนั ให้ลงโทษฐานหนกั ทส่ี ดุ ดังนน้ั จงึ ต้องทําการเปรยี บเทียบระหว่างความผิดตามมาตรา
89 (3) หรอื (4) ซ่ึงมโี ทษเบย้ี ปรับ 1 เทา่ ของภาษขี ายแจ้งไวข้ าดหรอื ภาษซี อื้ แจง้ ไวเ้ กนิ ในช่อง 5 กบั การยน่ื แบบฯปกตเิ กนิ กาํ หนดตาม
มาตรา89(2) ซงึ่ มโี ทษเบยี้ ปรับ 2 เทา่ ของของภาษีที่ตอ้ งชาํ ระสาํ หรบั เดอื นนั้นโดยไม่ให้นาํ ภาษชี ําระเกนิ ของเกนิ กอ่ นมาหักออกในช่อง 8
หากโทษความผิดฐานใดมากกวา่ ใหค้ ิดคาํ นวณเบยี้ ปรบั ตามฐานความผิดนน้ั
10. การคํานวณเงินเพม่ิ ไมว่ ่าจะเปน็ การยืน่ แบบฯเกนิ กาํ หนดย่ืนแบบฯฉบบั แรกภายในกาํ หนดแลว้ ตอ่ มามกี ารยื่นแบบฯเพ่มิ เตมิ ยื่นแบบฯ
ฉบับแรกเกนิ กําหนดแลว้ ตอ่ มามกี ารยื่นแบบฯเพม่ิ เติมหรือมีการนําภาษีชําระเกนิ ยกมาใช้หรอื ไม่ กต็ อ้ งคํานวณเงนิ เพ่ิมรอ้ ยละ 1.5 จากภาษี
สุทธิตอ้ งชําระ ชอ่ ง 11 ทง้ั สิน้ ตามมาตรา 89/1

19

7.การรบั แบบฯ(ตอ่ ) ตรวจแบบรายการข้นั ต้น(ตอ่ ) การตรวจแบบฯอากรแสตมป์

การปดิ แสตมป์

1. กาํ หนดระยะเวลาการใชก้ ฎหมายมาตรา 103 (1) เพียงอย่างเดียว หากกฎหมายกาํ หนดให้ปิดแสตมป์ แมผ้ ้เู สยี

ภาษีจะใช้สิทธิช์ าํ ระอากรเปน็ ตวั เงิน ตามมาตรา 103(3) แทน กําหนดเวลากย็ ังตอ้ งเป็นไปตามมาตรา 103 (1)

เท่าน้ัน จะใช้กาํ หนดระยะเวลาตามประกาศอธิบดีเกยี่ วกับอากรแสตมป์ฉบบั 37 แกไ้ ขเพมิ่ ฉบบั 55 ขอ้ 6 มาใช้

บังคบั ไมไ่ ด้กําหนดระยะเวลาการปิดแสตมป์ หรือการใช้สิทธิช์ าํ ระอากรเป็นตวั เงนิ จึงต้องทาํ ก่อนกระทําหรอื

ในทนั ทที ี่ทาํ ตราสารตามมาตรา 103(1) เท่านัน้

2. ในกรณผี ู้เสยี อากรใชส้ ทิ ธช์ิ าํ ระอากรเปน็ ตวั เงินก็ต้องกระทาํ ภายในเวลาตาม (1) แตห่ ากนํามาชาํ ระเปน็ ตัวเงิน

ภายใน 15 วัน นับแตว่ ันทต่ี อ้ งปิดแสตมป์บริบูรณ(์ วนั ท่ีที่กระทําตราสาร) ใหย้ กเว้นไม่ต้องคดิ เงนิ เพม่ิ ตามมาตรา

113(1) กใ็ หเ้ สยี เฉพาะเงนิ อากรตามบญั ชที า้ ยประมวล (ไม่คิดเงนิ เพ่ิมอากร)

3. ในกรณใี ช้สทิ ธ์ชิ ําระอากรเป็นตวั เงินภาย 15 วนั จะมกี ารยกเวน้ ไมต่ ้องเสียเงนิ เพม่ิ ตามข้อยกเว้นของมาตรา

113 แตค่ ่าปรับอาญาไม่ไดย้ กเว้นดว้ ย ตอ้ งเปรยี บเทียบปรบั เพราะกฎหมายให้กระทาํ ทนั ที และไมย่ อมกระทาํ

ตามบทกฎหมายจงึ ตอ้ งเปรียบเทยี บปรับตามมาตรา 124 สว่ นการทีป่ ระมวลรษั ฎากรมาตรา 113 ไมใ่ หเ้ รยี กเงิน

เพิ่มอากรนน้ั เปน็ คนละเร่อื งกบั การกระทาํ ความผิดอาญา

4. กรณใี ช้สิทธ์ิเสียอากรเปน็ ตัวเงนิ ตามมาตรา 103(3) ต้องกระทาํ ภายในกําหนดระยะเวลาตาม (1) หากฝ่าฝืนมี

ความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 124 เปรยี บเทียบปรบั 200 บาท ตามบัญชอี ัตราการเปรียบเทยี บโดย

กําหนดค่าปรบั ตามมาตรา 3 ทวิ ลําดบั ท่ี 45 20

7.การรบั แบบฯ(ตอ่ ) ตรวจแบบรายการข้นั ต้น(ตอ่ ) การตรวจแบบฯอากรแสตมป์(ตอ่ )

การชําระอากรแสตมป์ตามประกาศอธิบดกี รมสรรพากร

อธบิ ดีกรมสรรพากรไดใ้ ชอ้ ํานาจกําหนดวิธีการใหผ้ ม็ หี นา้ ท่ีเสียอากรปฏบิ ัติ โดยอาศยั อํานาจตามมาตรา 123 ทวิ เพราะกรณีทอี่ ธบิ ดใี ชอ้ าํ นาจตามประมวล
รษั ฎากร มาตรา 123 ทวิ เปน็ เหตใุ หห้ น้าทข่ี องผู้เสยี อากรหลดุ พ้นจากหน้าทใ่ี นการปิดอากรแสตมป์ ตามประมวลรษั ฎากร มาตรา 103 ทันที แตเ่ กดิ
ภาระหนา้ ท่ีใหม่ข้นึ มาตามประกาศอธิบดกี รมสรรพากรเกย่ี วกบั อาการแสตมปฉ์ บบั 37 ดงั นี้

1. กาํ หนดระยะเวลาการชําระอากรเป็นตัวเงินในกรณที ี่อธบิ ดกี รมสรรพากรใชอ้ าํ นาจตามมาตรา 123 ทวิ ซึง่ กาํ หนดระยะเวลาการชําระอากรเปน็ ตวั เงนิ ในกรณี
ทอ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากรใช้อาํ นาจตามมาตรา 123 ทวิ นนั้ มมี ากมาย และมีหน่วยงานอนื ๆ มาเกย่ี วขอ้ ง เน่ืองจากอธิบดีกรมสรรพากรได้ออกคาํ ส่ังให้ผู้อ่นื เก็บ
แทน เช่น กรมที่ดิน กรมพฒั นาธุรกิจการค้า ตลาดหลักทรัพย์ หรือ ธนาตาร เปน็ ตน้ แต่ท่ีจะกลา่ วถงึ คือการจัดเก็บทีส่ ํานกั งานสรรพากรพน้ื ที่สาขา ได้แก่
กําหนดระยะเวลาเปน็ ไปตามประกาศอธิบดกี รมสรรพากรเก่ยี วกับอากรแสตมปฉ์ บับท่ี 37 แกไ้ ขเพม่ิ เติมฉบบั ท่ี 55 ข้อ 6 กล่าวคือ กอ่ นกระทาํ หรือภายใน 15
วันนับแตก่ ระทาํ ตราสาร
2. วิธกี ารนับระยะเวลา ให้เร่ิมนบั เมอื่ คู่สัญญาลงนามครบทั้ง 2 ฝา่ ย ตาม ป.153/2559 กลา่ วคือดวู นั ท่ีตรงชอ่ งลงนามของคู่สัญญา (หมายเหตไุ มใ่ ช่ช่อง
พยาน) ทลี่ งชื่อหลังสดุ กรณที ่ยี ังไมล่ งชื่อถอื ว่ายังไมม่ ีการทาํ ตราสาร สามารถชําระอากรเป็นตวั เงินได้ เพราะถือวา่ ชาํ ระอากรเป็นตัวเงนิ กอ่ นทาํ ตราสาร แต่ข้อท่ี
คสู่ ญั ญาตอ้ งพงึ ระมัดระวงั กรณที ชี่ ําระอากรเปน็ ตัวเงินแล้วคู่สญั ญาจะลงนามยอ้ นหลงั ไม่ไดเ้ ดด็ ขาดนอกจากจะทําให้สญั ญานน้ั เปน็ โมฆียะแลว้ หากตรวจพบ
เจ้าพนักงานมีสิทธ์สิ ่ังใหเ้ สียเงินเพม่ิ ได้
3. ในกรณที ผ่ี ู้เสียอากรนํามาชาํ ระอากรภายใน 15 วันนับแตว่ ันที่ต้องปดิ แสตมปบ์ รบิ รู ณ์(วนั ทีค่ รบกาํ หนดชําระตาม 2.2 กใ็ หเ้ สียตามบญั ชอี ัตราทา้ ยประมวล
กล่าวคือไม่ต้องเสียเงนิ เพ่ิมมีผลทาํ ใหร้ ะยะเวลาการคิดเงินเพ่มิ ยดื ออกไปอกี 15 วัน ตามประมวลรษั ฎากรมาตรา 113 ทง้ั น้เี ปน็ การนบั ตอ่ จากกาํ หนดระยะเวลา
เดมิ ตาม (1) ตามข้อหารือท่ี กค 0702/5572 ลงวนั ที่ 28 สงิ หาคม 2560
4. การเปรียบเทียบปรับคดีอาญา กรณขี ดั คาํ สง่ั อธิบดีกรมสรรพากรไมช่ าํ ระอากรเป็นตัวเงินตามคําสัง่ อธบิ ดีกรมสรรพากร ผิดมาตรา 128 เปรยี บเทยี บปรบั
200.- บาท ตามบญั ชอี ัตราการเปรียบเทียบโดยกําหนดค่าปรับตามมาตรา 3 ทวิ ลาํ ดบั ที่ 50 และคฉู่ บบั แยกเปน็ อีก 1 กรรม ปรับเพมิ่ อีก 200.- บาท
5. การเสยี อากรเปน็ ตัวเงินตามคาํ สัง่ อธบิ ดีกรมสรรพากรนนั้ จะไม่มีการเศษใหป้ ดั ท้งิ เน่ืองจากกาํ หนดการเสยี อากรตามบญั ชอี ัตราท้ายประมวลกาํ หนดเปน็ บาท
จึงไมม่ ีเศษให้ปัด แต่จะมปี ัดเศษเฉพาะกรณีการคิดเงินเพ่ิมอากร และมกี ารลดให้ เมือ่ มีเศษ ให้นาํ ยอดรวมใน อส.4 ทั้งฉบบั แลว้ ปดั เศษจากยอดรวมในคราวเดียว การ
คํานวณสว่ นลดของเงินเพิ่มให้คิดอัตราเต็มตามกฎหมายแล้วลดลง กรณที ีก่ ฎหมายกําหนดข้นั ต่ําไวใ้ ห้คิดตามอัตราข้นั ต่ํา แล้วลดลงใหอ้ ีกตามอาํ นาจและกฎหมาย21

8. การบันทึกขอ้ มลู ในระบบฯ

กรณบี นั ทกึ แบบแสดงรายการภาษใี ห้บนั ทกึ รายการแต่ละส่วนในระบบฯ ดงั นี้

- การบนั ทกึ รายการขอ้ มลู แบบแสดงรายการภาษี
- การบันทึกรายการขอ้ มลู ผู้เสยี ภาษี
- การบันทึกรายการขอ้ มลู ยน่ื แบบแสดงรายการภาษี
- การบันทึกรายการขอ้ มลู ชําระเงนิ
- การสั่งพิมพร์ ายการ

22

8. การบนั ทกึ ขอ้ มลู ในระบบฯ (ตอ่ )

กรณีรับเงนิ คา่ เปรียบเทียบปรบั เมอื่ ผู้เสยี ภาษียนื่ แบบแสดงรายการภาษีเกินกําหนดเวลา
พร้อมแบบเปรยี บเทยี บกําหนดคา่ ปรับ (ป.2) ให้เจา้ หนา้ ท่จี ัดทาํ ทะเบยี นคุมรายการ ฯ
ดําเนินการดงั น้ี

- บันทกึ ข้อมูลแบบเปรยี บเทียบกาหนดค่าปรับ (ป.2)

- นาแบบ ป.2 ท้ังสองฉบับสอดในเครอ่ื งพิมพแ์ นวราบ เพ่อื พมิ พจ์ านวนเงนิ
ทีช่ าระ เลขระบเุ อกสาร (UID) เลขคมุ เอกสาร (DLN) เลขจดั ชุดเอกสาร
(BN) ลงบนแบบฯ และพมิ พ์ใบเสรจ็ รบั เงนิ ทาใบเสร็จรบั เงนิ ให้สมบูรณ์
ตามกฎหมาย แล้วมอบใบเสรจ็ รับเงินใหผ้ ู้เสียภาษี

- เกบ็ แบบ ป.2 ฉบบั ท่ี 1 เขา้ แฟ้มไวเ้ ปน็ หลักฐาน และฉบับที่ 2 ติดไว้กับ
แบบแสดงรายการภาษี

23

8. การบนั ทึกขอ้ มูลในระบบฯ (ต่อ)

กรณรี บั เงนิ รายได้เบด็ เตล็ด กรณสี ว่ นราชการสรรพากรรบั เงนิ รายได้เบ็ดเตล็ด ให้
ดําเนนิ การ ดงั นี้

- จัดทาใบนาสง่ เงินรายไดเ้ บ็ดเตล็ด (ร.บ.1)
- ให้เจา้ หน้าท่จี ดั ทาทะเบียนคุมรายการฯ บันทึกขอ้ มูลแบบ ร.บ.1
- บันทึกรายละเอยี ดรายได้นาสง่ วา่ เป็นประเภทใด จานวนเงินเท่าใด
- นาแบบ ร.บ.1 ทงั้ สองฉบบั สอดในเคร่ืองพิมพ์แนวราบ เพือ่ พมิ พ์จานวนเงนิ ทีช่ าระ เลข
ระบุเอกสาร (UID) เลขคมุ เอกสาร (DLN) เลขจัดชุดเอกสาร (BN) ลงบนแบบ ร.บ.1 และ
พิมพใ์ บเสรจ็ รับเงนิ
- ทาใบเสร็จรับเงินใหส้ มบรู ณต์ ามกฎหมาย

24

8. การบนั ทึกขอ้ มูลในระบบฯ (ตอ่ )

กรณรี ับแบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตวั เงนิ (แบบ อ.ส.4) เมื่อผูเ้ สยี ภาษยี ื่นแบบขอเสยี อากร
แสตมปเ์ ป็นตัวเงนิ พร้อมตราสาร (ถ้าม)ี ใหเ้ จ้าหน้าทีจ่ ดั ทําทะเบยี นคมุ รายการฯ ดาํ เนินการ ดงั น้ี

- บันทกึ ขอ้ มูลแบบขอเสียอากรแสตมปเ์ ปน็ ตัวเงิน (แบบ อ.ส.4)
- นาแบบ อ.ส.4 สอดในเครอื่ งพมิ พแ์ นวราบ เพอื่ พิมพจ์ านวนเงนิ ทช่ี าระ เลขระบเุ อกสาร (UID) เลขคุมเอกสาร (DLN) เลขจัดชุด
เอกสาร (BN) ลงบนแบบฯ และพมิ พ์ใบเสร็จรับเงิน ทาใบเสร็จ รบั เงนิ ให้สมบูรณต์ ามกฎหมาย แลว้ มอบใบเสร็จรบั เงนิ ใหผ้ ู้เสยี ภาษี
-เม่ือส่งั พิมพ์รายการจะปรากฏรายการ “ข้อมูลเพิ่มเติมใน อ.ส.5” ให้บันทึกข้อมลู ประเภทฐานะผู้เสยี อากรใหต้ รงกับแบบ อ.ส.4 โดย
เลอื กรายการ “ผู้เสยี อากรมฐี านะเปน็ ผู้มีหน้าทีเ่ สียอากร หรือผทู้ รงตราสาร หรอื ผ้ถู ือเอาประโยชน์” แล้วแต่กรณี และบนั ทึกข้อมูล
อ่ืนตามแบบ อ.ส.4 เพ่ือสั่งพิมพ์ อ.ส.5 กรณีผเู้ สยี ภาษกี รอกรายการขอเสยี อากรแสตมปเ์ ปน็ ตวั เงนิ ของคู่ฉบบั ในแบบ อ.ส.4 มาในฉบบั
เดยี วกนั ใหบ้ นั ทึกแบบ อ.ส.4 ตามจานวนรายท่กี รอก เพ่อื สง่ั พมิ พ์ อ.ส.5 แตล่ ะราย
- ตรวจสอบขอ้ มูล อ.ส.5 ใหต้ รงกบั แบบ อ.ส.4 ก่อนยืนยนั การพิมพ์ อ.ส.5 เน่อื งจากจะสามารถสั่งพมิ พ์ อ.ส.5 ได้เพยี ง 1 ครง้ั ทง้ั น้ี
ให้ใช้กระดาษตอ่ เนื่องที่ประทับตรากรมสรรพากรและมสี าเนาคฉู่ บับ (กรณไี ม่มตี รากรมสรรพากรให้ใชต้ รายางประทับ) และตัด อส.5
ตามเส้นประ นาไปสลกั หลงั ตราสาร แล้วประทบั ตราและลงนามตามกฎหมายตอ่ ไป
-กรณีบันทกึ ข้อมูลแบบ อ.ส.4 ไมถ่ ูกตอ้ ง ให้ยกเลกิ รายการข้อมูล และบันทึกใหมใ่ ห้ถกู ตอ้ ง โดยขีดฆา่ รายการขอ้ มลู เดมิ ท่ีพิมพไ์ ว้บน
แบบ อ.ส.4 และเทปตรวจสอบ พรอ้ มขดี ฆา่ ใบเสร็จรับเงนิ ฉบับเดิมและเขียนหรอื ประทับตราด้วยหมกึ สแี ดงวา่ “ใบเสร็จเสยี ไมใ่ ช”้
และขดี ฆ่า อ.ส.5 (ถา้ ม)ี แลว้ ให้เจา้ หนา้ ที่ฯ และหัวหนา้ หนว่ ยจัดเกบ็ หรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมายลงช่อื กากบั ตรงทไี่ ดข้ ีดฆ่าด้วย แลว้ นา
อ.ส.5 ทย่ี กเลิกเก็บรวมไวก้ บั แบบ อ.ส.4
- เก็บแบบ อส.4 และสาเนา อ.ส.5 เข้าแฟ้มไว้เปน็ หลักฐาน

25

8. การบันทึกข้อมลู ในระบบฯ (ต่อ)

กรณีรบั แบบคําขอใหเ้ จา้ หนา้ ที่จดั ทําทะเบียนคุมรายการฯ ดําเนินการ ดังน้ี

- บันทกึ ขอ้ มูลแบบคาขอ
- นาแบบคาขอ สอดในเคร่อื งพิมพ์แนวราบเพ่ือพิมพ์เลขระบุเอกสาร
(UID) เลขคุมเอกสาร (DLN) และเลขจดั ชุดเอกสาร (BN) ลงบนแบบ
- นากระดาษสาหรบั พิมพ์ใบรับแบบสอดด้านหน้าของเครอื่ งพิมพ์
ใบเสรจ็ รบั เงนิ หรอื เครอ่ื งพิมพ์ดอทเมทรกิ ซ์ พิมพ์ใบรบั แบบให้ผ้ยู ่ืนคาขอ

26

8. การบันทกึ ขอ้ มูลในระบบฯ (ต่อ)

กรณรี ับแบบยน่ื รายการภาษเี งนิ ได้หกั ณ ท่จี า่ ย ประจาํ ปี

- ใหเ้ จ้าหนา้ ทจี่ ัดทาทะเบยี นคุมรายการฯ บนั ทกึ ขอ้ มูลแบบยื่นรายการภาษเี งนิ ได้หัก ณ
ทจี่ ่าย ประจาปี
- นาแบบยน่ื รายการภาษเี งินไดห้ กั ณ ทีจ่ ่าย ประจาปี สอดในเคร่อื งพมิ พ์แนวราบเพ่ือ
พิมพเ์ ลขระบเุ อกสาร (UID) เลขคมุ เอกสาร (DLN) เลขจัดชุดเอกสาร (BN) ลงบนแบบ
- นากระดาษสาหรบั พิมพ์ใบรบั แบบสอดด้านหนา้ ของเครอื่ งพิมพใ์ บเสรจ็ รบั เงินหรือ
เครอ่ื งพิมพด์ อทเมทริกซ์ พมิ พใ์ บรบั แบบให้ผู้ย่นื แบบ

27

8. การบนั ทึกข้อมลู ในระบบฯ (ตอ่ )

กรณีรับชาํ ระหน้ีคา่ ภาษอี ากร เมอ่ื ผเู้ สียภาษีชาํ ระหนคี้ ่าภาษีอากร ให้เจา้ หนา้ ที่จัดทํา
ทะเบยี นคมุ รายการจัดทําบัญชี ดําเนนิ การ ดงั น้ี

- กรณีมขี อ้ มูลหน้อี ยู่ในระบบฯ
- กรณไี มม่ ีข้อมูลหน้ีอยใู่ นระบบฯ
- กรณีทไ่ี มส่ ามารถต้งั หน้ีภาษีอากรในปจั จบุ ัน
- กรณีบันทกึ ข้อมลู หนังสอื แจง้ การประเมินตาม ไว้ไมถ่ กู ต้อง
- กรณีบันทึกลดหนภ้ี าษีอากรของผคู้ า้ งภาษอี ากรผิดราย
- กรณหี น้ที จี่ าหน่ายออกจากบญั ชีลกู หน้ีคา่ ภาษอี ากรแตย่ งั ไมส่ ิ้นอายุความใชส้ ิทธเิ รียกรอ้ งตาม
กฎหมาย
- การทีบ่ นั ทึกขอ้ มลู การชาระหนใี้ นระบบฯ เป็นคร้งั แรกของหนงั สือแจ้งการประเมนิ ภาษอี ากร
- เมือ่ ได้รบั เงนิ จากผเู้ สียภาษแี ลว้ ใหบ้ นั ทกึ เงอื่ นไขการชาระหนี้
- การบนั ทกึ ขอ้ มลู การรับชาระเงิน

28

8. การบันทกึ ข้อมูลในระบบฯ (ตอ่ )

กรณรี ับแบบส่งคืนเงนิ ภาษีอากรท่ีสง่ั คนื ผิดพลาด เมื่อผู้เสยี ภาษมี าชําระเงินคนื ภาษีอากรท่ี
สัง่ คนื ผิดพลาด ใหเ้ จา้ หนา้ ท่จี ดั ทําทะเบยี น-คุมรายการฯ ดาํ เนนิ การดังนี้

- เลอื กรายการ “บนั ทกึ ขอ้ มูลแบบ ค.61- แบบสง่ คนื เงนิ ภาษอี ากรที่สงั่ คนื ผดิ พลาด”
- บันทกึ เลขท่หี นังสือแจง้ คืนเงนิ ภาษีอากรทีส่ ่ังคนื ผดิ พลาด (ค.31) เพื่อให้ระบบคน้ หาข้อมูลตามแบบ ค.31
- เมอ่ื ได้รบั เงินจากผเู้ สยี ภาษแี ลว้ ให้บันทกึ ขอ้ มลู การชาระเงนิ เลือกประเภทการชาระเงิน แล้วบันทกึ จานวน
เงนิ ทีช่ าระ ระบบฯ จะคานวณดอกเบย้ี ใหถ้ ึงวนั ทช่ี าระเงิน
- สง่ั พิมพ์รายการ เพอื่ ให้ระบบฯ พิมพแ์ บบสง่ คนื เงนิ ภาษอี ากรที่ส่ังคนื ผิดพลาด (ค.61) 1 ชดุ จานวน 3 ฉบบั
และให้ผู้เสียภาษีลงนามในแบบ ค.61
- พิมพใ์ บเสร็จรับเงนิ (ภ.ส.1) ทาใบเสร็จรับเงินใหส้ มบรู ณต์ ามกฎหมาย แลว้ มอบใบเสร็จรับเงนิ ใหผ้ ้เู สียภาษี
- เกบ็ แบบ ค.61 ฉบบั ท่ี 1 เขา้ แฟม้ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน สว่ นฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ใหส้ ่งไปยงั สานักงาน
สรรพากรพ้นื ที่ (ส่วนวางแผนและประเมินผล /ส่วนกฎหมายและเรง่ รัดภาษอี ากรคา้ ง) หรือสานักบริหารภาษี
ธรุ กิจขนาดใหญ่ (ส่วนเรง่ รดั ภาษอี ากรคา้ ง) โดยให้เจา้ หน้าทจี่ ดั ทา บ.ช.12 เปน็ เอกสารนาสง่

29

8. การบนั ทึกข้อมูลในระบบฯ (ตอ่ )

กรณีคืนเงนิ ภาษีอากร เมอ่ื ผูข้ อคืนมารับคืนเงินภาษีอากร ให้เจา้ หน้าท่จี ดั ทําทะเบยี นคุม
รายการฯ ดาํ เนินการ ดงั นี้

- เลือกเมนูบันทึกข้อมลู การคนื เงนิ ภาษีอากร
- บันทึกเลขท่หี นงั สอื แจ้งคนื เงนิ ภาษอี ากร(NSN) เพอ่ื ค้นหาข้อมลู หนงั สอื แจ้ง-คนื เงนิ ภาษีอากรและข้อมูลภาษีทไี่ ดร้ บั คนื ไปแลว้ (ถา้ ม)ี กรณีมีหนคี้ ่าภาษี
อากรในระบบ ใหท้ าการหกั กลบลบหนี้
- บันทึกขอ้ มูลการจ่ายคืนเงนิ ภาษอี ากรโดยเลอื กประเภทเงนิ ทีน่ ามาจา่ ยคนื วา่ เป็นเงินจากการหกั รายรับจา่ ยขาดหรือถอนคนื เงนิ รายรบั และเลอื กรายการ
เงินท่ีนามาจา่ ยคนื วา่ เป็นเงินสดหรือเช็ค กรณจี ่ายคนื เงินภาษีอากรเป็นเชค็ ให้บนั ทึกข้อมลู เชค็ ไดแ้ ก่ หมายเลขเชค็ รหัสธนาคารเลขทสี่ าขาวันท่สี ่ังจา่ ย
และจานวนเงินตามเชค็ ด้วยหรอื ใชเ้ ครอื่ งอ่านเช็ค (ถา้ ม)ี
- ให้ผู้ขอคนื ลงนามในหนงั สอื แจ้งคนื เงนิ ภาษอี ากรฉบบั ทผ่ี ู้ขอคืนนามาแสดงไวเ้ ป็นหลักฐาน แลว้ จึงจ่ายเงินแก่ผู้ขอคนื
- นาหนงั สือแจง้ การคืนเงนิ ภาษีอากรสอดในเครือ่ งพมิ พแ์ นวราบให้ด้านท่ีผเู้ สยี ภาษลี งนามไว้ดา้ นบนแล้วส่งั พมิ พ์รายการเพ่ือให้ระบบฯพิมพเ์ ลขระบุ
เอกสาร (UID)บนหนังสอื แจ้งคืนเงนิ ภาษอี ากรระบบฯจะจดั เก็บขอ้ มลู ซ่งึ แสดงสถานะวา่ ไดค้ ืนเงนิ ภาษีอากรแลว้
- กรณจี า่ ยคนื เงนิ ภาษอี ากรเขา้ บญั ชเี งนิ ฝากธนาคารของผู้ขอคนื เมอื่ ได้รบั ใบฝากเงนิ (Pay-inSlip) จากธนาคาร ใหด้ าเนนิ การเช่นเดียวกับ(2) (3) และ(5)
- กรณีที่ไมส่ ามารถหักกลบลบหนี้ได้ เช่นมีหนี้ค่าภาษีอากรที่ได้รบั อนมุ ัติให้ทเุ ลาการชาระภาษี หรือไดร้ บั อนมุ ัติใหผ้ ่อนชาระตามระเบียบฯหรอื มีหนังสือ
แจ้งการส่ังคนื ภาษอี ากรผดิ พลาด(ค.31) เปน็ ต้น ใหบ้ ันทึกข้อมลู การคนื เงนิ ภาษีโดยเลือกเมนู “ดาเนนิ ธรุ กรรมการคืนเงนิ โดยไม่หกั กลบเพิม่ เตมิ

30

9. การรบั ชาํ ระภาษอี ากร

(1) การรบั ชาํ ระภาษอี ากรดว้ ยเงินสด (2) การรบั ชาํ ระภาษอี ากรด้วย บัตรเดบิต บัตรเครดติ
ผา่ นเครอ่ื ง EDC ของธนาคารกรงุ ไทย และธนาคารกสกิ รไทย

(3) ผ่านระบบ QR Payment (4) การรบั ชําระภาษอี ากรด้วยบัตรภาษี

(5) การรับชาํ ระภาษดี ้วยเช็ค/ดราฟท์ 31

9. การรับชําระภาษอี ากร (ต่อ)

การรบั ชาํ ระภาษอี ากรดว้ ย บัตรเดบติ หรอื บตั รเครดติ ผา่ นเครอ่ื ง EDC ของ
ธนาคารกรงุ ไทย จาํ กดั (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จํากดั (มหาชน)

1. สาํ หรบั บัตรเดบติ ของทกุ ธนาคารจะไมม่ ีการเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี ม

2. สําหรบั บัตรเครดติ ของธนาคารใดกต็ ามหากชาํ ระผา่ นเครือ่ ง EDC ของ
ธนาคารกรุงไทย จํากดั (มหาชน) ธนาคารจะเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนยี มร้อยละ 0.90 บาท

3. สาํ หรับบัตรเครดติ ของธนาคารใดก็ตามหากชาํ ระผ่านเครอื่ ง EDC ของธนาคาร
กสิกรไทย จาํ กดั (มหาชน) ธนาคารจะเรยี กเก็บค่าธรรมเนยี มรอ้ ยละ 1 บาท

4. ตอ้ งชําระเตม็ จาํ นวน จะชาํ ระรว่ มกับเงนิ สด บตั รภาษี QR Payment หรือ เช็ค
ไม่ได้

32

9. การรับชําระภาษอี ากร (ตอ่ )

การรบั ชําระภาษอี ากรดว้ ย ผา่ นระบบ QR Payment
1. ผา่ นทางโทรศพั ทม์ ือถือ (Mobile Banking)
2. พิมพใ์ บ QR Code จากระบบฯ
3. ใหผ้ ู้ใชบ้ รกิ ารสแกนเพอ่ื ชาํ ระภาษี คลิกยืนยัน ระบบจะพมิ พส์ ลปิ แบบ
เดยี วกบั การชาํ ระดว้ ยบตั รเดบติ หรือบตั รเครดติ )
4. เรยี กคืนใบ QR Code จากผ้ใู ชบ้ รกิ าร

33

9. การรบั ชาํ ระภาษอี ากร (ต่อ)

การรบั ชาํ ระภาษอี ากรดว้ ยบตั รภาษี

1. การรบั ชําระภาษีอากรดว้ ยบตั รภาษี กเ็ หมือนการรับชาํ ระภาษดี ้วยคูปองเงนิ สดท่ัวไปคอื รบั ชาํ ระ

ด้วยบัตรภาษีให้พอดกี ับมลู คา่ ของบตั รภาษี ส่วนท่เี หลอื ของบัตรภาษไี มส่ ามารถคนื เปน็ เงนิ สดได้

2. บตั รภาษใี ช้ชําระภาษอี ากรไดท้ ส่ี ํานกั งานสรรพากรพืน้ ทีส่ าขาเทา่ นั้น ไม่สามารถนาํ บตั รภาษีไปใช้

กบั แบบแสดงรายการทีย่ นื่ และชําระภาษผี ่านอินเทอร์เน็ตได้

3. บตั รภาษมี ี 2 ชนิด คอื

บัตรภาษีชนดิ กาํ หนดราคา บตั รภาษีชนดิ ไมก่ าํ หนดราคา จํานวน
ราคา 100,000 บาท บัตรสฟี ้า เงนิ บตั รสชี มพู
ราคา 10,000 บาท บตั รสีมว่ ง
ราคา 1,000 บาท บตั รสสี ้ม 34

10. ลักษณะ เงอื่ นไข และขอ้ กําหนดเก่ยี วกับเชค็

เช็คทจี่ ะรับชําระภาษอี ากรมี ๔ ประเภท เช็คท่ีจะรับชาํ ระภาษีอากรจะต้องมลี ักษณะ
และเงื่อนไข ดังตอ่ ไปนี้
- เช็คธนาคารแหง่ ประเทศไทย (เชค็ ประเภท ก.)
- เชค็ ทีม่ ีธนาคารคา้ํ ประกนั (เชค็ ประเภท ข.) (๑) มีรายการถกู ตอ้ งครบถว้ นตามมาตรา ๙๘๘ แหง่ ประมวลกฎหมายแพ่ง
- เชค็ ที่ธนาคารเซน็ สง่ั จา่ ย (เช็คประเภท ค.) และพาณชิ ย์
- เช็คทผ่ี มู้ ีหน้าทช่ี าํ ระเงินภาษอี ากรเป็นผู้เซ็นสั่งจา่ ย (๒) เป็นเช็คลงวนั ที่ที่เจา้ หน้าที่รับชาระเช็คน้ัน หรอื ก่อนวันนน้ั ไมเ่ กนิ ๑๕
และใชช้ าํ ระโดยตรง (เช็คประเภท ง.) วนั สาหรับเช็คประเภท ก. ข. ค. หรอื กอ่ นวนั นนั้ ไม่เกิน ๗ วัน สาหรับเช็ค
ประเภท ง. ห้ามรับเช็คลงวนั ทล่ี ว่ งหนา้ เว้นแตก่ รณที ร่ี ฐั บาลประกาศให้
การรบั ชาํ ระภาษอี ากรเป็นเชค็ ตามขอ้ ๕ ให้รับ เป็นวันหยดุ ราชการเพมิ่ เตมิ ละทาใหว้ ันสุดทา้ ยของการรับแบบแสดง
ชาํ ระภาษีอากรได้ทกุ ประเภท แต่จะรับเชค็ รายการและชาระภาษขี ยายไปเปน็ วันเรม่ิ ทาการใหมต่ ่อจากวนั หยุดราชการ
ประเภท ง. ชาํ ระเปน็ ค่าซอ้ื แสตมป์อากรหรอื นั้น ใหส้ ามารถรบั เชค็ ประเภท ง. ทผ่ี เู้ สยี ภาษเี ตรียมไว้กอ่ นเพื่อชาระภาษี
คา่ ปรับภาษีอากร หรอื กรณกี ารชาํ ระอากรเป็น โดยลงวันท่กี อ่ นวันรบั ชาระภาษเี กิน ๗ วนั ได้ แต่ทง้ั น้ี ต้องไม่เกนิ ๑๕ วัน
ตัวเงนิ ไม่ได้ (๓) เปน็ เช็คขีดครอ่ มและขีดฆา่ คาว่า “ผู้ถอื ” ออก โดยสงั่ จา่ ย
(๔) เปน็ เช็คทม่ี ใิ ชเ่ ชค็ โอนสลักหลงั
(๕) เป็นเช็คท่ีสามารถเรยี กเกบ็ เงินได้เตม็ ตามจานวนเงินทรี่ ะบุไว้ในเชค็
หากจะตอ้ งเสียคา่ ธรรมเนียมหรอื ค่าบรกิ ารอน่ื ใดเก่ยี วกับการเรยี กเกบ็ เงิน
ตามเชค็ น้นั ผู้ชาระภาษีอากรจะต้องรบั ภาระดงั กล่าว
(๖) เช็คฉบบั หน่งึ จะรับชาระภาษีอากรประเภทเดยี วหรอื หลายประเภทกไ็ ด้
(๗) หา้ มรบั เช็คทมี่ ีจานวนเงินสงู กวา่ จานวนภาษอี ากรท่ีจะต้องชาระ
(๘) เชค็ ประเภท ง. ทจ่ี ะรับชาระภาษอี ากรนน้ั จะตอ้ งเป็นเชค็ ท่ผี มู้ ีหนา้ ท่ี
ชาระภาษีอากรส่งั จ่ายเอง หรอื เป็นเชค็ ส่งั จา่ ยของผตู้ ้องรับผดิ เสยี หรอื นาสง่
ภาษอี ากรร่วมกันตามกฎหมาย

35

10. ลักษณะ เง่อื นไข และขอ้ กําหนดเก่ียวกบั เชค็ (ต่อ)

การรบั ชาํ ระภาษอี ากรเป็นเชค็ ประเภท ง.ให้ การออกใบเสร็จรับเงินกรณชี ําระภาษีอากร
เจ้าหนา้ ท่รี บั ได้ตามหลกั เกณฑ์ ดงั นี้ ดว้ ยเชค็ ให้ปฏิบัติ

- ใหร้ บั เชค็ ทผ่ี ู้เสยี ภาษอี ากรสั่งจา่ ยจากบญั ชีเงินฝากทเี่ ปดิ ไวก้ ับ - ใหเ้ จา้ หนา้ ทีอ่ อกใบเสรจ็ รับเงนิ (ภ.ส.๑ ง.) ในระบบ TCL ใหแ้ ก่
ธนาคารหรอื สาขาธนาคารซ่งึ ตงั้ อยูใ่ นท้องท่ที ี่ธนาคารแหง่ ประเทศไทย ผ้ชู าระภาษีอากรเปน็ เช็คซงึ่ ในใบเสร็จรบั เงนิ จะมขี ้อความว่า
ระบวุ ่าอยใู่ นเขตสานกั หกั บญั ชีเดยี วกันกับท้องท่ีที่อยใู่ นความ “ใบเสร็จรับเงินฉบบั น้ีจะสมบูรณต์ อ่ เม่ือเจา้ หน้าทีไ่ ด้เรยี กเก็บเงิน
รับผิดชอบของสานกั งานสรรพากรพนื้ ทส่ี าขา เวน้ แต่มีเหตจุ าเป็นทตี่ อ้ ง ตามเช็คไดค้ รบถ้วนแล้ว” พร้อมท้งั บนั ทึกควบคมุ เชค็ ทีไ่ ดร้ ับไวใ้ น
รบั เช็คตา่ งเขตสานัก หักบัญชใี ห้สรรพากรอาเภอพจิ ารณาอนุมัติ ทะเบยี นคุมเชค็
- การรับเชค็ รายหนึ่ง ๆ ใหร้ บั ไดไ้ มเ่ กนิ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เว้นแต่ - กรณไี ดร้ ับฝากเช็คจากผู้เสียภาษีเพ่อื ชาระภาษีเงินได้บคุ คล
กรณผี สู้ ง่ั จ่ายเช็คเปน็ บุคคลหรือนติ ิบุคคลท่มี ีฐานะทางการเงนิ ดี มี ธรรมดาหรือภาษี มลู ค่าเพมิ่ ใหอ้ อกใบเสรจ็ รับเงนิ (ภ.ส.๑ ฝ.) ใน
ชอื่ เสียงเชอื่ ถอื ได้ และเจา้ หนา้ ที่ผูร้ ับเชค็ ไดพ้ จิ ารณาด้วยความ ระบบ TCL ในวันรบั ฝากเชค็ พรอ้ มแบบแสดงรายการภาษี
รอบคอบเปน็ การเฉพาะรายแลว้ ไม่ปรากฏว่าเคยใช้เช็คไม่มเี งนิ - กรณไี ดร้ บั เชค็ หรอื เงินสด หรือบตั รภาษี เพื่อชดใชเ้ ชค็ ขัดขอ้ ง
- ใหร้ บั เชค็ ที่ไม่มกี ารขีดฆ่า ขูด ลบ ตก หรือเติมขอ้ ความใด ๆ ไมว่ ่าจะ ให้ออกใบเสรจ็ รับเงิน (ภ.ส.๑ ช.) แสดงจานวนเงนิ ตามเช็คฉบบั ท่ี
มกี ารเซ็นชอื่ กากับหรือไม่ ขัดข้อง ๑ ฉบับ และใบเสร็จรับเงนิ (ภ.ส.๑ ง.) แสดงเงนิ เพ่มิ อีก ๑
- การรบั เช็คตา่ งเขตสานกั หักบญั ชี ให้สรรพากรพน้ื ท่ีสาขาเรียกเกบ็ ฉบบั (ถ้าม)ี ในระบบ TCL แลว้ มอบใบเสรจ็ รับเงนิ ทัง้ ๒ ฉบบั
เงนิ สดจากผเู้ สยี ภาษกี อ่ นออกใบเสร็จรับเงนิ เพอื่ ชาระค่าธรรมเนียม ให้แกผ่ ู้เสยี ภาษอี ากรไว้เปน็ หลักฐาน
การเรียกเกบ็ เชค็ รอ้ ยละ ๐.๑๐ ของจานวนเงนิ ตามเช็ค ขั้นต่าฉบับละ - กรณสี านกั งานสรรพากรพ้นื ทส่ี าขา รับชาระภาษดี ว้ ยเช็คต่าง
๑๐ บาท หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนดเปล่ยี นแปลง เขตสานักหักบญั ชที ี่ธนาคารเรยี กเก็บค่าธรรมเนยี มการเรียกเกบ็
- ใหผ้ ูเ้ สียภาษอี ากรกรอกเลขประจาตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรหรือเลข เชค็ ให้เจ้าหนา้ ท่อี อกใบเสรจ็ รับเงิน ภ.ส.๑ จานวนรอ้ ยละ ๐.๑๐
ประจาตวั ประชาชนและโทรศพั ท์ ไว้ตรงมมุ ลา่ งขวาด้านหลงั ของเช็ค ของจานวนเงนิ ตามเช็ค ขั้นตา่ ฉบบั ละ ๑๐ บาท โดยการเขียนอกี
๑ ฉบบั โดยระบวุ ่า “ค่าธรรมเนียมการเรียกเกบ็ เช็คตา่ งเขตสานกั
หักบัญชี” เพ่อื เป็นหลกั ฐานในการรับเงนิ จากผูเ้ สียภาษี

36

11.การเปรยี บเทียบโดยกาํ หนดค่าปรบั ตามมาตรา 3 ทวิ (1)

(1) อาํ นาจการเปรียบเทยี บโดย ในเขตกรุงเทพมหานคร
กาํ หนดคา่ ปรบั
สรรพากรพนื้ ทห่ี รอื ผรู้ กั ษาราชการแทนสรรพากร
(2) อัตราการเปรยี บเทียบโดย สรรพากรอําเภอเฉพาะกรณียืน่ แบบฯหรอื ย่นื งบการเงนิ ล่าชา้
กําหนดค่าปรบั
นอกเขตกรงุ เทพมหานคร

ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด

บุคคลธรรมดาประจาํ ปี ครง่ึ ปี หรอื ภาษเี งินไดห้ กั ณ ทจี่ ่าย ภาษีมลู ค่าเพ่มิ
ไมเ่ กนิ 7 วนั นับแต่วนั พน้ กําหนดเวลา 100.- บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันพน้ กาํ หนดเวลา 300.- บาท
เกิน 7 วัน นบั แตว่ ันพน้ กําหนดเวลา 200.- บาท เกิน 7 วนั นับแตว่ นั พ้นกาํ หนดเวลา 500.- บาท

ภาษีเงนิ ได้นติ ิบุคคลประจําปี คร่งึ ปี เพิกเฉยหรือปฏิเสธไมเ่ สยี อากร หรือไมข่ ดี ฆา่ แสตมป์
ภาษเี งินไดน้ ติ บิ คุ คล สาํ หรับการจําหน่ายกําไร ไปต่างประเทศ ไมเ่ สียอากร 200.- บาท
ไมข่ ีดฆา่ อากรแสตมป์ 100.- บาท
ไม่เกนิ 7 วนั นับแต่วันพ้นกาํ หนดเวลา 1,000.- บาท
เกิน 7 วัน นับแตว่ ันพ้นกาํ หนดเวลา 2,000.- บาท กรณีนําส่งหรือเสียอากรเปน็ ตวั เงินเกนิ กําหนดเวลาหรือฝ่า
มลู นิธหิ รือสมาคม ยนื่ แบบเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคล ฝนื มาตรา 123 ทวิ
ไมเ่ กิน 7 วัน นบั แตว่ นั พน้ กาํ หนดเวลา 500.- บาท
200.- บาท
เกนิ 7 วนั นับแต่วนั พ้นกาํ หนดเวลา 1,000.- บาท
37

12. การเบกิ อากรแสตมป์

คลังแสตมปอ์ ากรสาํ นักงานสรรพากรพ้ืนท่สี าขา

ต้นู ริ ภัย กําปั่น หรอื ตู้เหลก็ หรือหบี เหลก็ อันม่นั คงซ่ึงใช้สําหรับเกบ็ รกั ษาเงินและแสตมปอ์ ากร
ของส่วนราชการหรือของอําเภอ หรือใชเ้ ก็บรกั ษาเงินและแสตมป์อากรของสํานักงานสรรพากร
พนื้ ทสี่ าขา และจําหนา่ ยใหแ้ กผ่ ซู้ ื้อแสตมป์อากรหรอื ส่วนราชการอ่ืน

การแตง่ ต้งั ประธานกรรมการคลงั แสตมป์อากรสํานกั งานสรรพากรพื้นทส่ี าขา

1. ใหส้ รรพากรพื้นท่ีแต่งตัง้ สรรพากรอําเภอ เป็นประธานกรรมการคลังแสตมปอ์ ากรสํานกั งาน
สรรพากรพน้ื ทส่ี าขา และ/หรอื ข้าราชการตามทีเ่ ห็นสมควร ตามแบบ อ.ส.๐๑.๒ เป็นกรรมการ
คลังแสตมป์อากรสาํ นกั งานสรรพากรพื้นที่สาขาหรอื ไม่กไ็ ด้
2. กรณีทีก่ รรมการคลังแสตมปอ์ ากรตาม (2) ผ้ใู ดไมส่ ามารถปฏิบัติหนา้ ทไี่ ด้ ให้กรรมการ
คลงั แสตมป์อากรที่สรรพากรพ้ืนที่ แตง่ ต้ังลําดับถัดไปปฏิบัติหน้าทีแ่ ทน โดยใหม้ กี ารสง่ มอบ
และรับมอบลกู กุญแจหรือรหสั ลับเปดิ หอ้ งมน่ั คงดว้ ย

38

12. การเบกิ อากรแสตมป์ (ตอ่ )

หน้าทขี่ องกรรมการแสตมปอ์ ากรของสาํ นกั งานสรรพากรพนื้ ที่สาขา

1. ตรวจรับแสตมปอ์ ากรทไ่ี ดร้ บั จากกรรมการเบิกแสตมปอ์ ากรกบั รายการทขี่ อเบิกในแบบคาํ ขอเบิกแสตมปอ์ ากร (อ.ส.๐๑) ให้
ถกู ต้องครบถ้วน กรณีถูกตอ้ งครบถ้วนให้ลงลายมอื ชอ่ื สง่ มอบและรบั มอบไว้เป็นหลกั ฐานตามแบบการสง่ มอบและรบั มอบ
แสตมปอ์ ากร (อ.ส.๐๑.๔) พรอ้ มกบั จัดทาํ ใบตอบรบั แสตมปอ์ ากร (อ.ส.๐๑.๘ สรรพากรอําเภอแลว้ แต่กรณี หากไดร้ ับแสตมป์
อากรไม่ครบถ้วน ใหส้ อบขอ้ เทจ็ จริง แลว้ รายงานผูบ้ งั คับบญั ชาและแจง้ ไปยังหนว่ ยงานทจี่ า่ ยเพ่อื ดําเนนิ การตอ่ ไป
2. ใหจ้ ดั เก็บแบบ อ.ส.๐๑ อ.ส.๐๑.๑ อ.ส.๐๑.๒ อ.ส.๐๑.๓ อ.ส.๐๑.๔ อ.ส.๐๑.๕ อ.ส.๐๑.๖ อ.ส.๐๑.๗ และ อ.ส.๐๑.๘
เรียงลาํ ดับไวเ้ ปน็ ปงี บประมาณ

สถานทีอ่ ากรเบิกแสตมป์อากร สาํ นักงานสรรพากรพน้ื ท่สี าขา ใหเ้ บกิ ตอ่ คลังแสตมป์อากรสํานักงานสรรพากรพ้นื ที่

ผมู้ ีอํานาจเบกิ แสตมปอ์ ากร สํานกั งานสรรพากรพน้ื ที่สาขา ใหเ้ บิกต่อคลงั แสตมปอ์ ากรสาํ นกั งานสรรพากรพ้นื ที่

การส่งตวั อยา่ งลายมือช่ือ 1. ใหผ้ ูเ้ บกิ แสตมป์อากรสง่ ตวั อยา่ งลายมือชอ่ื ผ้เู บกิ แสตมปอ์ ากรหลัก จาํ นวน ๑
ผเู้ บิกแสตมปอ์ ากร คน และผู้เบกิ แสตมป์อากรแทน จาํ นวน ๒ คน (ถ้าม)ี ตามแบบ อ.ส.๐๑.๑ ไป
สํานักงานสรรพากรพื้นท่ี
2. กรณีมกี ารเปล่ียนแปลงผ้เู บิกแสตมป์อากร ให้ส่งตัวอยา่ งลายมือชอื่ ของผ้เู บกิ
แสตมปอ์ ากรคนใหม่ไปแทนตัวอย่างลายมอื ช่อื ของผู้เบกิ แสตมป์อากรคนเดิม

39

12. การเบิกอากรแสตมป์ (ต่อ)

หลักเกณฑก์ ารเบกิ แสตมปอ์ ากรของสาํ นักงานสรรพากรพื้นท่ีสาขาแต่ละคร้งั

การเบกิ แสตมปอ์ ากรของสํานกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขาแตล่ ะคร้งั ใหผ้ ู้เบิกแสตมป์อากรตาม(5) แต่งตงั้ ให้ขา้ ราชการเป็นกรรมการ
เบิกแสตมปอ์ ากร ดงั นี้
1. สรรพากรอาํ เภอ และขา้ ราชการ ประเภทวิชาการ ต้ังแตร่ ะดบั ปฏบิ ตั กิ าร หรอื ประเภททั่วไป ระดบั ปฏบิ ตั ิงาน รวม ๒ คน เบกิ
แสตมป์อากรได้ไมเ่ กนิ วงเงินแสตมปอ์ ากรทกี่ าํ หนดให้เกบ็
2. สรรพากรอําเภอ เบิกแสตมป์อากรได้ไมเ่ กนิ วงเงินแสตมปอ์ ากรทก่ี าํ หนดใหเ้ กบ็ รักษา แต่ไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาท (สามหมื่นบาท
ถว้ น) ยกเว้นในเขตกรุงเทพมหานคร จงั หวัดนนทบรุ ี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ ให้เบกิ แสตมป์อากรไดไ้ มเ่ กิน
๑๐๐,๐๐๐ บาท (หน่งึ แสนบาทถว้ น)

การเบกิ แสตมป์อากรแตล่ ะคร้งั ให้ผู้เบิกแสตมป์อากรจัดทาํ คาํ ขอเบิกแสตมปอ์ ากร(อ.ส.๐๑) จํานวน ๓ ฉบับ มอบ อ.ส.๐๑ ฉบับที่ ๑ และฉบบั ที่ ๒ ให้
กรรมการเบกิ แสตมปอ์ ากรนาํ ไปเบกิ แสตมปอ์ ากรณ สถานทต่ี ามขอ้ ๑๔ สว่ นฉบบั ท่ี ๓ ใหเ้ กบ็ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน

ใหส้ าํ นักงานสรรพากรพื้นทส่ี าขาเก็บรกั ษาแสตมป์อากรไว้ในตนู้ ริ ภัยทใี่ ชเ้ กบ็ รักษาเงนิ ของอําเภอหรือที่กรมสรรพากรกาํ หนดหรอื ใหค้ วามเห็นชอบ

ทกุ วันทําการตามปกติ ให้กรรมการคลังแสตมปอ์ ากรสาํ นกั งานสรรพากรพ้นื ทสี่ าขารับมอบแสตมป์อากรจากกรรมการเกบ็ รกั ษาเงิน
เพอ่ื จําหนา่ ยแก่ผซู้ ้อื แสตมป์อากร

40

12. การเบิกอากรแสตมป์ (ตอ่ )

การขอเป็นคสู่ ัญญาซอ้ื แสตมปอ์ ากรไปจําหน่าย

1. ให้บุคคล หรอื นติ ิบุคคล หรือส่วนราชการ ที่มีภูมิลาํ เนาหรอื สํานักงานหรอื สถานประกอบการตงั้ อยู่พ้นื ท่ีรับผิดชอบของ
สาํ นกั งานสรรพากรพื้นทสี่ าขาท่ปี ระสงคจ์ ะขอเปน็ คสู่ ญั ญาซอ้ื แสตมปอ์ ากรไปจาํ หนา่ ย ซึ่งมิใช่เป็นผใู้ ชแ้ สตมปอ์ ากรเอง
และตกลงท่ีจะปฏิบัตติ ามเงอื่ นไขทก่ี าํ หนด จัดทําคําขอเปน็ คู่สญั ญาซอื้ แสตมป์อากรไปจาํ หนา่ ย (อ.ส.๑๑.๑) พร้อมเอกสาร
บตั รประจําตวั ประชาชน หนงั สือรับรองการจดั ตงั้ นติ ิบคุ คล หรือหนังสอื รับรองการจดั ตง้ั สว่ นราชการ สาํ เนาทะเบียนบ้าน
ท่ีตั้งสถานประกอบการ สญั ญาเชา่ บ้านหรือหนงั สอื ยินยอมให้ใช้สถานทต่ี ้ังสถานประกอบการ แผนทีต่ ง้ั สถานประกอบการ
และเอกสารอน่ื ทกี่ าํ หนดไว้ในแบบ อ.ส.๑๑.๑ ย่ืนต่อสรรพากรอําเภอ สํานกั งานสรรพากรพนื้ ทส่ี าขา
2. เมอื่ ได้รับคําขอเปน็ คู่สัญญาซือ้ แสตมปอ์ ากรไปจําหน่าย (อ.ส.๑๑.๑) แล้ว ใหเ้ จา้ หน้าที่ลงรับคําขอในระบบงานการ
จัดทําทะเบียนคุมรายการและจัดทําบญั ชดี ว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ (TCL) แลว้ เสนอให้สรรพากรอาํ เภอเปน็ ผ้พู จิ ารณาอนุมตั ิ
3. ใหส้ รรพากรอําเภอพจิ ารณาคําขอเป็นคสู่ ญั ญาซือ้ แสตมป์อากรไปจาํ หนา่ ย (อ.ส.๑๑.๑) โดยพจิ ารณาคุณสมบตั ขิ องผู้
ยนื่ คาํ ขอ ซึ่งต้องเป็นการซ้ือแสตมป์อากรไปจาํ หนา่ ยอีกทอดหน่งึ และมใิ ช่เปน็ ผใู้ ชแ้ สตมป์อากรนัน้ เอง และความเหมาะสม
ของสถานท่ตี ั้งสถานประกอบการ ตามเอกสารท่ีย่นื พรอ้ มคาํ ขอ
4. เม่อื สรรพากรอําเภอพิจารณาอนมุ ตั ิหรือไมอ่ นุมตั ิคาํ ขอเปน็ คู่สญั ญาซอ้ื แสตมปอ์ ากรไปจาํ หนา่ ย (อ.ส.๑๑.๑) แล้ว ให้
แจง้ ให้ผยู้ ื่นคาํ ขอทราบ กรณีอนมุ ตั ิใหจ้ ดั ทาํ สัญญาซอ้ื แสตมปอ์ ากรไปจาํ หนา่ ย (อ.ส.๑๑) จํานวน ๑ ชดุ ๒ ฉบับ ตน้ ฉบบั
เก็บไว้เป็นหลกั ฐาน และมอบคูฉ่ บบั ให้คูส่ ัญญาไวเ้ ป็นหลักฐาน ๑ ฉบับ กรณีไมอ่ นุมัตใิ หร้ ะบเุ หตุผลไวใ้ นคําสง่ั และสาํ เนา
ใหผ้ ูย้ ่นื คาํ ขอทราบ
5. สญั ญาซอ้ื แสตมป์อากรไปจําหนา่ ย (อ.ส.๑๑) ใหม้ กี ําหนดเวลา ๓ ปี นับแต่วันทที่ าํ สญั ญาและให้เกบ็ รักษาเรยี งลาํ ดบั ไว้
เปน็ ชุดเดียวรวมกันกบั แบบ อ.ส.๑๑.๑ ตามปงี บประมาณ

41

12. การเบิกอากรแสตมป์ (ต่อ)

การซื้อแสตมป์อากร

1. ให้ผ้ขู อซอื้ แสตมปอ์ ากรกรอกรายการจาํ นวนแสตมปอ์ ากรท่ีตอ้ งการซอ้ื ในแบบขอซอ้ื แสตมปอ์ ากร (อ.ส.๑๐) จํานวน ๑
ฉบับ ให้เจา้ หนา้ ทร่ี บั ชาํ ระเงินเบกิ แสตมปอ์ ากรจากกรรมการคลงั แสตมป์อากรตามจาํ นวนท่รี ะบุ รับชําระเงนิ และออก
ใบเสร็จรับเงิน พรอ้ มมอบแสตมป์อากรและใบเสร็จรับเงินให้แกผ่ ู้ซื้อ
2. กรณซี ้อื แสตมปอ์ ากรตง้ั แต่ ๑,๐๐๐ บาทขึ้นไป ให้หักเงนิ ค่าจาํ หนา่ ยแสตมปอ์ ากรในอัตรารอ้ ยละ ๓ เพือ่ เป็นส่วนลดให้แก่
ค่สู ญั ญาซอ้ื แสตมป์อากรไปจาํ หนา่ ย โดยหักจา่ ยจากเงินทีซ่ อื้ แสตมป์อากรในแต่ละคร้ัง ท้ังนี้ ใหถ้ ือปฏบิ ัติตามข้อบงั คบั
กระทรวงการคลังว่าดว้ ยการหกั เงินคา่ จาํ หนา่ ยแสตมป์อากร เพือ่ เป็นสว่ นลดใหแ้ กผ่ ซู้ ้อื แสตมปอ์ ากรไปจาํ หนา่ ย พ.ศ. ๒๕๕๐
ลงวนั ที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
3. แบบขอซือ้ แสตมปอ์ ากร (อ.ส.๑๐) ใหเ้ กบ็ เรยี งตามลําดบั ไวเ้ ปน็ ปงี บประมาณ

การจําหนา่ ยปลกี แสตมป์อากร

1. การจําหนา่ ยปลีกแสตมปอ์ ากรให้ลงรายการในแบบนาํ ส่งเงนิ จากการจําหนา่ ยปลกี แสตมปอ์ ากรตามแบบ อ.ส.๑๐.๑ เม่อื ส้ิน
วันให้นาํ สง่ เงนิ จากการจาํ หนา่ ยปลกี แสตมปอ์ ากร โดยรวมยอดจาํ นวนแสตมป์อากร ตามชนดิ ราคา และจํานวนรวมทัง้ สนิ้ แลว้
ออกใบเสร็จรบั เงิน โดยนาํ ต้นฉบับใบเสร็จรับเงนิ เย็บตดิ กับแบบ อ.ส.๑๐.๑ และเกบ็ รักษาเรียงลาํ ดับไวเ้ ป็นปีงบประมาณ
2. กรณีระบบงานการจัดทาํ ทะเบียนคมุ รายการและจดั ทําบญั ชดี ว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ (TCL) ยังไมม่ รี ายการออกใบเสรจ็ รับเงิน
ตามแบบ อ.ส.๑๐.๑ ให้ออกใบเสร็จรับเงนิ สําหรับแบบ อ.ส.๑๐ ไปพลางก่อนจนกว่าจะไดป้ รับปรงุ แล้วเสร็จ

42

12. การเบกิ อากรแสตมป์ (ต่อ)

ทกุ ส้ินวันทาํ การ ใหส้ รรพากรอาํ เภอปฏิบัติ ดงั นี้

1. บนั ทึกรายการจา่ ยแสตมป์อากรตามแบบ อ.ส.๑๐ บนเครอื ขา่ ยรัษฎากร > ระบบงานย่อย > ระบบบรหิ ารการ
เบกิ จ่าย เก็บรกั ษา และจาหน่ายแสตมปอ์ ากร ตามคมู่ ือท่กี รมสรรพากรกาหนด
2. ตรวจจานวนแสตมป์อากรคงเหลือกบั รายการคงเหลอื ในระบบบรหิ ารการเบกิ จ่าย เก็บรกั ษา และจาหนา่ ย
แสตมป์อากรใหถ้ ูกตอ้ งตรงกนั
3. ลงรายการแสตมปอ์ ากรคงเหลือในรายงานเงินและแสตมป์คงเหลอื ประจาวนั
4. มอบแสตมปอ์ ากรท่เี หลือจากการจาหน่าย ใหก้ รรมการเกบ็ รักษาเงนิ เพอ่ื นาเขา้ เก็บรกั ษาไว้ในตนู้ ิรภัย

อากรแสตมป์ มี 3 ชนดิ

ดวงละ 1 บาท สีฟา้ ดวงละ 5 บาท สีเขยี ว ดวงละ 20 บาท สีแดง
43

13. การคนื เงนิ ภาษอี ากร

ผู้มีอาํ นาจอนมุ ัตคิ ืนเงินภาษอี ากรพร้อมดอกเบ้ยี (ถ้าม)ี ได้แก่

- อธิบดี สาหรับผู้ขอคนื ทั่วราชอาณาจกั ร
- สรรพากรพืน้ ที่ สาหรบั ผ้ขู อคืนในพื้นที่รบั ผิดชอบ
- ข้าราชการทดี่ ารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดบั ชานาญการพเิ ศษ ภายในวงเงนิ ไม่เกิน 1,000,000 บาท สาหรับผู้ขอคืนในพน้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบ
- ขา้ ราชการทีด่ ารงตาแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชานาญการ ภายในวงเงินไมเ่ กิน 100,000 บาท สาหรับผูข้ อคืนในพืน้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ
- ขา้ ราชการที่ดารงตาแหนง่ ประเภทวิชาการ ระดบั ปฏิบตั ิการ ภายในวงเงินไมเ่ กนิ 10,000 บาท สาหรบั ผูข้ อคืนในพน้ื ทร่ี ับผดิ ชอบ”

ใหห้ นว่ ยพิจารณาคนื ภาษที ําหนงั สอื แจง้ คนื เงนิ ภาษอี ากร (แบบ ค.20 แบบ ค.21 หรือ
ค.21.1) ทอ่ี อกเลขทแี่ ลว้ ให้ผู้ขอคนื เพ่ือใช้เป็นหลกั ฐานในการขอรบั เงนิ คืน

เมื่อสํานกั งานสรรพากรพนื้ ที่สาขาได้รบั หนงั สือแจง้ คืนเงนิ ภาษีอากร และสําเนาทะเบียนหนงั สอื
แจง้ คืนเงินภาษอี ากร (แบบ ค.23) จากหน่วยพิจารณาคืนภาษี ใหส้ อบเลขท่ี หนังสอื แจ้งคืน
เงินภาษีอากรว่าต่อเนอื่ งกับฉบบั ก่อนทเี่ คยได้รับไวห้ รือไม่

44

13. การคนื เงินภาษีอากร (ต่อ)

การเตรยี มเงินเพอ่ื จ่ายคนื เงินภาษีอากรของสาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ท่ีสาขา

1. การหกั รายรับจา่ ยขาด: ใหต้ รวจจาํ นวนเงนิ ภาษอี ากรทตี่ อ้ งจ่ายคืนในหนงั สอื แจง้ คืนเงนิ ภาษีอากรกบั เงินภาษอี ากรทจี่ ดั เกบ็ ได้ 45
เฉพาะที่เปน็ เงนิ สดและยงั ไมไ่ ด้นาํ สง่ คลงั ในบญั ชีเงินรายได้ แผ่นดิน แลว้ จงึ ทําการหักรายรบั เทา่ กบั จาํ นวนเงนิ ทต่ี อ้ งจ่ายคนื ในหนงั สอื
แจ้งคืนเงินภาษอี ากร (ให้หักจากยอดสุทธทิ เี่ หลอื จากการหกั เงินชดเชยการสง่ สนิ คา้ ออกแล้ว)จากบัญชี เงนิ รายได้แผ่นดนิ โดยหกั จากเงนิ
รายรบั ประเภทภาษอี ากรทขี่ อคนื กอ่ น ถา้ ไมม่ จี งึ ให้หกั จากรายรบั ประเภทภาษอี ากรอน่ื โอนเขา้ ทะเบียนคมุ เงนิ นอกงบประมาณประเภทเงนิ
ฝากภาษีอากรจา่ ยคนื สาํ หรับการคนื เงินภาษี ธุรกจิ เฉพาะและภาษกี ารคา้ ให้หกั เงนิ รายไดส้ ่วนทอ้ งถน่ิ ตามสดั สว่ นทตี่ อ้ งคนื ออกจาก
ทะเบยี นคมุ เงินนอกงบประมาณประเภทรายไดส้ ่วนทอ้ งถน่ิ ดว้ ย

ตามขอ้ บงั คดั กระทรวงการคลงั ว่าด้วยการรายรบั จา่ ยขาดและการถอนคนื เงนิ รายรับการหกั รายรับจา่ ยขาดหมายความว่าการหกั
รายจ่ายจากเงนิ รายรับทตี่ ้องนําสง่ เข้าบญั ชีเงนิ คงคลงั บญั ชีท่ี 1 ซึ่งตามขอ้ กาํ หนดข้างตน้ นนั้ เป็นรายจา่ ยทตี่ ้องจา่ ยคนื ใหแ้ กบ่ ุคคลใดๆ
เพราะเปน็ เงินอนั ไมพ่ งึ ตอ้ งชาํ ระใหแ้ กร่ ัฐบาล

การเตรยี มเงินเพอื่ จ่ายคืนเงนิ ภาษีอากรจากเงินสดที่ไดจ้ ากเงินภาษีอากรทจ่ี ดั เกบ็ ไดน้ ั้นสว่ นมากเป็นการจา่ ยคนื ภาษเี งนิ ได้บคุ คลธรรม
ดารจากกองคลงั และดําเนินการบนั ทกึ การโอนเงนิ บัญชี (บ.ช.14) การโอนเงินรายไดแ้ ผน่ ดนิ ทจี่ ดั เก็บได้เปน็ เงนิ ฝากภาษอี ากรจา่ ยคนื
ประเภทเงนิ 150

2. ขอถอนคนื เงินรายรบั : กรณไี มอ่ าจหักรายรบั (1)ได้ เพราะเงนิ ภาษีอากรท่ตี อ้ งจา่ ยคนื เปน็ เงนิ จาํ นวนมากหรือเป็นภาษีอากรที่
กฎหมายบญั ญตั ิให้ยกเลกิ การจัดเกบ็ แล้ว หรอื ในกรณีที่ไม่สามารถจา่ ยคืนไดภ้ ายใน 15 วนั นับแต่วนั ที่ไดร้ บั หนังสอื แจง้ คนื เงินภาษอี ากร
ให้แจง้ ขอถอนคนื เงินรายรบั ตอ่ สาํ นักงานสรรพากรภาคในกรงุ เทพมหานครหรือสาํ นกั งานสรรพากรจงั หวัดหรอื สาํ นกั งานสรรพากรอาํ เภอ
ทต่ี ั้งสํานักงานคลงั จงั หวดั ณ อําเภอ แล้วแตก่ รณี โดยส่งสาํ เนาหรือภาพถา่ ยหนงั สอื แจง้ คนื เงินภาษอี ากรฉบบั ท่ี 2 ไปดว้ ยภายใน 5 วนั
นบั แต่วนั ทีท่ ราบว่าไมส่ ามารถหักรายรบั ได้ และหมายเหตุในสําเนาแบบ ค.23 ไว้ด้วย

13. การคนื เงินภาษีอากร (ตอ่ )

เมื่อไดร้ บั เงนิ จากคลัง ให้แจง้ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ที่สาขาภายใน 3 วันนบั แต่วนั ทีไ่ ดร้ บั เงิน
เพื่อให้สาํ นกั งานสรรพากรพื้นที่สาขา เบิกเงินนาํ ไปจา่ ยแก่ผู้ขอคนื ตามคู่มอื การบัญชสี ําหรบั
หนว่ ยงานย่อย หลังจากนน้ั ใหส้ าํ นกั งานสรรพากรพ้ืนที่สาขา บันทกึ ข้อมลู ในระบบฯโดยใช้
แบบบนั ทกึ การโอนบญั ชี (บ.ช.14) ประเภทเงนิ 180 และการจ่ายโอนเงนิ รายไดถ้ อนคนื และ
เงินรายได้ส่วนทอ้ งถน่ิ ถอนคนื เปน็ เงนิ ฝากภาษีจา่ ยคืน ประเภทเงนิ 190

คําอธบิ ายประเภทเงิน
150 การโอนเงนิ รายไดแ้ ผน่ ดนิ ท่ีจัดเก็บไดเ้ ป็นเงินฝากภาษีอากรจ่ายคืน
170 การจ่ายโอนเงนิ ฝากภาษอี ากรจ่ายคืน (กรณีหกั รายรบั จ่ายขาด) กลับเป็นรายไดแ้ ผ่นดิน
180 การวางฎกี าถอนคืนเงนิ จากคลงั เพื่อจา่ ยคนื ภาษี
190 การจา่ ยโดอนเงินรายได้ถอนคนื และเงินรายไดส้ ่วนทอ้ งถิ่น ถอนคนื เป็นเงินฝากภาษีจ่ายคนื
210 การจ่ายโอนเงินฝากภาษอี ากรจ่ายคนื (กรณีวางฎกี าถอนคืน) กลบั เปน็ รายได้แผน่ ดนิ และเงนิ
รายไดส้ ว่ นท้องถนิ่
220 การนําเงินรายได้ถอนคืน และเงนิ รายได้สว่ นท้องถิ่นถอนคืนสง่ คนื คลัง

46

13. การคืนเงินภาษอี ากร (ตอ่ )

เม่อื ผูข้ อคืนนาํ หนงั สอื แจง้ คนื เงนิ ภาษอี ากรฉบบั ที่ 1 หรอื สําเนาหนงั สอื แจง้ คนื เงินภาษอี ากรพรอ้ มแบบ ค.35 (กรณี
หนังสอื แจ้งคืนเงินภาษอี ากรชาํ รุดหรอื สญู หาย) มาขอรบั เงนิ ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีตรวจ หนังสือแจง้ คืนเงินภาษอี ากรฉบับนน้ั กบั ฉบบั
ของอาํ เภอ (ฉบับที่ 2) ว่าถกู ตอ้ งตรงกันหรอื ไม่

เมอ่ื เจา้ หน้าท่เี หน็ วา่ ถกู ตอ้ งตรงกนั ให้ผ้รู บั เงนิ ลงลายมอื ชอ่ื แสดงการรับเงินไวเ้ ป็นหลกั ฐานในหนงั สอื แจง้ คนื เงินภาษีอากร
ทั้งฉบบั ท่ี 1 และฉบับที่ 2 พรอ้ มกนั น้ใี หเ้ จ้าหน้าทบ่ี นั ทึกรบั รองการจา่ ยเงนิ และลงลายมอื ชือ่ ไว้ในหนังสอื แจ้งคืนเงนิ ภาษีอากร
น้นั ดว้ ย แล้วจึงจ่ายเงนิ แกผ่ ้ขู อคนื จากเงินทเี่ ตรยี มไวเ้ พื่อจา่ ยคืนเงนิ ภาษอี ากร

การขอรับเงนิ ภาษอี ากรคืนต้ังแต่ 1,000 บาทข้นึ ไป ผูข้ อรบั เงนิ คืนตอ้ งยน่ื ภาพถ่ายบัตรฯ ท้งั ของผู้มอบฉนั ทะและผูร้ ับมอบ
ฉนั ทะซ่งึ มีคํารับรองวา่ "สําเนาถูก ต้อง" โดยผู้มอบฉนั ทะและผู้รบั มอบฉันทะไดล้ งลายมอื ชอ่ื ในสาํ เนาบัตรฯ นั้นดว้ ย เพ่ือแนบ
กบั หนังสอื แจ้งคนื เงนิ ภาษอี ากรฉบบั ท่ี 1 และแนบภาพถา่ ยหนงั สือรบั รองการจดทะเบียนของนิติบคุ คลโดยผมู้ อี าํ นาจลง นาม
ผกู พันนติ ิบุคคลนนั้ ลงลายมอื ช่อื รับรองว่า "สําเนาถกู ตอ้ ง" ในภาพถ่ายดงั กลา่ ว เพื่อแนบกับหนงั สอื แจ้งคนื เงินภาษีอากรฉบบั ท่ี 1

กรณีผ้ขู อคืนไม่มาขอรับเงนิ ภาษอี ากรคนื ภายใน 30 วนั นบั แตว่ ันท่หี กั รายรบั จา่ ยขาดหรือ วันที่ได้รบั เงินจากคลงั ให้โอน 47
เงินจากบัญชเี งินฝากภาษอี ากรจา่ ยคืนกลบั เขา้ บญั ชีเงินรายได้แผน่ ดินในประเภทภาษอี ากรทเ่ี กย่ี วข้องทนั ทีอยา่ งชา้ ไมเ่ กิน 3
วนั ทาํ การนับแตว่ ันครบกาํ หนด 30 วนั

กรณผี ู้ขอคืนมาขอรบั เงินภาษีอากรคนื หลงั จากโอนเงนิ กลบั เข้าบัญชเี งินรายไดแ้ ผน่ ดินแลว้ ให้อําเภอดําเนินการหกั รายรบั จา่ ย
ขาดหรอื ถอนคืนเงนิ รายรับเพ่อื จ่ายคืนใหม่

13. การคืนเงนิ ภาษีอากร (ต่อ)

การหักกลบลบหน้ภี าษีอากร และหนี้ตามหนังสือแจง้ การสัง่ คนื เงนิ ภาษอี ากรผิดพลาด เม่อื สํานักงานสรรพากรพ้ืนที่
สาขาได้ทาํ การหกั รายรบั จา่ ยขาดหรือได้รับเงินจากคลังกรณีถอนคนื เงนิ รายรบั เพอ่ื การจ่ายคืนแล้วให้ปฏิบัติดังนี้

กรณผี ขู้ อคืนมหี น้ภี าษีอากรค้างชาํ ระอยู่ (เว้นแตเ่ ปน็ หน้ีภาษีอากรระหว่างอทุ ธรณท์ ี่ได้รบั อนุมตั จิ ากอธิบดีให้
รอคาํ วินิจฉยั อุทธรณ์หรือคาํ พิพากษา และได้จดั ใหม้ ีการค้ําประกันหน้ที ั้งจาํ นวนแล้ว

1. ใหท้ าํ การหกั กลบลบหน้ีตามจํานวนทจี่ ะหักไดท้ นั ที โดยจัดทําแบบขอชาํ ระภาษีอากรคงค้าง (ท.ป.3)
แล้วออกใบเสร็จรบั เงนิ ลงบญั ชี และรายงานการเงินเสมอื นผูเ้ สียภาษอี ากร ชําระหน้ีภาษีอากรเปน็ เงนิ

2. ใหป้ ระทบั ตราหรือบันทกึ ในแบบขอชาํ ระภาษอี ากร คงคา้ ง และใบเสร็จรบั เงินดว้ ยตวั แดงวา่ "หกั กลบลบ
หน้ีกบั หนงั สือแจง้ คืนเงินภาษอี ากร (แบบ ค ...) เลขท.ี่ ..../......./...... ลงวันท.่ี ....../......./......." โดยกรอก
ข้อความในชอ่ งวา่ งใหค้ รบถว้ นพร้อมกบั ลงลายมอื ชอ่ื และตําแหน่งหวั หน้าสว่ นราชการท่ที ําการหักกลบลบหนี้
ด้วย สาํ หรบั ใบเสร็จรบั เงินใหแ้ นบกบั หนงั สือแจง้ คืนเงนิ ภาษอี ากรรอไว้เพ่ือมอบใหแ้ กผ่ ูข้ อคืนรายนั้นตอ่ ไป

3. กรอกรายการเกีย่ วกบั การหักกลบลบหน้ีไว้ในแบบบันทกึ การหักกลบลบหนี้ตามแบบทอี่ ธบิ ดกี ําหนด
(แบบ ค.60)

4. กรณที ี่หกั กลบลบหนแ้ี ลว้ ปรากฏวา่ ยงั มีเงินทตี่ ้องจา่ ยคืนเหลอื อยู่ ก็ให้จา่ ยคนื แกผ่ ขู้ อคืนต่อไป แต่ถ้ายงั มี
หน้คี า้ งชําระอยูอ่ กี กใ็ หแ้ จง้ ใหผ้ ูข้ อคืนรีบชาํ ระหน้ีนัน้ โดยพลัน

48

13. การคนื เงนิ ภาษอี ากร (ตอ่ )

การบนั ทกึ ขอ้ มูลกรณีคนื เงินภาษีอากร เมื่อผ้ขู อคนื มารบั คนื เงินภาษีอากร ให้เจา้ หนา้ ที่
จัดทําทะเบียนคมุ รายการฯ ดําเนินการ ดงั น้ี

1. เลอื กเมนบู ันทึกข้อมูลการคืนเงินภาษีอากร
2. บนั ทกึ เลขทห่ี นังสือแจ้งคนื เงนิ ภาษีอากร (NSN) เพื่อคน้ หาข้อมูลหนงั สอื แจ้ง-คนื เงนิ ภาษีอากร และข้อมลู ภาษีท่ไี ด้รบั คนื ไป
แล้ว (ถา้ มี) กรณีมหี นี้คา่ ภาษอี ากรในระบบ ให้ทําการหักกลบลบหน้ี
3. บนั ทึกขอ้ มูลการจ่ายคืนเงนิ ภาษอี ากร โดยเลือกประเภทเงินท่นี ํามาจา่ ยคืนว่าเป็นเงินจากการหกั รายรับจา่ ยขาดหรอื ถอนคืน
เงนิ รายรบั และเลือกรายการเงินท่นี ํามาจา่ ยคนื ว่าเปน็ เงนิ สด หรอื เชค็ กรณจี า่ ยคนื เงินภาษอี ากรเป็นเชค็ ใหบ้ นั ทกึ ขอ้ มูลเชค็
ได้แก่ หมายเลขเช็ค รหัสธนาคาร เลขท่ีสาขา วันทส่ี ง่ั จา่ ยและจาํ นวนเงินตามเชค็ ดว้ ย หรอื ใช้เครอื่ งอ่านเช็ค (ถ้ามี)
4. ใหผ้ ้ขู อคนื ลงนามในหนงั สือแจง้ คนื เงนิ ภาษอี ากรฉบบั ท่ผี ู้ขอคืนนาํ มาแสดงไว้เปน็ หลักฐานแล้ว จึงจ่ายเงินแก่ผู้ขอคนื
5. นําหนังสอื แจง้ การคืนเงินภาษีอากรสอดในเครอื่ งพิมพแ์ นวราบ ใหด้ ้านที่ผ้เู สียภาษลี งนามไว้ดา้ นบน แล้วส่ังพมิ พร์ ายการ
เพ่ือให้ระบบฯพิมพ์เลขระบเุ อกสาร (UID) บนหนังสอื แจ้งคืนเงินภาษีอากร ระบบฯ จะจดั เกบ็ ข้อมลู ซงึ่ แสดงสถานะวา่ ได้คนื เงิน
ภาษีอากรแล้ว
5. กรณีจา่ ยคนื เงนิ ภาษอี ากรเขา้ บญั ชีเงินฝากธนาคารของผขู้ อคนื เมอ่ื ได้รับใบฝากเงนิ (Pay-inSlip) จากธนาคารให้ดาํ เนินการ
เชน่ เดยี วกบั (2) (3) และ (5)
6. กรณที ่ีไมส่ ามารถหกั กลบลบหน้ีได้ เช่นมหี นค้ี า่ ภาษอี ากรทไี่ ด้รับอนมุ ตั ใิ หท้ ุเลาการชาํ ระภาษี หรือไดร้ ับอนมุ ัติใหผ้ ่อนชาํ ระ
ตามระเบียบฯ หรอื มหี นงั สอื แจ้งการสั่งคืนภาษอี ากรผดิ พลาด (ค.31) เป็นตน้ ใหบ้ นั ทกึ ข้อมูลการคนื เงนิ ภาษโี ดยเลอื กเมนู
“ดําเนนิ ธรุ กรรมการคนื เงินโดยไม่หกั กลบเพิม่ เติม”

49

13. การคืนเงินภาษอี ากร (ต่อ)

การตรวจสอบหนี้ภาษีอากร และคํารบั รองการจา่ ยเงินคนื ภาษี

1. เจา้ หนา้ ที่ต้องดาํ เนินการตรวจสอบหน้ีภาษีอากร มีขอ้ ความในการตรวจสอบว่า .....ไดต้ รวจสอบหนี้ภาษี
อากรค้างของ..................................ผขู้ อคนื รายนแี้ ล้ว ปรากฏว่า พบหนภี้ าษอี ากรค้างเปน็ จํานวนเงนิ และได้
ดําเนินการหกั กลบลบหนท้ี ้ังหมด หรอื หักกลบลบหนี้บ่างส่วนเป็นจํานวนเงนิ คงเหลือหน้ีคา้ งเป็นจาํ นวนเงนิ .....
บาท หรือ ไมพ่ บหนี้ภาษีอากร พรอ้ มกับลงนามผลการตรวจสอบหน้คี ้างดา้ นหลงั ของหนงั สอื แจ้งคนื เงิน

2. เจ้าหนา้ ท่ีตอ้ งกรอกรายละเอียดเกย่ี วกบั การจา่ ยคืนใหค้ รบถ้วนดังต่อไปนี้
2.1 เงินทจ่ี า่ ยได้มาโดยวธิ ี การหักรายรับจา่ ยขาด หรอื ถอนคืนเงนิ รายรบั
2.2 ไดจ้ า่ ยเงนิ คืนใหแ้ ก่ ผู้ขอคนื ผูร้ บั มอบฉนั ทะ หรอื ผ้รู บั มอบอาํ นาจ เมื่อวนั ที่..... บตั รประจาํ ตัวเลข

ประชาชน ข้าราชการ หรืออืน่ ๆ เลขท่ี....... ทีอ่ ยู่ และเบอร์โทร...
2.3 วธิ ีการจา่ ยเงิน จ่ายเป็นเงนิ สด จํานวน...... บาท จ่ายเป็นเช็คธนาคาร...........................เลขที่

...........................จาํ นวนเงนิ .............บาท หรอื หกั กลบลบหน้ี นําไปชําระภาษีอากรค้างตามใบเสร็จรับเงนิ
เลขที่........... เลม่ ท่ี............พรอ้ มกับลงนามรบั รองวา่ ได้ปฏบิ ัตทิ างบญั ชีแลว้ เมอ่ื วนั เดือนปี

3. ใหส้ รรพากรอาํ เภอหรอื ผรู้ ักษาราชการแทน ตรวจสอบการขอ้ มูลว่าถูกต้องครบถว้ นหรือไมพ่ ร้อมกบั ลงชอ่ื

50


Click to View FlipBook Version