The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

11ปก2-ผสาน-ผสาน (pdf.io)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

11ปก2-ผสาน-ผสาน (pdf.io)

11ปก2-ผสาน-ผสาน (pdf.io)

Professional Learning Community
ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์
สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 1
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน

กระทรวงศึกษาธกิ าร



สารบญั

กล่มุ สนบั สนุนการสอน
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

กลุ่มสนบั สนนุ การสอน

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ (PLC)

การปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรมการเรียนใหม้ ีวินบั และความรับผดิ ชอบ

ของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/5

นางสาววภิ ารตั น์ ประสพไทย กิจกรรมแนะแนว

ท่ีมาและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

การศกึ ษาวจิ ยั ในคร้งั นีท้ าใหท้ ราบถึงด้านพฤตกิ รรมการ 5. การสรุปผล
เรยี น เมอื่ นักเรียนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นผู้ รวิจัย
ท่ีมีวนิ ัยในตนเองและความรบั ผดิ ชอบ จะทาให้นักเรียน
สนใจเรียนและมคี วามขยันอดทน มแี รงจูงใจทาให้มีผล 4. การเกบ็ รวบรวม
การเรียนดีขน้ึ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน และครู ข้อมูล โดยการสังเกต
ทุกท่านท่ีจะนามาเสรมิ สรา้ ง พฒั นานักเรียนให้มีคุณค่า
มคี ุณประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรยี น สังคม 3. กาหนดวัตถุประสงค์ กลุ่ม
ประชากร สร้างเครือ่ งมอื การวจิ ัย

2. กาหนดกรอบความคดิ ในการวิจยั เพ่ือ
ทาการศึกษาความมวี นิ ยั ในตนเอง

1. ศกึ ษาหลกั การ ทฤษฎจี ติ วทิ ยาการศึกษา เจตคติ ทฤษฎี
แรงจูงใจ ทฤษฎกี ารเรียนรแู้ บบวางเง่ือนไข

วตั ถุประสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

เพอ่ื เปน็ การปรับเปลย่ี นพฤติกรรมการเรียนให้เป็นผู้มีวินัย การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยวิธีสอนแบบทานาย สังเกต อธิบายจะ
และความรับผิดชอบต่อหน้าที่และการเรียนดีข้ึนของ ชว่ ยส่งเสรมิ ใหนกั เรียนไดเ้ รยี นรูทเี่ นนกระบวนการไปสู่การสร้างองคความรู
นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6/5 โดยผู้เรียนมีสวนร่วมทุกขั้นตอน ทาใหเกิดมโนมติทางท่ีเกิดจากการเรียนรู
มาใชอธิบายคาตอบในคาถามของแบบวัดมโนมติทางจนได้คะแนนเฉลี่ยสูง
เพมิ่ ขน้ึ

กระบวนการแกป้ ัญหา สรปุ ผล

ลกั ษณะสาคญั ของการเรียนรู้แบบรว่ มมอื โทนาเมน้ (TGT) จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกต การสัมภาษณ์ ข้อมูลด้านการ
มีข้ันตอน 4 ข้นั ดงั นี้ เรียนของแต่ละวิชา การตอบแบบสอบถามจากนักเรียนและจากการใช้
แรงจูงใจเสรมิ แรงโดยใหค้ าชมเชยแก่นักเรียน รวมทั้งดูแลด้านการเรียน
การสอน (Teaching) ให้มีความรับผิดชอบ สนใจเรียน และติดตามจากผู้ปกครอง คุณครูที่เข้า
• นาเสนอบทเรียนใหมใ่ นรูปแบบของการอภิปราย สอนแตล่ ะวิชา ปรากฎว่า นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 มีความเอาใจ
ใส่ต่อการเรียน รับผิดชอบและสนใจเรียนมากขึ้น โดยสังเกตจาก
การจัดทีม (Team) บรรยากาศการเรียนภายในหอ้ งเรยี นที่เอ้ือตอ่ การเรียนรู้ ทาให้นักเรียนมี
• แบ่งนักเรียนเป็นกลมุ่ คละความสามารถ ความกระตอื รือรน้ ตอ่ การมาเรยี นและการเรยี น มคี วามต้งั ใจเรียน

การแขง่ ขนั (Tournament)
• มกั จัดในชว่ งท้ายบทเรยี น
การยอมรับความสาเรจ็ (Acceptance of Team)
• ทีมท่ีไดค้ ะแนนเฉล่ยี สงู สดุ จะเปน็ ผ้ชู นะ

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวชิ าชพี (PLC)

การพฒั นาสอ่ื การสอนเพอื่ เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น วิชา ศลิ ปะ 3
เร่อื งลายไทย ของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2/1 โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

ทีม่ าและความสาคัญ นางสาวอนุตรา สุวคันธกุล กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

กระบวนการสอนแบบซิปปาเป็นกระบวนการสอนอีก ขนั้ ตอนการดาเนนิ กิจกรรม
รูปแบบหนึ่งที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ใหม่และ
เนน้ กระบวนการกลุ่มจึงเป็นวิธีสอนที่มีความเหมาะสม 5. วเิ คราะหผ์ ล
ที่น่าจะนามาใช้ทดลองสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ 4. ทดสอบหลังเรยี น
ทางการเรียนดา้ นความรคู้ วามเข้าใจเรื่องลายไทยอย่าง 3. ดาเนนิ การทดลองกลุ่มตวั อยา่ ง
มปี ระสิทธิภาพวธิ หี น่ึง

วตั ถปุ ระสงค์ 2. ทดสอบก่อนเรยี น
1. ปฐมนิเทศเพอ่ื แจง้ บทบาท จุดประสงค์และวิธกี ารประเมิน

1 .เพ่ือพฒั นาสือ่ การเรยี นการสอนวชิ า เร่อื ง ลายไทย
2. เพอื่ เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง ลายไทย

กระบวนการแก้ปัญหา ผลการดาเนนิ งาน

การใชก้ ระบอนการสอนแบบซปิ ปา (CIPPA MODEL) ใน การจัดการเรยี นการสอนเรือ่ ง “ลายไทยน่ารู้” โดยการส่ือการสอนและ
การเพิ่มผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนกั เรียน พบวา่ ผลการทดสอบกอ่ น
เร่ืองลายไทย เรียนและผลทดสอบหลงั เรยี น ค่าเฉลี่ยระหว่างนกั เรยี นทเ่ี รียนดว้ ยหนงั สือ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์สูงกวา่ นักเรยี นทเ่ี รียนแบบปกติ

สรปุ ผล

ผลการพฒั นาสอื่ การสอนและเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี น วิชา
ศลิ ปะ3 เรือ่ งลายไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรม
ราชนิ ปู ถมั ภ์ พบว่า คะแนนจาการทดสอบหลังเรยี นสงู กว่าคะแนนจาการทดสอบกอ่ น
เรียน ผลทไ่ี ด้เนื่องจากผู้วิจัยได้พฒั นาส่ือการสอนในรปู แบบหนังสือ ประกอบดว้ ย
เนื้อหา 2 บท ดังนี้
- บทท่ี 1 ท่ีมาของลายไทย
- บทท่ี 2 รปู แบบของลายไทยและการนาไปใช้

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การวจิ ยั เร่อื ง การพฒั นาทกั ษะการวาดรูปทรงของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1/5 โดยใช้แบบฝึก

การออกแบบห้อง นายปรญิ ญา เยน็ นรนิ ทร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

ท่มี าและความสาคัญ ขนั้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม

เมือ่ มีการให้นกั เรียนวาดภาพออกแบบชื่อเล่นของตนเอง 1. ปฐมนิเทศเพอ่ื แจ้งบทบาท เปา้ หมาย จุดประสงคแ์ ละวธิ กี ารประเมนิ
เป็นภาษาไทยโดยให้เกิดมิติ ซึ่งแสดงความลึก จากจุดรวม 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น
สายตา 1 จุด จะพบปัญหาทานองเดียวกันคือ นักเรียนขาด
ทักษะในการวาดภาพแสดงความลึก อาจเป็นเพราะว่า 3. ดาเนนิ การทดลองกลมุ่ ตวั อย่าง
นักเรียนเนอ่ื งด้วยขาดความรู้ในการกาหนดจุดรวมสายตา จึง 4. ทดสอบหลงั เรยี น
ไม่สามารถพัฒนาสง่ิ ที่เป็นความคดิ ให้ออกมาเปน็ รปู ทรงได้
5. นาผลทไี่ ด้มาวิเคราะห์
วัตถปุ ระสงค์
ผลการดาเนินงาน

เพ่ือพัฒนาทักษะในการวาดรูปทรงก่อนเรียนและหลัง ผลการวิจัยเร่ืองการพัฒนาทักษะการวาดรูปทรงของนักเรียนชั้น
เรียนของนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1/5 โดยใช้แบบฝึกการ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/5 โดยใช้แบบฝกึ การออกแบบห้อง พบว่า นักเรียนมี
ออกแบบห้อง คะแนนเฉลยี่ เพิม่ ขนึ้ แสดงใหเ้ หน็ ว่าการให้ความรู้ เทคนิค และวิธีการ
ในการออกแบบห้องต่าง ๆ นัน้ ทาให้พัฒนาทักษะการวาดรูปทรงของ
กระบวนการแกป้ ัญหา นักเรียน นักเรยี นมคี วามกระตือรอื รน้ ในการทางานและมพี ฒั นาการท่ีดี
ขน้ึ

สรุปผล

กระบวนการแก้ปัญหาแบบ PDCA ผลการวจิ ยั เร่อื งการพฒั นาทักษะการวาดรปู ทรงของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปี
ที่ 1/5 โดยใช้แบบฝึกการออกแบบห้อง พบว่า คะแนนเฉลี่ยครั้งแรกของ
P การวางแผนในการทาแบบฝึกทกั ษะ นกั เรียนเท่ากับ 5.05 คะแนนเฉลี่ยครง้ั หลงั ของนกั เรียนเท่ากับ 8.27 ดังน้ัน
D ลงมอื ทาแบบฝกึ ทกั ษะ นักเรยี นมคี ะแนนเฉล่ียเพ่มิ ข้นึ เท่ากับ 8.27 – 5.05 = 3.22 แสดงให้เห็นว่า
การให้ความรู้ เทคนคิ และวิธีการในการออกแบบห้องตา่ ง ๆ น้นั ทาให้พฒั นา
ทักษะการวาดรปู ทรงของนกั เรยี น การเก็บชิ้นงานของนักเรียนเรียนแล้วเก็บ
รวบรวมขอ้ มูล การบันทกึ คะแนนในการทางานของนักเรยี นอย่างต่อเน่ือง จะ
เหน็ ว่านกั เรยี นมีความกระตือรอื รน้ ในการทางานและมพี ัฒนาการที่ดีมากขนึ้

C ตรวจสอบการวาดรปู ทรง

A นาขอ้ เสนอแนะมาปรบั ปรงุ

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวิชาชพี (PLC)

การพัฒนาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง ศลิ ปกรรมวัดสทุ ศั นเทพวรารามราชวรมหาวหิ าร สาหรับ
นักเรยี นระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสายปัญญาในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

นาย สมควร แหสกลุ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ทมี่ าและความสาคัญ ขนั้ ตอนการดาเนนิ กิจกรรม

การพัฒนาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เพ่ือเสริมสร้างระบบการ 1. ปฐมนิเทศเพอ่ื แจ้งบทบาท เปา้ หมาย จุดประสงคแ์ ละวธิ กี ารประเมนิ
จัดการเรียนการสอนทางวชิ าศิลปะ (ทศั นศิลป์) ซ่ึงจะเป็น 2. ทดสอบก่อนเรยี น
แนวทางในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้แก่
นกั เรยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และสามารถทาให้นักเรียนเกิด 3. ดาเนินการทดลองกลมุ่ ตวั อย่าง
ความรู้ความเข้าใจ ความรัก ความภาคภูมิใจในความ 4. ทดสอบหลงั เรียน
เป็นมาของศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ินของตน อีกท้ังยังเป็น
การปลกู ฝงั และสืบทอดศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ 5. นาผลที่ไดม้ าวเิ คราะห์
ของชาตใิ ห้คงอยู่สืบได้
ผลการดาเนินงาน
วตั ถปุ ระสงค์
ตารางผลการเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นก่อนและหลังเรยี นด้วยชดุ
เพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ศิลปกรรมวดั สทุ ัศนเทพวรารามราชวรมหาวหิ าร
ศลิ ปกรรมวดั สุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร สาหรับ โดยใช้ t-test for dependent sample
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสายปัญญา
ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

กระบวนการแกป้ ัญหา สรปุ ผล

การพัฒนาชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ มีอยู่ 2 ข้นั ตอน ค่าเฉลีย่ ของคะแนนผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรยี นสงู กวา่ กอ่ นเรียน
ดงั ตอ่ ไปน้ี อย่างมีนัยสาคัญที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องศิลปกรรมวัดสุทัศนเทพวรารามราช
1 การสร้างและพัฒนาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้เรอ่ื ง วรมหาวิหาร มคี วามพงึ พอใจระดบั มากทสี่ ุด
ศิลปกรรมวัดสทุ ศั นเทพวรารามราชวรมหาวหิ าร

2 การนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ศลิ ปกรรมวดั
สุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารท่ีพัฒนาขึ้น
ไปทดลองใช้กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการทดลองคือ
นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาย
ปัญญาในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวิชาชพี (PLC)

แบบฝกึ ทักษะทางทศั นศลิ ป์ รูปแบบอินโฟกราฟฟกิ ส์ เพ่ือพฒั นาความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงานศลิ ปะ โดยใชก้ ระบวนการซินเนคติกส์
(Synectics) รายวิชาศิลปะพืน้ ฐาน สาหรับนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ รายวิชาศลิ ปะพืน้ ฐาน

สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปนถามั งภส์ าวสรุ ัชสานุ์ รตั นวรรณ กลุม่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

ทมี่ าและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

เพือ่ พัฒนาความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการสรา้ งสรรค์ผลงานศลิ ปะ 1. ปฐมนเิ ทศเพอื่ แจ้งบทบาท เป้าหมาย จุดประสงคแ์ ละวธิ ีการประเมนิ
โดยใชก้ ระบวนการซินเนคตกิ ส์ ให้แกน่ กั เรยี นในระดบั ช้ัน 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ใหเ้ ข้าใจใน ความหมายของทัศนศลิ ป์ และ
ศพั ท์ทางทศั นศิลป์์ ทัศนธาตุ องค์ประกอบศิลป์ หลกั การ 3. ดาเนินการทดลองกลุ่มตัวอย่าง
ออกแบบ ความคดิ สรา้ งสรรค์ อนิ โฟกราฟฟิก ประวตั ศิ าสตร์ 4. ทดสอบหลงั เรียน
ศิลปไ์ ทยและสากล หลกั การวจิ ารณ์ รวมไปถึงผลสมั ฤทธิ์
ในการเรียนวิชาศลิ ปะ 5. นาผลที่ไดม้ าวิเคราะห์

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

1.เพือ่ ศึกษาประสิทธภิ าพของแบบฝึกทักษะทางทัศนศิลป์ รูปแบบอินโฟกราฟฟกิ ส์ เพ่อื พฒั นาความคิดสร้างสรรคใ์ นการ การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยแบบฝกึ ทกั ษะทางทัศนศิลป์ รปู แบบอนิ โฟ
สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ โดยใช้กระบวนการซินเนคติกส์ (Synectics) รายวชิ าศิลปะพ้ืนฐาน สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 กราฟฟกิ ส์ เพอ่ื พัฒนาความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการสรา้ งสรรค์ผลงานศลิ ปะ โดยใช้
ตามเกณฑ์ 80/80 กระบวนการซินเนคติกส์ (Synectics) รายวิชาศลิ ปะพนื้ ฐาน สาหรบั นกั เรียนชัน้
2.เพ่ือศกึ ษาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนกอ่ นและหลังเรียนโดยใช้แบบฝกึ ทักษะทางทัศนศิลป์ รปู แบบอินโฟกราฟฟิกส์ เพื่อพัฒนา มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ โดยผ้เู รยี นมี
ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ โดยใช้กระบวนการซินเนคตกิ ส์ (Synectics) รายวิชาศลิ ปะพื้นฐาน สาหรบั สวนร่วมในการคดิ แก้ปัญหาทางศิลปะ ในประเดน็ ท่นี ักเรยี นสนใจ ทาให้นักเรียนมี
นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ทกั ษะกระบวนการทางทัศนศิลปท์ เี่ กิดจากการเรียนรู นาความรูม้ าใช้ในการเรียน
3.เพอ่ื ศกึ ษาผลการปฏบิ ตั ิงานทางทัศนศลิ ปข์ องนักเรียนท่เี รยี นโดยใช้แบบฝกึ ทักษะ ทางทัศนศลิ ป์ รปู แบบอนิ โฟกราฟฟกิ ส์ จนไดค้ ะแนนผลสัมฤทธเิ์ ฉลย่ี สงู เพม่ิ ข้ึน และด้านความคิดสรา้ งสรรคท์ ่ีสูงขึ้น
เพอ่ื พัฒนาความคดิ สร้างสรรค์ในการสรา้ งสรรค์ผลงานศลิ ปะ โดยใชก้ ระบวนการซินเนคติกส์ (Synectics) รายวชิ าศลิ ปะพ้ืนฐาน
สาหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษา ปที ี่ 6 สรุปผล
4.เพื่อศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียนทม่ี ีต่อการใช้แบบฝกึ ทกั ษะทางทัศนศิลป์ รปู แบบอนิ โฟกราฟฟิกส์ เพ่อื พฒั นาความคดิ
สรา้ งสรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงานศลิ ปะ โดยใช้กระบวนการ ซินเนคตกิ ส์ (Synectics) รายวิชาศิลปะพ้ืนฐาน สาหรบั
นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

กระบวนการแกป้ ัญหา

การจดั การเรยี นรู้ แบบโครงงาน มอี ยู่ 5 ขัน้ ตอน ดงั ต่อไปน้ี แบบฝกึ ทักษะทางทศั นศลิ ป์ รปู แบบอนิ โฟกราฟฟิกส์ เพ่ือพฒั นาความคิดสรา้ งสรรค์
ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานศลิ ปะ โดยใชก้ ระบวนการซินเนคติกส์ (Synectics) รายวชิ า
1 การคิด เลือกชอ่ื เรื่องหรือปญั หาทจ่ี ะศึกษา ศลิ ปะพน้ื ฐาน สาหรับนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรม
2 การวางแผนในการทางาน ราชนิ ูปถัมภ์ มีระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นศิลปะ และทักษะกระบวนการทางศิลปะ
หลังเรยี นเฉลี่ยรอ้ ยอย่ใู นระดบั ดี เนือ่ งจากการจดั การเรยี นทนี่ กั เรียน จะต้องลงมอื
ปฏิบัตผิ ่านกระบวนการคิด และสรา้ งความรดู้ ้วยตนเอง ทาใหเ้ กดิ การเรียนรจู้ ากการ
ลงมือปฏิบัติ โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะทางทศั นศลิ ป์ ในการพฒั นาตนเองด้านความคิด
สรา้ งสรรค์

3 การลงมือทาแบบฝึกทักษะ

4 การเขียนรายงาน

5 การแสดงผลงาน

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (PLC)

การพัฒนาทกั ษะการตีกลองแขก

ที่มาและความสาคัญ นายพรภวิษย์ เฉยเจรญิ กลุม่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ

ข้นั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

ควรจะส่งเสรมิ และปลกู ฝังใหน้ ักเรียนหนั มาเลน่ ดนตรีไทยใหม้ ากย่ิงข้ึน 1. ปฐมนิเทศเพือ่ แจ้งบทบาท เปา้ หมาย จดุ ประสงค์และวธิ ีการประเมิน
เพ่อื เปน็ การอนุรกั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรมดา้ นดนตรีไทยให้คงอยู่ตลอดไป โดย 2. ทดสอบก่อนเรียน
จะฝึกใหน้ ักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ในรายวชิ าพน้ื ฐาน จานวน
214 คน ในการฝกึ ปฏิบตั ติ กี ลองแขก ซึง่ เป็นเครือ่ งดนตรีประเภท 3. ดาเนนิ การทดลองกลุ่มตัวอยา่ ง
เครอ่ื งตที ฝี่ ึกง่ายและมีความไพเราะมาก ทั้งยังเปน็ การฝกึ โดยปฏิบัตจิ รงิ 4. ทดสอบหลังเรยี น
เพ่อื เตรยี มความพร้อมด้านดนตรไี ทยให้มีการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งกันใน
การเรยี นดนตรไี ทยในระดับชนั้ สูงๆ ขึ้นไป อีกท้งั ยงั เป็นการสง่ เสริมให้ 5. นาผลทไี่ ด้มาวิเคราะห์
นักเรยี นมีความสนใจการเรยี นวชิ าดนตรมี ากขึ้น
ผลการดาเนนิ งาน
วัตถุประสงค์

1. เพือ่ ใหท้ ราบถงึ รายละเอียดของปัญหาท่ีแท้จรงิ ของการเรียนการสอนปฏิบตั ิตี ในการวจิ ัยคร้ังนี้ไดด้ าเนนิ การวิจัยเปน็ เวลา 6 สปั ดาห์ สปั ดาหล์ ะ 1 คาบ คาบละ 50 นาที เริม่ ตั้งแต่
กลองแขก สาหรบั นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรม พฤศจิกายน ถึง กมุ ภาพนั ธ์
ราชนิ ปู ถมั ภ์ จานวนนักเรียนในห้องเรยี นแตล่ ะห้องจะมจี านวนไมเ่ ท่ากัน ครผู ้สู อนใช้วธิ โี ดยการแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2
ฝา่ ยๆ ละ 2 คน ไดล้ งมอื ปฏิบตั ิอยา่ งแทจ้ ริงและเปน็ การให้นกั เรียนไดป้ ฏบิ ัตไิ ด้ทั่วถงึ ทุกคน
2. เพอื่ ใหท้ ราบถึงแนวทางการแก้ไขปญั หาและใช้เป็นขอ้ มูลพืน้ ฐาน
พฒั นาการเรียนการสอนปฏิบตั ิตกี ลองแขก สาหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 สรปุ ผล
โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ และเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั
การเรียนการสอนปฏิบตั ิตีกลองแขกรวมถงึ ผทู้ ีส่ นใจท่ัวไป

กระบวนการแกป้ ญั หา

การจัดการเรียนรู้ แบบโครงงาน มอี ยู่ 5 ขนั้ ตอน ดงั ต่อไปนี้ จากการศกึ ษาวจิ ยั ในชน้ั เรยี นของนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ได้พบว่านักเรยี นมี
ศักยภาพในการเรยี นปฏบิ ัติตีกลองแขก นกั เรียนมคี วามสนใจ มคี วามสนกุ สนานและ
1 การคิด เลือกชื่อเร่ืองหรือปัญหาท่จี ะศึกษา มีความกระตอื รอื ร้นมากในเวลาปฏบิ ัติ
2 การวางแผนในการทางาน
3 การลงมือทาพฒั นาทกั ษะ ดา้ นเทคนิควิธีสอนของครผู สู้ อน จะใชส้ ่อื อุปกรณ์ท่เี ป็นสอ่ื วดิ ที ศั น์และ
4 การเขียนรายงาน เครอ่ื งดนตรีปฏบิ ัติกลองแขกทั้งหมด ทาให้สะดวกกบั การเรียนรูแ้ ละสามารถปฏิบตั ิ
ตามได้ในระยะเวลาส้ันๆ

ดา้ นวธิ กี ารวดั ประเมนิ ผลการเรียนการสอน ใช้วธิ กี ารเรยี นไปวัดไปทาให้
นกั เรียนไดม้ ีเวลาในการปฏิบัติเคร่ืองดนตรมี าก ได้มโี อกาสไดป้ ฏิบตั เิ คร่ืองดนตรไี ด้
ตลอดเวลา

ด้านคูม่ อื เอกสารประกอบการเรยี นของนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 อย่ใู น
ขั้นพืน้ ฐานมีท้งั ทฤษฎีและปฏบิ ตั ิอยใู่ นเล่มเดยี วกัน เหมาะกับนกั เรียนท่เี ร่มิ ตน้ เปน็
ครง้ั แรก แต่มีบางแบบฝกึ หัดท่ยี ังยากเกินไปตอ้ งมกี ารปรับเปลีย่ นในปีการศึกษา
ตอ่ ไป

5 การแสดงผลงาน

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศตั รูพ่าย ๑๐๑๐๐

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ (PLC)

กระบวนการแกป้ ัญหาการสะกดคาศพั ทผ์ ดิ วชิ าภาษาองั กฤษ 3 ของนกั เรียน

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 นางสาวรมดิ า เพ็ชรแกว้ นา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ทีม่ าและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

จำกกำรที่ได้จัดกำรเรียนกำรสอนรำยวิชำภำษำอังกฤษ 3 ม. 2 55.. ปปรรับับผผลลคคะะแแนนนน
พบวำ่ มีนกั เรียนส่วนใหญ่ต้ังใจเรียน อ่ำนออกเสียง และสนทนำ 44.. ใใหหก้ก้ าารรเเสสรรมิิมแแรรงง
ตำมสถำนกำรณ์ดี แต่มีนักเรียนบำงคน ที่ยังไม่ต้ังใจเรียน จึงมี 3. ครตู ดิ ตามงานเป็นระยะๆ
ควำมคิดท่ีจะปรับพฤติกรรมกงำนของนักเรียนเหล่ำน้ัน ำรส่ง 22.. นนักักเเรรียยี นนเเซซ็นน็ ชชอ่ือื่ รรับบั ททรราาบบกกาารรตติดิดตตาามมงงาานน
เพ่อื ให้นักเรียนมีควำมตระหนักในกำรเรียน มีควำมพยำยำมใน 1. แจ3ง้ .สครรุปตู กดิ าตราสม่งงงาานนเใปหน็น้ รกั ะเยรยีะนๆทราบ
กำรเรยี น
ผลการดาเนินงาน
วตั ถปุ ระสงค์
จำกกำรดำเนนิ กำรดงั กลำ่ วนกั เรียนมีควำมตงั้ ใจในกำรเรยี นมำกขึน้ หนั มำใส่ใจในกำร
เพ่ือลดจำนวนนักเรียนท่ีมีปัญหำในกำรสะกดคำศัพท์ผิด จำกท่ีมี เรียน มคี วำมตัง้ ใจในกำรเรยี นทด่ี ยี ่ิงขึน้
ปรมิ ำณมำกใหน้ อ้ ยท่สี ดุ และให้นักเรียนตระหนกั ถงึ ควำมสำคญั ของ ครูไดใ้ หก้ ำรเสรมิ แรงดว้ ยคำชมและคะแนน เพ่อื ให้เกิดขวัญและกำลังใจให้แกผ่ ู้เรียน
กำรเรยี นรู้ควำมหมำย

กระบวนการแก้ปญั หา สรปุ ผล

ลักษณะสำคญั ของกำรทำวิจัยในเรื่องนี้ มีอยู่ 3 ขัน้ ตอน ดังต่อไปน้ี นักเรยี นมผี ลคะแนนทด่ี ีขนึ้ จำกกำรที่ได้ให้ทดสอบกำรสะกดคำและควำมหมำย
นกั เรียน มีกำรให้กำลงั ใจเสรมิ แรงใหก้ ับนกั เรยี น ทำใหน้ ักเรยี นเกิดควำม
ข้ันศกึ ษา • ครูศึกษำสำเหตุว่ำทำไมนักเรียนถึงสะกดผิด มี พยำยำมในกำรเรียน นอกจำกนี้ผลกำรเรยี นในรำยวิชำภำษำองั กฤษ 3 ก็ดี
(Study) สำเหตุหรอื ปจั จยั อะไรบ้ำง ยง่ิ ข้ึน นกั เรียนเกิดควำมภำคภมู ิใจในตนเอง

ข้นั ทดลอง • ครูสังเกตพฤติกรรมกำรเขียนของนักเรยี นและใชก้ ิจกรรม
(Experiment) รูปแบบอ่ืนๆ เพือ่ ให้นกั เรียนกระตอื รอื ร้นในกำรทำงำน

• ครูกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจทบทวนคำศัพท์ตำมที่ได้รับ
มอบหมำย มกี ำระเสรมิ แรงผเู้ รยี น

ขั้นปรบั ปรงุ
(Adapt)

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การพฒั นาความสามารถการเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาองั กฤษโดยใช้เกมของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔
โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์

นางสาวนางสาวอารีรตั น์ ศรชี มภู กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

ที่มาและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม

การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียน 1. ปฐมนิเทศเพื่อแจง้ บทบาท เป้าหมาย จดุ ประสงคแ์ ละวธิ ีการประเมิน
สะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้เกม เป็นการนา 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น
คาศพั ท์ที่สอนในบทเรียน มาทบทวนให้นักเรียนโดยใช้
เกม ซึ่งเกมที่ใช้นั้นมีท้ังหมด 4 เกม คือ เกม Bingo, 3. ดาเนนิ การทดลองกลมุ่ ตัวอย่าง
เกมสร้างคาศัพท์, เกมลูกโซ่ และเกม Hangman 4. ทดสอบหลังเรยี น
เพื่อพฒั นาทักษะการเขียนและจาคาศัพท์ของนักเรียน
ให้มากยง่ิ ขึ้น 5. นาผลทไี่ ด้มาวิเคราะห์

วัตถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เ พื่ อ เ ป รี ย บ เ ที ย บ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ก า ร เ ขี ย น ค า ศั พ ท์ ตารางเปรียบเทยี บคะแนนผลสัมฤทธิ์การเขียนคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษก่อนและ
ภาษาอังกฤษระหว่างก่อนและหลังการใช้เกมโดยใช้ หลงั เรยี นของนกั เรยี นทีไ่ ดร้ ับการสอนโดยใช้เกม โดยใชส้ ถิติ t-test
แบบทดสอบวดั ผลสมั ทธก์ิ ่อนเรียนและหลังเรยี น

กระบวนการแก้ปญั หา สรปุ ผล

การแก้ปัญหาการสะกดคาศัพทผ์ ิดของนกั เรียนโดยใช้เกม การใช้เกมประกอบการสอนช่วยใหน้ กั เรียนเขยี นสะกดคาศัพทภ์ าษาอังกฤษได้ถกู ต้อง
ได้นากระบวนการ PDCA มาใช้ ดังตอ่ ไปน้ี และแม่นยามากขน้ึ จากการทดลองใชแ้ ผนการสอนโดยใชเ้ กมเพ่ือพฒั นาทกั ษะการ
เขยี นคาศัพทภ์ าษาอังกฤษของนกั เรียน พบว่านักเรียนมีคะแนนหลงั เรยี นสูงกว่า
P P (Plan) คะแนนก่อนเรยี น นกั เรยี นมีคะแนนผลสมั ฤทธิ์กอ่ นเรยี นเฉลยี่ เท่ากบั 16 จากคะแนน
• วางแผนในการวัดผลการเรยี นรู้คาศัพท์จากเกม เต็ม 30 คะแนนสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานเทา่ กับ 4.02 ร้อยละของคะแนนเฉล่ียเท่ากับ
D D (Do) 53.33และคะแนนผลสัมฤทธ์หิ ลงั เรียนเท่ากับ 23.83จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน
• นาเกมไปใช้ในกระบวนการสอนคาศัพท์ ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานเทา่ กบั 4.11 ร้อยละของคะแนนเฉลย่ี เทา่ กบั 79.4 แสดงให้
C C (Check) เหน็ วา่ นักเรยี นมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นที่ดีขึ้นเมื่อไดร้ บั การสอนโดยการใช้เกม และ
• ทดสอบกอ่ นและหลังเรียน การใชเ้ กมสามารถพฒั นาทกั ษะการเขียนคาศพั ท์ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี
4/10 ได้
A A (Act)
• ปรบั ปรงุ และพัฒนาเกมท่ีใช้ในกระบวนการเรียนรู้

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชมุ ชนแห่งการเรียนรูท้ างวชิ าชพี (PLC)

การพัฒนาความสามารถการเขยี นสะกดคาศพั ท์ภาษาอังกฤษโดยใช้เกมของนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
The Development of English Vocabulary Spelling Ability via Game to Improve Grade 8 Student’s spelling

นางสาวกญั จนธ์ นธญั วงศ์สชี นิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ทม่ี าและความสาคญั ข้ันตอนการดาเนนิ กิจกรรม

การนาเกมมาเพ่ือพัฒนาทักษะการเขียนคาศัพท์สาหรับ 5. วเิ คราะห์ผล
นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2/1 โดยคุณครูเกมมาใช้ในขั้นสรุป หลังจาก
สอนคาศัพท์ให้นักเรียนไปแล้ว ผู้วิจัยจะนาคาศัพท์นั้นๆมาทบทวนให้ 4. ทดสอบหลงั เรียน
นักเรียนโดยใช้เกม ซ่ึงเกมที่ผู้วิจัยได้ใช้นั้น มีทั้งหมด 4 เกม คือ 3. ดาเนนิ การทดลองกล่มุ ตวั อย่าง
เกม Bingo, เกมสร้างคาศัพท์, เกมลกู โซ่และเกม Hangman ซ่ึงจะวัดผล
โดยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธก์ิ ารเขียนสะกดคาศัพท์ 2. ทดสอบก่อนเรียน

1. ปฐมนเิ ทศเพ่ือแจ้งบทบาท /จุดประสงค์และวิธีการประเมิน

วตั ถปุ ระสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพื่อเปรยี บเทยี บความสามารถการเขยี นคาศัพท์ภาษาองั กฤษระหว่างก่อน นักเรยี นมกี ารพัฒนาทกั ษะการเขียนคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษทีด่ แี ละแม่นยามากขนึ้ สามารถเขยี น
และหลังการใชเ้ กมโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิก์ ่อนเรยี นและหลังเรียน สะกดคาศัพทภ์ าษาองั กฤษไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง สามารถกาหนดตวั อกั ษรหรือสญั ลกั ษณ์แทนเสยี ง
สามารถถ่ายทอดความคดิ ออกมาเป็นตวั หนงั สอื และผู้อา่ นสามารถเขา้ ใจได้ สามารถเขยี นเรียง
พยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ ตวั สะกดเรียบเรียงเปน็ คาไดถ้ กู ตอ้ ง

กระบวนการแก้ปญั หา สรุปผล

ลักษณะสาคญั ของการใชเ้ กมในการพัฒนาความสามารถการเขียนสะกด การใชเ้ กมประกอบการสอนช่วยให้นักเรียนเขียนสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง
คาศัพทภ์ าษาอังกฤษ มีอยู่ 3 ข้นั ตอน ดงั ตอ่ ไปนี้ และแมน่ ยามากข้นึ จากการทดลองใช้แผนการสอนโดยใชเ้ กมเพือ่ พฒั นาทักษะการเขียน
คาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนพบว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนน
• ผู้สอนจะต้องช้ีแจง อธิบายถึงเกม กติกาที่จะเล่น โดยให้ ก่อนเรียน นักเรยี นมคี ะแนนผลสมั ฤทธก์ิ อ่ นเรียนเฉล่ียเท่ากับ 8.36 จากคะแนนเต็ม 20
ขน้ั นาเสนอ ผเู้ รียนเข้าใจตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ คะแนนส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.68 และคะแนนผลสัมฤทธ์ิหลังเรียนเท่ากับ
11.57 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.84 แสดงให้เห็นว่า
(Presentation) นกั เรยี นมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นท่ีดีขน้ึ เม่อื ไดร้ ับการสอนโดยการใช้เกม และการใช้เกม
สามารถพฒั นาทักษะการเขียนคาศพั ทข์ องนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2/1 ได้
• ใหผ้ เู้ รยี นเลน่ เกม กตกิ าตามทผี่ สู้ อนกาหนด

ขน้ั ฝึก
(Practice)

• ผูเ้ รยี นและผสู้ อนอภปิ รายร่วมกันและสดุ ท้ายผสู้ อนเป็นผู้ประเมนิ ผล
การเรยี นร้จู ากสง่ิ ท่ผี ูเ้ รียนได้เรียนรูจ้ ากการเลม่ เกมวา่ มีผลสัมฤทธิ์อยู่
ข้ันนาไปใช้ ในระดบั ใด
(Production)

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศตั รพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี (PLC)

กระบวนการแกป้ ญั หาการส่งงานของนักเรยี น วชิ าภาษาอังกฤษ 6 ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

นายจักรพ์ งษ์ สายทองตง่ิ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ท่ีมาและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนินกจิ กรรม

จำกกำรทีไ่ ดจ้ ัดกำรเรียนกำรสอนรำยวิชำภำษำอังกฤษ 5. ปรบั ผลคะแนน
6 ม. 6 พบว่ำมีนักเรียนส่วนใหญ่ต้ังใจทำงำนดี ส่งงำน 4. ให้การเสริมแรง
เรียบร้อย แต่มีนักเรียนบำงคน ที่ยังไม่ต้ังใจเรียน ขำด 3. ครตู ดิ ตามงานเปน็ ระยะๆ
กำรส่งงำน จึงมีควำมคดิ ท่ีจะปรับพฤติกรรมกำรส่งงำน 2. นกั เรียนเซน็ ชือ่ รบั ทราบการตดิ ตามงาน
ของนักเรียนเหล่ำน้ัน เพื่อให้นักเรียนมีควำมตระหนัก 1. แจง้ สรุปการสง่ งานให้นกั เรียนทราบ
ในกำรทำงำน มีควำมพยำยำมในกำรเรียน
ผลการดาเนินงาน
วัตถปุ ระสงค์

เพื่อลดจำนวนนักเรียนท่ีมีปัญหำในกำรส่งงำนจำกที่มี จำกกำรดำเนินกำรดงั กล่ำวนักเรียนมคี วำมตงั้ ใจในกำรทำงำนมำกขน้ึ หันมำ
ปริมำณมำกให้นอ้ ยที่สดุ และใหน้ กั เรียนตระหนักถึงควำม ใสใ่ จในกำรทำงำน มีควำมตง้ั ใจในกำรเรียนท่ีดียงิ่ ขน้ึ
รบั ผิดชอบในกำรทำงำน ครูได้ให้กำรเสริมแรงด้วยคำชมและคะแนน เพ่ือให้เกดิ ขวัญและกำลังใจ
ให้แก่ผู้เรียน

กระบวนการแก้ปัญหา สรปุ ผล

ลักษณะสำคญั ของกำรทำวจิ ยั ในเรื่องนี้ มอี ยู่ 3 ขั้นตอน นักเรยี นมผี ลคะแนนที่ดขี ้ึนจำกกำรทไี่ ดต้ ดิ ตำมงำนนกั เรยี น มกี ำรให้กำลังใจเสรมิ แรง
ดังตอ่ ไปน้ี ให้กบั นักเรยี น ทำใหน้ กั เรียนเกิดควำมพยำยำมในกำรเรยี น นอกจำกน้ีผลกำรเรียนใน
รำยวิชำภำษำอังกฤษ 6 ก็ดยี ่งิ ขึน้ นกั เรียนเกดิ ควำมภำคภูมิใจในตนเอง

ขั้นศึกษา • ครูศึกษำสำเหตุว่ำทำไมนักเรียนถึงส่งงำน
(Study) นอ้ ย มสี ำเหตหุ รือปจั จยั อะไรบำ้ ง

• ครูกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจทำงำนตำมที่ได้รับ
ขนั้ ทดลอง มอบหมำย มีกำรตดิ ตำมงำน และเสรมิ แรงผู้เรียน

(Experiment)

ข้นั ปรับปรงุ • ครูสงั เกตพฤติกรรมกำรส่งงำนของนักเรียนและ
(Adapt) ใช้กิจกรรมรูป แบบ อื่นๆ เพ่ือให้นักเรียน
กระตือรอื รน้ ในกำรทำงำน

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔

SโรaiงpเaรnียyนaสSาcยhปoญolญUาndใeนrพthรeะบRoรมyaรlาPชaนิ trปู oถnaมั gภe of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหงการเรียนรทู างวิชาชพี (PLC)
การพฒั นาทกั ษะการรองเพลงภาษาฝร่ังเศส ของนกั เรยี นช้ัน ม. 5/7

ท่ีมาและความสาํ คญั นางจันทรสนุ ยี  สินสบื เช้อื กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ

ในยคุ ของการส่อื สารไรข อบเขต ภาษาเปนสิ่งสําคัญท่ี ขนั้ ตอนการดาํ เนนิ กิจกรรม
มนษุ ยใชเพ่ือการสอื่ สาร ซ่ึงภาษาฝรง่ั เศสเปนอีกภาษา
ท่ีนิย มใ ชใน การส่ือสารกัน ครูผูสอน ไดเ ล็งเ ห็น 5. วิเคราะหผล
ความสาํ คญั จงึ คิดฝกผูเรียนใหมีทักษะในการฟง พูด 4. ทดสอบหลังเรยี น
อา น เขยี น โดยใหน กั เรียนฟงเพลงพระราชนิพนธ ใน 3. ดําเนนิ การทดลองกลมุ ตวั อยาง
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย 2. ทดสอบกอนเรยี น
เดชมหาราช 1. ปฐมนิเทศเพ่ือแจง บทบาท จุดประสงคแ ละวธิ ีการ

วัตถปุ ระสงค ประเมิน

ผลการดําเนนิ งาน

เพอื่ สรา งแรงจงู ใจใหน ักเรียนตองการพัฒนาตนเองใหมี การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยวิธีสอนแบบทาํ นาย สังเกต อธบิ ายจะ
ทกั ษะ ในการฟง พูด อา น เขยี น และนํามาแกปญหา ใน ชว ยสง เสรมิ ใหนักเรียนไดเ รียนรภู าษาฝร่งั เศสทเ่ี นนกระบวนการ ไปสูการ
นักเรียนที่ไมคอนสนใจเรียน ในชั้นเรียน เพ่ือพฒน า สรางองคค วามรูโดยผเู รยี นมีสวนรว มทุกขน้ั ตอน ทําใหเกดิ มโนมติทางการ
ศกั ยภาพดานการอาน พดู เรียนรู และนักเรยี นจดจําไดนาน สามารถนาํ ไปใชในการเรยี นรวู ชิ าอื่นๆ เพื่อ
พฒั นาศกั ยภาพของตนเองได

กระบวนการแกป ญหา สรปุ ผล

ลกั ษณะสําคญั ของการเรียนรูแบบทาํ นาย สงั เกต อธิบาย ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรียนทไ่ี ดร บั การจัดการเรยี นรูโดยวิธกี ารจัดการเรยี นรู
(POE) มอี ยู 3 ขน้ั ตอน ดังตอ ไปนี้ แบบทํานาย สงั เกต อธบิ าย (POE) การพฒั นาทักษะการรอ งเพลงภาษาฝรัง่ เศส ของ
นักเรียนชน้ั ม. 5/7 หลงั เรยี นสงู กวากอนเรยี นอยา งมีนยั สาํ คัญทางสถติ ทิ ่ีระดับ .01
ขัน้ ทาํ นาย • นักเรียนทาํ นาย (เดา)คําอานของคําศัพทท่ีเห็น โดยท่ี วธิ กี ารจดั การเรยี นรทู เ่ี นน ใหผเู รียนสรางองคค วามรูดว ยตนเอง โดยอาศัยความรู
(Predict) นกั เรียนตองใหเหตุผลเกี่ยวกบั การทํานาย(เดา)ซึ่งอาศัย พืน้ ฐานจากประสบการณเดมิ ของตนเอง ผลจากการจัดการเรียนรทู ่ใี หคน พบความรู
ความรูหลกั ไวยากรณในการประสมคําของนักเรียนดว ย ดว ยตัวเองจากกระบวนการกลุมควบคกู บั การเกดิ ปฏสิ มั พนั ธระหวางผเู รียนดวยกนั
และผูสอนกบั ผูเรียน ทําใหผเู รียนมีความสนใจ มีความกระตอื รือรน และความตงั้ ใจ
ขน้ั สงั เกต • นกั เรยี นตองลงมอื ปฏิบตั ิ หรือพสิ ูจน หาคําตอบเกี่ยวกับส่งิ ที่ทํานาย และเกิดความเขา ใจจากการแลกเปล่ยี นความรูส ง ผลใหผเู รยี นเกดิ องคความรดู ว ย
(Observing) (เดา)ไว โดยการทดลอง หรือพิสูจน นักเรียนเปนผูออกแบบการ ตนเอง
ทดลองหรอื วางแนวทางการพสิ ูจนต ามความตองการของนักเรยี น

ขั้นอธิบาย • นกั เรียนตอ งลงมือทาํ การทดลอง หรือพิสจู น สงิ่ ทนี่ ักเรยี นทาํ นาย(เดา)
(Explain) ไววา เปน จริงหรอื ไม ซึ่งอาจจะมกี ารขดั แยงกบั สง่ิ ทีน่ กั เรียนทํานาย(เดา)
ไว จงึ ทาํ ใหนักเรยี นตอ งพยายามหาเหตุผลมาอธิบายถึงสาเหตุของ
เหตกุ ารณท ่ีเกิดข้นึ ถาไมส ามารถหาได ก็อาจจะมีการแลกเปล่ียน
ความรูกับกลมุ อ่ืน แลวคนควาหาทฤษฎีท่ีเก่ียวของมาอธิบายจน
สามารถอธบิ ายปรากฏการณท ี่เกดิ ข้นึ ไดและมีความนาเชื่อถือมากท่สี ดุ

โรงเรียนสายปญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอมปราบ เขตปอมปราบศัตรพู าย ๑๐๑๐๐

Sโรaiงpเaรnยี yนaสSาcยhปoญolญUาndใeนrพthรeะบRoรมyaรlาPชaนิ trูปoถnaมั gภe of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง การเรียนรทู างวิชาชพี (PLC)

การพฒั นาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนโดยการจัดการเรยี นรูแบบทํานาย สงั เกต อธบิ าย (POE)
เสริมดว ยเทคนคิ KWDL เรื่องงานและพลังงาน ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 4

นางสาวสนุ ารี ชนิ รัตน กลมุ สาระการเรียนรูว ิทยาศาสตร

ทมี่ าและความสาํ คญั ขน้ั ตอนการดาํ เนนิ กิจกรรม

การจัดการเรียนรูแบบทํานาย สังเกต อธิบาย (POE) 1. ปฐมนิเทศเพอ่ื แจง บทบาท เปาหมาย จุดประสงคและวธิ ีการประเมนิ
จะสงเสริมและฝก นกั เรียนคิด ทําการสังเกต ทดลอง 2. ทดสอบกอนเรยี น
หรอื สืบคน เพ่ือที่จะพิสูจนหาคําตอบจากการทํานาย
เทคนิค KWDL สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห 3. ดําเนนิ การทดลองกลุมตวั อยาง
โจทยปญหาไ ดอยางมีระบบและเปน ข้ันตอน เพ่ือ 4. ทดสอบหลงั เรยี น
พัฒน าผลสัมฤทธิ์ทางการเ รีย นวิชาฟสิกส เ รื่อง
งานและพลังงาน 5. นําผลทไี่ ดมาวิเคราะห

วัตถุประสงค ผลการดาํ เนินงาน

เพ่ือพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนวิชาฟสิกส เร่ือง งาน ตารางเปรยี บเทียบคะแนนผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 กอนและหลงั การ
และพลังงาน ของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที่ 4 ที่ไดรับ ใชชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู ดยวธิ ีการจดั การเรียนรแู บบทาํ นาย สังเกต อธิบาย (POE) เสริม
การจดั การเรียนรูดวยชุดกิจกรรมการเรียนรูโดยวิธีการ ดว ยเทคนคิ KWDL เร่อื งงานและพลงั งานโดยใชสถติ ิ t-test
จดั การเรียนรูแ บบทาํ นาย สงั เกต อธิบาย (POE) เสริมดวย
เทคนิค KWDL สรุปผล

กระบวนการแกป ญหา ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนักเรยี นท่ไี ดรับการ
จัดการเรีย นรูโดยวิธี การจัดการเรียนรูแบ บ
การแกโ จทยป ญหาฟส กิ สด วยเทคนคิ KWDL ทาํ นาย สังเกต อธิบาย (POE) เสรมิ ดว ยเทคนิค
มขี ัน้ ตอนการทํางาน 4 ขัน้ ตอน ซง่ึ KWDL ยอมาจาก KWDL เร่อื งงานและพลังงาน ของนักเรียนชั้น
มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4 หลังเรียนสูงกวากอนเรียน
K K (What we Know) อยา งมนี ยั สําคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 วิธีการ
• เรารอู ะไร จัดการเรียนรทู ่เี นนใหผูเรียนสรางองคความรู
W W (What we want to Know) ดว ยต นเอง โ ดย อาศัยค วามรูพื้นฐานจาก
• เราตองการรูอะไร ตองการทราบอะไร ประสบการณเดิมของตนเอง ผลจากการจัดการ
D D (What we Do) เรีย นรูท่ีใ หคนพ บ ค วามรูดวย ตัว เอ ง จาก
• เราทาํ อะไร อยางไร กระบวนการกลุมควบคกู บั การเกิดปฏิสัมพันธ
ระหวา งผเู รยี นดวยกนั และผูสอนกับผเู รียน ทํา
L L (What we Learned) ใหผเู รียนมีความสนใจ มคี วามกระตือรือรนและ
• เราเรียนรอู ะไร คว ามต้ังใ จ แ ละเกิด คว ามเขาใ จจากก าร
แลกเปลยี่ นความรูสง ผลใหผ ูเรียนเกดิ องคค วามรู
ดว ยตนเอง

โรงเรยี นสายปญ ญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ มปราบ เขตปอมปราบศตั รพู าย ๑๐๑๐๐

SโรaiงpเaรnียyนaสSาcยhปoญolญUาndใeนrพthรeะบRoรมyaรlาPชaนิ trปู oถnaัมgภe of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง การเรียนรทู างวชิ าชีพ (PLC)

การพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนโดยการจดั การเรยี นรแู บบทํานาย สงั เกต อธบิ าย (POE)
เสริมดวยเทคนคิ KWDL เร่ืองงานและพลังงาน ของนักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 4

นางสาวสนุ ารี ชนิ รตั น กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตร

ทมี่ าและความสาํ คญั ข้นั ตอนการดาํ เนนิ กจิ กรรม

การจัดการเรียนรูแบบทํานาย สังเกต อธิบาย (POE) ผลการดาํ เนนิ งาน
จะสงเสริมและฝก นักเรียนคิด ทําการสังเกต ทดลอง
หรือสบื คน เพื่อทีจ่ ะพิสูจนหาคําตอบจากการทํานาย
เทคนิค KWDL สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห
โจทยปญหาไ ดอยางมีระบบและเปน ข้ันตอน เพื่อ
พัฒน าผลสัมฤทธิ์ทางการเ รีย นวิชาฟสิกส เ รื่อง
งานและพลงั งาน

วัตถุประสงค

เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟสิกส เรื่อง งาน ตารางเปรยี บเทียบคะแนนผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 4 กอ นและหลงั การ
และพลงั งาน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 4 ท่ีไดรับ ใชช ดุ กิจกรรมการเรียนรูโดยวธิ กี ารจดั การเรียนรแู บบทาํ นาย สังเกต อธบิ าย (POE) เสริม
การจดั การเรยี นรูดวยชุดกิจกรรมการเรียนรูโดยวิธีการ ดวยเทคนคิ KWDL เร่ืองงานและพลงั งานโดยใชส ถติ ิ t-test
จัดการเรียนรูแ บบทาํ นาย สังเกต อธบิ าย (POE) เสรมิ ดวย
เทคนคิ KWDL

กระบวนการแกปญ หา สรุปผล

ลกั ษณะสาํ คัญของการเรยี นรูแบบทาํ นาย สงั เกต อธบิ าย ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของนักเรียนท่ไี ดรับการจัดการเรยี นรโู ดยวธิ ีการจัดการเรยี นรู
(POE) มอี ยู 3 ขัน้ ตอน ดังตอ ไปน้ี แบบทํานาย สงั เกต อธบิ าย (POE) เสรมิ ดวยเทคนิค KWDL เร่อื งงานและพลังงาน
ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 หลงั เรยี นสงู กวา กอ นเรียนอยางมนี ัยสําคญั ทางสถิติ
ขั้นทํานาย • นักเรียนทาํ นายเก่ียวกับปรากฏการณตา ง ๆ หรอื ทาํ นาย ท่ีระดับ .01 วธิ กี ารจัดการเรยี นรูท่ีเนนใหผูเรียนสรางองคความรูดวยตนเอง โดย
(Predict) ผลการทดลองที่คาดวา จะเกิดข้ึน โดยทีน่ ักเรียนตองให อาศยั ความรูพ ื้นฐานจากประสบการณเดิมของตนเอง ผลจากการจัดการเรียนรูท่ีให
เหตุผลเกย่ี วกบั คาํ ทํานายของนกั เรยี นดวย คน พบความรูดวยตัวเองจากกระบวนการกลมุ ควบคูก บั การเกิดปฏิสัมพันธระหวาง
ผูเรียนดวยกัน และผูส อนกบั ผูเรยี น ทาํ ใหผ ูเรียนมีความสนใจ มีความกระตือรือรน
ขัน้ สังเกต • นักเรยี นตอ งลงมือทาํ การทดลอง หรือพิสจู น หาคาํ ตอบเก่ยี วกบั ส่ิง และความตั้งใจ และเกิดความเขา ใจจากการแลกเปลี่ยนความรูสงผลใหผเู รียนเกิดองค
(Observing) ท่ีทํานายไว โดยการทดลอง หรือพสิ จู น นักเรียนเปนผูออกแบบ ความรูดวยตนเอง
ขั้นอธิบาย การทดลองหรือวา งแ น ว ท า งก า ร พิ สู จ น ต า ม ค ว า ม ต อ งก า ร ข อ ง
(Explain) นกั เรียน
• นักเรยี นตอ งลงมือทาํ การทดลอง หรือพสิ จู น สง่ิ ที่นักเรยี นทาํ นายไว
วาเปน จรงิ หรอื ไม ซึง่ อาจจะมีการขัดแยงกับสงิ่ ท่นี กั เรียนทํานายไว
จึงทาํ ใหน ักเรยี นตอ งพยายามหาเหตุผลมาอธิบายถึงสาเหตุของ
เหตกุ ารณที่เกดิ ข้นึ ถา ไมสามารถหาได ก็อาจจะมีการแลกเปล่ียน
ความรูกบั กลุมอื่น แลว คนควาหาทฤษฎีท่ีเก่ียวของมาอธิบายจน
สามารถอธบิ ายปรากฏการณทีเ่ กดิ ขน้ึ ไดแ ละมีความนาเช่ือถือมาก
ที่สดุ

โรงเรยี นสายปญ ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ มปราบ เขตปอมปราบศัตรูพา ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี (PLC)

การพฒั นาการอ่านและออกเสยี งระบบสัทอักษร (พินอนิ ) ของนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/8

ท่ีมาและความสาคัญ นายดเิ รกฤทธิ์ วุฒิทวีพัฒน์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ในการเรียนการสอนวชิ าภาษาจีนทผ่ี า่ นมาพบวา่ นกั เรียนใน ขั้นตอนการดาเนนิ กิจกรรม
บางส่วน ยงั ขาดทกั ษะในด้านการอา่ นและออกเสียงระบบสทั
อกั ษร(พินอนิ ) ซ่ึงเปน็ ปัญหาสาคัญทตี่ อ้ งไดร้ บั การแก้ไขอยา่ ง 5. ตรวจแบบทดสอบ บนั ทกึ
เรง่ ด่วน มิฉะนัน้ จะสง่ ผลกระทบตอ่ การเรียนภาษาจีนของ คะแนน และให้ข้อเสนอแนะ
นกั เรียนเปน็ อยา่ งยง้ิ จงึ สง่ ผลให้ต้องมีการปรับปรงุ แก้ไข และ
ตอ้ งมีการพฒั นาในทักษะการอ่านและออกเสียงระบบสทั อักษร 4. ทดสอบหลังเรียน
(พินอิน) นี้ให้มปี ระสทิ ธิภาพมากยิง่ ข้ึน 3. ครสู อนโดยวธิ ใี ช้การสอนตามปกติและวธิ ีการประเมินที่

เน้นนกั เรียนเป็นสำคญั
2. ทดสอบก่อนเรียน

1. ตั้งสมมติฐาน

วตั ถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพ่ือเปน็ การพัฒนาทักษะในดา้ นการอ่านและออกเสยี งตามระบบสัท จากผลในการวิจัยในเรื่องการพฒั นาทักษะในด้านการอ่านและออกเสียงระบบสัทอักษร (พิน
อักษร (พินอิน) ของนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/8 ด้วย อนิ ) ของนักเรยี น ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5/8 ซึง่ มจี านวนนกั เรยี น 1 คน คอื นางสาวนาฎพธู
วิธีการประเมนิ ท่เี นน้ ผ้เู รียนเป็นสาคัญ สิริมณกี ร พบว่ามีปญั หาในด้านทักษะการอา่ นและออกเสียงตามระบบสัทอักษร(พนิ อิน)
ผ้วู จิ ัยจึงได้ทดสอบโดยใชแ้ บบทดสอบการอา่ นและออกเสยี งสะกดคาทปี่ ระสมดว้ ยพยญั ชนะ
กระบวนการแก้ปญั หา สระ และวรรณยุกต์ต่างๆ ในระบบสัทอกั ษร (พินอนิ ) ใหน้ กั เรียนได้ฝกึ อ่าน ในขน้ั แรกคือ
กอ่ นเรียน นกั เรียนสามารถอ่านคาทีก่ าหนดให้ได้อยใู่ นเกณฑ์ 22.5 จากเกณฑเ์ ต็ม 100

สรุปผล

ลักษณะสาคัญของการทาวิจยั ในเร่อื งน้ี มอี ยู่ 3 ขน้ั ตอน ดงั ตอ่ ไปนี้ นกั เรียนมีผลสัมฤทธ์ิในดา้ นการอ่านและออกเสยี งเพมิ่ ข้ึน โดยคิดเปน็ รอ้ ยละ 92.5 แสดงว่า
นกั เรียนมกี ารพัฒนาทักษะในดา้ นการอา่ นและออกเสียงระบบสัทอกั ษร(พนิ อนิ ) ที่ดีขน้ึ

ขัน้ ศึกษา • ครูทดสอบทกั ษะการอา่ นของนกั เรียน
(Study)

• ครูวิธีใชก้ ารสอนตามปกติและวิธีการประเมินท่ีเนน้ นักเรียนเป็ น
ขั้นทดลอง สาคญั

(Experiment)

ขั้นปรบั ปรุง • ครูใช้วิธีการสอนและเทคนิคต่างๆท่ีเหมาะสมกบั ผู้เรี ยน เพ่ือให้
(Adapt) นกั เรียนมีความเขา้ ใจทกั ษะในดา้ นการอ่านและออกเสียงระบบสทั
อกั ษร(พินอิน)ให้ดีย่งิ ข้ึน

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รพู ่าย ๑๐๑๐๐

โSรaงipเรanียyนaสSาcยhปoญัolญUาndใeนrพthรeะบRรoมyaรlาPชaินtrูปoถnมัagภe์ of her Majesty the Queen
ชุมชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชพี (PLC)

การพฒั นาทกั ษะการพูดโดยใชก้ จิ กรรมการสอนภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

สาหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 นางสาวเต็มสริ ิ สงา่ จีน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ทีม่ าและความสาคญั ข้นั ตอนการดาเนินกจิ กรรม

การสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร(CLT) กิจกรรมกลุ่มและคู่ใน 5. วเิ คราะห์ผล
ชัน้ เรียนไมจ่ ากัดเพียงแคใ่ หค้ วามรู้ด้านโครงสร้างไวยากรณ์ 4. ทดสอบหลังเรียน
ยังได้ยกระดับทักษะการพูดภาษาอังกฤษผ่านการใช้จริงใน 3. ดาเนนิ การทดลองกลุ่มตวั อยา่ ง
กิจกรรมการสนทนาที่เกิดจากข้อผิดพลาดที่ปรากฏใน 2. ทดสอบก่อนเรียน
ชิ้นงานด้วยตนเอง นักเรียนจะเป็นผู้คิด ทบทวนและทา 1. ปฐมนเิ ทศเพอื่ แจ้งบทบาท จดุ ประสงค์และวธิ ีการประเมนิ
ความเข้าใจหลักภาษาที่ครูผู้สอนนาเสนอ แล้วนาความรู้
ดังกล่าวไปปรบั ปรุงแก้ไขงานเขียนทั้งของตนและเพื่อนร่วม
กลุม่ /คใู่ ห้สมบูรณถ์ กู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณย์ ่งิ ข้นึ

ววัตัตถถปุ ปุ รระะสสงงคค์ ์ ผลการดาเนนิ งาน

เพือ่ เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธขิ์ องนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ คะแนนทกั ษะการพดู ภาษาองั กฤษของนกั เรยี นมากข้ึนหลัง ได้รับการสอน
1 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เขตป้อม ภาษาอังกฤษตามแนวการสอนภาษาเพอ่ื การส่อื สาร ปรากฏผลดงั แสดงใน
ปราบศัตรูพ่ายจังหวัด กรุงเทพมหานคร ก่อนและหลัง ตาราง ก อย่างมี นยั สาคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั .05 น่นั คือ นักเรยี นมีทักษะการ
เรยี นดว้ ยกิจกรรมการสอนภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร พูดภาษาองั กฤษหลังไดร้ ับการสอนภาษาองั กฤษตามแนวการสอนภาษาเพ่อื
การสือ่ สารมากขึน้ ซงึ่ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านขอ้ ที่ 1 ทต่ี งั้ ไว้

กลุ่มทดลอง N ΣD ΣD2 t Sig. (2-tailed)
.000
กระบวนการแกป้ ญั หา กอ่ นทดลอง 10

ลกั ษณะสาคัญของการสอนตามแนวการสอนภาษาเพอื่ การ 168 336 -16.376
ส่ือสาร (CLT) มอี ยู่ 3 ขนั้ ตอน ดังต่อไปน้ี
หลงั ทดลอง 10

สรุปผล

ขนั้ นาเสนอ • ใหต้ ัวปอ้ นทางภาษา (Language Input) นาเสนอเน้อื หาใหม่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นรขู้ องนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1/1 หลังเรียนโดยใช้
(Presentation) แกน่ กั เรยี นใหผ้ ้เู รยี นได้รบั รู้และทาความเข้าใจเก่ียวกับความหมาย กจิ กรรมการสอนภาษาเพอื่ การส่อื สาร มีประสทิ ธิภาพเมอื่ เนอ่ื งดว้ ย ค่า t -test มี
และรูปแบบภาษาทใี่ ชก้ ันจรงิ โดยทว่ั ไป รวมท้งั วิธีการใช้ภาษา ไม่ว่า นยั สาคัญทรี่ ะดับ .05 โดยหลงั เรยี นโดยใชก้ ิจกรรมการสอนภาษาเพ่อื การส่ือสาร
เป็นด้านการออกเสียง ความหมาย คาศัพท์ และโครงสร้าง มรี ะดบั ดเี มอื่ เทียบกบั เกณฑร์ ้อยละ 60 จากรูบรคิ ท่ีสร้างข้ึน ซ่ึงเปรยี บเทียบจาก
ไวยากรณ์ทเี่ หมาะสมกับสถานการณต์ า่ ง ๆ ควบคกู่ ันไป ค่าคะแนนเฉลย่ี ผลสมั ฤทธิ์ครง่ึ แรกโดยใช้กจิ กรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ

ข้ันฝึกปฏิบัติ • ฝกึ ให้นกั เรียนมคี วามแมน่ ยาในรปู แบบภาษา โดยการฝึกการเน้น ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการส่ือสาร (x̄=5.64 และ S.D.= 2.25) และครง่ึ หลัง
(Practice) ความหมาย (Meaningful drills) เช่น ฝึกการแลกเปล่ียนข้อมูล โดยใช้ (x̄= 12.4 และ S.D.= 2.23) สอดคล้องกบั ผลการวจิ ัยของ สายพนิ รงุ่
(Information gap) การแสดงบทบาทสมมุติ (Role-play) วัฒนะกิจ (2552: 42) ได้สรปุ ผลการใชช้ ดุ กจิ กรรมการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การ
ฝกึ ด้วยการเลน่ เกมทีม่ กี ารควบคุมการใช้ภาษา สอ่ื สาร เร่อื ง Moment in Life โดยใช้ทฤษฎกี ารสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการ
ส่อื สารสาหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรยี นนารีรตั น์ จงั หวดั แพร่ ผล
ขั้นนาไปใช้ • นกั เรยี นจะต้องถ่ายโอนการเรยี นรูภ้ าษาจากสถานการณใ์ นช้นั เรียน การวเิ คราะหข์ อ้ มูลปรากฏวา่ นักเรียนมีผลสมั ฤทธกิ์ ารใช้ชดุ กจิ กรรมการสอน
(Production) ไปสู่การนาภาษาไปใช้จริง ผู้เรียนได้ลองใช้ภาษาในสถานการณ์ สงู กว่าร้อยละ 80 มคี ะแนนประสิทธภิ าพ เทา่ กบั 84.38/86.56 ซ่ึงสูงกวา่ เกณฑ์
ตา่ ง ๆ ทจี่ าลองจากสถานการณ์จรงิ หรอื ท่ีเปน็ สถานการณ์จริงด้วย ทตี่ ัง้ ไว้ 80/80 และนักเรียนมีความพงึ พอใจ เทา่ กบั 4.36 ซึ่งสงู กว่าเกณฑท์ ่ีต้ังไว้
ตนเองโดยครผู สู้ อนเปน็ เพยี งผู้แนะแนวทาง ส่วนผู้เรียนมีหน้าที่ใน ท่ี 3.75 ในระดับพึงพอใจมาก อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิติทรี่ ะดบั .05
การผลติ ภาษา เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกใช้ภาษาหรอื เน้อื หาด้วย
ตนเองมากที่สดุ

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศตั รูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชพี (PLC)

การพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนโดยการจดั การเรยี นรูเ้ รอ่ื งการพฒั นาการอา่ นออกเสยี งของ

นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/3 นายทศพล ชวี ะดุษฎี กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

ท่ีมาและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนิน

การจัดการเรียนรู้จะส่งเสริมและฝึกนักเรียนเพื่อท่ีจะ กจิ กรรม
พิสูจน์ทักษะการการอ่านภาษาอังกฤษสามารถพัฒนา
ทกั ษะการพฒั นาการอา่ นออกเสียงได้อย่างมีระบบและ การทดสอบพื้นความรู้นักเรียนในการจัดระดับการฝึก
เป็นขั้นตอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชา ทักษะการการอ่านภาษาอังกฤษสามารถพัฒนาทักษะ
ภาษาอังกฤษเรื่อง การพัฒนาการอ่านออกเสียงของ การพัฒนาการอ่านออกเสียงได้อย่างมีระบบและเป็น
นักเรียน ม.3/3 ขั้นตอน และทบทวนหลงั การฝกึ อ่านภาษาองั กฤษ

วัตถุประสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเร่ือง คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3/3 จากชดุ กจิ กรรม
การพัฒนาการอา่ นออกเสยี งของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี การเรียนรโู้ ดยวธิ กี ารจัดการเรยี นรเู้ ร่ืองการอ่านภาษาอังกฤษ
ท่ี 3/3 ที่ได้รับการจดั การเรียนรูด้ ว้ ยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้

กระบวนการแกป้ ัญหา สรุปผล

ลกั ษณะสาคญั ของการเรยี นรู้มีอยู่ 3 ข้ันตอน ดังตอ่ ไปนี้ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนกั เรยี นทไี่ ด้รบั การจดั การเรยี นรู้เรื่องการพัฒนาการอ่าน
ออกเสียงของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
• ครูทดสอบการอ่านออกเสียงของผู้เรียน จากนั้นวิเคราะห์ นยั สาคญั วิธีการจดั การเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยอาศัย
ความร้พู น้ื ฐานจากประสบการณ์เดิมของตนเอง ผลจากการจัดการเรียนรู้ท่ีให้ค้นพบ
ขนั้ ท่ี 1 และจดั หาวิธีการแก้ปัญหาขอ้ บกพรอ่ ง ความรู้ด้วยตัวเองจากกระบวนการกลุ่มควบคู่กับการเกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน
ดว้ ยกัน และผูส้ อนกบั ผเู้ รยี น ทาใหผ้ ู้เรียนมคี วามสนใจ มคี วามกระตอื รอื ร้นและความ
ตัง้ ใจ และเกดิ ความเข้าใจจากการแลกเปลี่ยนความรู้ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้
ด้วยตนเอง

ข้นั ที่ 2 • นักเรียนฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากบทเรียน จากน
นัน้ ครผู ูส้ อนทาการสังเกตความสามารถการอา่ น

ขัน้ ท่ี 3 • นักเรียนอ่านคาศัพท์และประโยคตามครูผู้สอน
อธิบ า ยหลั กการอ่านจากคู่มือมาตรฐาน
STANDARD ทจี่ ัดให้

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รูพ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวิชาชพี (PLC)

กระบวนการแกป้ ัญหาการส่งงานของนกั เรียน วิชาภาษาองั กฤษ 3 ของ

นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 นางสาวรมิดา เพชรแก้วนา กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ทม่ี าและความสาคัญ ขนั้ ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

จำกกำรที่ไดจ้ ัดกำรเรยี นกำรสอนรำยวิชำภำษำอังกฤษ 5. ปรบั ผลคะแนน
3 ม. 2 พบว่ำมีนักเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน อ่ำนออก 4. ให้การเสรมิ แรง
เสียง และสนทนำตำมสถำนกำรณ์ดี แต่มีนักเรียนบำง 3. ครูติดตามงานเป็นระยะๆ
คน ท่ยี ังไม่ต้ังใจเรยี น จึงมคี วำมคิดท่ีจะปรับพฤติกรรม 2. นักเรียนเซ็นชอื่ รบั ทราบการติดตามงาน
งำนของนักเรียนเหล่ำน้ัน ส่งเพ่ือให้นักเรียนมีควำม 1. แจ้งสรปุ การสง่ งานใหน้ ักเรียนทราบ
ตระหนกั ในกำรเรยี น มคี วำมพยำยำมในกำรเรียน

วัตถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพ่ือลดจำนวนนักเรียนที่มีปัญหำในกำรสะกดคำศัพท์ผิด จำกกำรดำเนนิ กำรดงั กล่ำวนักเรยี นมคี วำมต้ังใจในกำรเรยี นมำกขนึ้ หนั มำใส่
จำกทม่ี ปี ริมำณมำกให้น้อยท่ีสุด และให้นักเรียนตระหนัก ใจในกำรเรยี น มคี วำมต้งั ใจในกำรเรียนท่ดี ียง่ิ ข้ึน
ถงึ ควำมสำคญั ของกำรเรียนรคู้ วำมหมำย ครูไดใ้ หก้ ำรเสริมแรงด้วยคำชมและคะแนน เพื่อใหเ้ กดิ ขวัญและกำลงั ใจ
ให้แก่ผูเ้ รยี น
กระบวนการแก้ปัญหา
สรุปผล

ลักษณะสำคัญของกำรทำวิจยั ในเร่อื งน้ี มีอยู่ 3 ข้ันตอน นักเรยี นมีผลคะแนนท่ีดขี ้นึ จำกกำรทีไ่ ด้ให้ทดสอบกำรสะกดคำแบะ
ดงั ตอ่ ไปนี้ ควำมหมำย นักเรียน มกี ำรใหก้ ำลงั ใจเสรมิ แรงใหก้ บั นักเรียน ทำให้

• ครูศึกษำสำเหตุว่ำทำไมนักเรียนถึงสะกดผิด นักเรียนเกดิ ควำมพยำยำมในกำรเรียน นอกจำกนผ้ี ลกำรเรยี นในรำยวชิ ำ
ขน้ั ศกึ ษา ภำษำองั กฤษ 3 กด็ ียิ่งขึ้น นักเรียนเกดิ ควำมภำคภูมิใจในตนเอง
(Study) มีสำเหตหุ รือปัจจัยอะไรบ้ำง

• ครูสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเขยี นของนักเรียนและใช้

ขน้ั ทดลอง กิ จ ก ร ร ม รู ป แ บ บ อื่ น ๆ เ พื่ อ ใ ห้ นั ก เ รี ย น
(Experime กระตอื รอื ร้นในกำรทำงำน

nt) • ครูกระต้นุ ใหผ้ ู้เรียนสนใจทบทวนคำศัพท์ตำมท่ีได้รับ

ขั้นปรับปรงุ มอบหมำย มกี ำระเสรมิ แรงผู้เรียน

(Adapt)

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพ (PLC)

การพัฒนาทกั ษะการเขียนประโยคภาษาอังกฤษ
โดยใช้ไวยากรณเ์ รอ่ื ง Active-Passive Voice ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5/3

นางสาววรางคณา ชลกาญจน์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ท่ีมาและความสาคญั ข้นั ตอนการดาเนินกิจกรรม

การใช้ภาษาต่างประเทศในยุคปัจจุบันมีความจาเป็นอย่างมาก 5. วิเคราะห์ผล
ท้ังใช้ในการเรียน การทางานและการใช้ในชีวิตจริง การเรียน
ภาษาอังกฤษจึงมีความสาคัญอย่างมากกบั ทกุ เพศ ทกุ วัย และใน 4. ทดสอบหลังเรยี น
การเรยี นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาก็เป็นหน่ึงในน้ัน เพราะ
ตอ้ งนาไปใชใ้ นการเรยี นในสถานศึกษา และใชใ้ นการสอบแขง่ ขัน 3. ดาเนนิ การทดลองกลมุ่ ตัวอย่าง
เพอ่ื ศึกษาต่อในระดบั อุดมศึกษา แต่เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่ใช่
ภาษาพื้นฐานของนักเรียนไทย ทาให้เป็นการยากท่ีจะเรียนให้ 2. ทดสอบกอ่ นเรียน
เข้าใจได้โดยง่าย ต้องใช้การท่องจา การฝึกฝน และทาความ
เขา้ ใจ จงึ ได้จดั ทาวจิ ยั การพัฒนาทักษะการเขียนของนกั เรียน 1. ปฐมนเิ ทศเพือ่ แจง้ บทบาท จุดประสงค์และวิธกี ารประเมนิ

วตั ถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพื่อพฒั นาทกั ษะการเขียนประโยคภาษาองั กฤษโดยการใช้ คะแนนบทสอบหลังเรียน - คะแนนบททดสอบก่อนเรยี น = ความกา้ วหนา้
ไวยากรณเ์ รอ่ื ง Active-Passive Voice ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษา 210 – 139 = 71
ปีที่ 5/3 คะแนนเฉลย่ี หลังเรียน - คะแนนเฉลยี่ กอ่ นเรยี น = ความกา้ วหน้า
67.74 – 44.84 = 22.90

จากคะแนนสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น และ คะแนนเฉลย่ี ก่อนเรียน-หลังเรยี น พบวา่
คะแนนสอบหลงั เรยี นสูงกว่าคะแนนสอบกอ่ นเรียน และ คะแนนเฉลย่ี หลงั เรียนมีค่าเฉล่ยี
สงู ขนึ้ แสดงให้เหน็ ถึงนกั เรยี นมีความกา้ ว(เพิ่มข้ึน)

กระบวนการแก้ปญั หา สรุปผล

ลกั ษณะสาคัญของการเรยี นรู้แบบทานาย สงั เกต อธิบาย (POE) มี ทักษะการเขียนประโยคภาษาอังกฤษโดยการใช้ไวยากรณ์เรื่อง Active-Passive

อยู่ 3 ขัน้ ตอน ดังตอ่ ไปน้ี Voice ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/3 มีการพัฒนา ในการจะฝึกฝนทักษะการ

ขน้ั ทานาย • ครูทดสอบการอ่านออกเสียงของผเู้ รียน จากน้ัน เขียนนอกจากการจาโครงสรา้ งไวยากรณ์นัน้ ๆ จาเปน็ จะตอ้ งมกี ารคดิ วิเคราะห์ และ
(Predict) วเิ คราะห์และจดั หาวธิ ีการแกป้ ัญหาขอ้ บกพร่อง ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษจากประโยคภาษาไทยโดยนกึ ถึงเร่ืองใกล้ตัว สิ่งท่ีทาเป็น
ประจาทาเปน็ นิสัย ส่ิงแวดล้อม และจากคาส่ังหรือโจทย์ที่กาหนด โดยนักเรียนต้อง
ฝึกฝนด้วยตนเองอย่างสมา่ เสมอ เพือ่ ให้เกดิ เป็นความจาระยะยาวและยั่งยืน สามารถ

ข้ันสังเกต • นกั เรียนฝึกทกั ษะการเขยี นภาษาองั กฤษจากบทเรียน จากน นาไปใชใ้ นการเรียนในระดบั ท่ีสูงขึ้น ใชใ้ นการสอบ หรือใช้ในชวี ติ จริงได้
(Observing)
น้นั ครูผสู้ อนทาการสงั เกตและตรวจสอบความถูกตอ้ งของ
ผลงาน

ขัน้ อธบิ าย • นักเรียนฝึกแต่งประโยคตามครูผสู้ อนอธิบาย
(Explain) ห ลัก ก า ร จ า ก ห นั ง สื อ คู่ มื อ ม า ต ร ฐ า น
STANDARD ท่ีจดั ให้

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรูพ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชพี (PLC)

การพฒั นาการอ่านและการจดจาคาศพั ท์ในภาษาอังกฤษของนกั เรียน ช้นั มธั ยมศกึ ษา ปีที่ 6

ท่มี าและความสาคัญ นางวิไลลกั ษณ์ กลับศรอี อ่ น กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ข้นั ตอนการดาเนินกจิ กรรม

นักเรียนระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่6 ต้องใชค้ วามรูใ้ นการสอบเข้า 5. วเิ คราะหผ์ ล
มหาวิทยาลัย แต่นกั เรียนบางส่วนยงั คงมีปัญหาในการอ่าน 4. ทดสอบหลังเรียน
ภาษาองั กฤษ การจดจาคาศพั ทแ์ ละความหมายครูจึงต้องการ 3. ดาเนินการทดลองกลุ่มตวั อย่าง
ช่วยแกป้ ญั หาเพอ่ื ให้นกั เรยี นได้พัฒนาทักษะของตนเอง

2. ทดสอบก่อนเรียน

วตั ถุประสงค์ 1. ปฐมนเิ ทศเพอื่ แจ้งบทบาท จดุ ประสงค์และวธิ ีการประเมนิ

การศึกษาครง้ั นีม้ จี ุดมงุ่ หมายเพอ่ื ศกึ ษาพฒั นาความสามารถดา้ นการ ผลการดาเนินงาน
อ่านออกเสียงภาษาอังกฤษและการจดจาคาศัพทแ์ ละความหมายของ
คาเหลา่ นั้น กลุม่ ตัวอยา่ งเป็นนกั เรยี นชน้ั ม.6/3 6/6 6/9 ประจาภาค การทดสอบการอา่ นภาษาอังกฤษชดุ ท่ี1 ครงั้ ที่ 1 ของนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/3
การเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรม 6/6 6/9 นกั เรยี นที่อยูใ่ นระดับคะแนนดีมาก ปานกลาง และควรปรบั ปรงุ จานวน 5 , 20
ราชนิ ปู ถัมภจ์ านวนนกั เรียน 40 คนใช้เวลาในการทดลอง 1 ภาคเรยี น และ 15 คน ตามลาดับ และภายหลงั จากการทดสอบคร้งั ท่ี 1 มกี ารฝกึ ฝนทบทวน
เรียนทกุ ๆ สัปดาหเ์ ป็นระยะเวลา 4 เดือน (1 คาบ/สปั ดาห์) คาศพั ทใ์ ห้กบั นักเรยี นอยา่ งสมา่ เสมอมากขนึ้ แลว้ กลบั มาทดสอบคาศพั ท์ภาษาองั กฤษ
คร้ังที่ 2 นกั เรยี นทีอ่ ยูใ่ นระดับคะแนนดมี าก ปานกลาง และควรปรับปรงุ จานวน 10 ,
กระบวนการแก้ปัญหา 25 และ 5 คน ตามลาดบั
การทดสอบการอา่ นภาษาอังกฤษชดุ ที่2 ครง้ั ที่1 นักเรยี นท่อี ยู่ในระดบั คะแนนดมี าก
ขัน้ ตอนในการดาเนนิ การวจิ ยั ปานกลาง และควรปรับปรงุ จานวน 5 , 15 และ 20 คน ตามลาดับ และภายหลงั จาก
การทดสอบครง้ั ที่ 1 ใหน้ ักเรยี นฝึกทกั ษะการทดสอบการถาม – ตอบ ภาษาอังกฤษอย่าง
สมา่ เสมอเปน็ ประจา และทดสอบการถาม – ตอบ ภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวัน ครั้งที่
2 นกั เรยี นท่ีอยู่ในระดับคะแนน ดีมาก ปานกลาง และควรปรับปรงุ จานวน 10 , 20
และ 10 คน ตามลาดับ

สรปุ ผล

• ครูทดสอบการอ่านออกเสียงของ

ขัน้ วเิ คราะห์ ผู้เรียน จากนั้นวิเคราะห์และจัดหา ซงึ่ จากผลการทดสอบ แสดงใหเ้ หน็ ว่า นักเรยี นช้นั
ผูเ้ รยี น
วธิ กี ารแกป้ ญั หาข้อบกพรอ่ ง มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/3 6/6 6/9อยูใ่ นระดบั ท่ี
ขั้นออกแบบ
ขัน้ วเิ คราะห์ ดมี าก และ ปานกลาง เพิ่มข้ึน นักเรยี นทีค่ วรปรับปรุงมี

ข้อมลู • ครูออกแบบ แบบทดสอบการอ่านและนักเรียนฝึก จานวนลดลง จึงสรปุ การวิจยั ไดว้ ่า การฝกึ ฝนทบทวน
ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากบทเรียน จากนนั้น คาศพั ทภ์ าษาอังกฤษ และ ฝกึ อ่านอยู่เปน็ ประจาอย่าง
สม่าเสมอ สามารถชว่ ยเพิ่มการจดจาและทกั ษะทางดา้ น
ครูผู้สอนทาการสังเกตความสามารถการอา่ น
ภาษาอังกฤษของนกั เรยี นและเพ่มิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น

• ครูนาข้อมูลจากการทดสอบการอ่าน

ของนักเรียนในแต่ละครั้ง มีวิเคราะห์

และสรุปผลการวิจยั

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศตั รพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
นางวไิ ลลกั ษณ์ กลบั ศรีอ่อน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
การพฒั นาการอ่านและการจดจาคาศพั ท์ในภาษาองั กฤษของนกั เรียน ข้นั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม
ชนั้ มธั ยมศึกษา ปีท่ี 6

ทมี่ าและความสาคญั

นกั เรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี6 ต้องใช้ความรู้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลยั แตน่ กั เรียน 1. ปฐมนิเทศเพือ่ แจง้ บทบาท เป้าหมาย จุดประสงค์และวิธีการประเมิน
บางสว่ นยงั คงมีปัญหาในการอ่านภาษาองั กฤษ การจดจาคาศพั ท์และความหมายครูจึง 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น
ต้องการช่วยแก้ปัญหาเพ่ือให้นกั เรียนได้พฒั นาทกั ษะของตนเอง
3. ดาเนนิ การทดลองกลมุ่ ตวั อยา่ ง
วตั ถุประสงค์ 4. ทดสอบหลงั เรียน

5. นาผลท่ีได้มาวิเคราะห์

ผลการดาเนนิ งาน

การศกึ ษาครงั้ นมี ้ ีจดุ ม่งุ หมายเพ่ือศกึ ษาพฒั นาความสามารถด้านการอ่านออกเสียงภาษาองั กฤษ การทดสอบการอา่ นภาษาองั กฤษชดุ ท่ี1 ครงั้ ท่ี 1 ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/3 6/6 6/9 นกั เรียนท่ีอย่ใู นระดบั คะแนนดี
และการจดจาคาศพั ท์และความหมายของคาเหล่านนั้ กล่มุ ตวั อยา่ งเป็นนกั เรียนชัน้ ม.6/3 6/6 6/9 มาก ปานกลาง และควรปรับปรุง จานวน 5 , 20 และ 15 คน ตามลาดบั และภายหลงั จากการทดสอบครงั้ ท่ี 1 มกี ารฝึกฝน
ทบทวนคาศพั ทใ์ ห้กบั นกั เรียนอย่างสม่าเสมอมากขนึ ้ แล้วกลบั มาทดสอบคาศพั ท์ภาษาองั กฤษครงั้ ที่ 2 นกั เรียนทอ่ี ยใู่ นระดบั
ประจาภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์จานวน
นกั เรียน 40 คนใช้เวลาในการทดลอง 1 ภาคเรียนเรียนทกุ ๆ สปั ดาห์เป็นระยะเวลา 4 เดอื น (1 คะแนนดีมาก ปานกลาง และควรปรบั ปรุง จานวน 10 , 25 และ 5 คน ตามลาดบั
คาบ/สปั ดาห)์ การทดสอบการอา่ นภาษาองั กฤษชดุ ที่2 ครงั้ ที่1 นกั เรียนทอ่ี ย่ใู นระดบั คะแนนดีมาก ปานกลาง และควรปรบั ปรุง จานวน 5 , 15

และ 20 คน ตามลาดบั และภายหลงั จากการทดสอบครงั้ ท่ี 1 ให้นกั เรียนฝึกทกั ษะการทดสอบการถาม – ตอบ ภาษาองั กฤษ
อยา่ งสมา่ เสมอเป็นประจา และทดสอบบการถาม – ตอบ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั ครงั้ ท่ี 2 นกั เรียนทีอ่ ย่ใู นระดบั คะแนน
ดมี าก ปานกลาง และควรปรบั ปรุง จานวน 10 , 20 และ 10 คน ตามลาดบั

กระบวนการแก้ปัญหา สรุปผล

ดำเนินกำรท้งั หมด 4 ข้นั ตอนดงั น้ี ซ่งึ จากผลการทดสอบ แสดงให้เห็นว่า นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/3
6/6 6/9อยใู่ นระดบั ที่ดีมาก และ ปานกลาง เพ่ิมขนึ ้ นกั เรียนท่ีควร
วเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น ปรบั ปรุงมจี านวนลดลง จึงสรุปการวจิ ยั ได้วา่ การฝึกฝนทบทวนคาศพั ท์
ภาษาองั กฤษ และ ฝึกอา่ นอย่เู ป็นประจาอยา่ งสมา่ เสมอ สามารถช่วย
1 ประชากรคือนกั เรียนในระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 จานวน 40 คน เพ่ิมการจดจาและทกั ษะทางด้านภาษาองั กฤษของนกั เรียนและเพ่ิม
(ม.6/3 6/6 6/9) ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน
จากการทดลองในครงั้ นสี ้ ามารถอภิปรายผลได้ดงั นี ้
2 ขั้นออกแบบ 1. สงั เกตได้วา่ นกั เรียนสามารถพฒั นาความเข้าใจหลกั การอา่ นออกเสยี ง
• ออกแบบแบบทดสอบการอ่าน ภาษาองั กฤษมากขนึ ้ โดยดผู ลการเปรียบเทยี บคะแนนกอ่ นเรียนและหลงั
เรียนในขณะทฝี่ ึกปฏิบตั ิ
3 วเิ คราะห์ขอ้ มูล 2. จากการวิจยั ครงั้ นที ้ าให้นกั เรียนได้เรียนรู้หลกั การอ่านภาษาองั กฤษ
เพ่ิมขนึ ้
• วเิ คราะห์ผลจากคะแนนท่ไี ดจ้ ากการทดสอบการอ่าน 3. จะเห็นได้วา่ เม่อื นกั เรียนได้รบั การสอนท่มี ีส่ือน่าสนใจในการนาเสนอ
ทาให้นกั เรียนชอบและอยากอ่านออกเสยี งภาษาองั กฤษมากขนึ ้ และเม่ือ
4 พฒั นาผลท่ีได้จากการวเิ คราะห์ข้อมูล นกั เรียนมีใจชอบย่อมทาให้พวกเขาสนใจศกึ ษาด้วยตนเองต่อไป

นาผลจากการวเิ คราะหม์ าปรบั ปรงุ และพัฒนา

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ๑๐๑๐๐ ๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)
Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
นางวิไลลกั ษณ์ กลบั ศรีอ่อน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
การพัฒนาการอ่านและการจดจาคาศพั ท์ในภาษาองั กฤษของนกั เรียน ข้นั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม
ชนั้ มธั ยมศกึ ษา ปีที่ 6

ที่มาและความสาคญั

นกั เรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี6 ต้องใช้ความรู้ในการสอบเข้ามหาวทิ ยาลยั แตน่ กั เรียน
บางส่วนยงั คงมปี ัญหาในการอา่ นภาษาองั กฤษ การจดจาคาศพั ท์และความหมายครูจึง

ต้องการช่วยแก้ปัญหาเพื่อให้นกั เรียนได้พัฒนาทกั ษะของตนเอง

วตั ถุประสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

การศกึ ษาครงั้ นมี ้ ีจดุ ม่งุ หมายเพ่ือศึกษาพฒั นาความสามารถด้านการอา่ นออกเสียงภาษาองั กฤษ การทดสอบการอ่านภาษาองั กฤษชดุ ท่ี1 ครงั้ ที่ 1 ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6/3 6/6 6/9 นกั เรียนที่อย่ใู นระดบั คะแนนดี
และการจดจาคาศพั ท์และความหมายของคาเหล่านนั้ กลมุ่ ตวั อยา่ งเป็นนกั เรียนชนั้ ม.6/3 6/6 6/9 มาก ปานกลาง และควรปรับปรุง จานวน 5 , 20 และ 15 คน ตามลาดบั และภายหลงั จากการทดสอบครงั้ ท่ี 1 มกี ารฝึกฝน
ประจาภาคการเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์จานวน ทบทวนคาศพั ท์ให้กบั นกั เรียนอย่างสมา่ เสมอมากขนึ ้ แล้วกลบั มาทดสอบคาศพั ท์ภาษาองั กฤษครงั้ ที่ 2 นกั เรียนทอ่ี ย่ใู นระดบั
นกั เรียน 40 คนใช้เวลาในการทดลอง 1 ภาคเรียนเรียนทกุ ๆ สปั ดาหเ์ ป็นระยะเวลา 4 เดอื น คะแนนดมี าก ปานกลาง และควรปรับปรุง จานวน 10 , 25 และ 5 คน ตามลาดบั
(1 คาบ/สปั ดาห์) การทดสอบการอา่ นภาษาองั กฤษชดุ ที่2 ครงั้ ที่1 นกั เรียนทอี่ ย่ใู นระดบั คะแนนดีมาก ปานกลาง และควรปรับปรุง จานวน 5 , 15
และ 20 คน ตามลาดบั และภายหลงั จากการทดสอบครัง้ ท่ี1 ให้นกั เรียนฝึกทกั ษะการทดสอบการถาม – ตอบ ภาษาองั กฤษ
กระบวนการแก้ปัญหา อย่างสมา่ เสมอเป็นประจา และทดสอบบการถาม – ตอบ ภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวนั ครงั้ ท่ี 2 นกั เรียนท่ีอย่ใู นระดบั คะแนน
ดีมาก ปานกลาง และควรปรับปรุง จานวน 10 , 20 และ 10 คน ตามลาดบั

ข้นั ตอนในกำรดำเนนิ กำรวจิ ยั สรุปผล

ขน้ั วิเคราะห์ • ครูทดสอบกำรอ่ำนออกเสียงของผู้เรียน จำกน้นั วิเครำะห์และจดั หำวิธีกำร ซึ่งจากผลการทดสอบ แสดงให้เห็นว่า นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6/3 6/6 6/9อย่ใู นระดบั ทดี่ มี าก และ ปานกลาง
ผ้เู รียน แกป้ ัญหำขอ้ บกพร่อง เพ่ิมขนึ ้ นกั เรียนทคี่ วรปรับปรุงมีจานวนลดลง จึงสรุปการวจิ ยั ได้วา่ การฝึกฝนทบทวนคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ และ ฝึกอา่ น
อยเู่ ป็นประจาอย่างสม่าเสมอ สามารถช่วยเพ่ิมการจดจาและทกั ษะทางด้านภาษาองั กฤษของนกั เรียนและเพิ่มผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียน
จากการทดลองในครงั้ นสี ้ ามารถอภิปรายผลได้ดงั นี ้
1. สงั เกตได้ว่านกั เรียนสามารถพฒั นาความเข้าใจหลกั การอ่านออกเสียงภาษาองั กฤษมากขนึ ้ โดยดผู ลการเปรียบเทยี บ
คะแนนก่อนเรียนและหลงั เรียนในขณะท่ีฝึกปฏิบตั ิ
2. จากการวิจยั ครงั้ นที ้ าให้นกั เรียนได้เรียนรู้หลกั การอ่านภาษาองั กฤษเพิ่มขนึ ้
3. จะเหน็ ได้ว่าเมือ่ นกั เรียนได้รบั การสอนทมี่ สี อ่ื นา่ สนใจในการนาเสนอทาให้นกั เรียนชอบและอยากอ่านออกเสียง
ภาษาองั กฤษมากขนึ ้ และเม่อื นกั เรียนมีใจชอบยอ่ มทาให้พวกเขาสนใจศึกษาด้วยตนเองตอ่ ไป

ขั้นออกแบบ • ครูออกแบบ แบบทดสอบกำรอ่ำนและนกั เรียนฝึ กทกั ษะกำรอ่ำนภำษำองั กฤษจำกบทเรียน จำกนน้นั
ครูผสู้ อนทำกำรสังเกตควำมสำมำรถกำรอ่ำน

ขั้นวิเคราะห์ • ครูนำขอ้ มลู จำกกำรทดสอบกำรอ่ำนของนกั เรียนในแต่ละคร้ัง มีวเิ ครำะห์
ข้อมูล และสรุปผลกำรวจิ ยั

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ saipanya.co.th
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ๑๐๑๐๐ ๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง่ การเรียนรูท้ างวชิ าชีพ (PLC)

การพฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนโดยการจัดการเรยี นรเู้ ร่ืองการพฒั นาทักษะการเขียนภาษาองั กฤษโดยใช้
แบบฝึกหดั การเขียนจากบริบทของบทเรียนของนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/4

ที่มาและความสาคัญ นางอินทนิล เขมาวาศน์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ขภัน้าษตาอตน่างกปาระรเดทาศเนินกจิ กรรม

การจัดการเรยี นรจู้ ะส่งเสริมและฝกึ นกั เรียนคิด ทาการ การทดสอบพื้นความรู้นักเรียนในการจัดระดับการฝึก
สังเกต ทดลอง หรือสืบค้น เพ่ือท่ีจะพิสูจน์ทักษะการ ทักษะการการเขียนภาษาอังกฤษสามารถพัฒนาทักษะ
ก า ร เ ขี ย น ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ส า ม า ร ถ พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ก า ร การพัฒนาการเขียนได้อย่างมีระบบและเป็นขั้นตอน
พัฒนาการเขียนออกเสียงได้อย่างมีระบบและเป็น และทบทวนหลังการฝกึ เขียนภาษาองั กฤษ
ขั้นตอน เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา
ภาษาอังกฤษเรื่อง การพัฒนาทักษะการเขียน ผลการดาเนินงาน
ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกหัดการเขียนจากบริบทของ
บทเรยี น

วัตถปุ ระสงค์

เพ่อื พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเร่ือง ตารางเปรยี บเทยี บคะแนนผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/4
การพัฒนาทักษะการเขยี นภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกหัด ก่อนและหลงั การใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
การเขียนจากบริบทของบทเรียนของ นักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 4/4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยชุด สรุปผล
กจิ กรรมการเรียนรู้

กระบวนการแกป้ ญั หา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เร่ืองการ

พฒั นาทกั ษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใชแ้ บบฝึกหัดการเขยี นจากบริบท

ลักษณะสาคัญของการเรยี นรู้ มอี ยู่ 3 ขน้ั ตอน ดังตอ่ ไปนี้ ของบทเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4/4 หลังเรียนสูงกว่าก่อน
เรียนอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติท่ีระดับ .01 วิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้

ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยอาศัยความรู้พ้ืนฐานจาก

• ครูทดสอบการเขียนภาษาองั กฤษของผเู้ รียน จากน้ัน ประสบการณ์เดมิ ของตนเอง ผลจากการจัดการเรียนรู้ท่ีให้ค้นพบความรู้
ขัน้ ที่ 1 วเิ คราะห์และจดั หาวธิ ีการแกป้ ัญหาขอ้ บกพร่อง
ด้วยตัวเองจากกระบวนการกลุ่มควบคู่กับการเกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่าง

ผู้เรียนด้วยกัน และผู้สอนกับผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนมีความสนใจ มีความ

• นกั เรียนฝึกทกั ษะการเขียนภาษาองั กฤษจากบทเรียน จากน กระตือรือร้นและความตั้งใจ และเกิดความเข้าใจจากการแลกเปล่ียน

ขน้ั ที่ 2 น้นั ครูผสู้ อนทาการสังเกตความสามารถการเขยี น ความรสู้ ่งผลให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรดู้ ้วยตนเอง

• นักเรียนเขียนคาศัพท์และประโยคตามครูผู้สอน
ขั้นที่ 3 อธิบายในแบบฝึกหัดทจี่ ดั ให้

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรูพา่ ย ๑๐๑๐๐

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การพัฒนาทกั ษะการรว่ มเล่นวอลเลยบ์ อลเปน็ กลมุ่ เลก็ ของนักเรียนระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2/6

ที่มาและความสาคัญ นายวรวุฒิ กระจา่ งพตั ร์ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษา และพลศึกษา

ขนั้ ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

จากการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนวิชาพล ผลการดาเนนิ งาน
ศกึ ษา (วอลเลย์บอล) ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีท่ี 2 ผ้ศู กึ ษาพบว่านักเรยี นมีพฒั นาการด้านทักษะการ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการทดสอบก่อนการใช้แบบฝึกทักษะ กับ
ร่วมเล่นวอลเลย์บอลเป็นกลุ่มเล็กได้แก่การอันเดอร์ การทดสอบหลังจากการใช้แบบฝึกทักษะ นักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษา ปีที่ 2/6
เซต และตบ ประสานงานกันได้ต่ากว่าเกณฑ์ท่ีก่าหนด มีพัฒนาการท่ีดีข้ึน สามารถใช้ทักษะกีฬาวอลเลย์บอลประสานงานร่วมกันเล่น
ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมีความสนใจในการพัฒนาทักษะการ ภายในกล่มุ ได้จ่านวนคร้งั ทีเ่ พม่ิ มากข้ึน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่ 6 มีพัฒนาการ
ร่วมเล่นวอลเลย์บอลเป็นกลุ่มเล็ก ให้มีพัฒนาการที่ดี เพมิ่ ขนึ้ เป็นอยา่ งมาก
ข้ึน เพ่ือเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้เรียนในพัฒนาคะแนน
ทักษะ และน่าความรู้และทักษะท่ีได้ไปใช้ในการออก
ก่าลังกาย เสริมสร้างสุขภาพของตนเอง และเป็น
แนวทางในการพัฒนาปรับปรงุ การจัดการเรียนการสอน
ต่อไป

วตั ถปุ ระสงค์

เพ่ือพัฒนาทักษะการรว่ มเลน่ วอลเลย์บอลเป็น
กล่มุ เลก็ ของนักเรยี นระดบั ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2/6

สรปุ ผล

การพฒั นาทกั ษะพัฒนาทักษะการร่วมเล่นวอลเลย์บอลเป็นกลุ่มเล็กของ
นักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2/6 โดยการทดสอบหลังจากการใช้
แบบฝึกทักษะท่าให้มีพัฒนาการท่ีดีขึ้น สามารถใช้ทักษะกีฬา
วอลเลย์บอลประสานงานร่วมกันเล่นภายในกลุ่ม ได้จ่านวนครั้งท่ีท่า
สา่ เรจ็ เพ่มิ มากขึ้น

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชีพ (PLC)

ผลการใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะเพอื่ แกป้ ัญหาการยงิ ประตใู นการเล่นกฬี าแชร์บอล

วิชาแชรบ์ อล พ22203 ของนักเรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 ปีการศึกษา 2561

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ นางวจิ ิตร สรุชตกิ าล กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษษ

ที่มาและความสาคญั ข้ันตอนการดาเนินกจิ กรรม

โรงเรียนสายปัญญา ได้จัดการเรียนการสอนกีฬาแชร์ 5. วเิ คราะห์ผล
บอล การเล่นแชร์บอลส่วนใหญ่ปัญหาท่ีพบมากท่ีสุดก็ 4. ทดสอบหลังเรียน
คือ นักเรียนยิงลูกแชร์บอลไม่ลงตะกร้า เป็นไปตาม 3. ดาเนินการทดลองกลมุ่ ตัวอย่าง
เกณฑ์ที่กาหนดไว้ ครูผู้สอนได้สร้างนวัตกรรมแบบฝึก 2. ทดสอบก่อนเรยี น
ข้ึนมาเพ่ือแก้ไขหาปัญหาของนักเรียน โดยการเก็บ 1. ปฐมนเิ ทศเพอ่ื แจ้งบทบาท จุดประสงค์และวิธกี ารประเมนิ
ข้ อ มู ล ข อ ง นั ก เ รี ย น ก่ อ น ฝึ ก แ ล ะ ห ลั ง ฝึ ก แ ล ะ ส ร้ า ง
นวัตกรรมแบบฝึกการยงิ ลกู แชรบ์ อล

วตั ถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

1. เพื่อศึกษาผลการใช้แบบฝกึ ทกั ษะเพ่อื แก้ปญั หาการยงิ ประตูในการเล่น การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยวธิ สี อนแบบทานาย สงั เกต อธิบายจะ
กฬี าแชร์บอล วชิ าแชรบ์ อล พ22203 ของนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ช่วยสง่ เสรมิ ใหนกั เรยี นไดเ้ รยี นรูวทิ ยาศาสตรท์ ีเ่ นนกระบวนการไปส่กู าร
ที่ 2/1 ปีการศกึ ษา 2561 โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ สร้างองคความรูโดยผเู้ รียนมีสวนร่วมทุกขัน้ ตอน ทาใหเกิดมโนมตทิ าง
2. เพ่อื เปรยี บเทยี บทักษะการยิงลูกแชร์บอลก่อนและหลังการเรียนรู้ของ วทิ ยาศาสตร์ทเี่ กิดจากการเรยี นรูมาใชอธิบายคาตอบในคาถามของแบบวัด
นักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเพ่ือแก้ปัญหาการยิงประตูในการเล่นกีฬา มโนมติทางวทิ ยาศาสตรจ์ นได้คะแนนเฉลย่ี สูงเพ่มิ ขึ้น
แชร์บอล

กระบวนการแกป้ ัญหา สรปุ ผล

ผลการใช้แบบฝกึ ทกั ษะเพอื่ แก้ปญั หาการยงิ ประตใู นการเลน่ กีฬาแชรบ์ อล ผลการใชแ้ บบฝกึ ทักษะเพอ่ื แกป้ ญั หาการยงิ ประตูในการเล่นกีฬาแชรบ์ อล ของนกั เรียน
วชิ าแชร์บอล พ22203 ของนกั เรยี นระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2/1 ปีการศึกษา ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 วิชาแชรบ์ อล พ22203 โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรม
2561ซง่ึ มแี นวทางการศกึ ษาวจิ ยั การรวบรวมขอ้ มลู เครอ่ื งมือทใ่ี ช้และการ ราชนิ ปู ถัมภ์ ปรากฏผลดังนี้
วิเคราะหข์ อ้ มูล ดังนี้ นักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทเี่ รยี นใน
รายวชิ าแชรบ์ อล มกี ารพฒั นาทักษะในการยงิ ลูกแชรบ์ อลมากขึ้นกว่าเดิม คือ ก่อนใช้แบบฝกึ
• นักเรียนที่มีพัฒนาการด้านทักษะการยิง ทกั ษะในการยิงลกู แชรบ์ อลนนั้ นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์ระดับดี 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.83 พอใช้
ศกึ ษาปญั หา ประตูทีตา่ กว่าเกณฑท์ ีก่ าหนดไว้ จานวน 11 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 32.35 และควรปรบั ปรงุ จานวน 20 คน คิดเป็นรอ้ ยละ
58.82 ซึ่งหลงั จากใชแ้ บบฝึกทกั ษะในการยงิ ลูกแชรบ์ อลแล้ว นกั เรยี นไดม้ ีการพัฒนาทกั ษะ
• ศึกษาคน้ คว้าเอกสารและงานวจิ ยั ที่เกย่ี วข้อง ในการยิงลูกแชรบ์ อลอยู่ในเกณฑ์ระดับดีมาก จานวน 29 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 85.29 ระดับดี
จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 14.71
การศรา้ ง • นาส่งิ ทไี่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้ามาสรา้ งแบบฝกึ

เครอื่ งมือท่ใี ช้ • นาเสนอผเู้ ช่ยี วชาญเพ่อื ตรวจสอบความถูกต้องและแกไ้ ข
ในการศกึ ษา • สร้างแบบบันทกึ ทาความคุ้นเคยกบั แบบฝกึ เขยี นโครงร่าง แบบฝึกการ

ยิงประตรู ะยะ3ระยะ

การเก็บ • ทดสอบการยงิ ประตู 3 ระยะกอ่ นการใช้แบบฝกึ พรอ้ มบันทกึ ผล
รวบรวมและ
• ฝกึ ซ้อมแบบฝึกการยิงประตู 3 ระยะและทดสอบเก็บข้อมูลตามแผนท่ี
วิเคราะห์ กาหนด
ข้อมลู
• ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ต่อ 1 แบบฝึกทกั ษะ

• การวเิ คราะห์ขอ้ มลู แปลผล เขยี นรายงาน

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รูพ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)

การใชบ้ ญั ชีสขุ ภาพ พฒั นาพฤติกรรมสขุ ภาพ มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

ทีม่ าและความสาคญั นางสุภาภรณ์ เปรมแหวว กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษา และพลศึกษา

ข้ันตอนการดาเนินกจิ กรรม

วัยรุ่นเปน็ วัยแหง่ การเปลยี่ นแปลงทงั้ ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และสังคม 5. เผยแพร่
อยา่ งรวดเร็ว ถ้ามีพฤติกรรม สุขภาพไม่ถกู ตอ้ ง เชน่ บริโภคอาหารมากเกนิ ไป ไม่
ถูกสดั สว่ น ไมอ่ อกกาลังกาย พักผ่อนไม่เพยี งพอ ไมม่ กี จิ กรรม นนั ทนาการ 4. ทดสอบหลงั เรยี ควบคมุ
นา้ หนกั เกนิ เกณฑม์ าตรฐานซ่ีงเปน็ ปจั จยั เสย่ี งทส่ี าคัญของการเกดิ โรคในวัย พฤติกรรมสขุ ภำพโดยกำร
ผู้ใหญ่ เช่นโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ เป็นตน้ การปรบั พฤตกิ รรม
จึงเป็นส่งิ สาคัญ ควรใชว้ ธิ ีการทปี่ ลูกฝังความตระหนกั ในการรกั ษาสุขภาพ เปน็ บนั ทึกบญั ชีสขุ ภำพน
แนวทางใหเ้ ดก็ วยั รุ่นมนี ้าหนกั ท่ีเปน็ มาตรฐานนาไปสูก่ ารกเจรญิ เตบิ โตมี
พฒั นาการท่ีปกติ ก้าวเข้าสูว่ ัยหนุ่มสาว วัยผใู้ หญ่ รวมถึงวยั ชราอยา่ งผมู้ สี ขุ ภาพ 3. 3ทดลองกลมุ่ ตวั อยา่ ง
กาย และสขุ ภาพจิตที่ดอี ยา่ งถาวร
22ใหค้ วามรเู้ ร่ืองพฤติกรรมสขุ ภาพ การกินอาหาร การออกกาลงั
กาย การพักผ่อนทดสอบกอ่ นเรียน

1.ชัง่ น้าหนัก วดั ส่วนสูง หาดัชนมี วลกายกอ่ นการวจิ ยั
ศเพือ่ แจ้งบทบาท จดุ ประสงค์และวธิ ีการประเมนิ

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

1 เปน็ แนวทางในการปรับวิธีปฏิบัติตนเพ่ือรักษา สุขภาพ เป็นแนวทำงให้เดก็ วยั รุ่นมีนำ้ หนกั และสว่ นสงู ที่เป็นมำตรฐำนนำไปสกู่ ำร
ของนักเรยี น เจริญเตบิ โตมีพฒั นำกำรที่ปกติ ก้ำวเข้ำสวู่ ยั หน่มุ สำว วยั ผ้ใู หญ่ รวมถงึ วยั
2 สง่ เสริมวธิ ปี ฏบิ ัตติ น เพอ่ื การรักษาสุขภาพของนักเรียน ชรำอยำ่ งผ้มู สี ขุ ภำพกำย และสขุ ภำพจติ ที่ดอี ยำ่ งถำวร
อย่างถาวร
3 เผยแพรค่ วามร้ใู ห้ครอบครัวและชุมชน สรุปผล

กระบวนการแกป้ ัญหา นักเรียนมีพฤตกิ รรมสุขภาพที่เปลี่ยนแปลง ระวงั การกนิ การออกกาลงั
กาย การพักผอ่ น มีการเปลี่ยนแปลง BMI ในเกณฑม์ าตรฐานเพมิ่ ขึ้น
ใชก้ ารบันทึกบัญชี สขุ ภาพ เพอื่ ปรบั เปลย่ี นพฤติกรรม
สุขภาพ

ขั้นศึกษา • 1ช่ังนำ้ หนัก วัดส่วนสูง หำดัชนี
มวลกำยกอ่ นกำรวจิ ยั
ขอ้ มูล

ข้นั ให้ • 2ใหค้ วามรู้เร่ืองพฤตกิ รรมสุขภาพ การกิน
ความรู้ อาหาร การออกกาลังกาย การพักผ่อน

ข้นั ปฏบิ ตั ิ • 3ให้ควำมรู้กำรทำบญั ชีสขุ ภำพ
และ • 4ควบคมุ พฤตกิ รรมสขุ ภำพโดยกำรบนั ทกึ

เผยแพร่ บญั ชีสขุ ภำพ

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพา่ ย ๑๐๑๐๐

กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การแก้ปัญหาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น เร่ืองการตรวจสอบการเท่ากนั ของอตั ราส่วนโดยใช้การคณู ไขว้
ระดับมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1/3 โดยใช้ตารางร้อย ตารางสิบ และสื่อแผน่ ใสตารางสิบ

นางสาวกนก มาประชา กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ท่มี าและความสาคัญ ขนั้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม

ผวู้ ิจยั จึงไดท้ าการศึกษางานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา 5. วเิ คราะห์ผล
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง การคูณทศนิยม โดยใช้ตาราง 4. ทดสอบหลงั เรียน
ร้อย ตารางสิบ และสือ่ แผ่นใสตารางสบิ ในการเรยี นการสอน 3. ดาเนินการทดลองกลุ่มตวั อยา่ ง
วิชาคณิตศาสตร์ การใช้ส่ือการเรียนการสอนเป็นตัวกลาง 2. ทดสอบก่อนเรยี น
ในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ทักษะและประสบการณ์ 1. แจง้ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละแนวทางการปฏบิ ตั กิ ารเรยี นการสอน
ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ กิ ด ก า ร เ รี ย น รู้ ไ ด้ อ ย่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ
มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนท่ีดีข้ึน

วัตถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพ่ือแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่องการตรวจสอบ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความสามารถในการทาแบบทดสอบ
การเท่ากันของอัตราส่วนโดยใช้การคูณไขว้ สาหรับนักเรียน ของนักเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จานวน 10 คน สรุปได้ว่า
โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ระดับ นักเรียนทุกคนมีคะแนนผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 50
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จานวน 10 คน โดยใช้สื่อตาราง
สบิ ตารางร้อย และสื่อแผ่นใสตารางสิบ ให้ผ่านเกณฑ์ข้ัน สรุปผล
ตา่ รอ้ ยละ 50

กระบวนการแกป้ ัญหา จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ค ะ แ น น ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ ท า ง ก า ร เ รี ย น
ของกลุ่มเป้าหมาย เร่ืองการคูณทศนิยม และ เร่ือง
กระบวนการแก้ปัญหา มี 3 ขัน้ ตอน ดงั น้ี การตรวจสอบการเท่ากันของอัตราส่วนโดยใช้การคูณไขว้
จะเห็นได้ว่าหลังการใช้ส่ือการเรียนการสอน นักเรียนทั้ง
ขั้นเลือก • เลือกกลุ่มเป้าหมาย โดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงสาหรับท่ีมี 10 คน ผ่านเกณฑ์ที่ผู้วิจัยกาหนดไว้ เน่ืองจากสื่อการเรียน
กลมุ่ เป้าหมาย ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เรือ่ งการบวกและการลบจานวนเต็ม ต่ากว่า การสอนท่ีผู้วิจัยเลือกมาใช้ช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
เกณฑ์ทก่ี าหนดและช้แี จงให้กล่มุ เปา้ หมายทราบถึงวัตถุประสงค์และ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ทาให้นักเรียนรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมการเรียนการสอนมากข้ึน นักเรียน เกิด
แนวการปฏบิ ัติการเรยี นการสอน ความสนใจในเร่ืองที่เรียน ช่วยให้เข้าใจบทเรียนจาก
นามธรรม เป็นรูปธรรม นักเรียนมีความจาที่ดีและเกิด
• ดาเนินการแกป้ ญั หาทางการเรียน เร่ือง การบวกและการลบจานวนเต็ม ความประทับใจทางานเร็วขนึ้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงชว่ ยสง่ เสริม
โดยใช้สื่อแผน่ สี 2 สี การเรยี นการสอน กับกลุ่มเป้าหมายจานวน 6 คาบ ความคิด การแก้ปัญหาและสามารถเรียนรู้จากส่ิงที่ยาก
ให้เข้าใจง่ายข้ึน นอกจากนี้สื่อยังช่วยกระตุ้นความสนใจ
ขนั้ ดาเนนิ การ โดยผู้วิจัยเปน็ ผดู้ าเนินการจดั การเรียนการสอน ของนักเรียน

ขนั้ สรปุ ผล • นาคะแนนทไ่ี ด้จากการทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง การบวก
และการลบจานวนเต็ม ของนักเรยี นกล่มุ เป้าหมายไปวเิ คราะห์โดยวธิ ีการทางสถิต
และสรปุ ผลการวจิ ยั

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศตั รูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)

การบวกและการลบจานวนเต็มของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1/3

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ โดยใชส้ ือ่ แผน่ สี 2 สี

นางสาวกนก มาประชา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ทม่ี าและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม

จากการศึกษาค้นคว้า ผู้วิจัยจึงสนใจ แก้ปัญหา 1. แจ้งวตั ถปุ ระสงค์และแนวทางการปฏิบตั ิการเรยี นการสอน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การบวกและการลบ
จานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 2. ทดสอบก่อนเรียน
โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อ
การเรียนการสอน ซ่ึงเป็นสื่อประเภทวัสดุ เพ่ือช่วยให้ 3. ดาเนินการทดลองกลมุ่ ตวั อย่าง
นักเรียนเขา้ ใจในเน้ือหาที่ง่ายข้ึน สื่อการเรียนการสอน
ทผี่ วู้ ิจัยนามาใช้ในการวิจยั คร้งั น้ี คือ สือ่ แผน่ สี 2 สี 4. ทดสอบหลงั เรียน

วตั ถุประสงค์ 5. นาผลที่ไดม้ าวิเคราะห์

เพื่อแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการบวกและ ผลการดาเนนิ งาน
การลบจานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อ หลังจากที่ใช้ส่ือแผ่นสี 2สี ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
แผน่ สี 2 สี ใหผ้ า่ นเกณฑข์ ัน้ ตา่ ร้อยละ 50 เร่ือง การบวกและการลบจานวนเต็ม นักเรียนเห็นภาพของการบวกและ
การลบจานวนเต็มได้ง่ายข้ึน วิธีการหาผลลัพธ์จากการบวกและการลบ
กระบวนการแกป้ ญั หา นักเรียนก็จะใช้วิธีการดูสีของแผ่นสี และนักเรียนสามารถรู้ผลลัพธ์
จากแผ่นสีท่ีเหลือว่าผลลัพธ์ท่ีได้น้ันเป็นจานวนเต็มบวกหรือจานวนเต็ม
กระบวนการแกป้ ัญหา มี 3 ขั้นตอน ดงั นี้ ลบ ซง่ึ ทาใหน้ ักเรียนเข้าใจหลักการบวกและการลบจานวนเต็มได้ถูกต้อง
และผ่านเกณฑข์ นั้ ต่าร้อยละ 50
K K (What we Know)
• เรารูอ้ ะไร สรุปผล
W W (What we want to Know)
• เราตอ้ งการรู้อะไร ตอ้ งการทราบอะไร การแกป้ ัญหาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เร่ืองการบวก
D D (What we Do) และการลบจานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/3
• เราทาอะไร อย่างไร โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อแผ่นสี 2 สี
สามารถอภิปรายผล ได้ดังนี้ หลงั การเรยี นดว้ ยสื่อการสอนแผ่นสี 2 สี
L L (What we Learned) เรื่อง การบวกและการลบจานวนเต็ม นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิ
• เราเรยี นรู้อะไร ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่าร้อยละ50 ซ่ึงสอดคล้อง
กบั งานวิจัยท่ีกี่ยวข้องในบทท่ี 2 เน่ืองจากการจัดการเรียนการสอน
ท่ีใช้ส่ือการสอนแผ่นสี 2 สี ทาให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้
จากรูปธรรมไปสู่กึ่งนามธรรม และสรุปเป็นองค์ความรู้
ที่เป็นนามธรรมได้ นักเรียนสามารถใช้สื่อเป็นตัวกลาง
ในการทาความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนจากการลงมือปฏิบัติ
ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ทาให้นักเรียน
สามารถทาแบบทดสอบได้อย่างถกู ตอ้ งมากยง่ิ ขึ้น บรรยากาศ
ในการเรียนสนุกสนาน ไม่น่าเบ่ือ จึงทาให้ นักเรียน
มีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนผา่ นเกณฑ์ข้ันตา่ รอ้ ยละ50

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศตั รูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การบวกและการลบจานวนเต็มของนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1/3

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ โดยใชส้ อื่ แผ่นสี 2 สี

นางสาวกนก มาประชา กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

ท่มี าและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม

จากการศึกษาค้นคว้า ผู้วิจัยจึงสนใจแก้ปัญหา
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง การบวกและการลบ
จานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้ส่ือ
การเรียนการสอน ซึ่งเป็นสื่อประเภทวัสดุ เพื่อช่วยให้
นกั เรยี นเข้าใจในเน้ือหาท่ีง่ายขึ้น สื่อการเรียนการสอน
ที่ผูว้ จิ ยั นามาใชใ้ นการวจิ ยั ครงั้ นี้ คือ ส่อื แผน่ สี 2 สี

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

เพ่ือแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ืองการบวกและ หลังจากท่ีใช้ส่ือแผ่นสี 2สี ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
การลบจานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/3 เร่ือง การบวกและการลบจานวนเต็ม นักเรียนเห็นภาพของการบวกและ
โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อ การลบจานวนเต็มได้ง่ายขึ้น วิธีการหาผลลัพธ์จากการบวกและการลบ
แผน่ สี 2 สี ให้ผ่านเกณฑข์ ั้นต่าร้อยละ 50 นักเรียนก็จะใช้วิธีการดูสีของแผ่นสี และนักเรียนสามารถรู้ผลลัพธ์ จากแผ่นสี
ท่ีเหลือว่าผลลัพธ์ท่ีได้น้ันเป็นจานวนเต็มบวกหรือจานวนเต็มลบ ซ่ึงทาให้
กระบวนการแก้ปญั หา นกั เรยี นเข้าใจหลักการบวกและการลบจานวนเต็มได้ถูกต้องและผ่านเกณฑ์
ขนั้ ตา่ ร้อยละ 50

สรปุ ผล

ลักษณะสาคัญของการเรยี นรแู้ บบทานาย สงั เกต อธบิ าย การแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการ บวก
(POE) มีอยู่ 3 ข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี และการลบจานวนเต็ม ของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1/3 โรงเรียนสายปัญญา
ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้ส่ือแผ่นสี 2 สี สามารถอภิปรายผล ได้ดังน้ี หลัง
ขัน้ ทานาย • นกั เรยี นทานายเก่ยี วกับปรากฏการณต์ า่ ง ๆ หรือทานาย การเรียนด้วยส่ือการสอนแผ่นสี 2 สี เรื่อง การบวกและการลบจานวนเต็ม
(Predict) ผลการทดลองท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้น โดยที่นักเรียนต้องให้ นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ผา่ นเกณฑ์ขนั้ ตา่ ร้อยละ50 ซ่ึงสอดคล้องกับ
เหตุผลเกี่ยวกับคาทานายของนักเรียนด้วย งานวิจยั ท่กี ี่ยวขอ้ งในบทท่ี 2เนือ่ งจากการจดั การเรียนการสอนทใี่ ชส้ อื่ การสอน
ข้นั สงั เกต แผ่นสี 2 สี ทาให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้จากรูปธรรมไปสู่กึ่งนามธรรม และสรุป
(Observing) • นกั เรยี นตอ้ งลงมอื ทาการทดลอง หรอื พิสจู น์ หาคาตอบเก่ียวกับสิ่ง เป็นองค์ความรู้ท่ีเป็นนามธรรมได้ นักเรียนสามารถใช้ส่ือเป็นตัวกลาง
ที่ทานายไว้ โดยการทดลอง หรือพิสูจน์ นักเรียนเป็นผู้ออกแบบ ใ นกา รทา ค ว า มเข้า ใจใ นเน้ือหา บท เรียนจา กก า รลงมือปฏิ บัติซ่ึงจะ ช่ว ย
ข้นั อธิบาย การทดลองหรือวางแนวทางการพิสูจน์ตามความต้องการของ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ทาให้นักเรียนสามารถทาแบบทดสอบได้
(Explain) นกั เรียน อยา่ งถูกตอ้ งมากยิง่ ขนึ้ บรรยากาศในการเรียนสนุกสนาน ไม่น่าเบ่ือ จึงทาให้
• นักเรยี นตอ้ งลงมือทาการทดลอง หรือพิสูจน์ ส่ิงท่ีนักเรียนทานายไว้ นักเรียนมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนผ่านเกณฑ์ขน้ั ต่ารอ้ ยละ50
ว่าเปน็ จริงหรือไม่ ซ่ึงอาจจะมีการขัดแย้งกับสิ่งที่นักเรียนทานายไว้
จึงทาให้นักเรียนต้องพยายามหาเหตุผลมาอธิบายถึงสาเหตุของ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถหาได้ ก็อาจจะมีการแลกเปล่ียน
ความรู้กับกลุ่มอื่น แล้วค้นคว้าหาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมาอธิบายจน
สามารถอธิบายปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนได้และมีความน่าเช่ือถือมาก
ทส่ี ุด

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชพี (PLC)

การศึกษาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ เรื่องการแปลงทางเรขาคณติ
กรณีการเล่ือนขนาน โดยส่ือประสมของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2/5 และ 2/6

นางสาวกมลวรรณ บุญแจง้ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ทีม่ าและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม

จากการศึกษาค้นคว้าผู้วิจัยจึงสนใจแก้ปัญหา 5. วิเคราะหผ์ ล
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่องการแปลงทางเรขาคณิต 4. โดยใช้สื่อประสม (ทา
กรณีการเลื่อนขนาน โดยสื่อประสมของนักเรียนช้ัน แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์
มัธยมศึกษาปที ่ี 2/5 และ 2/6 เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจ
ในเนื้อหาที่ง่ายขึ้นสื่อการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยนามาใช้ ทางการเรยี น)
ในการวจิ ยั ครงั้ น้ี คือ สอ่ื ประสม 3. . ดาเนินการศกึ ษาปัญหาทางการเรยี น

2. ช้ีแจงใหก้ ลุ่มเป้าหมายทราบถึงวตั ถุประสงค์

1. ผู้วจิ ัยเลอื กกลมุ่ เปา้ หมาย (การเลอื กแบบเฉพาะเจาะจง)

วัตถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพ่ือศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ Pretest n x ผ้ผู า่ นเกณฑ์ ร้อยละ
แปลงทางเรขาคณติ โดยใชส้ อ่ื ประสม สาหรับนักเรียนชั้น 66 3.20 15 22.72
มัธยมศึกษาปีท่ี 2/5 , 2/6 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา
2561 ให้ผา่ นเกณฑข์ ้ันตา่ ร้อยละ 50 Posttest 66 7.75 44 66.66

กระบวนการแก้ปญั หา จากตาราง พบว่า ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี

กระบวนการแก้ปญั หา มี 3 ขน้ั ตอน ดงั น้ี 2/5 และ 2/6 ที่ผ่านเกณฑ์ หลังได้รับการสอนโดยใช้ส่ือประสม สูง

กว่าเกณฑร์ ้อยละ 50 โดยมีคะแนนเฉล่ยี 7.57 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 66.66

ขัน้ เลอื ก • เลือกกล่มุ เปา้ หมาย โดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงสาหรบั ห้องเรียน สรุปผล
กลมุ่ เปา้ หมาย ที่ได้รับมอบหมายในภาคเรยี นท่ี 2 เร่อื งการแปลงทางเรขาคณิตและ
ชแ้ี จงให้กลมุ่ เป้าหมายทราบถึงวัตถุประสงค์และแนวการปฏิบัติการ จากการวิจัยเรื่อง การแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชา
คณิตศาสตร์ เร่ืองการแปลงทางเรขาคณิตกรณีการเลื่อนขนานโดยใช้ส่ือ
เรยี นการสอน ประสม ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2/5 และ 2/6 จานวน 66 คน
สามารถสรปุ ผลการวิจัยไดด้ งั นี้
ขั้นดาเนนิ การ • ดาเนินการศึกษาผลสมั ฤทธ์ิ เรื่อง การแปลงทางเรขาคณิต กรณีการเล่ือน
ขนาน โดยใช้ส่อื ประสมการเรยี นการสอน กับกลมุ่ เปา้ หมายจานวน4 คาบ 1.ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนักเรียน หลังได้รับการเรียนสอน
โดยผู้วจิ ัยเป็นผู้ดาเนนิ การจดั การเรยี นการสอน การสอน โดยใช้สื่อประสม เรื่องการแปลงทางเรขาคณิตด้วยวิธีการเลื่อน
ขนานสงู กว่าก่อนได้รับการเรียนการสอนโดยใช้ส่ือประสม อย่างมีนัยสาคัญ
ขั้นสรปุ ผล • นาคะแนนทไ่ี ดจ้ ากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง การแปลง ทางสถติ ิที่ระดบั .01
ทางเรขาคณติ กรณกี ารเลอ่ื นขนานของนักเรยี นกลุ่มเป้าหมายไปวิเคราะห์
โดยวธิ กี ารทางสถิตและสรุปผลการวจิ ยั 2.พบว่า ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี
2/5 และ 2/6 ท่ีผ่านเกณฑ์ หลังได้รับการสอนโดยใช้สื่อประสม สูงกว่า
เกณฑ์รอ้ ยละ 50 อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีคะแนนเฉลี่ย
8.57 คิดเปน็ รอ้ ยละ 68.42

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)

การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเป็ น

ของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 3 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

นางดรณุ ี เตชะวงศ์ประเสริฐ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ทีม่ าและความสาคัญ ข้ันตอนการดาเนนิ กิจกรรม

ชดุ การเรียนการสอน เป็นนวตั กรรมทางการศกึ ษา 5. วิเคราะห์ผล
อยา่ งหนง่ึ ท่ีสามารถพฒั นาผ้เู รียนให้ประสบผลสาเร็จ 4. ทดสอบหลงั เรยี น
ทงั้ ด้านผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ด้านทกั ษะ 3. ดาเนินการทดลองกลมุ่ ตวั อย่าง
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ และด้านเจตคติตอ่ 2. ทดสอบก่อนเรยี น
การเรียนวิชาคณติ ศาสตร์ เรือ่ ง ความนา่ จะเปน็ 1. ปฐมนิเทศเพ่อื แจง้ บทบาท จดุ ประสงค์และวธิ ีการประเมนิ

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

เพอื่ ศึกษาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น และเจตคติตอ่ 1. ชดุ การเรียนคณติ ศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเปน็ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3
การเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษา
ปีท่ี 3 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียน มปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 โดยมปี ระสทิ ธภิ าพ 87.13 / 84.21
คณิตศาสตร์ เรือ่ ง ความนา่ จะเปน็
2. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณติ ศาสตร์ เร่อื ง ความนา่ จะเป็น ของ
กระบวนการแกป้ ัญหา
นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หลงั การจัดการเรยี นรู้โดยใช้ชุดการเรยี น
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใชช้ ดุ การเรยี น
คณิตศาสตร์ เร่ือง ความน่าจะเปน็ ดงั นี้ คณติ ศาสตร์ เรือ่ ง ความน่าจะเปน็ สูงกว่าเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ทีก่ าหนดไว้

อย่างมีนยั สาคัญทางสถิติท่ีระดบั .01
3. เจตคตติ อ่ การเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
หลงั การจดั การเรียนรู้โดยใช้ชดุ การเรียนคณิตศาสตร์ เร่ือง ความนา่ จะ
เป็น สงู กวา่ ก่อนการจดั การเรียนรู้โดยใช้ชดุ การเรียนคณิตศาสตร์ อยา่ งมี
นยั สาคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .01

ขน้ั สรา้ งความ • อธิบายการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการเรียน สรุปผล
เข้าใจการใช้ คณติ ศาสตร์ เรือ่ งความจะเปน็
การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการเรียนคณติ ศาสตร์ เรือ่ ง
• อธิบายข้นั ตอนการใช้ชุดการเรยี นเรง่ื ความน่าจะเปน็ ความนา่ จะเปน็ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 สง่ ผลใหผ้ ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น
วิชาคณิตศาสตร์ เรอื่ ง ความนา่ จะเปน็ สงู กวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ 70 และเจต
ขน้ั ใช้ • จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการเรียน คตติ อ่ การเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ของนกั เรียน หลงั การจดั การเรียนรู้โดย
ชดุ การเรียน คณิตศาสตร์ เรือ่ ง ความนา่ จะเปน็ ใช้ชดุ การเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความนา่ จะเป็น สงู กวา่ ก่อนการ
จดั การเรียนรู้โดยใช้ชดุ การเรียนคณิตศาสตร์

ขน้ั ทดสอบหลัง • วดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความนา่ จะเป็น
ใช้ชดุ การเรียน • วดั เจตคติตอ่ การเรยี นวิชาคณิตศาสตร์

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรพู ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชพี (PLC)

การใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เร่อื ง การแก้สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว

เพอื่ พฒั นานักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ท่สี อบยอ่ ยไมผ่ ่าน
นางสาวทฤฒมน บรรจงรอด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

ทมี่ าและความสาคัญ ข้นั ตอนการดาเนินกจิ กรรม

นกั เรยี นมีคะแนนสอบย่อยต่ากว่าเกณฑ์ ขาดทกั ษะกระบวนการคิด 5. วิเคราะห์ผล
ค่านวณ การแกส้ มการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดยี ว ทจ่ี ะเปน็ พนื้ ฐานในการ 4. ทดสอบหลงั เรยี น
เรยี นเร่อื งอนื่ ๆ และวิชาอืน่ ๆ โดยเฉพาะการแก้สมการเพื่อแหโ้ จทย์ 3. ดาเนนิ การทดลองกลุ่มตวั อยา่ ง
ปัญหา และการค่านวณในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึง่ มีความจ่าเปน็ และ 2. ทดสอบก่อนเรยี น
สา่ คญั มาก หากนกั เรยี นการแกส้ มการเชงิ เส้นตวั แปรเดียวไมไ่ ดจ้ ะ 1. ปฐมนเิ ทศเพ่อื แจง้ บทบาท จดุ ประสงค์และวธิ กี ารประเมนิ
เป็นปัญหาในการเรียนเรอื่ งต่อไป สาเหตอุ าจเกดิ นกั เรยี นสับสน
ลา่ ดบั การแกส้ มการเน่ืองจากการเรยี นพร้อมกนั จ่านวนมาก ๆ ผลการดาเนนิ งาน
นกั เรยี นไม่มสี มาธกิ ารเรยี น หรือไมต่ ้ังใจทา่ แบบฝกึ หัดเทา่ ท่ีควร
ดังนัน้ ผู้วิจยั จึงไดส้ ร้างแผนการจัดการเรียนรู้และแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ
เพื่อพฒั นาทกั ษะการแกส้ มการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว โดยเนน้ ลา่ ดับ
ขัน้ ตอนการแก้สมการรปู แบบต่างๆ

วตั ถปุ ระสงค์ นกั เรยี นไดฝ้ ึกทกั ษะเปน็ กลุ่มเล็กๆ ทีค่ รดู ูแลได้อย่างใกล้ชดิ
นกั เรียนต้งั ใจทา่ แบบฝกึ หดั มากข้ึน นกั เรียนสามารถแก้สมการเชงิ เส้น
เพือ่ พฒั นาผลการเรยี นโดยใชแ้ บบฝกึ เสริมทกั ษะ ตวั แปรเดยี วได้ ตามขน้ั ตอนการแก้สมการ
คณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง การแก้สมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี วของ
นกั เรยี นช้ัน มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ทสี่ อบย่อยไม่ผา่ น สรุปผล

กระบวนการแกป้ ญั หา จากการศึกษาผลการใช้แบบฝึกเสรมิ ทักษะ เรอื่ งการแก้สมการเชงิ เส้นตวั
แปรเดียวของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ทส่ี อบย่อยไม่ผา่ น จ่านวน 21
กระบวนการแกป้ ัญหามี 3 ข้นั ตอน ดงั ตอ่ ไปน้ี คน พบว่า นักเรยี นที่ใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะ มีผลการสอบกลางภาคผ่าน
เกณฑ์ร้อยละ 50 จา่ นวน 21 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ท้งั นเ้ี ปน็ เพราะว่า
• เลือกนกั เรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยการเลอื กแบบเจาะจง นกั เรยี นกลมุ่ เล็กได้รับการพัฒนาอยา่ งใกล้ชิดเป็นรายบุคคล และไดม้ เี วลา
ขนั้ เลอื ก • นกั เรียนทส่ี อบไม่ผ่านเรือ่ งกานแกส้ มการเชงิ เชิงตัวแปรเดียว ฝึกทกั ษะการแก้สมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียวมากขนึ้
กลุม่ เปา้ หมาย

• ด่าเนินการแก้ปญั หาเกีย่ วกับการแก้สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว
ขั้นดาเนนิ การ โดยวิธสี อนซ่อมเสรมิ

แก้ปัญหา

ข้ันสรปุ ผล • นกั เรยี นสามารถแกส้ มการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียวได้

• มผี ลการสอบกลางภาคผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 50 จา่ นวน 21 คน
คดิ เป็นร้อยละ 100 ทัง้ นเี้ ปน็ เพราะวา่ นักเรียนกลมุ่ เล็กไดร้ บั การพัฒนา
อยา่ งใกลช้ ิดเปน็ รายบคุ คล และได้มีเวลาฝึกทกั ษะการแก้สมการเชิงเสน้
ตัวแปรเดียวมากขึน้

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแหง่ การเรียนร้ทู างวิชาชีพ (PLC)

การพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นโดยการจดั การเรยี นร้แู บบทานาย สงั เกต อธบิ าย (POE)
เสริมดว้ ยเทคนิค KWDL เร่อื งงานและพลงั งาน ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4

นางสาวสุนารี ชนิ รตั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ทีม่ าและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนนิ กิจกรรม

การจัดการเรียนรู้แบบท่านาย สังเกต อธิบาย (POE) 1. ปฐมนิเทศเพอื่ แจง้ บทบาท เปา้ หมาย จุดประสงคแ์ ละวธิ กี ารประเมิน
จะส่งเสริมและฝึกนักเรียนคิด ท่าการสังเกต ทดลอง 2. ทดสอบก่อนเรยี น
หรือสืบค้น เพื่อท่ีจะพิสูจน์หาค่าตอบจากการท่านาย
เทคนิค KWDL สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ดาเนนิ การทดลองกลมุ่ ตัวอย่าง
โจทย์ปัญหาได้อย่างมีระบบและเป็นขั้นตอน เพื่อ 4. ทดสอบหลงั เรยี น
พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เร่ือง
งานและพลังงาน 5. นาผลที่ได้มาวิเคราะห์

วตั ถุประสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เร่ือง งาน ตารางเปรยี บเทยี บคะแนนผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 กอ่ นและหลังการ
และพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ีได้รับ ใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยวธิ ีการจดั การเรียนรูแ้ บบทา่ นาย สังเกต อธบิ าย (POE) เสริม
การจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการ ดว้ ยเทคนคิ KWDL เรื่องงานและพลังงานโดยใช้สถติ ิ t-test
จดั การเรยี นรแู้ บบทา่ นาย สังเกต อธบิ าย (POE) เสรมิ ด้วย
เทคนคิ KWDL

กระบวนการแกป้ ัญหา สรปุ ผล

การแก้โจทย์ปัญหาฟสิ ิกสด์ ว้ ยเทคนิค KWDL ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของนักเรียนท่ีได้รับการ
มขี ้ันตอนการท่างาน 4 ขน้ั ตอน ซึ่ง KWDL ย่อมาจาก จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ โ ด ย วิ ธี ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ แ บ บ
ทา่ นาย สังเกต อธิบาย (POE) เสริมด้วยเทคนิค
K K (What we Know) KWDL เร่ืองงานและพลังงาน ของนักเรียนช้ัน
• เรารอู้ ะไร มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
W W (What we want to Know) อย่างมีนัยส่าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 วิธีการ
• เราตอ้ งการร้อู ะไร ตอ้ งการทราบอะไร จัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้
D D (What we Do) ด้วยตนเอง โดยอาศัยความรู้พ้ืนฐานจาก
• เราทา่ อะไร อย่างไร ประสบการณ์เดิมของตนเอง ผลจากการจัดการ
เรียนรู้ที่ใ ห้ค้นพ บ ความรู้ด้วยตัวเองจาก
L L (What we Learned) กระบวนการกลุ่มควบคู่กับการเกิดปฏิสัมพันธ์
• เราเรยี นรู้อะไร ระหวา่ งผู้เรียนด้วยกัน และผู้สอนกับผู้เรียน ท่า
ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามสนใจ มีความกระตือรือร้นและ
ความตั้งใจ และเกิดความเข้าใจจากการ
แลกเปลย่ี นความรู้สง่ ผลให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้
ดว้ ยตนเอง

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศตั รูพ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบทานาย สังเกต อธบิ าย (POE)

เสริมด้วยเทคนคิ KWDL เรอื่ งงานและพลงั งาน ของนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

นางสาวสุนารี ชินรตั น์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ทมี่ าและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม

การจัดการเรียนรู้แบบท่านาย สังเกต อธิบาย (POE) ผลการดาเนินงาน
จะส่งเสริมและฝึกนักเรียนคิด ท่าการสังเกต ทดลอง
หรือสืบค้น เพ่ือที่จะพิสูจน์หาค่าตอบจากการท่านาย
เทคนิค KWDL สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
โจทย์ปัญหาได้อย่างมีระบบและเป็นข้ันตอน เพ่ือ
พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เร่ือง
งานและพลังงาน

วตั ถปุ ระสงค์

เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่อง งาน ตารางเปรียบเทยี บคะแนนผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลงั การ
และพลังงาน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ีได้รับ ใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยวิธกี ารจดั การเรียนร้แู บบทา่ นาย สงั เกต อธบิ าย (POE) เสริม
การจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการ ด้วยเทคนิค KWDL เรอ่ื งงานและพลงั งานโดยใชส้ ถิติ t-test
จัดการเรยี นรแู้ บบทา่ นาย สังเกต อธิบาย (POE) เสริมด้วย
เทคนคิ KWDL

กระบวนการแก้ปญั หา สรุปผล

ลักษณะสา่ คญั ของการเรยี นรูแ้ บบท่านาย สังเกต อธิบาย ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของนกั เรยี นที่ได้รบั การจัดการเรียนรโู้ ดยวิธีการจัดการเรียนรู้
(POE) มอี ยู่ 3 ข้นั ตอน ดังตอ่ ไปน้ี แบบท่านาย สังเกต อธิบาย (POE) เสริมด้วยเทคนิค KWDL เรื่องงานและพลังงาน
ของนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หลงั เรยี นสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสา่ คัญทางสถิติ
ข้ันทานาย • นักเรียนทา่ นายเกย่ี วกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ หรือท่านาย ท่ีระดับ .01 วิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดย
(Predict) ผลการทดลองที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยที่นักเรียนต้องให้ อาศยั ความรู้พืน้ ฐานจากประสบการณ์เดิมของตนเอง ผลจากการจัดการเรียนรู้ท่ีให้
เหตุผลเกีย่ วกบั คา่ ท่านายของนักเรยี นดว้ ย ค้นพบความรู้ด้วยตัวเองจากกระบวนการกลุ่มควบคู่กับการเกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
ขนั้ สงั เกต ผู้เรยี นด้วยกัน และผู้สอนกับผู้เรียน ท่าให้ผู้เรียนมีความสนใจ มีความกระตือรือร้น
(Observing) • นกั เรียนต้องลงมือท่าการทดลอง หรือพสิ ูจน์ หาค่าตอบเกี่ยวกับส่ิง และความตงั้ ใจ และเกดิ ความเขา้ ใจจากการแลกเปลย่ี นความรสู้ ง่ ผลใหผ้ ้เู รียนเกิดองค์
ท่ีท่านายไว้ โดยการทดลอง หรือพิสูจน์ นักเรียนเป็นผู้ออกแบบ ความรู้ดว้ ยตนเอง
ขั้นอธบิ าย การทดลองหรือวางแนวทางการพิสูจน์ตามความต้องการของ
(Explain) นกั เรยี น
• นกั เรยี นต้องลงมอื ท่าการทดลอง หรือพิสูจน์ สิ่งที่นักเรียนท่านายไว้
ว่าเป็นจรงิ หรือไม่ ซ่ึงอาจจะมีการขัดแย้งกับส่ิงท่ีนักเรียนท่านายไว้
จึงท่าให้นักเรียนต้องพยายามหาเหตุผลมาอธิบายถึงสาเหตุของ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถหาได้ ก็อาจจะมีการแลกเปล่ียน
ความรู้กับกลุ่มอ่ืน แล้วค้นคว้าหาทฤษฎีท่ีเก่ียวข้องมาอธิบายจน
สามารถอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนได้และมีความน่าเชื่อถือมาก
ที่สุด

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศตั รพู ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแห่งการเรียนร้ทู างวชิ าชพี (PLC)

การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยการจัดการเรียนซ่อมเสริม ด้วยแบบฝึกทักษะ

เรื่อง ฟังก์ชนั เอก็ ซ์โพเนนเชยี ล ของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5

นางสาวพนดิ า นว่ มทนงค์ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ท่มี าและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม

การจัดการเรียนซ่อมเสริม ด้วยแบบฝึกทักษะ จะ 5. วเิ คราะหผ์ ล
สามารถพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทาง 4. ทดสอบหลังเรยี น
คณิตศาสตร์ ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนคิดเป็น ทาเป็น 3. ดาเนินการทดลองกลมุ่ ตวั อยา่ ง
แ ก้ ปั ญ ห า เ ป็ น แ ล ะ ไ ด้ พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ ต า ม 2. ทดสอบกอ่ นเรยี น
ความสามารถของนักเรียนอย่างเต็มที่ เพ่ือพัฒนา 1. ศกึ ษาเนื้อหา เร่อื ง ฟังกช์ นั เอ็กซโ์ พเนนเชียล
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง
ฟังกช์ นั เอ็กซโ์ พเนนเชียล

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

เพอ่ื พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การจัดจัดการเรียนซ่อมเสริม ด้วยแบบฝกึ ทักษะ เร่อื ง ฟงั ก์ชนั เอก็ ซ์โพเนน
ฟงั กช์ นั เอก็ ซโ์ พเนนเชียล ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี เชียล ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 เป็นการแก้ปญั หาทเ่ี หมาะสมกับ
5 ท่ีไดร้ ับการจัดการเรยี นซ่อมเสรมิ ด้วยแบบฝึกทกั ษะ ศกั ยภาพและความแตกต่างของผ้เู รียน ช่วยใหผ้ ้เู รยี นมีพืน้ ฐานทด่ี ี สามารถ
นาไปใช้ประโยชน์ในการเรียนคณิตศาสตรส์ าระอน่ื ๆ และชว่ ยพฒั นา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นคณติ ศาสตร์จนไดค้ ะแนนเฉลย่ี สงู เพิ่มขน้ึ

กระบวนการแก้ปญั หา สรุปผล

การสอนซอ่ มเสริม ด้วยแบบฝึกทกั ษะ อธิบายได้ ดังนี้ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี นทไ่ี ดร้ ับการจดั การเรียนซ่อมเสรมิ
ดว้ ยแบบฝกึ ทกั ษะ เร่ือง ฟังกช์ นั เอ็กซโ์ พเนนเชยี ล ของนกั เรยี นชั้น
• นักเรียนได้พัฒนาความสามารถในการเรียน ช่วยแก้ไข มัธยมศึกษาปที ่ี สูงกวา่ เกณฑร์ ้อยละ 70 อยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถิติที่
ข้อบกพร่อง เป็นการซ่อมเสริมสมรรถภาพ และส่งเสริมให้มี ระดับ .05 แสดงว่า แบบฝึกทกั ษะ มปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน
ท่กี าหนด ดว้ ยการวิเคราะห์เน้ือหา ในการสร้างแบบฝึกทักษะสอดคล้อง
จุดมงุ่ หมาย โอกาสพัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ กบั ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั เรยี งลาดับจากง่ายไปยาก ทาให้ผเู้ รียนได้ฝกึ
ทักษะการคดิ คานวณได้ตามความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่
• นักเรียนอยากเรียนรู้ เรียนอย่างสนุก จากสื่อท่ี
หลักการ หลากหลาย จากสิง่ ท่ีเปน็ รปู ธรรมไปสู่นามธรรม ด้วย
เวลา และความพรอ้ มของผู้เรยี น

ประโยชน์ • นักเรียนได้รับการสอนซ่อมเสริม ด้วยแบบฝึกทักษะ
ทบทวนความรู้ เกิดความชานาญในเนื้อหามากย่ิงขึ้น
ครูจงึ ทราบถงึ ความเข้าใจของนกั เรยี นตอ่ บทเรียน โดย
ครูพฒั นาแบบฝกึ ทักษะเหมาะสมกบั ความแตกตา่ งของ
ผ้เู รยี น

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศตั รพู ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชพี (PLC)

การศกึ ษาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น เรือ่ ง ค่ากลางของขอ้ มลู ของนกั เรยี น

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 โดยใชก้ ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยการเช่ือมโยงคณติ ศาสตร์

กับสถานการณ์ในชีวติ จริง นางสาวมธตุ ฤณ ปล้องพนั ธุ์ กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ท่ีมาและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนนิ กิจกรรม

ผู้วิจัยสนใจแนวการจดั การเรยี นการสอนแบบใหม่ที่เปิดโอการส 5. วเิ คราะหผ์ ล
ให้นักเรียนได้คิดอย่างหลากหลาย และคิดอย่างอิสระ เพื่อให้นักเรียนได้ 4. ทดสอบหลังเรยี น
พัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ไปพร้อม ๆ โดยการท่ีครูนาเสนอปัญหา 3. ดาเนินการสอน
ปลายเปดิ กับนักเรียน โดยไม่มกี ารอธิบายความรมู้ าก่อนเหมอื นทเี่ คยปฏิบัติ 2. จัดทาเคร่อื งมือในการวจิ ัย และให้ผเู้ ชย่ี วชาญตรวจ
จากนั้นครูเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้สังเกต และค้นหาแนวคิดของนักเรียนใน 1. แจ้งวัตถปุ ระสงค์และแนวทางการปฏบิ ตั กิ ารเรยี นการสอน
ระหว่างที่นักเรียนแก้ปัญหาด้วยตนเอง แล้วนาแนวคิดของนักเรียนมา
อภิปรายกันทั้งชั้น โดยเน้นปฏิสัมพันธ์และการส่ือสารระหว่างครูและ
นักเรยี น นกั เรียนกบั นักเรยี น รวมทั้งการพยายามหาเหตผุ ลของแนวคิดของ
นักเรียนแต่ละคน เพือ่ มาสรุปเป็นวิธีการเรยี นรู้ร่วมกนั ทัง้ ช้ันเรียน

วตั ถปุ ระสงค์ ผลการดาเนินงาน

1) เพ่ือศกึ ษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง ค่ากลางของข้อมูล ของ คะแนนจากแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น เรื่อง คา่ กลางของ
นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย ขอ้ มูล หลงั เรยี นเทียบกบั เกณฑร์ อ้ ยละ 60 พบว่า คะแนนจาก
การเชอื่ มโยงคณิตศาสตรก์ ับสถานการณ์ในชีวิตจริงและวิธีการแบบ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เรอ่ื ง ค่ากลางของข้อมลู หลัง
เปดิ 2) สารวจความคดิ เห็นของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดกิจกรรมการ เรียนสูงกว่าเกณฑ์รอ้ ยละ 60 และผลสารวจความคิดเหน็ ของนักเรยี น
เรียนรู้ดว้ ยการเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับสถานการณ์ในชีวิตจริงและ จากการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยการเชือ่ มโยงคณติ ศาสตรก์ บั
วธิ ีการแบบเปิด สถานการณใ์ นชวี ติ จริงเหน็ ด้วยกบั การจดั กิจกรรม

กระบวนการแก้ปญั หา

สรุปผล

กระบวนการแก้ปัญหา มี 3 ข้ันตอน ดังน้ี 1. คะแนนจากแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรือ่ ง คา่ กลางของ

ขอ้ มูล หลงั เรียนเทียบกบั เกณฑร์ อ้ ยละ 60 พบว่า คะแนนจากแบบทดสอบวดั

ขนั้ เลือก • เลือกกลมุ่ เป้าหมาย โดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงช้นั มัธยมศึกษาปี ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน เรื่อง ค่ากลางของข้อมลู หลงั เรยี นสงู กว่าเกณฑ์รอ้ ย
กล่มุ เปา้ หมาย ท่ี 5/10 เป็นกลุม่ นกั เรยี นทีผ่ วู้ จิ ยั รับผิดชอบสอน ละ 60 ทผ่ี ู้วจิ ัยกาหนดไว้

2. ผลของความคดิ เห็นของนกั เรยี นในคาถามด้านบวกจากแบบสารวจ
ความคดิ เหน็ ของนักเรียนทม่ี ตี อ่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ดู ว้ ยการเชอื่ มโยง

• ดำเนินกำรสอนโดยใช้กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ด้วยกำรเชื่อมโยง คณติ ศาสตรก์ บั สถานการณ์ในชวี ิตจรงิ และวิธกี ารแบบเปดิ พบวา่ นักเรียนเหน็
ด้วยในทกุ ขอ้ คาถาม ในส่วนของความคดิ เห็นของนักเรียนในคาถามด้านลบ
ขน้ั ดาเนินการ คณิตศำสตร์กบั สถำนกำรณ์ในชีวติ จริง พบว่า นักเรยี นส่วนใหญ่ตอบไม่แนใ่ จ 4 คาถาม ไม่เห็นดว้ ย 2 คาถาม และไม่

เหน็ ดว้ ยอย่างยิง่ 1 คาถาม ความคิดเห็นอน่ื ๆ การจัดกิจกรรมการเรยี นรดู้ ว้ ย

• ประเมินผลจากแบบทดสอบ และแบบสารวจความคิดเห็นการสอนโดยกำรจัด การเชอ่ื มโยงคณิตศาสตรก์ บั สถานการณ์ในชวี ติ จรงิ และวธิ กี ารแบบเปดิ ทาให้

ขั้นสรุปผล กิจกรรมกำรเรียนรู้ด้วยกำรเชื่อมโยงคณิตศำสตร์กบั สถำนกำรณ์ในชีวิตจริง การเรียนการสอนไมน่ า่ เบอื่ และทาให้สนใจมากขน้ึ จานวน 9 คน และเปน็

การจัดกิจกรรมท่เี ชื่อมโยงให้เห็นวา่ นาไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ได้ 2 คน

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชพี (PLC)

การพัฒนาศกึ ษาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวิชาสงั คมศกึ ษาของนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕

ทีไ่ ดร้ บั การจดั การเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใชเ้ ทคนคิ TGT (Team Games Tournament)

นางสาวสุทิศา รจุ วิ งศ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ

ท่ีมาและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนินกจิ กรรม

การจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมอื (TGT) จะส่งเสรมิ และฝึก 4. ความสาเรจ็
นกั เรยี นให้ได้พัฒนาทักษะทางสังคม การช่วยเหลือซึ่ง
กันและกัน การมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน 3. การแข่งขันเกมทาง
เพือ่ ให้ผ้เู รยี นที่มคี วามแตกตา่ งทางด้านทักษะไดร้ ่วมกัน วชิ าการ
ทางาน และใช้ประสบการณ์ท่ีมีอยู่ในการแก้ไขปัญหา
อย่างมีระบบและเป็นขั้นตอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ 2. การเรยี นกลุ่มยอ่ ย โดยการแบง่ นักเรยี น
ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา เปน็ กล่มุ

1. นาเสนอบทเรยี นต่อนักเรียน

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาและ การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนโดยวิธีสอนแบบทานาย สงั เกต อธิบายจะ
ความมีวินัยในตนเองของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ช่วยสง่ เสริมใหนักเรียนได้เรียนรูวิทยาศาสตรท์ ีเ่ นนกระบวนการไปส่กู าร
ทไี่ ดร้ บั การจัดการเรียนร้ดู ว้ ยชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยวิธี สรา้ งองคความรูโดยผู้เรียนมีสวนรว่ มทุกขั้นตอน ทาใหเกดิ มโนมตทิ าง
การจัดการเรียนรูแ้ บบร่วมมือ (TGT) วทิ ยาศาสตร์ที่เกดิ จากการเรียนรูมาใชอธบิ ายคาตอบในคาถามของแบบวัด
มโนมตทิ างวทิ ยาศาสตรจ์ นไดค้ ะแนนเฉล่ียสูงเพิ่มขึ้น

กระบวนการแก้ปญั หา สรุปผล

ลักษณะสาคัญของการเรียนรู้แบบรว่ มมือโทนาเมน้ (TGT) ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาและความมีวินัยในตนเองของ
มีขัน้ ตอน ๔ ขัน้ ดงั น้ี นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรม
การเรียนรูโ้ ดยวธิ ี การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (TGT) หลังเรียนสูงกว่า
การสอน (Teaching) ก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .๐๕ วิธีการจัดการเรียนรู้
• นาเสนอบทเรียนใหม่ในรปู แบบของการอภิปราย แบบTGT มีแนวทางการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นกระบวนการกลุ่ม การทา
กิจกรรมแบบเกมแข่งขัน มีกติกาที่ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตาม
การจดั ทีม (Team) ซงึ่ เป็นการส่งเสรมิ การเกดิ ความมวี ินัยในตนเอง
• แบง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ คละความสามารถ

การแข่งขัน (Tournament)
• มกั จัดในชว่ งทา้ ยบทเรียน

การยอมรับความสาเรจ็ (Acceptance of Team)
• ทมี ทีไ่ ดค้ ะแนนเฉลยี่ สูงสดุ จะเปน็ ผ้ชู นะ

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศตั รพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen

ชมุ ชนแห่งการเรียนร้ทู างวชิ าชพี (PLC)

การแก้ปญั หาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เรือ่ ง การวัดพ้นื ท่ี โดยใชช้ ุดกจิ กรรม

สาหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาชนั้ ปีท่ี 2/3 นางสาวสภุ า เหร็ นเส็บ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

ทมี่ าและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม

ในระหวา่ งท่ผี วู้ จิ ยั ได้จัดการเรียนการสอน เรอื่ ง การวัดพื้นที่ 1. ขนั้ วางแผน
ผู้วิจัยได้สังเกตนักเรียนจากการตรวจแบบฝึกหัด หรือใบ 2. ข้ันปฏิบตั กิ าร
งานต่าง ๆ และจากแบบทดสอบท่ีมอบหมายให้เพ่ือติดตาม 3. ขัน้ ตรวจสอบและเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
ผลการเรยี นรขู้ องนักเรยี น พบว่านักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4. วิเคราะห์ขอ้ มูล
2/3 จากนักเรียนทั้งหมด 33 คน มีนักเรียน 5 คน ท่ีได้
คะแนนต่ากว่าเกณฑ์ร้อยละ 50 เม่ือนามาพิจารณาพบว่า ผลการดาเนินงาน
นักเรียนมีปัญหาในการหาพื้นท่ีรูปเรขาคณิตสองมิติ จาก
ประเด็นปญั หาผวู้ จิ ัยได้ทาการวิเคราะห์แล้วพบว่าลักษณะ
ตัวบง่ ชี้ปัญหา

วัตถปุ ระสงค์ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เรื่อง การวดั พนื้ ท่ี ของนกั เรยี นกลุ่มเปา้ หมาย จานวน 5 คน
พบว่า นกั เรียนคนท่ี 1 และนักเรยี นคนที่ 2 ได้คะแนนมากทส่ี ดุ 19 คะแนน คิดเป็น
1. เพื่อแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง การวัด ร้อยละ 95 นกั เรียนคนท่ี 3 และนักเรยี นคนที่ 4 ไดค้ ะแนน 14 คะแนน คดิ เป็นร้อย
พ้ืนท่ี สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2/3 โรงเรียน ละ 70 และนกั เรียนคนที่ 5 ได้น้อยทส่ี ุด 13 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 65 ซ่ึงนกั เรียน
สายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ โดยใช้ชดุ กจิ กรรม ให้ กลุม่ เป้าหมายทกุ คนไดค้ ะแนนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 50
มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 50
2. เพ่อื ศึกษาความพึงพอใจหลังการสอนโดยใชช้ ดุ กจิ กรรม สรปุ ผล
เรื่อง การวัดพ้นื ที่
การวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ
กระบวนการแกป้ ัญหา 1. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เรอื่ ง การวดั พน้ื ที่ ของนกั เรยี นกลุ่มเป้าหมาย จานวน
5 คน หลังจากการเรยี นโดยใช้ชุดกิจกรรม พบวา่ นักเรียนกลมุ่ เป้าหมายจานวน 5
1. การสอนโดยใช้ชดุ กิจกรรม คน มีผลสัมฤทธ์ิทาง การเรียน เรื่อง การวัดพื้นท่ี ผ่านเกณฑ์ข้ันต่าร้อยละ 50
2. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เรอ่ื ง การวัดพ้ืนที่ ตามท่ีผ้วู จิ ัยกาหนดไว้
2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม เร่ือง
ชดุ กจิ กรรม • ชุดกิจกรรมที่ 1 รปู ส่ีเหลีย่ ม การวดั พืน้ ท่ี พบวา่ นักเรียนกล่มุ เป้าหมายจานวน 5 คน มีความพึงพอใจต่อการ
เรยี นโดยใชช้ ุดกิจกรรมเรื่อง การวัดพืน้ ที่ โดยรวมอย่ใู นระดับพึงพอใจมากท่สี ุด
• ชดุ กจิ กรรมท่ี 2 การหาพื้นท่ีรูปเรขาคณิตสอง การวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ
มติ ิ จากการสัมภาษณ์นักเรียนกล่มุ เป้าหมายหลงั จากที่ได้รับการจัดการเรียนการสอน
โดยใชช้ ุดกิจกรรม เร่ือง การวัดพน้ื ที่ ผ้วู จิ ัยพบประเด็นสาคัญจากการวิเคราะห์เชิง
• ชุดกจิ กรรมท่ี 3 การคานวณเกี่ยวกับพนื้ ท่ี เนื้อหาซ่งึ สรุปไดด้ งั น้ี การจดั การเรยี นการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมมีส่วนช่วยทาให้
นักเรียนสามารถหาพ้ืนท่ีรูปเรขาคณิตสองมิติท่ีกาหนดให้ได้ ท้ังน้ีเป็นผลมาจาก
• แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น แอพพลเิ คชนั่ Geoboard ที่ทาให้นกั เรียนสามารถเห็นภาพได้ชัดเจนในการแบ่ง
แบบทดสอบ เรื่อง การวัดพน้ื ท่ี จานวน 6 ข้อ รูปเพ่ือหาพื้นท่ี มีวิธีการหาพื้นที่ที่ง่าย ไม่ต้องจาสูตรจานวนมาก ก็สามารถหา
พ้ืนทีร่ ปู เรขาคณติ สองมิติทก่ี าหนดใหไ้ ด้ และชดุ กจิ กรรมทน่ี ามาใช้ในการจัดการ
เรียนการสอนมีการตกแตง่ สวยงาม ทาให้นกั เรยี นไม่เบื่อหน่ายในการเรยี น

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศัตรพู ่าย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแห่งการเรยี นร้ทู างวิชาชพี (PLC)

การแกป้ ัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เร่ือง พ้ืนที่ผิวของรปู เรขาคณติ สามมิติ โดยใช้ส่อื ประสม

ของนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์

นายอภิวัฒน์ จนั ทนา กลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ท่มี าและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนนิ กิจกรรม

จากการศึกษาค้นคว้า ผู้วิจัยพบว่านักเรียนมีปัญหา 5. วิเคราะหผ์ ล
เก่ียวกับการจาสูตรการหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติจาสูตร
การหาพืน้ ทผี่ วิ ของปรซิ มึ และทรงกระบอกไม่ได้และนึกภาพรูป 4. ทดสอบหลังเรยี น
คลข่ี องปริซมึ และทรงกระบอกไมไ่ ด้ จงึ ทาให้ผเู้ รียนไมส่ ามารถหา
พ้ืนท่ีผิวของปริซึมและทรงกระบอกได้ ผู้วิจัยจึงสนใจท่ีจะนาส่ือ 3. ดาเนนิ การทดลองกลุ่มตัวอยา่ ง
ประสมมาแก้ปัญหาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เร่ือง พนื้ ท่ีผวิ ของรูป
เรขาคณิตสามมิติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3/4 โรงเรียน 2. ทดสอบกอ่ นเรียน
สายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา
2561 จานวน 5 คน ให้ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 50 1. แจ้งวัตถปุ ระสงคแ์ ละแนวทางการปฏบิ ตั กิ ารเรียนการสอน

วตั ถปุ ระสงค์ ผลการดาเนินงาน

เพอ่ื แก้ปัญหาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเร่อื ง พ้นื ทีผ่ วิ ของรูป หลงั จากการสอนโดยใชส้ ือ่ ประสมผวู้ ิจยั ใหก้ ลมุ่ เป้าหมายทาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์
เรขาคณิตสามมิติ โดยใช้ส่ือประสม ของนักเรียนชั้น ทางการเรียนเร่ือง พ้ืนที่ผิวของรูปเรขาคณิตสามมิติ ผลการทดสอบออกมาดังน้ี
มัธยมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรม นักเรยี นคนที่ 1 สามารถทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นได้ 29 คะแนน คดิ
ราชินูปถัมภ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ให้ผ่าน เป็นร้อยละ 96.67 ของคะแนนนักเรียนคนที่ 2 และนักเรียนคนท่ี 5 สามารถทา
เกณฑ์รอ้ ยละ 50 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนได้ 27 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90 ของ
คะแนน นักเรียนคนท่ี 3 สามารถทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ 25
กระบวนการแก้ปญั หา คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 83.33 ของคะแนน นกั เรียนคนที่ 4 สามารถทาแบบทดสอบ
วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นได้ 26 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.67 ของคะแนน จะเห็น
กระบวนการแก้ปัญหา มี 3 ขนั้ ตอน ดงั น้ี ไดว้ ่านกั เรยี นกล่มุ เป้าหมาย ทัง้ 5 คน สามารถทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนเรอ่ื ง พื้นที่ผิวของรูปเรขาคณิตสามมิติ ได้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 ซึ่งเป็นไปตาม
วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั

สรุปผล

ขั้นเลือก • นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรม จากการแกป้ ญั หาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนเร่ือง พ้ืนที่ผิวของรูปเรขาคณิตสาม
กลุม่ เปา้ หมาย ราชินูปถัมภ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จานวน 5 คน ซ่ึงมี มิติ โดยใช้สื่อประสม ทาให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายทั้ง 5 คน มีผลสัมฤทธิ์
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรอื่ ง พ้ืนทผ่ี ิวของรูปเรขาคณิตสามมติ ิ ตา่ กว่า ทางการเรยี นดีขน้ึ ซึ่งแสดงใหเ้ ห็นว่าการใช้ส่ือการสอนต้ังแต่ 2 ปะเภทข้ึนไป
เกณฑ์ร้อยละ 50 โดยการเลือกแบบเจาะจง มาใช้ร่วมกันในการจัดการเรียนการสอน โดยใช้ส่ืออย่างเป็นข้ันเป็นตอน
ส่ือการสอนแต่ละประเภทสามารถส่งเสริมคุณค่าซึ่งกันและกัน ประกอบกับ
• ดาเนนิ การแกป้ ัญหาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นโดยใชส้ ื่อประสม กบั นกั เรียน การทากจิ กรรมด้วยตนเองการเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งท่ีนักเรียนไม่
เข้าใจและใชค้ าถามถามตอบในระหวา่ งการทากิจกรรม ทาให้นักเรียนมีความ
ขน้ั ดาเนนิ การ เข้าใจในเร่ืองการหาพื้นที่ผิวของรูปเรขาคณิตสามมิติได้มากขึ้นและส่งผลให้
นักเรียนสามารถหาพื้นท่ีผิวของรูปเรขาคณิตสามมิติได้ จึงทาให้นักเรียนมี
ข้ันสรปุ ผล • หลังจากการสอนโดยใชส้ ่ือประสมผ้วู จิ ัยให้กลุ่มเป้าหมายทาแบบทดสอบ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นเร่อื งพ้ืนทีผ่ วิ ของรปู เรขาคณติ สามมติ ิผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ
วัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นเร่ือง พื้นทผ่ี วิ ของรปู เรขาคณติ สามมิติ ผลการ 50
ทดสอบดีข้นึ

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)

การบวกและการลบจานวนเต็มของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1/3

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ โดยใชส้ ือ่ แผน่ สี 2 สี

นางสาวกนก มาประชา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ทม่ี าและความสาคญั ขน้ั ตอนการดาเนินกิจกรรม

จากการศึกษาค้นคว้า ผู้วิจัยจึงสนใจ แก้ปัญหา 1. แจ้งวตั ถปุ ระสงค์และแนวทางการปฏิบตั ิการเรยี นการสอน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การบวกและการลบ
จานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 2. ทดสอบก่อนเรียน
โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อ
การเรียนการสอน ซ่ึงเป็นสื่อประเภทวัสดุ เพ่ือช่วยให้ 3. ดาเนินการทดลองกลมุ่ ตวั อย่าง
นักเรียนเขา้ ใจในเน้ือหาที่ง่ายข้ึน สื่อการเรียนการสอน
ทผี่ วู้ ิจัยนามาใช้ในการวิจยั คร้งั น้ี คือ สือ่ แผน่ สี 2 สี 4. ทดสอบหลงั เรียน

วตั ถุประสงค์ 5. นาผลที่ไดม้ าวิเคราะห์

เพื่อแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการบวกและ ผลการดาเนนิ งาน
การลบจานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อ หลังจากที่ใช้ส่ือแผ่นสี 2สี ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
แผน่ สี 2 สี ใหผ้ า่ นเกณฑข์ ัน้ ตา่ ร้อยละ 50 เร่ือง การบวกและการลบจานวนเต็ม นักเรียนเห็นภาพของการบวกและ
การลบจานวนเต็มได้ง่ายข้ึน วิธีการหาผลลัพธ์จากการบวกและการลบ
กระบวนการแกป้ ญั หา นักเรียนก็จะใช้วิธีการดูสีของแผ่นสี และนักเรียนสามารถรู้ผลลัพธ์
จากแผ่นสีท่ีเหลือว่าผลลัพธ์ท่ีได้น้ันเป็นจานวนเต็มบวกหรือจานวนเต็ม
กระบวนการแกป้ ัญหา มี 3 ขั้นตอน ดงั นี้ ลบ ซง่ึ ทาใหน้ ักเรียนเข้าใจหลักการบวกและการลบจานวนเต็มได้ถูกต้อง
และผ่านเกณฑข์ นั้ ต่าร้อยละ 50
K K (What we Know)
• เรารูอ้ ะไร สรุปผล
W W (What we want to Know)
• เราตอ้ งการรู้อะไร ตอ้ งการทราบอะไร การแกป้ ัญหาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เร่ืองการบวก
D D (What we Do) และการลบจานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/3
• เราทาอะไร อย่างไร โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อแผ่นสี 2 สี
สามารถอภิปรายผล ได้ดังนี้ หลงั การเรยี นดว้ ยสื่อการสอนแผ่นสี 2 สี
L L (What we Learned) เรื่อง การบวกและการลบจานวนเต็ม นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิ
• เราเรยี นรู้อะไร ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่าร้อยละ50 ซ่ึงสอดคล้อง
กบั งานวิจัยท่ีกี่ยวข้องในบทท่ี 2 เน่ืองจากการจัดการเรียนการสอน
ท่ีใช้ส่ือการสอนแผ่นสี 2 สี ทาให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้
จากรูปธรรมไปสู่กึ่งนามธรรม และสรุปเป็นองค์ความรู้
ที่เป็นนามธรรมได้ นักเรียนสามารถใช้สื่อเป็นตัวกลาง
ในการทาความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนจากการลงมือปฏิบัติ
ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ทาให้นักเรียน
สามารถทาแบบทดสอบได้อย่างถกู ตอ้ งมากยง่ิ ขึ้น บรรยากาศ
ในการเรียนสนุกสนาน ไม่น่าเบ่ือ จึงทาให้ นักเรียน
มีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนผา่ นเกณฑ์ข้ันตา่ รอ้ ยละ50

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินปู ถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศตั รูพา่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรยี นสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

การบวกและการลบจานวนเต็มของนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1/3

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ปู ถัมภ์ โดยใชส้ อื่ แผ่นสี 2 สี

นางสาวกนก มาประชา กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

ท่มี าและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม

จากการศึกษาค้นคว้า ผู้วิจัยจึงสนใจแก้ปัญหา
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง การบวกและการลบ
จานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3
โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้ส่ือ
การเรียนการสอน ซึ่งเป็นสื่อประเภทวัสดุ เพื่อช่วยให้
นกั เรยี นเข้าใจในเน้ือหาท่ีง่ายขึ้น สื่อการเรียนการสอน
ที่ผูว้ จิ ยั นามาใชใ้ นการวจิ ยั ครงั้ นี้ คือ ส่อื แผน่ สี 2 สี

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

เพ่ือแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ืองการบวกและ หลังจากท่ีใช้ส่ือแผ่นสี 2สี ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
การลบจานวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/3 เร่ือง การบวกและการลบจานวนเต็ม นักเรียนเห็นภาพของการบวกและ
โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้สื่อ การลบจานวนเต็มได้ง่ายขึ้น วิธีการหาผลลัพธ์จากการบวกและการลบ
แผน่ สี 2 สี ให้ผ่านเกณฑข์ ั้นต่าร้อยละ 50 นักเรียนก็จะใช้วิธีการดูสีของแผ่นสี และนักเรียนสามารถรู้ผลลัพธ์ จากแผ่นสี
ท่ีเหลือว่าผลลัพธ์ท่ีได้น้ันเป็นจานวนเต็มบวกหรือจานวนเต็มลบ ซ่ึงทาให้
กระบวนการแก้ปญั หา นกั เรยี นเข้าใจหลักการบวกและการลบจานวนเต็มได้ถูกต้องและผ่านเกณฑ์
ขนั้ ตา่ ร้อยละ 50

สรปุ ผล

ลักษณะสาคัญของการเรยี นรแู้ บบทานาย สงั เกต อธบิ าย การแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการ บวก
(POE) มีอยู่ 3 ข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี และการลบจานวนเต็ม ของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1/3 โรงเรียนสายปัญญา
ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยใช้ส่ือแผ่นสี 2 สี สามารถอภิปรายผล ได้ดังน้ี หลัง
ขัน้ ทานาย • นกั เรยี นทานายเก่ยี วกับปรากฏการณต์ า่ ง ๆ หรือทานาย การเรียนด้วยส่ือการสอนแผ่นสี 2 สี เรื่อง การบวกและการลบจานวนเต็ม
(Predict) ผลการทดลองท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้น โดยที่นักเรียนต้องให้ นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ผา่ นเกณฑ์ขนั้ ตา่ ร้อยละ50 ซ่ึงสอดคล้องกับ
เหตุผลเกี่ยวกับคาทานายของนักเรียนด้วย งานวิจยั ท่กี ี่ยวขอ้ งในบทท่ี 2เนือ่ งจากการจดั การเรียนการสอนทใี่ ชส้ อื่ การสอน
ข้นั สงั เกต แผ่นสี 2 สี ทาให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้จากรูปธรรมไปสู่กึ่งนามธรรม และสรุป
(Observing) • นกั เรยี นตอ้ งลงมอื ทาการทดลอง หรอื พิสจู น์ หาคาตอบเก่ียวกับสิ่ง เป็นองค์ความรู้ท่ีเป็นนามธรรมได้ นักเรียนสามารถใช้ส่ือเป็นตัวกลาง
ที่ทานายไว้ โดยการทดลอง หรือพิสูจน์ นักเรียนเป็นผู้ออกแบบ ใ นกา รทา ค ว า มเข้า ใจใ นเน้ือหา บท เรียนจา กก า รลงมือปฏิ บัติซ่ึงจะ ช่ว ย
ข้นั อธิบาย การทดลองหรือวางแนวทางการพิสูจน์ตามความต้องการของ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ทาให้นักเรียนสามารถทาแบบทดสอบได้
(Explain) นกั เรียน อยา่ งถูกตอ้ งมากยิง่ ขนึ้ บรรยากาศในการเรียนสนุกสนาน ไม่น่าเบ่ือ จึงทาให้
• นักเรยี นตอ้ งลงมือทาการทดลอง หรือพิสูจน์ ส่ิงท่ีนักเรียนทานายไว้ นักเรียนมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนผ่านเกณฑ์ขน้ั ต่ารอ้ ยละ50
ว่าเปน็ จริงหรือไม่ ซ่ึงอาจจะมีการขัดแย้งกับสิ่งที่นักเรียนทานายไว้
จึงทาให้นักเรียนต้องพยายามหาเหตุผลมาอธิบายถึงสาเหตุของ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถหาได้ ก็อาจจะมีการแลกเปล่ียน
ความรู้กับกลุ่มอื่น แล้วค้นคว้าหาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมาอธิบายจน
สามารถอธิบายปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนได้และมีความน่าเช่ือถือมาก
ทส่ี ุด

โรงเรยี นสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรงุ เกษม แขวงป้อมปราบ เขตปอ้ มปราบศัตรพู า่ ย ๑๐๑๐๐

โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์

Saipanya School Under the Royal Patronage of her Majesty the Queen
ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวิชาชพี (PLC)

พฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนโดยใช้แบบฝึ กเสริมทกั ษะเศษส่วนและการบวก ลบ คูณ

หารเศษส่วนของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปี ที6/5

นางอบุ ลรัตน์ รากะสงกล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ที่มาและความสาคญั ขั้นตอนการดาเนินกจิ กรรม

นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที6/5ยงั ขาดทกั ษะการคดิ 5. วเิ คราะหผ์ ล
คานวณและหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู และหาร
เศษสว่ น หรือบางคนทาไดแ้ ตท่ าได้ชา้ มาก บางคนทา 4. ทดสอบหลังเรียน
ได้เร็วแต่คาตอบไม่ถกู ต้อง เปน็ เหตใุ ห้ผลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรยี นวชิ าคณิตศาสตรข์ องนักเรยี นไมด่ ี 3. ดาเนนิ การทดลองกลมุ่ ตัวอย่าง
เทา่ ทคี่ วร ผู้วิจยั ไดจ้ ัดทา วิจยั ในชั้นเรยี น เร่ือง พัฒนา
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสรมิ ทักษะ 2. ทดสอบกอ่ นเรียน
เศษสว่ นและการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วน ของ
นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที6/5 ขึน้ 1. ปฐมนิเทศเพอ่ื แจง้ บทบาท จุดประสงค์และวิธกี ารประเมนิ

วัตถปุ ระสงค์ ผลการดาเนนิ งาน

1.เพือ่ พฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นวิชา กิจกรรมการเรยี นการสอนโดย ใชแ้ บบฝึกเสรมิ ทกั ษะเศษส่วนและการบวก
คณิตศาสตร์ เรือ่ งเศษส่วน ลบ คูณ หารเศษส่วน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี6/5 ทาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการ
2.ให้นักเรียนหาผลบวก ลบ คณู หารเศษส่วน เรยี นสงู ขน้ึ กลา่ วคือ นักเรียนมีพฒั นาการทางทกั ษะ กระบวนการคดิ คานวณเร่ืองเศษสว่ น
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และรวดเร็วข้นึ สามารถ และถูกตอ้ งมากขึน้ ตามลาดับ จากการทดสอบก่อนเรียน นกั เรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรยี นคิดเปน็ รอ้ ยละ 44.79 หลังจากท่ีนกั เรียนได้ใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะเศษส่วนและการ
นาไปใช้ได้จริงในชวี ิตประจาวนั บวก ลบ คูณ หารเศษส่วน ทาใหผ้ ลการทดสอบหลังเรยี นเพมิ่ ข้ึน เปน็ 77.60 ซง่ึ เป็น
ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นที่สูงขน้ึ

กระบวนการแก้ปัญหา สรปุ ผล

การวิจยั ประเภทการวิจัยเชิงปฏิบัตกิ าร (Action ผลการศกึ ษาค้นคว้าครัง้ นีส้ รุปได้ว่า หลงั จากการเรียนโดยใช้วธิ ีสอนโดยใช้แบบ
Research ) เพ่ือพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ฝึกเสริมทกั ษะทาให้ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของผ้เู รียนสงู ขนึ้
คณิตศาสตร์

• วิเคราะห์สภาพปัญหาการเรียนการสอน วิเคราะห์สาเหตุวิเคราะห์หลักสูตร
เก่ียวกับหลักสูตรคณิตศาสตร์ กาหนดเนื้อหาท่ีใช้สอนศึกษาค้นคว้าเอกสารที่
ขนั ้ วางแผน ) เกี่ยวขอ้ งสร้างแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ

• นาแบบฝกึ เสริมทักษะใชก้ บั ผเู้ รียน
ขนั้ ปฏบิ ตั ิการ)

สะท้อนผลจาก • นาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และศึกษาส่ิงท่ีต้องปรับปรุงแก้ไข เพ่ือนามา
การปฏิบตั ิจริง ปรับปรุงการเรียนการสอนครั้งตอ่ ไป

โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ saipanya.co.th
๐๒-๒๒๑-๐๑๙๖, ๐๒-๒๒๑๐๘๒๔
๑๕๙๘ ถนนกรุงเกษม แขวงปอ้ มปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ๑๐๑๐๐

กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์


Click to View FlipBook Version