The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การคิด ประถม ศิลปะ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การคิด ประถม ศิลปะ

การคิด ประถม ศิลปะ

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔


✦ การวเิ คราะห์ตัวชวี้ ดั สูก่ ารพฒั นาทกั ษะการคดิ

✦ การจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ



✦ การวิเคราะหต์ วั ช้ีวัดสู่การพัฒนาทกั ษะการคิด


การวิเคราะห์ตัวช้ีวัดสู่การพัฒนาทักษะการคิดเป็นการนำตัวชี้วัด
กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ จาก ๓ สาระ ๖ มาตรฐาน
จำนวน ๒๙ ตวั ชวี้ ดั มาวิเคราะห์รายตัวช้ีวดั ใน ๔ ประเด็น คือ ตวั ช้ีวดั แต่ละตัว


ผู้เรียนควรมีความรู้อะไรและทำอะไรได้ ทักษะการคิด ชิ้นงาน/ภาระงาน
และแนวการจัดการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด ในแต่ละประเด็นจะมี
ความสมั พนั ธ์เชอื่ มโยงกนั และสะท้อนคณุ ภาพผ้เู รียนตามตวั ช้วี ดั

สาระท่ี ๑ ทัศนศิลป์


มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์


วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะ
อย่างอิสระชน่ื ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน



ตวั ช้วี ัด
ผูเ้ รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจัดการเรียนรู้

ภาระงาน
เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด


๑. เปรยี บเทียบ ผู้เรยี นรู้อะไร

๑. ทักษะ
วาดภาพและเขียน ๑. สังเกตรูปลักษณะของ


รปู ลักษณะ รูปลักษณะของรปู ร่าง

การสังเกต
บรรยายเปรียบ รปู ร่าง รูปทรง ในธรรมชาติ
ของรปู รา่ ง รปู ทรงในธรรมชาติ
๒. ทักษะ
เทียบรปู ลกั ษณะ ส่ิงแวดล้อมและงานทศั นศิลป

รูปทรงใน สง่ิ แวดลอ้ มท่ีมคี วาม
การเปรยี บเทยี บ
ของรปู รา่ งใน ๒. จำแนกเปรยี บเทยี บรูปรา่ ง


ธรรมชาติ
แตกตา่ งกันสามารถนำมาใช

ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม

รูปทรงในธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อม


สงิ่ แวดลอ้ ม ในการสร้างงานทัศนศลิ ป

และงานทศั นศลิ ป
์ และงานทศั นศิลป

และงาน

ผเู้ รียนทำอะไรได


๓. วาดภาพและเขยี น
ทัศนศิลป์
เปรยี บเทียบรูปลักษณะของ


เปรยี บเทียบรปู ลักษณะของ


รปู รา่ ง รูปทรงในธรรมชาติ

รูปรา่ ง รปู ทรงในธรรมชาติ


สง่ิ แวดลอ้ มและงานทัศนศิลป


ส่ิงแวดลอ้ มและงานทศั นศลิ ป


ไดอ้ ย่างเหมาะสม










๒. อภปิ ราย
ผู้เรยี นรูอ้ ะไร
๑. ทกั ษะการ ๑. การเขยี น ๑. ศึกษาองค์ประกอบ/
เกยี่ วกบั อิทธพิ ลของสวี รรณะอ่นุ ให้คำจำกดั บรรยายและ ลักษณะ/สมบัติของ


อิทธพิ ลของ
และสวี รรณะเยน็ ที่มตี ่อ ความ
อภิปรายเก่ยี วกับ
สีวรรณะอุ่นและสวี รรณะเยน็

สีวรรณะอุ่น อารมณ์ของมนษุ ย
์ ๒. ทกั ษะ
สวี รรณะอุ่นและ
๒. การเลอื กใชส้ ีและวาดภาพ

และสีวรรณะ ผู้เรยี นทำอะไรได
้ การเขยี น
สวี รรณะเย็น
แสดงการใชว้ รรณะของสีเป็น
เยน็ ทีม่ ตี อ่ อภปิ รายเกย่ี วกับอิทธิพล
๒. วาดภาพแสดง วรรณะอุ่นและสวี รรณะเยน็
อารมณข์ อง ของสีวรรณะอนุ่ และสี
วรรณะสีอนุ่ ให้เหมาะสมกบั ตนเอง

มนษุ ย
์ วรรณะเยน็ ท่ีมตี อ่ อารมณ์
วรรณะสเี ยน็
๓. เขยี นบรรยายและอภิปราย


ของมนุษย


คณุ สมบัตขิ องวรรณะสี







๓. จำแนก
ผู้เรยี นรอู้ ะไร
ทกั ษะการ วาดภาพ
๑. สังเกตองค์ประกอบ/
ทศั นธาตขุ อง
การจำแนกทัศนธาต

จำแนกประเภท
หรอื งานป้ัน
ลักษณะ/คณุ สมบตั ขิ องเส้น

ส่งิ ต่าง ๆ

ของส่ิงตา่ ง ๆ ในธรรมชาติ



สี รูปรา่ ง รปู ทรงพนื้ ผิว


ในธรรมชาต

สง่ิ แวดล้อมและงานทศั นศิลป



พน้ื ที่วา่ งในธรรมชาตแิ ละ

ส่ิงแวดล้อม ท่เี นน้ เรอ่ื งเสน้ สี รูปรา่ ง

สงิ่ แวดล้อม

และงาน
พ้นื ผวิ และพื้นทว่ี ่าง


๒. จำแนกประเภทเส้น ส ี

ทัศนศิลป
์ ผ้เู รียนทำอะไรได


รปู รา่ ง รปู ทรงพืน้ ผิวและ

โดยเน้นเรอื่ ง สามารถเลือกใชเ้ ส้น



พนื้ ทว่ี ่างเพอ่ื นำไปใชใ้ นงาน
เส้น สี รูปรา่ ง สี รูปรา่ ง รูปทรงพืน้ ผิว

ทัศนศิลป


96 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ตัวช้วี ดั
ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจดั การเรยี นรู้

ภาระงาน
เพอ่ื พัฒนาทักษะการคิด


รูปทรง พ้ืนผิว และพน้ื ท่วี ่างในการสร้าง

และพน้ื ทวี่ ่าง
งานทัศนศิลป์ไดเ้ หมาะสม


๓. อธบิ ายผลการจำแนก

ทัศนธาตขุ องสิง่ ตา่ ง ๆ ใน




ธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อมและ




งานทศั นศิลป





๔. ปฏบิ ัติงานวาดภาพหรอื งานปนั้







๔. มีทกั ษะ
ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร
ทักษะการนำ งานพมิ พ์ภาพจาก ๑. ทบทวนความร้เู ดิม


พื้นฐาน

การเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์

ความรไู้ ปใช
้ วัสดุ อปุ กรณ์ชนิด เกี่ยวกบั การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์
ในการใช้วสั ดุ ทเ่ี หมาะสมเปน็ ทักษะพื้นฐาน

ต่าง ๆ
สร้างสรรคง์ านพมิ พภ์ าพ

อุปกรณ์ ในการสรา้ งสรรค


๒. เปรียบเทยี บผลงานพิมพ์
สรา้ งสรรค์ งานพมิ พ์ภาพ


ภาพโดยใช้วัสดุ อปุ กรณ

งานพิมพภ์ าพ
ผ้เู รยี นทำอะไรได


ชนดิ ตา่ ง ๆ


สามารถนำความรู้เก่ยี วกับ


๓. นำความรเู้ กี่ยวกับการใช้

การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์

วสั ดุ อุปกรณ์สร้างสรรค



สร้างสรรคก์ ับงานพิมพภ์ าพ


งานพมิ พ์ภาพ


ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม










๕. มีทกั ษะพน้ื ฐาน
ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร
ทักษะการนำ วาดภาพระบายสี
๑. ทบทวนความรเู้ ดิม


ในการใชว้ สั ดุ การเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ ความรไู้ ปใช

เกย่ี วกบั การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์


อปุ กรณ์ ทีเ่ หมาะสมเปน็ ทกั ษะ



สร้างสรรค์งานวาดภาพระบายส

สร้างสรรค์ พ้นื ฐานในการสรา้ งสรรค์

๒. เปรียบเทียบผลงานพิมพ์
งานวาดภาพ งานวาดภาพระบายสี


ภาพโดยใชว้ สั ดแุ ละอุปกรณ์
ระบายสี
ผู้เรียนทำอะไรได


ชนดิ ต่าง ๆ


นำทกั ษะพืน้ ฐานในการใช



๓. นำความรู้เกย่ี วกับหลักการ


วัสดุ อุปกรณ์สร้างสรรค



ของการใชว้ ัสดุและอปุ กรณ์

งานวาดภาพระบายสี



มาสรา้ งงานวาดภาพระบายส


ได้อยา่ งเหมาะสม










๖. บรรยาย ผู้เรียนร้อู ะไร
ทักษะการ เขียนบรรยายลกั ษณะ

๑. นำภาพมติ ิต่าง ๆ มาให้
ลักษณะของ การจดั ระยะ ความลกึ
เปรียบเทียบ
ของภาพโดยเนน้ สงั เกตดคู วามเหมือนความตา่ ง

ภาพโดยเนน้ นำ้ หนกั และแสง เงาในภาพ

เรอ่ื งการจดั ระยะ ๒. เปรียบเทยี บภาพทงั้ สอง
เรือ่ งการจัด ทเ่ี หมาะสมทำให้ภาพวาด

ความลึก น้ำหนกั ลกั ษณะ

ระยะความลกึ

ใหค้ วามรูส้ กึ ทแี่ ตกต่างกนั

และแสง เงาในภาพ
๓. อธิบายลักษณะของภาพ และ

นำ้ หนัก และ ผเู้ รียนทำอะไรได


การจดั ระยะ ความลึก นำ้ หนกั
แสง เงาในภาพ
บรรยายลักษณะของภาพ



และแสง เงาในการวาดภาพวาด


โดยเนน้ เรือ่ งการจดั ระยะ



โดยบรรยายความรูส้ ึกลกั ษณะ



ของภาพที่แตกตา่ งกนั


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา
97
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

ตัวชว้ี ัด
ผู้เรยี นรูอ้ ะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจดั การเรียนรู

ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทกั ษะการคดิ





ความลกึ นำ้ หนักและแสง



เงาในภาพได้อย่างเหมาะสม










๗. วาดภาพ ผู้เรยี นรอู้ ะไร
ทกั ษะการ วาดภาพระบายสี ๑. สังเกตภาพต่าง ๆ ดู


ระบายส ี
การใชส้ ีวรรณะอุน่ และ
จำแนก โดยใช้สวี รรณะอนุ่ ความเหมอื นความตา่ ง


โดยใช้สี สีวรรณะเยน็ วาดภาพ ประเภท
และสวี รรณะเย็น
โดยแสดงวรรณะของส

วรรณะอุน่ และ ระบายสี สามารถถ่ายทอด
ถ่ายทอดความรู้สกึ
๒. หาขอ้ มลู คณุ สมบัต

สีวรรณะเยน็ ความร้สู ึกและจนิ ตนาการ

และจนิ ตนาการ
ของวรรณะสี

ถา่ ยทอด ผเู้ รยี นทำอะไรได


๓. จำแนกประเภท จดั กลุ่ม
ความร้สู กึ วาดภาพระบายสโี ดยใช้



วรรณะส

และจนิ ตนาการ
สวี รรณะอ่นุ และสีวรรณะ

๔. วาดภาพระบายสี แสดง

เยน็ ถา่ ยทอดความรูส้ กึ


บรรยากาศของสวี รรณะอ่นุ

และจินตนาการ


และสีวรรณะเยน็ เพื่อถ่ายทอด





ความรู้สกึ และจนิ ตนาการ







๘. เปรียบเทียบ ผ้เู รยี นรอู้ ะไร
ทกั ษะการ งานวาดภาพ ๑. นำงานทัศนศิลป์ตา่ ง ๆ
ความคิด การถ่ายทอดความคิด เปรยี บเทียบ
ระบายสี หรืองาน มาอภปิ รายวา่ มีความเหมอื น
ความรู้สกึ
ความรสู้ ึกในงานทัศนศิลป

ปน้ั และเขียน ความต่างกันอย่างไร

ที่ถ่ายทอด ผเู้ รยี นทำอะไรได

บรรยายภาพ
๒. เปรียบเทียบ ชิ้นงานและ
ผ่านงาน
เปรียบเทียบความคดิ

บอกความเหมือน ความแตกตา่ ง

ทศั นศิลป์ ความรูส้ ึกถา่ ยทอดผา่ น



๓. ถา่ ยทอดความคดิ ความร้สู ึก
ของตนเอง งานทศั นศลิ ป์ของตนเอง

ในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ (งาน

และบคุ คลอน่ื
และผูอ้ ื่น


วาดภาพระบายสหี รืองานปั้น)





๔. เขียนบรรยายเปรียบเทียบ





ความคดิ ความรู้สกึ ถ่ายทอด




ผา่ นงานทัศนศลิ ป์ของตนเอง




และผู้อ่นื







๙. เลือกใช้ ผู้เรยี นรอู้ ะไร
ทกั ษะการนำ ๑. วาดภาพ

๑. ทบทวนความรูเ้ ดิม


วรรณะส

การเลอื กใช
้ ความรไู้ ปใช
้ ระบายสี
เกีย่ วกบั อารมณ์ ความรู้สึก
เพอื่ ถา่ ยทอด วรรณะสีเพือ่ ถา่ ยทอด ๒. ป้นั
ในการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์

อารมณ์ อารมณ์ ความรสู้ ึกในการ ๒. เปรียบเทียบผลงาน

ความร้สู ึก
สรา้ งงานทศั นศิลป
์ ทศั นศลิ ปใ์ นมติ ิต่าง ๆ

ในการ

ผ้เู รียนทำอะไรได
้ ๓. นำความรเู้ กยี่ วการใช้
สร้างงาน รจู้ กั เลอื กใชว้ รรณะสเี พ่อื วรรณสแี ละจากประสบการณ

ทศั นศิลป
์ ถ่ายทอดอารมณ์ ความรสู้ ึก
มาสรา้ งงานวาดภาพระบายส

ในการสร้างงานทศั นศลิ ป์
หรืองานปั้น




98 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรูเ้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์


มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า


งานทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย
และสากล



ตวั ชวี้ ัด
ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจดั การเรยี นรู้

ภาระงาน
เพือ่ พฒั นาทักษะการคดิ


๑. ระบุและ ผู้เรียนรู้อะไร

๑. ทกั ษะ
อภปิ รายนำเสนอ ๑. สังเกตภาพในเหตกุ ารณ์
อภปิ ราย
งานทศั นศิลปท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ ง
การระบ
ุ เก่ยี วกับงานทัศน และงานเฉลมิ ฉลองของ
เกีย่ วกบั งาน สมั พันธ์กับเหตกุ ารณ์และ
๒. ทกั ษะการ
ศลิ ป์ในวฒั นธรรม วฒั นธรรมในท้องถนิ่

ทศั นศลิ ป์
วัฒนธรรมในท้องถิ่น
รวบรวมข้อมลู
ท้องถนิ่
๒. รวมรวมข้อมลู เกีย่ วกับ
ในเหตุการณ์ ผู้เรยี นทำอะไรได


งานทัศนศลิ ป์ในเหตุการณ์
และงาน
ระบุและอภิปรายเกี่ยวกับ

และงานเฉลิมฉลองของ
เฉลิมฉลอง งานทศั นศิลปใ์ นเหตุการณ์



วัฒนธรรมในทอ้ งถิ่น

ของ และงานเฉลิมฉลองของ



๓. บอกขอ้ มลู เกย่ี วกบั
วัฒนธรรม
วฒั นธรรมในทอ้ งถ่นิ


ลกั ษณะของสงิ่ ที่สังเกตให้ได้
ในท้องถิ่น



มากทส่ี ดุ





๔. เชอ่ื มโยงลักษณะจากการ




สงั เกตกบั ลักษณะท่ีเคยรู้มากอ่ น





หรือจากประสบการณเ์ ดิม





๕. ระบแุ ละอภิปรายนำเสนอ




เกย่ี วกับงานทัศนศลิ ปใ์ น




เหตกุ ารณแ์ ละงานเฉลมิ




ฉลองของวัฒนธรมในท้องถ่นิ







๒. บรรยาย
ผเู้ รียนรูอ้ ะไร
ทักษะการเขียน
การเขยี นบรรยาย
๑. ทบทวนความร้ทู ีม่ เี ก่ียวกับ


เก่ียวกบั งาน ทัศนศลิ ปท์ ีม่ าจาก ความรู้เก่ียวกบั

งานทศั นศลิ ป์ทม่ี าจาก


ทัศนศลิ ป์ วัฒนธรรมตา่ ง ๆ
งานทศั นศลิ ปใ์ น วัฒนธรรมต่าง ๆ

ทม่ี าจาก ผเู้ รียนทำอะไรได
้ วฒั นธรรมต่าง ๆ
๒. นำเสนอภาพงานทศั นศลิ ป


วัฒนธรรม บรรยายเกย่ี วกบั งาน

ทมี่ าจากวฒั นรรมต่าง ๆ

ต่าง ๆ
ทัศนศลิ ป์ทม่ี าจาก ๓. สนทนาซักถามความร้แู ละ
วฒั นธรรมตา่ ง ๆ
แสดงความคดิ เหน็ รว่ มกัน


เกีย่ วกบั งานทศั นศลิ ปท์ ี่มา
จากวฒั นธรรมตา่ ง ๆ

๔. เขียนบรรยายความร
ู้
เกี่ยวกบั งานทัศนศิลป์ทมี่ า
จากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ


แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพื่อพฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา
99
กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ

สาระท่ี ๒ ดนตร


มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และ
ประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั


ตวั ช้วี ดั
ผ้เู รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคิด
ชนิ้ งาน/
แนวการจัดการเรียนรู

ภาระงาน
เพอื่ พัฒนาทกั ษะการคิด


๑. บอกประโยค ผู้เรียนรอู้ ะไร

๑. ทักษะ

บอกประโยคเพลง ๑. สนทนาซกั ถามเก่ยี วกบั
เพลง
โครงสรา้ งของบทเพลง

การสงั เกต
ง่าย ๆ วรรคเพลง
ประโยคเพลงอย่างง่าย ๆ

อยา่ งง่าย
ได้แกค่ วามหมายของ

๒. ทักษะ
ท่ีเหมอื นกัน
๒. อธิบายให้ความร้เู กย่ี วกับ



ประโยคเพลงและการแบง่
การจำแนก
และตา่ งกัน
วรรคเพลง ทเี่ หมือนกันและ

ประโยคเพลง
ประเภท

ต่างกัน


ผเู้ รยี นทำอะไรได


๓. ใหส้ ังเกตประโยคเพลง

บอกประโยคเพลง



อยา่ งง่าย ๆ และวรรคเพลง


อยา่ งง่ายและวรรคเพลง



ทเ่ี หมอื นกันและตา่ งกนั


ท่เี หมอื นกันและต่างกนั


๔. บอกวรรคเพลงทีเ่ หมือน




และแตกต่าง





๕. ร่วมกนั สรุปบอกความ




หมายของประโยคเพลงและ




การแบ่งประโยคเพลง







๒. จำแนก ผเู้ รยี นรู้อะไร
๑. ทกั ษะ

เขียนผงั มโนทัศน
์ ๑. ฟงั เสียงจากเคร่ืองดนตรี
ประเภทของ การจำแนกเสียงและ การฟัง
ประเภทของเคร่อื ง แตล่ ะประเภท

เครอ่ื งดนตร

ประเภทของเครือ่ งดนตร

๒. ทักษะ
ดนตร
ี ๒. อธบิ ายให้ความรู้เร่อื ง
ท่ใี ช้ในเพลง
ในบทเพลงท่ีฟังเป็นการนำ
การจำแนก


ประเภทของเคร่ืองดนตร


ทีฟ่ ัง
ความรู้ด้านดนตรีมาใช
้ ประเภท

เสยี งทีเ่ กดิ จากเครื่องดนตรี

ผู้เรยี นทำอะไรได


แตล่ ะประเภท


จำแนกประเภทของ



๓. ร่วมกนั กำหนดเกณฑ



เครือ่ งดนตรแี ละเสยี งของ



ในการแยกแยะประเภทของ

เครื่องดนตรีแต่ละประเภท


เครื่องดนตรแี ละเสยี งของ

ท่ีใช้ในเพลงท่ีฟังอย่างมี

เครือ่ งดนตรแี ต่ละประเภท


หลกั เกณฑ


๔. จดั กลุ่มเครอื่ งดนตรี




แต่ละประเภทและเสียงของ




เครือ่ งดนตร





๕. สรปุ ผลการจำแนกเปน็






ผงั มโนทัศน์ประเภทของ




เครอ่ื งดนตรแี ละเสยี งของ





เครอื่ งดนตรีแตล่ ะประเภท








100 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ตวั ชวี้ ัด
ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได
้ ทกั ษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจัดการเรยี นรู้

ภาระงาน
เพอ่ื พฒั นาทักษะการคิด


๓. ระบทุ ศิ ทาง ผู้เรยี นรู้อะไร
๑. สังเกตทิศทางการเคลอื่ นท
ี่

๑. ทักษะ
เขยี นแผนผัง ข้ึน-ลง ของทำนองรูปแบบ
การเคล่ือนท่ี ทศิ ทางการเคลื่อนที่
การสงั เกต
ทศิ ทางการ จังหวะและความเรว็ ของจงั หวะ

ขึ้น-ลง ง่าย ๆ ขน้ึ -ลง ของทำนองรปู แบบ ๒. ทกั ษะ
เคลอ่ื นท่ีขึน้ ลง
๒. บอกข้อมลู ตามท่ีสังเกต
ของทำนอง จังหวะและความเร็วของ การระบ
ุ ของทำนองและ ใหไ้ ด้มากท่ีสุด

รปู แบบ จงั หวะในเพลงทฟ่ี งั เป็น
ความช้า เร็ว
๓. เชอ่ื มโยงลกั ษณะจากการ
จังหวะและ ทักษะท่ีจำเปน็ ในการเรียน
ของจงั หวะ
สงั เกตกับลกั ษณะท่เี คยรูม้ าก่อน

ความเรว็ ของ ดนตรี


หรือจากประสบการณ์เดมิ

จังหวะใน ผู้เรียนทำอะไรได


๔. ร่วมกนั สรุประบทุ ศิ ทาง
เพลงทฟ่ี งั
ระบุทศิ ทางการเคล่อื นท
่ี


การเคลอ่ื นท่ขี ึน้ -ลงของทำนอง

ขนึ้ -ลงงา่ ย ๆ ของทำนอง



รูปแบบจงั หวะและความเรว็

รปู แบบจงั หวะและความเรว็

ของจังหวะ


ของจงั หวะในเพลงทฟ่ี งั


๕. เขยี นแผนผงั แสดงทศิ ทาง




การเคลือ่ นท่ีขึน้ -ลง ของทำนอง




และความช้า เรว็ ของจงั หวะ











๑. ศกึ ษาขอ้ มลู และสังเกต
๔. อา่ น เขยี น ผเู้ รยี นรอู้ ะไร
๑. ทกั ษะ

อ่าน-เขียนโน้ต เกี่ยวกบั เครือ่ งหมายและ
โน้ตดนตรี การอ่าน เขียนโนต้ ดนตรไี ทย
การจำแนก

ดนตรีไทยและ สัญลักษณ์ทางดนตรีไทยและ
ไทยและ และสากลเป็นทักษะพน้ื ฐาน
ประเภท
สากล
สากลพร้อมจำแนกประเภท

สากล
ทฤษฏดี นตรีไทย
๒. ทกั ษะการ

๒. รวบรวมข้อมลู และสรุป

และดนตรสี ากล
สรปุ ลง


สาระสำคญั ด้วยการเขยี น

ผู้เรยี นทำอะไรได
้ ความเห็น

แผนผงั เคร่อื งหมายและ

๑. อา่ น เขียนเคร่ืองหมาย

สญั ลกั ษณ์ทางดนตรี


และสญั ลักษณท์ างดนตร



๓. เช่อื มโยงมโนทศั นท์ าง

ไดแ้ ก่ กุญแจประจำหลกั



ดนตรี เชน่ ขดี บอกระดับ

บรรทัด ๕ เส้น โนต้ และ

เสยี งกับโนต้ ดนตร


เครื่องหมายหยุดเสน้ กน้ั หอ้ ง

๔. แสดงความคดิ เห็นและ


๒. รู้จกั โครงสรา้ งโน้ตเพลงไทย

ใชป้ ระสบการณ์เลน่ ดนตรี

การแบง่ หอ้ ง/การแบง่ จงั หวะ

และฟงั ดนตรีจากการดูโน้ต

โน้ตดนตรีไทยและสากล


โดยยดึ หลักการสอน





เสยี งกอ่ นสัญลักษณ





๕. นำเสนอผลงานการอ่าน




เขียนโน้ตดนตรไี ทยและสากล











๑. ทบทวนความรู้เกยี่ วกับ
๕. ร้องเพลง
ผ้เู รียนรูอ้ ะไร
ทักษะการนำ ร้องเพลงโดยใช้ การร้องเพลง

โดยใชช้ ว่ ง การร้องเพลงใหต้ รงกับ
ความรู้ไปใช้
ชว่ งเสยี งท่เี หมาะ ๒. ทดลองเปล่งเสียงฮมั

เสยี งท

่ ระดบั เสยี งในช่วงเสยี ง

สมกับตนเอง
ตามทำนองเพลงทีฟ่ งั เช่น


เหมาะสมกบั ท่ีจำกัดและเหมาะสม


ลา ลา ลา.....



ตนเอง
กับตนเอง


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา
101
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

ตวั ชว้ี ดั
ผเู้ รียนรูอ้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทกั ษะการคิด
ช้ินงาน/
แนวการจัดการเรยี นร
ู้
ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทกั ษะการคิด





ผเู้ รียนทำอะไรได


๓. ฝึกการอา่ นบทเพลงเป็น
สามารถร้องเพลงให้ตรง

วรรคสัน้ ๆ


กบั ระดบั เสียง ในชว่ งเสียง

๔. ทดลองเปลง่ เสยี งรอ้ ง



ทีจ่ ำกัดและเหมาะสม



ทีละวรรคส้ัน ๆ ใหส้ อดคล้อง


กับตนเอง


๕. ฝึกรอ้ งเพลงทลี ะท่อน






จนจบเพลงเป็นกลมุ่





๖. ร้องเพลงรายกล่มุ





และรายบุคคล







๖. ใชแ้ ละเกบ็ ผ้เู รียนรอู้ ะไร
ทกั ษะการนำ
รายงานใชแ้ ละเกบ็
๑. ทบทวนความรู้เกย่ี วกับ


เครือ่ งดนตรี การใชแ้ ละการดูแล

ความรไู้ ปใช้
เครอื่ งดนตรีอย่าง

การใชเ้ ครือ่ งดนตรี

อย่างถูกตอ้ ง เก็บรกั ษาเคร่อื งดนตร


ถูกต้องและ ๒. แนะนำใหร้ บั รกู้ ารดแู ล
และปลอดภัย
ได้อย่างถกู วิธ

ปลอดภัย
และเก็บรักษาเคร่อื งดนตร



เหมาะสมและปลอดภยั


ทีถ่ ูกวิธี เหมาะสม และปลอดภัย


ผูเ้ รยี นทำอะไรได


๓. ให้นักเรยี นรับผดิ ชอบ ดแู ล

สามารถดแู ลและเก็บรกั ษา


และเกบ็ รกั ษาเคร่อื งดนตรี

เคร่อื งดนตรไี ดอ้ ย่างถูกวิธี


รายกลมุ่ และรายบคุ คล


เหมาะสมและปลอดภัย


๔. เขยี นบรรยายการใช้และ





เกบ็ เคร่ืองดนตรอี ยา่ งถกู ตอ้ ง






และปลอดภยั







๗. ระบวุ า่ ดนตรี ผเู้ รียนรูอ้ ะไร
ทกั ษะ
รายงานเร่ืองเสียง ๑. ศึกษาและทำความเข้าใจ


สามารถใช้ใน เสยี งดนตรที มี่ จี งั หวะ

การวเิ คราะห
์ ดนตรีสามารถใช้

เนอื้ รอ้ งของบทเพลง

การสื่อ
ชา้ -เรว็ ดงั -เบาและทำนอง
ในการสอื่ เรือ่ งราว
๒. ฟงั เสียงดนตรี ดงั -เบา ช้า-เรว็

เร่อื งราว
สามารถสื่อสารเรอ่ื งราว
๓. แยกแยะเสียง


ผูเ้ รียนทำอะไรได
้ เครอื่ งดนตรีทตี่ ่างกนั มีผล


ระบุเน้ือหาบทเพลง
ต่ออารมณ์ และการสอื่ สาร
และเสียงดนตรมี ีจงั หวะ
เรอ่ื งราว

ช้า-เร็ว ดัง-เบาและทำนอง
๔. หาความสมั พันธ์ระหว่าง

สามารถส่อื เรื่องราวได
้ องค์ประกอบต่าง ๆ และ


ความสมั พนั ธข์ องเน้อื หาใน
บทเพลงแตล่ ะองค์ประกอบ

๕. นำผลการวเิ คราะห์มาสรปุ

เขยี นรายงานเก่ยี วกบั


ความหมายของเน้ือหาใน
บทเพลงสามารถใช้ในการสือ่
เรือ่ งราว


102 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

สาระท่ี ๒ ดนตรี


มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า
ของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย

และสากล


ตัวชว้ี ดั
ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจดั การเรยี นร้

ภาระงาน
เพอ่ื พัฒนาทกั ษะการคิด


๑. บอกแหล่ง
ผเู้ รียนร้อู ะไร

๑. ทักษะ
เขยี นบรรยาย

๑. ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู
ท่ีมาและ

ความสมั พนั ธข์ องวิถชี ีวติ การเขยี น
เกยี่ วกับดนตรีและ ดนตรแี ละเพลงในท้องถน่ิ


ความสมั พนั ธ์ ไทยกบั ผลงานดนตรเี กีย่ วกับ
๒. ทักษะ
เพลงในทอ้ งถนิ่
ว่ามีแหลง่ ท่ีมาและมคี วาม
ของวถิ ชี วี ติ - เนือ้ หาเร่ืองราวในบทเพลง การรวบรวม ที่สะทอ้ นถึง

สมั พนั ธก์ บั วถิ ีชีวติ ในท้องถิ่น

ไทยที่สะท้อน กับวถิ ีชวี ิตและโอกาสในการ ขอ้ มูล
ความสมั พนั ธ ์
๒. จัดกลุ่มข้อมลู ตามที่ศกึ ษา

ในดนตรแี ละ บรรเลงดนตร

ของวิถชี ีวิต
๓. กำหนดและอธิบาย

เพลงทอ้ งถ่นิ
ผู้เรียนทำอะไรได


หลักเกณฑ์ในการจดั กล่มุ ขอ้ มูล


บอกแหล่งท่มี าและความ

๔. นำเสนอขอ้ มลู โดยการ

สมั พันธข์ องวถิ ชี วี ติ ไทยท่ี

เขยี นบรรยายแหล่งทม่ี าและ

สะท้อนในดนตร


ความสัมพันธข์ องวถิ ีชวี ติ ไทย

และเพลงท้องถนิ่


ท่สี ะทอ้ นในดนตรแี ละเพลง




ในท้องถิน่







๒. ระบุความ ผ้เู รยี นรู้อะไร
๑. ทักษะ

เขียนบรรยายและ ๑. รวบรวมขอ้ มูลการอนรุ กั ษ


สำคัญในการ การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรม

การรวบรวม

ให้เหตุผลการ ส่งเสริมวฒั นธรรมทางดนตร

อนรุ กั ษ
์ ทางดนตรเี กย่ี วกับความ ข้อมลู
อนุรักษส์ ่งเสรมิ ๒. สรา้ งความตระหนัก

ส่งเสรมิ สำคญั และความจำเปน็
๒. ทกั ษะ
วฒั นธรรมทาง ในคุณค่าการอนุรกั ษแ์ ละ


วฒั นธรรม ในการอนรุ ักษแ์ ละแนวทาง การให้เหตุผล
ดนตรี
ส่งเสรมิ วัฒนธรรมทางดนตรี

ทางดนตรี
ในการอนุรักษ

๓. เรยี งลำดบั ความสำคญั

ผู้เรียนทำอะไรได
้ ในการอนรุ ักษ์ส่งเสริม
ระบุความสำคัญในการ วัฒนธรรมทางดนตร

อนุรกั ษส์ ่งเสริมวัฒนธรรม ๔. อธบิ ายหลักเกณฑใ์ นการ
ทางดนตรีที่ดงี ามมคี ุณค่า
เรียงลำดบั ความสำคัญใหเ้ หน็
ความสอดคลอ้ งของเหตุและ
ผลในการอนรุ ักษส์ ง่ เสริม
วฒั นธรรมทางดนตรี

๕. เขียนบรรยายและให้
เหตผุ ลการอนุรักษส์ ง่ เสรมิ
วฒั นธรรมทางดนตร


แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พื่อพฒั นาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
103
กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์


มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณคา่ นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคดิ อยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช


ในชีวติ ประจำวัน


ตวั ชว้ี ัด
ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคิด
ชิน้ งาน/
แนวการจัดการเรียนร้

ภาระงาน
เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ


๑. ระบุพ้ืนฐาน ผ้เู รยี นร้อู ะไร

๑. ทกั ษะ

การแสดงภาษาทา่ ๑. ทบทวนความรพู้ ้ืนบา้ นทาง

ทางนาฏศลิ ป์ หลักและวธิ ีการปฏิบัติ การตัง้ คำถาม
ส่ือความหมายทาง นาฏศลิ ป์ คือนาฏยศัพท์ และ
และการละคร นาฏศลิ ป์ ไดแ้ ก่ การฝึก ๒. ทกั ษะการ อารมณ์ และ
ภาษาท่าสอื่ ความหมายแทน
ท่ใี ชส้ ือ่
ภาษาท่าและนาฏยศพั ท์
ทำให้กระจ่าง
นาฏยศัพท
์ อารมณ

ความหมาย ผเู้ รียนทำอะไรได้


๒. รับความรู้ใหม่จากการ
และอารมณ
์ ฝกึ และแสดงท่าพนื้ ฐาน

อธบิ ายและสาธติ หรอื จากสื่อ

ทางนาฏศลิ ป์และการละคร

เรอื่ งความรู้พ้ืนฐานทาง


ท่ีสามารถสื่ออารมณ์และ

นาฏศิลป์ คือนาฏยศัพท์ และ

ความหมายได้


ภาษาทา่ ส่อื ความหมายแทน




อารมณ์จากนั้นฝึกปฏบิ ตั ิ




พร้อมกนั





๓. แต่ละกลมุ่ ชว่ ยกัน




ประมวลองค์ความรู้ พร้อมทงั้




ระบสุ งิ่ ท่ีสงสัยในการฝกึ




ปฏบิ ัตภิ าษาท่าและนาฏยศัพท์




จากน้นั กำหนดคำถามซกั ถาม




กนั พร้อมท้ังชว่ ยกนั หา





วิธีการต่าง ๆ มาทำให้เกดิ




ความชัดเจน เพือ่ ตอบคำถาม




นน้ั โดยการยกตัวอย่าง และ




สาธิตจนเกิดความเข้าใจ





๔. ผลัดกันนำเสนอและ





ชนื่ ชมผลงานการแสดงทา่






พ้นื ฐานทางนาฏศิลป์ คือ




นาฏยศัพท์ และภาษาท่า






สือ่ ความหมายแทนอารมณ์




แล้วร่วมกนั วิพากษว์ ิจารณ






พร้อมทั้งใหข้ อ้ เสนอแนะการ




ทำท่าพื้นฐานทางนาฏศิลป์












104 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

ตวั ชว้ี ัด
ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคิด
ช้นิ งาน/
แนวการจัดการเรยี นรู้

ภาระงาน
เพ่อื พัฒนาทักษะการคิด







๕. รว่ มกันสรปุ ความรู้ดว้ ย




การจัดทำผงั มโนทัศน์ความรู้




พน้ื ฐานทางนาฏศิลป์ คอื




นาฏยศัพท์ และภาษาทา่ สอื่




ความหมายแทนอารมณ์ และ




นาฏยศพั ท







๒. ใชภ้ าษาท่า ผเู้ รียนรอู้ ะไร
ทกั ษะ
การรำประกอบ
๑. ศกึ ษาสำรวจความรู้ใหม่
และนาฎยศัพท์ หลักการนำภาษาท่าและ การประยกุ ต์

เพลงปลุกใจ
เร่อื งภาษาทา่ นาฏยศพั ทห์ รอื
หรอื ศัพท์ นาฏยศพั ท์ หรือศัพท์ ใชค้ วามรู้
เพลงพระราชนิพนธ์
ศพั ท์ทางการละคร

ทางการละคร ทางการละครมาชว่ ยในการ
หรอื ละครทีใ่ ชศ้ พั ท์ ๒. ทบทวนความรูเ้ ดมิ เพ่ือ

งา่ ย ๆ ในการ ถ่ายทอดเร่อื งราว

ทางการละคร นำมาเชอ่ื มโยงกบั ความรใู้ หม


ถ่ายทอด
ผ้เู รยี นทำอะไรได

ถา่ ยทอดเรื่องราว
ในการรำประกอบเพลงหรือ
เรื่องราว
บอกวิธีการนำภาษาท่า

ละคร โดยการรอ้ งเพลงและ

และนาฏยศพั ท์ หรือศพั ท์

บอกความหมายของเพลง

ทางการละครมาชว่ ยในการ

หรือตีความบทละคร


รำประกอบเพลงหรือ

๓. คัดเลอื กขอ้ มูลภาษาท่า

ถ่ายทอดเร่ืองราว พรอ้ มทั้ง


นาฏยศัพท์หรือศพั ท์ทางการ

ฝกึ ปฏิบตั ภิ าษาทา่



ละครมาใช้ในการรำประกอบ

นาฏยศัพทป์ ระกอบเพลง

เพลง หรอื ละครดงั กลา่ ว


ปลกุ ใจ หรือฝึกแสดงละคร

จากน้นั แตล่ ะกล่มุ ฝกึ ปฏบิ ัติ

โดยใช้ศพั ทท์ างการละคร

รำประกอบเพลง หรอื ละครแล้ว


ถ่ายทอดเร่ืองราว


นำเสนอผลงานแลกเปลยี่ นกัน





๔. ตรวจสอบความ




สอดคลอ้ งของภาษาท่า




นาฏยศพั ท์ หรือศัพทท์ างการ




ละครท่ใี ชใ้ นการรำประกอบ




เพลง หรอื ละครดงั กลา่ ว





๕. ชืน่ ชมและสรุปหลกั การนำ




ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ หรอื




ศัพท์ทางการละครมาช่วย






ในการถ่ายทอดเร่อื งราว






ตา่ ง ๆ ซึ่งทกุ คนต้อง






เตรยี มพร้อมในการนำความรู้




ไปประยกุ ต์ใชก้ ับสถานการณ์




ใหมต่ า่ ง ๆ


แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
105
กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ตัวชว้ี ัด
ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจัดการเรยี นร
ู้
ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทกั ษะการคดิ


๓. แสดงการ ผู้เรยี นรอู้ ะไร

ทกั ษะการนำ

แสดงการ ๑. ทบทวนความรู้เรอื่ ง

เคลอ่ื นไหว
หลกั การประดิษฐท์ า่ ทาง

ความรู้ไปใช้
เคล่อื นไหวทา่ ทาง นาฏยศพั ท์ ภาษาทา่ และ
ในจงั หวะ

หรอื ทา่ รำประกอบการ
ประกอบจังหวะ จังหวะพน้ื เมอื งตา่ งๆ เพ่ือ


ตา่ ง ๆ ตาม เคลื่อนไหวในจังหวะ

เพลงพ้นื เมอื ง
นำมาเชือ่ มโยงในการประดิษฐ

ความคดิ เห็น พื้นเมอื งตา่ ง ๆ ตาม



ท่ารำ พร้อมทง้ั บอกหลกั การ
ของตน
ความคดิ เหน็ ของตน


ประดิษฐ์ท่ารำ


ผเู้ รยี นทำอะไรได


๒. กำหนดจังหวะของเพลง

บอกหลักการ และฝกึ

พน้ื เมืองของท้องถ่นิ เพ่อื นำ

ปฏิบัติการประดษิ ฐท์ า่ ทาง

ข้อมูลความรเู้ รอื่ งนาฏยศพั ท์

หรือท่ารำประกอบการ

และภาษาท่ามาใช้ในการ

เคลอ่ื นไหวในจังหวะ


ประดิษฐท์ ่าทางหรอื ทา่ รำ

พ้นื เมอื งตา่ ง ๆ ตามความ

ประกอบจงั หวะเพลงดงั กลา่ ว


คดิ เหน็ ของตน


๓. แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั วางแผน





การประดิษฐ์ท่าทาง หรอื ทา่ รำ




ประกอบการเคลอื่ นไหว




จังหวะเพลงพื้นเมือง





ที่กำหนด





๔. ฝึกและนำเสนอผลงาน





การประดิษฐท์ า่ ทาง หรอื ทา่ รำ




ประกอบการเคลื่อนไหว






ตามจังหวะของเพลงพื้นเมอื ง







๔. แสดง
ผู้เรยี นรู้อะไร
ทักษะการ
๑. ผงั ความคดิ

๑. สำรวจข้อมูลความรู้
นาฏศลิ ป์เป็น การแสดงนาฏศิลปเ์ ปน็ คู่ หาแบบแผน
ประเภทและ ประเภทการแสดงหมู่และค่

คแู่ ละเป็นหมู่
และเป็นหม
ู่
ลักษณะของการ เพ่ือวเิ คราะหห์ ารูปแบบ


ผ้เู รยี นทำอะไรได

แสดงหมู่และค
ู่ การแสดง โดยเฉพาะรำวง

แสดงนาฏศลิ ป์เป็นคู


๒. การแสดงรำวง มาตรฐาน และระบำ


และเปน็ หมู่ เช่น รำวง
มาตรฐาน
๒. แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั จัดเรียง

มาตรฐาน และระบำ

๓. การแสดงระบำ
ความคดิ รูปแบบของการ




แสดงคู่และเป็นหมู่ จากนน้ั




นำมาเช่อื มโยงกับการฝกึ




ปฏิบัตริ ำวงมาตรฐาน และ




ระบำตามรูปแบบแล้ว นำเสนอ




ผลงานแลกเปลี่ยนกัน














106 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือพฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ตวั ชีว้ ัด
ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจัดการเรียนร
ู้
ภาระงาน
เพอ่ื พฒั นาทักษะการคดิ







๓. จัดทำแผนผังความคดิ




ลกั ษณะรปู แบบของการ




แสดงคู่ และหมู่ เพอ่ื บนั ทึก





ไวเ้ ป็นรอ่ งรอยของการเรยี นรู





๔. สรุปความรู้เร่อื งรปู แบบ




การแสดงนาฏศลิ ปป์ ระเภทคู่




และหม
ู่






๕. เล่าส่งิ ท
ี่
ผู้เรียนรู้อะไร
ทกั ษะ
๑. เล่าส่งิ ทช่ี ื่นชอบ ๑. ให้ชมการแสดงละคร

ช่ืนชอบ
หลกั การเล่นสงิ่ ที่ช่ืนชอบ การสรปุ ยอ่
ในการแสดง โดย จากน้นั ซกั ถามหรอื ให้เล่าเรอื่ ง
ในการแสดง ในการแสดง โดยเน้นจดุ
เน้นจดุ สำคัญของ ย่อ ๆ เพ่ือโยงเขา้ สู่การรับ
โดยเนน้

สำคญั ของเร่ือง และ เรอื่ งและลกั ษณะ ความร้ใู หมใ่ นเรอ่ื งหลักของ
จดุ สำคญั ของ ลักษณะเดน่ ของตัวละคร
เดน่ ของตวั ละคร
การเล่าสิ่งท่ีชื่นชอบในการ
เรือ่ ง และ ผเู้ รยี นทำอะไรได
้ ๒. ผงั ความคิดการ แสดง โดยเน้นจดุ สำคัญของ
ลักษณะเดน่ เล่าสง่ิ ทช่ี น่ื ชอบในการ เล่าสง่ิ ทีช่ อบจาก เรอ่ื งและลกั ษณะเดน่ ของ

ของตวั ละคร
แสดง โดยเน้นจดุ สำคัญ การแสดง
ตัวละคร

ของเร่ืองและลักษณะเด่น ๒. สรุปย่อและทำความเข้าใจ
ของตัวละคร
ในเรอื่ งราวและสาระ โดยเน้น
จุดสำคญั และลักษณะเดน่

ของตัวละคร

๓. จับคู่แลกเปล่ยี นช่ืนชม


ผลงานการแสดงและออกมา
เล่าส่งิ ท่ีชน่ื ชอบในการแสดง
โดยเน้นจุดสำคัญของเรอ่ื ง
และลักษณะเดน่ ของตัวละคร
จากนน้ั จดั ทำเป็นผังความคิด

ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานของร่องรอย
การเรยี นร้


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
107
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

สาระที่ ๓ นาฏศลิ ป์


มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างนาฏศลิ ป์ ประวัติศาสตรแ์ ละวัฒนธรรมเห็นคณุ คา่
ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย
และสากล


ตวั ชี้วัด
ผู้เรียนรู้อะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคดิ
ชน้ิ งาน/
แนวการจัดการเรียนร
ู้
ภาระงาน
เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด


๑. อธิบาย ผเู้ รยี นร้อู ะไร

ทกั ษะการให้ รายงานประวัต

๑. ศกึ ษารวมรวมขอ้ มูลความ
ประวตั
ิ ประวัติความเป็นมาของ เหตุผล
ความเป็นมาของ

รเู้ รอื่ งประวตั ิ ความเปน็ มา
ความเปน็ มา นาฏศลิ ป์และทีม่ าของชดุ
นาฏศิลป
์ ของนาฏศลิ ป์ และทมี่ าของ
ของนาฏศิลป์ การแสดงอย่างงา่ ย


ชุดการแสดง

หรือชดุ การ ผู้เรียนทำอะไรได


๒. วิเคราะห์ อภปิ รายประวตั

แสดงอย่าง อธิบายประวตั ิความเปน็ มา

ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์
งา่ ย ๆ
ของนาฏศลิ ปแ์ ละท่ีมาของ

และท่มี าของชดุ การแสดง



ชดุ การแสดงอยา่ งงา่ ย


เพอื่ ค้นหาสาเหตุของการ




แสดงนาฏศลิ ป์ และทมี่ าของ




ชดุ การแสดง โดยอาศยั




ขอ้ มลู หลักฐานมาสนบั สนนุ




ให้เหน็ เหตผุ ลเชงิ ประจักษ์




จนสามารถอธบิ ายประวตั ิ




ความเปน็ มาดังกลา่ วใหผ้ ้อู น่ื




เขา้ ใจได้ พรอ้ มทัง้ จัดทำ




รายงานเพอื่ เป็นหลักฐาน






ร่องรอยของการเรียนร
ู้




๓. อธบิ ายให้เห็นความสำคัญ





สอดคล้องของเหตแุ ละผล






ในประวตั คิ วามเปน็ มาของ




นาฏศลิ ป์และชดุ การแสดง





น้นั ๆ







๒. เปรยี บเทยี บ ผู้เรยี นรู้อะไร
ทกั ษะการ แผนผงั การ
๑. กำหนดการแสดงนาฏศลิ ป์
การแสดง
ลกั ษะการแสดงนาฏศลิ ป์

เปรียบเทียบ
เปรียบเทยี บ

และการแสดงทม่ี าจาก
นาฏศิลป์กับ และลกั ษณะการแสดงท่ีมา
การแสดงนาฏศิลป์ วฒั นธรรมพื้นเมอื งของ

การแสดง
จากวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นอื่น
กับการแสดงทมี่ า ท้องถิน่ ใหผ้ เู้ รยี นชม โดยเก็บ
ที่มาจาก เพ่ือเปรียบเทยี บความ
จากวฒั นธรรม
รวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ ไว้เป็น
วัฒนธรรมอื่น
เหมือนและความต่าง

ทอ้ งถิ่นอนื่
ประเด็นทง้ั ๒ รายการ






จากนั้นคัดเลือกข้อมูลทมี่ ี

108 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ตัวช้วี ดั
ผู้เรยี นรู้อะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคิด
ชนิ้ งาน/
แนวการจัดการเรยี นร
ู้
ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทักษะการคดิ




ผูเ้ รยี นทำอะไรได้


ประเด็นเดยี วกันมา


เปรียบเทียบการแสดง

เปรยี บเทยี บใหเ้ ห็นความ

นาฏศิลปก์ บั การแสดงที่มา

เหมือน และความแตกตา่ ง


จากวัฒนธรรมท้องถิ่นอ่ืน ๆ


๒. นำความเหมือนและ





ความต่างของการแสดง






นาฏศิลป์และการแสดง






พื้นเมืองมาวเิ คราะห์อภิปราย




เพือ่ เชื่อมโยงใหเ้ หน็ เหตผุ ล




และความจำเป็น จากน้ัน




ผลัดกนั นำเสนอแลกเปลีย่ น




กนั พร้อมทั้งแสดง





ความคดิ เหน็ ประกอบ





๓. สรุปเป็นผังความร้เู รอื่ ง




ลกั ษณะการแสดงนาฏศลิ ป์




และลกั ษณะการแสดงทมี่ า




จากวฒั นธรรมท้องถน่ิ อื่น





ทนี่ ำมาเปรียบเทยี บความเหมอื น




และความต่าง พรอ้ มทงั้




เชอื่ มโยงเหตผุ ลให้สอดรบั







๓. อธิบายความ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร
ทกั ษะ
๑. ผังความคดิ

๑. รวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั
สำคญั ของ
ความสำคัญของการแสดง การให้เหตผุ ล
ความสำคัญของ ประวตั ิของนาฏศลิ ป์ไทย
การแสดง ความเคารพก่อนการเรียน


การแสดงความ และทม่ี าของการแสดง


ความเคารพ และการแสดงนาฏศลิ ป์

เคารพในการเรียน ความเคารพในการเรยี นและ

ในการเรยี น
ผเู้ รยี นทำอะไรได

นาฏศลิ ป์ทัง้ กอ่ น การแสดงนาฏศลิ ป์ จากนน้ั
และการแสดง อธิบายความสำคญั และ
เรียนและหลงั เรียน
จัดทำผังความคิดความสำคญั
นาฏศลิ ป์
ปฏบิ ตั กิ ารแสดงความ
๒. การแสดงความ ของการแสดงความเคารพ

เคารพกอ่ นการเรียนและ
เคารพก่อนเรยี น กอ่ นการเรยี นนาฏศลิ ป


การแสดงนาฏศิลป

และแสดงนาฏศลิ ป
์ ๒. วิเคราะห์ และอภปิ ราย




ความสำคญั หรือความจำเป็น





ของการแสดงความเคารพ




กอ่ นการแสดงนาฏศิลป์ เพ่ือ




คน้ หาสาเหตหุ รอื ทีม่ าของ



การแสดงนาฏศลิ ป์ และทม่ี า



ของการแสดงความเคารพ






แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พือ่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา
109
กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

ตวั ชว้ี ดั
ผเู้ รียนรูอ้ ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคดิ
ชิ้นงาน/
แนวการจัดการเรียนร
ู้
ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทักษะการคิด







ในการเรียนนาฏศิลป์ โดยอาศัย






ข้อมลู หลักฐานมาสนบั สนุน




เพ่อื ใหเ้ ห็นเหตผุ ลเชิงประจักษ์




จากน้นั นำเสนอผลการอภปิ ราย




แลกเปลยี่ นกัน





๓. ฝึกและปฏบิ ัตวิ ธิ ีการ




แสดงความเคารพก่อนการ




เรยี นและแสดงนาฏศลิ ป







๔. ระบุเหตุผล
ผู้เรียนรู้อะไร
ทักษะการให้ ๑. ผงั ความคดิ ๑. ทบทวนความเป็นมาของ
ที่ควรรกั ษา คุณคา่ ของการแสดง

เหตุผล
คุณค่าของ

นาฏศิลป์ไทย

และสืบทอด นาฏศลิ ป์ท่คี วรรกั ษา

นาฏศิลป
์ ๒. รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั
การแสดง
และสืบทอด
๒. ผังความคดิ วธิ ี คณุ คา่ ของนาฏศลิ ป์ไทย
นาฏศิลป
์ ผเู้ รียนทำอะไรได
้ การรกั ษาและ และรว่ มกนั วิเคราะห์
วิเคราะห์อภิปรายเพอ่ื

สบื ทอดนาฏศิลป
์ อภิปรายเพือ่ ระบเุ หตผุ ล
ระบเุ หตผุ ลคณุ คา่ ของ


คุณคา่ ของการแสดงนาฏศิลป

การแสดงนาฏศลิ ปท์ ค่ี วร ทค่ี วรรักษาและสืบทอด

รกั ษาและสบื ทอด
จากนั้นจดั ทำผังความคดิ
คณุ คา่ ของนาฏศลิ ป

๓. วเิ คราะหอ์ ภิปรายเพ่อื ระบุ
เหตุผลคุณค่าของการแสดง
นาฏศิลป์ทค่ี วรรักษาและ
สบื ทอด จากน้นั ร่วมกันหาวธิ ี
การอนุรกั ษ์ไว้ซึง่ การแสดง
นาฏศลิ ป์ โดยอาศัยขอ้ มลู
หลกั ฐานและสภาพสังคม
ไทยในปัจจบุ นั มาสนบั สนุน
เพื่อให้เห็นเหตผุ ล

เชิงประจักษ์ พร้อมท้ังจดั ทำ

ผังความคดิ วิธกี ารรกั ษาและ
สบื ทอดนาฏศิลปเ์ พื่อแลก
เปลยี่ นเรยี นร
ู้
๔. สรปุ และเน้นยำ้ ใหน้ ำวธิ ี
การรักษาสืบทอดนาฏศลิ ป


ไปใชใ้ หไ้ ด้ผล


110 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ

✦ การจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู พอื่ พัฒนาทักษะการคิด


การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด เป็นการวิเคราะห์
ต่อเน่ืองจากการวิเคราะห์ตัวช้ีวัด โดยวิเคราะห์ใน ๖ ประเด็น คือ

ความสัมพันธ์/ความเช่ือมโยงของตัวช้ีวัดแต่ละตัวท่ีจะนำมาจัดกิจกรรม


การเรียนรู้ร่วมกันได้ ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ ทักษะการคิด


ชนิ้ งาน/ภาระงาน และแนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์


มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห ์


วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะ


อยา่ งอสิ ระ ชื่นชม และประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน


ตัวชีว้ ัด
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชนิ้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นรู


สาระที่ ๑
ธรรมชาต

๑. รูปร่างรปู ทรง ๑. ทักษะ
การเขยี นบรรยาย ๑. สงั เกต ลักษณะ

ทศั นศิลป
์ สงิ่ แวดล้อม
ในธรรมชาต

การสังเกต
จำแนกทัศนธาต

รูปรา่ ง รปู ทรงใน
มาตรฐาน ศ ๑.๑
และงานทัศนศิลป ์
สงิ่ แวดล้อมและ ๒. ทักษะ
ในธรรมชาต

ธรรมชาตสิ ่ิงแวดลอ้ ม

๑. เปรยี บเทียบ

ประกอบดว้ ย
งานทศั นศลิ ป
์ การเปรียบเทียบ
สง่ิ แวดล้อมและ

และงานทัศนศลิ ป

รปู ลักษณะของ

ทัศนธาตุ เช่น

๒. เส้น สี รูปรา่ ง
๓. ทกั ษะ
งานทศั นศิลป์
๒. เปรียบเทียบ

รปู รา่ ง รูปทรง

เสน้ สี รปู ร่าง

รูปทรง พน้ื ผิว การจำแนกประเภท

รปู ลักษณะ รปู รา่ ง

ในธรรมชาต

รูปทรง พื้นผิว และพืน้ ที่ว่าง


รปู ทรง ในธรรมชาต


สง่ิ แวดลอ้ ม และพนื้ ทวี่ า่ ง
ในธรรมชาติ


สิ่งแวดล้อม

และ
ท่แี ตกตา่ งกัน
ส่งิ แวดล้อม และ

๓. สงั เกตลักษณะ
งานทศั นศลิ ป์

งานทัศนศิลป์


คุณสมบัติของ เสน้ สี
๓. จำแนกทัศนธาต




รปู รา่ งรปู ทรง พื้นผิว
ของสิ่งต่าง ๆ




พื้นทว่ี ่างในธรรมชาต ิ

ในธรรมชาต





ส่งิ แวดล้อม

สิ่งแวดลอ้ ม



๔. จำแนกประเภท

และงาน





เสน้ สี รปู รา่ ง รปู ทรง
ทัศนศิลป ์





พน้ื ผวิ และพนื้ ทว่ี า่ ง
โดยเน้นเรือ่ ง



เพ่อื นำไปใช้ในงาน
เส้น สี รูปรา่ ง



ทศั นศิลป

รปู ทรง พื้นผิว



๕. เขยี นบรรยาย
และพนื้ ทว่ี า่ ง




จำแนกทศั นธาต






ในธรรมชาต ิ






ส่ิงแวดล้อมและ







งานทศั นศิลป








มาตรฐาน ศ ๑.๑
วรรณะสมี ผี ลต่อ ๑. อทิ ธิพลของ
๑. ทกั ษะการเขียน
๑. การเขยี น ๑. ศกึ ษาองค์ประกอบ/
๒. อธปิ ราย

อารมณค์ วามร้สู กึ สวี รรณะอนุ่ และ
๒. ทกั ษะการ
บรรยายเก่ยี วกับ ลกั ษณะ/คณุ สมบตั ิ
เกี่ยวกบั
จนิ ตนาการและ สวี รรณะเยน็
ให้คำจำกดั ความ
อทิ ธิพลของ
ของสีวรรณะอุ่นและ

อิทธพิ ลของ

การสร้างงาน

๒. การใช

๓. ทักษะ
สวี รรณะอุ่นและ
สวี รรณะเย็น

สีวรรณะอุน่ ทศั นศลิ ป

สีวรรณะอนุ่ และ
การนำความรไู้ ปใช้
สวี รรณะเยน็
๒. สงั เกตภาพต่าง ๆ
และสวี รรณะ- ของมนุษย์
สวี รรณะเย็น


๒. การวาดภาพ ดูความเหมอื น

เย็น ท่ีมีต่อ สามารถถ่ายทอด
วาดภาพถ่ายทอด
ระบายส ี
ความแตกต่างของภาพ

112 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พ่ือพฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ

ตัวชี้วดั
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคิด
ชนิ้ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนร้
ู ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นรู


อารมณ์ของ ความคิด ความ ความรู้สึกและ
สีวรรณะอ่นุ และ
การใชส้ ีแต่ละวรรณะ

มนุษย์
รู้สกึ ของตนเอง จนิ ตนาการ

สีวรรณะเยน็
๓. หาขอ้ มูลคุณสมบตั


๗. วาดภาพระบาย และบคุ คลอื่น
๓. การเลอื กใช้

ของวรรณะสี

สโี ดยใชส้ ี
วรรณะสี


๔. จำแนกประเภท

วรรณะอุ่น

เพอ่ื ถา่ ยทอด

จดั กลุ่มวรรณะส

และสีวรรณะเย็น
อารมณ ์


๕. เลอื กใช้สีวรรณะ
ถา่ ยทอดความ
ความรสู้ ึก


อุ่น สีวรรณะเยน็ ให้
รู้สึกและ



เหมาะสมกบั งาน

จินตนาการ




๖. เขยี นบรรยาย
๙. เลอื กใช้วรรณะส





คุณสมบัตขิ องวรรณะส

เพ่อื ถา่ ยทอด



๗. เปรยี บเทยี บ

อารมณ





ผลงานทัศน์ศลิ ป

ความรู้สึก




๘. นำความรู้เก่ียวกบั .

ในการสร้างงาน



วรรณะสี มาสรา้ ง
ทศั นศลิ ป




สรรคง์ านวาดภาพ





ระบายสี








มาตรฐาน ศ ๑.๑
การจัดระยะ ๑. การใช้วสั ดุ ๑. ทักษะการ
๑. งานพิมพภ์ าพ
๑. การทบทวนความร


๔. มที ักษะพื้นฐาน ความลกึ น้ำหนกั

อปุ กรณส์ รา้ งงาน เปรยี บเทยี บ
๒. วาดภาพ เดิมเกี่ยวกับการใช้
ในการใช้วัสดุ และแสง เงา

พิมพภ์ าพ
๒. ทักษะการนำ
ระบายส
ี วสั ดุ อุปกรณ์
อปุ กรณ์ ในภาพ รวมท้งั ๒. การใชว้ สั ดุ ความรไู้ ปใช้

สรา้ งสรรคง์ าน

สรา้ งสรรค

การใชว้ สั ดุ อปุ กรณ
์ อุปกรณใ์ นการ

ทัศนศิลป

งานพิมพภ์ าพ
มผี ลตอ่ ทักษะ
วาดภาพและ

๒. นำภาพพมิ พ


๕. มที ักษะ
พ้ืนฐานในการ ระบายส


ภาพวาดระบายสีมาให้
พืน้ ฐานในการ สรา้ งสรรค์งาน ๓. การจดั ระยะ

สังเกตความเหมือน
ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ พิมพ์ภาพและการ ความลกึ น้ำหนกั


ความตา่ งกันของ

สร้างสรรค์
วาดภาพ ระบายส
ี และแสง เงา



ภาพวาดโดยเน้นเรือ่ ง
งานวาดภาพ ทำให้ผลงานมี ในการวาดภาพ

การจดั ระยะความลึกน้ำ
ระบายสี
ความรูส้ ึกที่แตก ระบายสี



หนักและแสงเงาเพ่ือ

๖. บรรยาย ตา่ งกนั
และการพิมพ์ภาพ


สังเกตดคู วามเหมอื น
ลกั ษณะของ



และความแตกตา่ ง

ภาพโดยเน้น



๓. ทดลองพมิ พ์ภาพ

เรื่อง การจัด



และวาดภาพระบายส


ระยะ ความลกึ



โดยใชอ้ ปุ กรณ์ต่าง ๆ

นำ้ หนัก แสง



๔. เปรียบเทียบ

เงาในภาพและ




ผลงานการพมิ พ์ภาพ




และการวาดภาพ

แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา
113
กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

ตัวชี้วัด
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นรู







ระบายสี โดยเนน้





เรือ่ งการจดั ระยะ





ความลึก น้ำหนกั






และแสง เงา






๕. นำเสนอ






ผลงานการพิมพภ์ าพ





หรือการวาดภาพ





ระบายสี เพ่ือแลก





เปลีย่ นเรียนร
ู้







มาตรฐาน ศ ๑.๑
งานทัศนศิลป์ ความเหมอื น
ทกั ษะ
งานวาดภาพหรือ ๑. นำงานทัศนศิลป


๘. เปรยี บเทียบ ถา่ ยทอดความคิด และความแตกตา่ ง

การเปรียบเทียบ
งานป้ันและ

รูปแบบต่าง ๆ

ความคดิ

ความรูส้ ึก
ในงานทศั นศิลป์ การเขียนบรรยาย
มาอภปิ ราย


ความรู้สึกที่ ทแ่ี ตกต่างกนั ของ ความคดิ ความ ดูความเหมอื น

ถา่ ยทอดผา่ น บคุ คล
รสู้ ึก ท่ถี ่ายทอด

ความแตกต่าง

งานทศั นศิลป์ ในงานทศั นศิลป
์ ๒. เปรียบเทยี บชิ้นงาน
ของตนเองและ บอกความเหมือน

บุคคลอน่ื
ความแตกต่าง

๓. ถ่ายทอดความคิด
ความรู้สึกในการ

สรา้ งงานทัศนศิลป

(งานวาดภาพระบายส

หรอื งานปั้น)


๔. เขียนบรรยาย

เปรียบเทยี บความคดิ
ความรู้สึกถา่ ยทอด
ผ่านงานทัศนศลิ ป


ของตนเองและผู้อ่นื


114 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

สาระท่ี ๑ ทศั นศลิ ป์


มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า


งานทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย
และสากล


ตัวชวี้ ัด
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชน้ิ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร
ู้

สาระท่ี ๑
งานทัศนศลิ ป

๑. งานทัศนศลิ ป์ ๑. ทกั ษะ
๑. การนำเสนอ ๑. ทบทวนความรู้เดิม

ทัศนศลิ ป
์ เปน็ งานทสี่ ะทอ้ น ในวฒั นธรรม

การเขียน
เกี่ยวกบั

เกีย่ วกบั เหตกุ ารณ


มาตรฐาน ศ ๑.๒
เหตกุ ารณ์ ทอ้ งถ่นิ
๒. ทกั ษะ
งานทัศนศิลป

วัฒนธรรมในทอ้ งถิ่น

๑. ระบแุ ละ วัฒนธรรม

๒. งานทัศนศิลป์ การระบ
ุ ในเหตุการณ์และ ๒. สังเกตภาพ
อภปิ ราย
ในท้องถิ่น และ
จากวฒั นธรรม ๓. ทกั ษะการ งานเฉลมิ ฉลอง เหตุการณ์ และงาน
เก่ยี วกับงาน วฒั นธรรมต่าง ๆ
ต่าง ๆ
รวบรวมข้อมูล
ของวัฒนธรรม
เฉลิมฉลองวฒั นธรรม


ทศั นศลิ ป์

ในทอ้ งถน่ิ
ในท้องถน่ิ

ในเหตุการณ์
๒. เขียนบรรยาย
๓. ระบขุ อ้ มลู เกย่ี วกับ

และงาน
เก่ียวกับงาน

เหตุการณ์วฒั นธรรม
เฉลิมฉลอง ทัศนศิลปท์ ่ีมา ในทอ้ งถน่ิ และ

ของ จากวัฒนธรรม วัฒนธรรมตา่ ง ๆ

ในทอ้ งถ่ิน
ตา่ ง ๆ
๔. อธบิ ายนำเสนอ
๒. บรรยาย
ข้อมลู เกยี่ วกับงาน
เกี่ยวกบั งาน ทัศนศลิ ปก์ บั เหตุการณ

ทัศนศลิ ปท์ ี่มา และงานเฉลิมฉลองของ

จากวัฒนธรรม วัฒนธรรมท้องถนิ่

ต่าง ๆ
๕. นำเสนอภาพ
เหตกุ ารณ์ และงาน
เฉลมิ ฉลองใน
วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น

๖. บรรยายเก่ยี วกบั
ลักษณะ รปู แบบ

ที่มาของงานทัศนศิลป

ทม่ี าจากวัฒนธรรม
ต่าง ๆ




แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา
115
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

สาระท่ี ๒ ดนตรี


มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ


คุณค่าดนตรีถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และ

ประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั


ตัวช้วี ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ชนิ้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนรู้
ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร
ู้

สาระที่ ๒ ดนตร
ี ประโยคเพลง

โครงสรา้ งของ ๑. ทกั ษะ
บอกประโยค ๑. สนทนาซกั ถาม
มาตรฐาน ศ ๒.๑
เปน็ สว่ นประกอบ
บทเพลง
การสงั เกต
เพลงงา่ ย ๆ

เก่ยี วกับประโยคเพลง
๑. บอกประโยค สำคัญของเพลง
- ความหมาย
๒. ทกั ษะ

และวรรคเพลง
อยา่ งง่าย ๆ

เพลงอยา่ งง่าย

ของประโยค การจำแนก
ที่เหมอื นกนั และ ๒. อธบิ ายใหค้ วามร




- การแบ่ง
ประเภท
ตา่ งกัน
เกยี่ วกับวรรคเพลงที่


ประโยคเพลง


เหมือนกนั และตา่ งกัน






๓. ให้สงั เกตประโยค





เพลงอยา่ งง่าย ๆ





และวรรคเพลงท่ี





เหมอื นกนั และต่างกนั






๔. บอกวรรคเพลง






ทีเ่ หมอื นกันและ






แตกต่างกนั






๕. รว่ มกนั สรปุ บอก





ความหมายของ





ประโยคเพลงและ






การแบง่ ประโยคเพลง








มาตรฐาน ศ ๒.๑
การจำแนกเสียง
๑. ประเภทของ ๑. ทักษะ
เขียนผังมโนทัศน์ ๑. ฟงั เสียงจากเครือ่ ง
๒. จำแนก และประเภทของ
เครือ่ งดนตร
ี การฟัง
ประเภทของ ดนตรีแตล่ ะประเภท

ประเภทของ เครื่องดนตร

๒. เสยี งของ ๒. ทักษะ
เครื่องดนตร

๒. อธิบายใหค้ วามรู้
เครอ่ื งดนตรีที่ใช้ ในบทเพลงทฟี่ ัง

เครอ่ื งดนตรี การจำแนก

เรื่องประะภทของ
ในเพลงทฟี่ งั
เป็นการนำความร้

แต่ละประเภท
ประเภท
เคร่อื งดนตรแี ละเสยี ง
ดา้ นดนตรมี าใช้
ทเี่ กิดจากเคร่ืองดนตรี

แตล่ ะประเภท

๓. รว่ มกันกำหนด
เกณฑใ์ นการแยกแยะ
ประเภทของเครื่อง
ดนตรีและเสยี งของ
เคร่ืองดนตรีแต่ละ
ประเภท

๔. จดั กลุม่ เคร่ืองดนตร

แตล่ ะประเภทท่ีใช

ในเพลงที่ฟัง



116 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ตวั ชวี้ ัด
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคดิ
ชน้ิ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู้







๕. สรุปผลการจำแนก






ประเภทเคร่อื งดนตรี





และเสียงของเคร่ือง





ดนตรีแต่ละประเภท






เปน็ ผงั มโนทศั น์








มาตรฐาน ศ ๒.๑
การระบุทิศทาง ๑. การเคลื่อนที่ ๑. ทักษะ
๑. เขียนแผนผัง ๑. อธิบายให้ความรู้
๓. ระบุทศิ ทาง การเคลื่อนท่ ี

ข้ึน-ลงของ การสงั เกต
ทิศทางการ เกยี่ วกบั จงั หวะท่ี


การเคลอ่ื นท่ี ขึน้ -ลงของทำนอง

ทำนอง
๒. ทักษะ
เคล่ือนทข่ี นึ้ -ลง ดำเนนิ ไปอย่าง
ขึน้ -ลงง่าย ๆ รูปแบบ จงั หวะ ๒. รูปแบบ การระบุ
ของทำนองและ สม่ำเสมอ ข้นึ -ลง
ของทำนอง และความเรว็ ของ จังหวะของ ๓. ทกั ษะ

ความช้า เร็ว
ชา้ -เร็ว และหนกั เบา

รูปแบบจงั หวะ จงั หวะการอ่าน ทำนองจงั หวะ
การสรุป

ของจังหวะ
๒. สังเกตจากเพลง
และความเร็ว เขียนโน้ตดนตร
ี ๓. รูปแบบจังหวะ
ลงความเหน็
๒. อ่านและ ทฟ่ี งั เกยี่ วกับจงั หวะ

ของจังหวะ
ไทยและสากล
๔. ความช้า-เร็ว

เขียนโนต้
๓. ร่วมกันเขยี น
ในเพลงที่ฟงั
เปน็ ทกั ษะพนื้ ฐาน
ของจังหวะ

ดนตรไี ทย
แผนผังทิศทางการ
๔. อ่าน เขียน ทฤษฏดี นตรไี ทย
๕. เครอื่ งหมาย
๓. อ่านและ เคลื่อนทีข่ ึน้ -ลงของ
โน้ตดนตรไี ทย และดนตรีสากล
และสญั ลักษณ์
เขยี นโนต้
ทำนองและความ

และสากล

ทางดนตร

ดนตรีสากล
ชา้ -เรว็ ของจังหวะ



- กุญแจประจำหลัก


๔. เช่อื มโยงมโนทศั น




- บรรทัดหา้ เส้น


ทางดนตรี เช่น ขีด--


- โน้ตและ


บอกระดบั เสยี งกับ


เคร่ืองหมายหยุด


โน้ตดนตร



- เส้นก้นั หอ้ ง


๕. อธิบายใหค้ วามรู้


๖. โครงสร้าง

เร่ืองบรรทัดห้าเส้น


โน้ตเพลงไทย


และการแบ่งห้องเปน็



- การแบ่งหอ้ ง


จังหวะในเพลงไทย



- การแบ่ง

๖. เลา่ ประสบการณ์


จังหวะ


ในการอ่านโนต้






โดยการเล่นดนตรี





หรือฟังดนตรจี าก





การดโู น้ต ยึดหลัก





การสอนเสียงกอ่ น





สญั ลกั ษณ์






๗. นำเสนอผลงาน






การอา่ นและเขยี น





โน้ตดนตรไี ทยและ






สากล









แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
117
กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ตวั ชีว้ ดั
ความคิด
สาระ
ทักษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กิจกรรมการเรยี นร
ู้

มาตรฐาน ศ ๒.๑
การร้องเพลงให้ การขบั ร้อง ทกั ษะการนำ ร้องเพลงโดยใช้ ๑. ทบทวนความรู้
๕. รอ้ งเพลงโดย ตรงกับระดับเสยี ง
เพลงในบันได ความรู้ไปใช
้ ช่วงเสียงท่

เกย่ี วกับการรอ้ งเพลง

ใชช้ ว่ งเสียง
ในช่วงเสยี งทจ่ี ำกดั

เสยี งที่เหมาะสม
เหมาะสมกบั ๒. ทดลองเปลง่ เสยี งฮมั

ที่เหมาะสม
และเหมาะสม กบั ตนเอง

ตนเอง
ตามทำนองเพลงท่ฟี ัง
กับตนเอง
กับตนเอง


เช่น ลา ลา ลา ลา...


เป็นการร้องเพลง


๓. ฝึกการอา่ นบทเพลง


ท่ีถกู ต้อง




เปน็ วรรคส้ัน ๆ


ตามหลักการ



๔. ทดลองเปลง่

ร้องเพลง



เสยี งรอ้ งทีละวรรค





ส้นั ๆ ให้สอดคลอ้ ง





กับทำนองและจงั หวะ






ของบทเพลงตาม





ช่วงเสยี งที่เหมาะสม





กับตวั เอง






๕. ฝกึ รอ้ งเพลง






ทลี ะท่อนจนจบเพลง





เป็นกลมุ่ ดว้ ย






ช่วงเสยี งทเี่ หมาะสม






๖. ฝกึ รอ้ งเพลงราย





กลุ่มและรายบุคคล





ด้วยช่วงเสียงที่





เหมาะสม








มาตรฐาน ศ ๒.๑
การดแู ลและ
การใช้และ
ทกั ษะการนำ รายงานการใช้ ๑. ทบทวนความร
ู้

๖. ใช้และเก็บ เกบ็ รักษา
การดแู ลรักษา
ความรู้ไปใช้
และเก็บเครอ่ื ง เกย่ี วกบั การใช้


เครือ่ งดนตรี เครือ่ งดนตรี

เคร่ืองดนตร

ดนตรอี ย่าง
เครื่องดนตร

อย่างถูกตอ้ ง
ได้อย่างถกู วธิ ี ของตน

ถกู ตอ้ งและ ๒. แนะนำใหร้ บั ร
ู้
และปลอดภัย
เหมาะสม


ปลอดภัย
การดแู ลและเกบ็ รักษา

เปน็ การถนอม



เครอ่ื งดนตรที ่ถี ูกวิธี

เครอ่ื งดนตร



เหมาะสมและปลอดภยั


ให้ใช้ได้นาน



๓. รับผดิ ชอบ ดแู ล

และปลอดภัย



และเกบ็ รกั ษา







เครอ่ื งดนตรรี ายกลุม่






และรายบคุ คล






๔. เขยี นรายงาน





บรรยายการใช้และ





เกบ็ เครื่องดนตรอี ย่าง





ถูกตอ้ งและปลอดภยั


118 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ตัวชว้ี ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชิน้ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรยี นร
ู้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร
ู้
๑. ศกึ ษาทำความ
มาตรฐาน ศ ๒.๑
ดนตรแี ละ ความหมาย ทักษะ
รายงานเรือ่ ง เขา้ ใจเนือ้ ร้องของ
๗. ระบวุ ่าดนตรี บทเพลง

ของเนอื้ หาใน การวิเคราะห
์ ดนตรีสามารถ

บทเพลงทไี่ ดฟ้ งั

สามารถใช
้ มเี นอ้ื หา
บทเพลง
ใชใ้ นการส่ือ
๒. ใหร้ บั ร้เู สยี งดนตรี
ในการส่ือ

ความหมาย

เรอ่ื งราว
เพ่ือแยกเสียง

เร่ืองราว
ใเรนื่อกงารราสว่อื จ
าก

ดงั -เบา ช้า-เรว็ /
อารมณ์เพลง

เนอื้ ร้อง ทำนอง
๓. แยกแยะเสยี ง

และจงั หวะ
เครอื่ งดนตรที ต่ี า่ งกนั


มผี ลตอ่ อารมณแ์ ละ
การสื่อสารเรือ่ งราว

๔. หาความสัมพนั ธ


ระหว่างองค์ประกอบ
ต่าง ๆ และความ
สัมพันธ์ของเนื้อหา
ในบทเพลง

แต่ละองค์ประกอบ

๕. นำผลการ
วเิ คราะห​์มาสรุป
เขยี นรายงาน

เกยี่ วกับความหมาย
ของเน้ือหาใน
บทเพลง

สามารถใชใ้ นการ

สื่อเร่อื งราวจาก


เน้อื ร้อง ทำนอง
และจงั หวะ


แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา
119
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

สาระที่ ๒ ดนตรี


มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า
ของดนตรีท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย

และสากล



ตวั ชีว้ ดั
ความคิด
สาระ
ทกั ษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรียนรู้
ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร
ู้

สาระท่ี ๒ ดนตร
ี ดนตรแี ละ ๑. ความสัมพันธ์ ๑. ทกั ษะการ ๑. เขยี นบรรยาย

๑. ศึกษารวบรวมข้อมูล

มาตรฐาน ศ ๒.๒
บทเพลงท้องถน่ิ ของวิถชี ีวิตกบั รวบรวมขอ้ มลู
เก่ียวกับดนตรี - แหลง่ ท่ีมาและ
๑. บอกแหลง่ ท่ีมา
สะท้อนความ ผลงานดนตร
ี ๒. ทกั ษะ
และเพลงใน
ความสมั พนั ธข์ อง


และ
สมั พันธข์ อง
- เนอ้ื หา
การเขยี น
ท้องถ่นิ สะทอ้ น วถิ ีชีวติ ไทยท่สี ะท้อน
ความสัมพนั ธ์ ชวี ติ ไทยเป็นการ เร่อื งราวใน ๓. ทกั ษะ
ถึงความสมั พันธ์ ในดนตรีและเพลงทอ้ งถ่นิ

ของวถิ ชี ีวิตไทย

บอกเลา่ วีถีชีวิต บทเพลงกบั
การให้เหตุผล
ของวถิ ีชีวิต
- ความสำคญั ใน
ที่สะท้อนใน ผา่ นบทเพลง
วถิ ีชวี ิต

๒. เขียนบรรยาย
การอนรุ ักษส์ ่งเสรมิ


ดนตรแี ละ และดนตรซี ่งึ เปน็ - โอกาสในการ
การอนุรกั ษ

วัฒนธรรมทางดนตรี

เพลงทอ้ งถน่ิ
วัฒนธรรมทดี่ ีงาม บรรเลงดนตรี

สง่ เสรมิ วัฒนธรรม
๒. จดั กลมุ่ ดนตร

๒. ระบุความ มีคณุ ค่าในการ ๒. การอนุรักษ์
ทางดนตรี
และบทเพลงในทอ้ งถิ่น

สำคญั ในการ อนุรกั ษ
์ วัฒนธรรมทาง
๓. กำหนดดนตรแี ละ


อนุรักษ


ดนตร

บทเพลงในทอ้ งถิน่


ส่งเสรมิ - ความสำคญั
โดยอธบิ ายหลกั เกณฑ


วัฒนธรรม
และความจำเป็น
การจัดประเภทและ
ทางดนตร
ี ในการอนุรักษ

ความสมั พนั ธ์ต่อวิถี
- แนวทาง

ชวี ิตไทยพรอ้ มระบุ
ในการอนุรักษ

ความสำคัญของ
วัฒนธรรมทางดนตรี
ทค่ี วรสง่ เสรมิ และ
อนรุ ักษ์

๔. เขียนบรรยาย

เกยี่ วกบั ดนตรแี ละ


เพลงในท้องถนิ่ โดย


บอกแหลง่ ท่ีมาและ
ความสมั พนั ธท์ ี่
สะท้อนวิถชี วี ิตไทย

๕. เขียนบรรยาย
ความสำคัญของ
วัฒนธรรมทางดนตร


ทค่ี วรสง่ เสรมิ และ
อนุรกั ษ


120 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พอื่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

สาระที่ ๓ นาฏศลิ ป์


มาตรฐาน ศ ๓.๑ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์
คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความร้สู กึ ความคดิ อยา่ งอิสระ ชน่ื ชม และประยุกต์ใช



ความคดิ
สาระ
ทักษะการคดิ
ชน้ิ งาน/
แนวการจัด

ตวั ชีว้ ัด
รวบยอด
การเรียนรู
้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้


สาระที่ ๓
ภาษาท่า
๑. หลกั และ

๑. ทักษะ

๑. แสดงท่า

๑. ฝกึ นาฏยศัพท์
นาฏศิลป
์ นาฏยศัพท์

วิธีการปฏิบตั ิ

การตงั้ คำถาม
นาฏยศัพท์
ภาษาทา่ ส่อื ความ
มาตรฐาน ศ ๓.๑
และศพั ท์ทางการ นาฏศิลป์
๒. ทักษะ
๒. แสดง
หมายแทนอารมณ์
๑. ระบุพืน้ ฐาน ละครเปน็ พืน้ ฐาน
- การฝกึ ภาษาท่า การทำให้กระจา่ ง
ภาษาทา่ สอ่ื

และศพั ทท์ างการ
ทางนาฏศิลป์ การแสดงนาฏศลิ ป

- การฝกึ
๓. ทักษะ
ความหมาย
ละครพร้อมท้งั บอก
และการละคร และการละครที่ นาฏยศพั ท
์ การประยุกต์

๓. ผงั มโนทัศน์ หลักการสรา้ งสรรค์
ทีใ่ ช้สื่อ
สามารถสอ่ื
๒. การใช้ภาษาท่า ใช้ความรู้
นาฏยศัพท์
ท่ารำประกอบเพลง
ความหมาย
ความหมาย และ และนาฏยศัพท์ ๔. ทกั ษะ
๔. ผงั มโนทัศน

และการเคล่ือนไหว
และอารมณ
์ ถ่ายทอดอารมณ์ ประกอบเพลง การนำความร้

ภาษาทา่
จังหวะเพลงพน้ื เมอื ง

๒. ใชภ้ าษาท่า ออกมาเป็นเรือ่ ง ปลุกใจและเพลง ไปใช
้ ๕. แสดงการรำ ๒. แสดงนาฏยศพั ท


และนาฏยศพั ท ์
ราวได้ตาม
พระราชนพิ นธ

ประกอบเพลง และภาษาทา่ สื่อ
หรอื ศัพท์ ความคิดเห็น
๓. การประดิษฐ์
ปลุกใจและเพลง ความหมายแทน
ทางการละคร ของตน
ท่าทางหรอื ทา่ รำ
พระราชนพิ นธ

อารมณพ์ ร้อมทงั้
ง่าย ๆ ในการ
ประกอบจงั หวะ
โดยนำนาฏยศพั ท

ศัพท์ทางการละคร
ถา่ ยทอด

พื้นเมือง

และภาษาทา่ มาใช้
และการเคลื่อนไหว
เร่ืองราว

๔. การประดษิ ฐ์
๖. แสดงละคร จังหวะพน้ื เมือง

๓. แสดงการ
ทา่ ทางหรอื ทา่ รำ

โดยใช้ศัพท์ ๓. แบ่งกล่มุ ฝึกรำ
เคลอ่ื นไหวใน
ประกอบจังหวะ
ทางการละครเพ่ือ ประกอบเพลงปลกุ ใจ
จงั หวะตา่ ง ๆ
พน้ื เมอื ง

ถ่ายทอดเรื่องราว
เพลงพระราชนพิ นธ์
ตามความคิด


๗. แสดงการ และการเคล่ือนไหว
ของตน



เคลือ่ นไหว
จังหวะเพลงพ้นื เมือง




ท่าทางประกอบ
ทก่ี ำหนดโดยนำ





จงั หวะเพลง

นาฏยศพั ทแ์ ละภาษาท่า




พืน้ เมอื ง
มาใชป้ ระกอบการรำ






๔. ผลดั กันแสดง






การรำประกอบ







เพลงปลกุ ใจ เพลง






พระราชนิพนธ์






และการเคล่ือนไหว






เพลงพนื้ เมอื ง


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา
121
กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ

ตวั ช้ีวัด
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคิด
ช้นิ งาน/
แนวการจดั


รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู




๕. ฝึกการแสดง





ละคร โดยใชศ้ ัพท์





ทางการละครเพอ่ื





ถ่ายทอดเร่อื งราว






๖. ผลัดกันแสดงละคร





จากการใช้ศัพท์





ทางการละครเพื่อ





ถ่ายทอดเรอื่ งราว






๗. รว่ มกนั ระบุสิ่งท่ี





สงสยั จากการ






นำเสนอและชืน่ ชม





ผลงานการแสดงทง้ั





นาฏยศพั ท์ ภาษาทา่





การแสดงการรำ





ประกอบเพลงปลุกใจ






เพลงพระราชนพิ นธ์





และการเคลื่อนไหว





จงั หวะเพลงพ้นื เมอื ง







รวมท้งั การแสดง





ละคร โดยการต้งั






คำถามเปน็ ประเด็น





ตา่ ง ๆ






๘. ใชว้ ิธีการตา่ ง ๆ





ทำใหเ้ กิดความ





ชัดเจนในการตอบ





คำถาม โดยการยก





ตัวอยา่ งและสาธติ





จนทำให้เกดิ ความ





เขา้ ใจ






๙. อธบิ ายสง่ิ ท่ี





คลุมเครือใหก้ ระจ่าง





อย่างชดั เจน โดย





เนน้ นาฏยศัพท์















122 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ตวั ชวี้ ัด
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคิด
ช้ินงาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นร้
ู ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู้







ภาษาทา่ และศพั ท์





ทางการละครท่นี ำมา





ใช้ในการแสดงรำ





ประกอบเพลงปลุกใจ





เพลงพระราชนิพนธ์





และการเคล่อื นไหว





จังหวะเพลงพน้ื เมือง





และละคร






๑๐. สรปุ ความร
ู้





โดยการจัดทำ







ผงั มโนทัศน







นาฏยศพั ท์ ภาษาทา่





และศัพท์ทใี่ ช






ทางละคร








มาตรฐาน ศ ๓.๑
การแสดง

การแสดง
ทักษะการหา ๑. ผงั ความคดิ ๑. สำรวจข้อมลู
๔. แสดง
นาฏศลิ ปท์ ั้งคู่ นาฏศิลป์ แบบแผน
ประเภทและ ความร้ปู ระเภท


นาฏศิลป์เปน็ และหมู่ เปน็ รูป ประเภทคู่ และ
ลักษณะของการ การแสดงหมู่ และคู่
คู่และเปน็ หมู่
แบบมาตรฐาน
หม
ู่
แสดงหมู่และคู่
เพื่อวเิ คราะหห์ า


ที่ตอ้ งยดึ ถือเปน็ - รำวงมาตรฐาน

๒. การแสดงรำวง รปู แบบการแสดง

แบบอย่าง
- ระบำ

มาตรฐาน
และระบำ





๓. การแสดง ๒. แต่ละกล่มุ





ระบำ
รว่ มกันจัดเรยี ง







ความคิดรูปแบบของ





การค่แู ละหมู่ จากนัน้







นำมาเชอ่ื มโยงกับ





การฝกึ ปฏิบตั ิรำวง





มาตรฐาน และระบำ





ตามรปู รปู แบบ แลว้





นำเสนอผลงานแลก





เปลี่ยนกัน






๓. จดั ทำแผนผงั





ความคิดลักษณะ






รปู แบบของการ





แสดงคู่ และหมู่

แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พอื่ พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา
123
กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ตัวช้วี ดั
ความคดิ
สาระ
ทักษะการคิด
ชิน้ งาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนร้







เพ่ือบันทกึ ไวเ้ ปน็






รอ่ งรอยของการเรียนร
ู้





๔. สรปุ ความรเู้ รื่อง





รปู แบบการแสดง





นาฏศิลปป์ ระเภทคู่





และหมู่








มาตรฐาน ศ ๓.๑
การเล่าส่งิ ท่ชี ื่น การเล่าเรื่อง
ทกั ษะ
๑. เล่าส่งิ ที่ช่นื ชอบ ๑. ให้ชมการแสดง


๕. เล่าส่งิ ที่ชืน่ ชอบ

ชอบในการ - จุดสำคัญ
การสรปุ ย่อ
ในการแสดงโดย ละคร จากน้นั


เนน้ จุดสำคญั ซกั ถามหรือให้เลา่
ในการแสดง แสดงโดยเนน้ - ลักษณะเดน่

ของเรอื่ งและ เรือ่ งยอ่ ๆ เพอื่ โยง
โดยเน้นจุด จุดสำคญั ของ ของตัวละคร
ลกั ษณะเด่นของ เขา้ สูก่ ารรับความรู้
สำคญั ของ เรือ่ งและ ตัวละคร
ใหมใ่ นเร่อื งหลักของ
เรอ่ื ง และ ลักษณะเดน่ ของ ๒. ผงั ความคิด การเลา่ สิ่งที่ช่นื ชอบ
ลกั ษณะเดน่ ตวั ละครเป็นการ การเลา่ สิง่ ท่ีชอบ ในการแสดง โดย
ของตวั ละคร
ถ่ายทอดที่ดี
จากการแสดง
เนน้ จุดสำคญั ของ

เรอื่ ง และลกั ษณะ
เดน่ ของตัวละคร

๒. สรุปย่อและ
ทำความเขา้ ใจใน
เร่อื งราวและสาระ
โดยเนน้ จุดสำคัญ
และลักษณะเด่น
ของตัวละคร

๓. จบั คู่แลกเปล่ียน
ชน่ื ชมผลงาน

การแสดงและเล่าสงิ่

ท่ีชืน่ ชอบในการแสดง


โดยเนน้ จดุ สำคัญ
ของเรอ่ื งและ
ลกั ษณะเดน่ ของตวั
ละคร จากน้ันเป็น

ผงั ความคดิ ไว้เปน็


หลกั ฐานของรอ่ งรอย
การเรียนร้


124 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

สาระที่ ๓ นาฏศิลป


มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า


ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย
และสากล


ตวั ช้วี ัด
ความคดิ
สาระ
ทกั ษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจัด

รวบยอด
การเรยี นรู้
ภาระงาน
กิจกรรมการเรียนรู้


สาระที่ ๓
การแสดง
๑. ความเป็นมา ๑. ทักษะการ ๑. รายงาน

๑. รวบรวมความรู้
นาฏศิลป
์ นาฏศลิ ปไ์ ทยและ ของนาฏศิลป์
เปรียบเทยี บ
ประวตั คิ วามเป็นมา
เร่ืองประวตั ิความ
มาตรฐาน ศ ๓.๒
นาฏศิลปพ์ ืน้ บา้ น ๒. ทม่ี าของ
๒. ทกั ษะการ
ของนาฏศิลป

เปน็ มาของนาฏศิลป์
๑. อธิบายประวัติ แสดงใหเ้ ห็น ชุดการแสดง
ใหเ้ หตุผล
และท่มี าของชดุ
ไทย นาฏศลิ ป


ความเป็นมา คุณคา่ ความสำคัญ ๓. การชม
การแสดง
พ้ืนเมือง และท่มี าของ

ของนาฏศลิ ป์ ประวัตคิ วามเป็น การแสดง
๒. แผนผังการ
ชุดการแสดงตา่ ง ๆ

หรือชุดการ มาของภูมิปัญญา - นาฏศิลป์
เปรยี บเทยี บการ ๒. วเิ คราะห์
แสดงอย่าง ไทยและภมู ิ - การแสดงของ แสดงนาฏศลิ ป
์ อภปิ รายเพอ่ื อธบิ าย
งา่ ย ๆ
ปญั ญาทอ้ งถ่นิ
ทอ้ งถ่นิ
กบั การแสดงท่ีมา ประวตั คิ วามเป็นมา
๒. เปรยี บเทยี บ ๔. ความเป็นมา จากวัฒนธรรม
ของนาฏศิลปแ์ ละ
การแสดง
ของนาฏศลิ ป์
ทอ้ งถิ่นอ่ืน
ท่ีมาของชดุ

นาฏศลิ ปก์ บั - การทำความ ๓. ผงั ความคดิ การแสดง พรอ้ มท้ัง
การแสดง
เคารพกอ่ นเรียน ความสำคญั ของ จดั ทำรายงานเป็น

ทม่ี าจาก และกอ่ นแสดง การแสดงความ หลักฐานร่องรอย
วัฒนธรรมอน่ื
๕. ความเปน็ มา
เคารพก่อนเรียน
ของการเรียนร
ู้
๓. อธบิ าย
ของนาฏศลิ ป
์ และกอ่ นแสดง ๓. อธบิ ายความ
ความสำคญั - คณุ คา่
นาฏศลิ ป์
สำคญั สอดคล้อง
ของการแสดง ๔. การแสดง ของเหตุและผลใน
ความเคารพ ความเคารพก่อน ประวตั คิ วามเป็นมา
ในการเรียน เรียนและก่อน ของนาฏศลิ ป์และ

และการแสดง แสดงนาฏศิลป
์ ชุดการแสดง

นาฏศลิ ป
์ ๕. ผังความคิด ๔. ชมการแสดง

๔. ระบุเหตุผล
คุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ และการ
ท่ีควรรักษา นาฏศลิ ป์
แสดงท้องถ่นิ เพอ่ื
และสบื ทอด ๖. ผังความคิดวธิ ี เกบ็ ข้อมลู ประเด็น
การแสดง

การรักษาและ เดยี วกันมาเปรียบ
นาฏศลิ ป์
สบื ทอดนาฏศลิ ป
์ เทียบความเหมือน


และความแตกต่าง
จากนนั้ แสดงความคิด
เห็นแลกเปล่ยี นกัน




แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พือ่ พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา
125
กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ตวั ชี้วดั
ความคิด
สาระ
ทักษะการคิด
ช้นิ งาน/
แนวการจดั

รวบยอด
การเรียนร
ู้ ภาระงาน
กจิ กรรมการเรยี นร้

๕. ศกึ ษา อภิปราย


สาเหตุและความ
สำคัญของการแสดง
ความเคารพ

นาฏศิลป์ไทย และ
นาฏศิลป์พ้นื เมอื ง
ก่อนเรยี นและกอ่ น
แสดงจากนน้ั จัดทำ
ผังความคิดแลกเปลย่ี น
พรอ้ มทั้ง ฝกึ และ
ปฏบิ ตั ิวิธีการแสดง
ความเคารพกอ่ น
เรียนและก่อนแสดง

๖. รวบรวมและ
อภปิ รายคุณค่าของ
นาฏศลิ ปเ์ พ่ือระบุ
เหตุผลทค่ี วรรักษา
และสบื ทอด จากนัน้
จดั ทำผงั ความคดิ
คณุ คา่ ของนาฏศลิ ป์

๗. ร่วมกนั หาวิธกี าร
อนุรักษ์นาฏศิลปไ์ ว้
โดยอาศยั ขอ้ มลู
หลกั ฐานและสภาพ
สังคมไทยในปัจจุบัน
มาสนับสนนุ เพอื่ ให้
เหน็ เหตุผล

เชิงประจกั ษ์ พร้อมทัง้

จัดทำผังความคดิ

วธิ ีการรักษาและ
สบื ทอดนาฏศิลป

๘. สรุปและเนน้ ยำ้
ใหน้ ำวิธีการรกั ษา
สบื ทอดนาฏศิลป


ไปใช้ใหไ้ ดผ้ ล


126 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕


✦ การวเิ คราะห์ตัวชวี้ ดั สูก่ ารพฒั นาทกั ษะการคดิ

✦ การจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ



✦ การวิเคราะหต์ ัวชวี้ ดั สกู่ ารพฒั นาทกั ษะการคิด


การวิเคราะห์ตัวช้ีวัดสู่การพัฒนาทักษะการคิดเป็นการนำตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ จาก ๓ สาระ ๖ มาตรฐาน
จำนวน ๒๖ ตัวช้ีวดั มาวิเคราะห์รายตัวช้วี ัดใน ๔ ประเดน็ คอื ตวั ช้ีวดั แต่ละตวั


ผู้เรียนควรมีความรู้อะไรและทำอะไรได้ ทักษะการคิด ช้ินงาน/ภาระงาน
และแนวการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ในแต่ละประเด็นจะมี
ความสัมพันธเ์ ชือ่ มโยงกันและสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามตวั ชวี้ ัด

สาระท่ี ๑ ทัศนศิลป์


มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์


วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะ
อย่างอสิ ระชืน่ ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน


ตวั ช้วี ดั
ผู้เรยี นรูอ้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทกั ษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจดั การเรียนรู้

ภาระงาน
เพือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ


๑. บรรยาย
ผเู้ รยี นรอู้ ะไร

ทักษะการนำ บรรยายความร
ู้ ๑. ทบทวนความร้เู ดมิ เกี่ยวกบั

เกยี่ วกับจงั หวะ จังหวะ ตำแหน่งของ

ความรไู้ ปใช
้ เกี่ยวกบั จังหวะ สิง่ ตา่ ง ๆ ท่ปี รากฏใน


ตำแหนง่ ของ สิง่ ต่าง ๆ ทป่ี รากฎ


ตำแหนง่ ของ
ส่งิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป

สิ่งต่าง ๆ
ในสง่ิ แวดล้อมและงาน

สิ่งตา่ ง ๆ ท่ปี รากฏ
๒. เช่อื มโยงความรู้และประสบการณ

ทีป่ รากฏใน
ทศั นศิลป

ในส่ิงแวดลอ้ ม

เกี่ยวกับจงั หวะและตำแหนง่
สง่ิ แวดลอ้ ม ผเู้ รยี นทำอะไรได้

และงานทศั นศิลป
์ ของสง่ิ ต่าง ๆ ทป่ี รากฏใน

และงาน
อธบิ ายเกย่ี วกับจังหวะ

สงิ่ แวดล้อมและงานทัศนศิลป

ทัศนศลิ ป์
และตำแหน่งของสง่ิ ต่าง ๆ



๓. นำความรู้เรือ่ งจังหวะ

ทป่ี รากฏในส่งิ แวดล้อม

ตำแหนง่ ไปพิจารณาส่งิ ต่าง ๆ

และงานทัศนศลิ ป์


ท่ีปรากฏในงานทศั นศิลป





๔. เขียนบรรยายความร






เกี่ยวกบั จังหวะ ตำแหน่ง






ของส่งิ ต่าง ๆ ทป่ี รากฏใน






สง่ิ แวดลอ้ มและงานทศั นศลิ ป







๒. เปรียบเทยี บ ผู้เรียนรูอ้ ะไร
ทักษะการ เปรียบเทยี บ
๑. สงั เกตงานทศั นศิลป


ความแตกตา่ ง ความแตกตา่ งในงาน
เปรียบเทียบ
ความแตกต่าง

ทส่ี รา้ งดว้ ยวสั ดุ อปุ กรณ์


ระหว่างงาน ทศั นศิลป์ทส่ี ร้างสรรค์ดว้ ย

ระหวา่ งงานทศั นศิลป

์ และวธิ ีการทแ่ี ตกต่างกัน

ทศั นศิลป

วสั ดุ อปุ กรณ์ และวธิ กี าร


ทส่ี ร้างสรรคด์ ว้ ย ๒. เปรยี บเทยี บงานทศั นศิลป


ทีส่ ร้างสรรค์ ท่ตี ่างกนั

วัสดุ อุปกรณ์ และ โดยภาพรวมและสังเกตส่งิ ที่


ด้วยวสั ดุ ผูเ้ รียนทำอะไรได

วธิ กี ารทตี่ ่างกนั
เหมอื นกนั และแตกตา่ งกัน

อปุ กรณแ์ ละ เปรียบเทียบความแตกตา่ ง

๓. ระบคุ วามเหมอื น

วธิ ีการที่ตา่ งกนั
ระหวา่ งงานทัศนศิลป์ท่ี

ความตา่ งของงานทัศนศลิ ป


สรา้ งสรรคด์ ว้ ยวัสดุ อปุ กรณ



๔. เขียนบรรยายผลการ

และวธิ กี ารทต่ี ่างกันได้


เปรียบเทียบความต่างกนั ของ




งานทศั นศลิ ปท์ ่สี ร้างสรรค์ดว้ ย




วสั ดุ อปุ กรณ์และวธิ ีการที่ต่างกัน







๓. วาดภาพ
ผูเ้ รยี นรู้อะไร
๑. ทักษะ
วาดภาพโดยใช้ ๑. ทบทวนความรูเ้ ดิมเก่ียวกบั
โดยใช้เทคนิค การวาดภาพโดยใชเ้ ทคนิค การสงั เกต
เทคนิคของแสง

การวาดภาพที่ใช้เทคนคิ

ของแสง เงา แสง เงา น้ำหนกั และ ๒. ทกั ษะ เงา นำ้ หนัก และ
๒. นำเสนอแนะนำ สังเกต

น้ำหนัก และ วรรณะส
ี การนำความรู้ วรรณะส
ี ภาพวาดท่เี นน้ แสง เงา


วรรณะสี

ไปใช้

นำ้ หนักและวรรณะส




130 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา

กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ

ตวั ช้ีวดั
ผู้เรียนรูอ้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทกั ษะการคิด
ชนิ้ งาน/
แนวการจดั การเรียนรู้

ภาระงาน
เพอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ




ผู้เรียนทำอะไรได


๓. จำแนกภาพวาดและจัด

วาดภาพโดยใช้เทคนิค



หมวดหมู่ของภาพที่ใช้

ของแสง เงา นำ้ หนักและ

เทคนคิ ของแสง เงา นำ้ หนกั


วรรณะสีไดอ้ ย่างเหมาะสม


และวรรณะส





๔. นำความรู้เกี่ยวกับแสง





เงา นำ้ หนัก และวรรณะสี






มาวาดภาพระบายสี







๔. สร้างสรรค์ ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร
ทกั ษะการนำ งานป้ันตาม
๑. ทบทวนความรเู้ ดมิ

งานป้ันจาก การสรา้ งสรรค์งานป้ัน

ความรไู้ ปใช้
จนิ ตนาการ
เกี่ยวกบั การใช้วสั ดุและอปุ กรณ


ดนิ น้ำมนั จากดนิ นำ้ มันหรือ



ในการสร้างสรรค์งานป้ัน

หรอื ดินเหนียว
ดินเหนียวสามารถถา่ ยทอด

๒. นำเสนองานป้นั จาก

โดยเนน้ การ จนิ ตนาการ


ดนิ น้ำมันหรอื ดินเหนยี ว

ถา่ ยทอด ผ้เู รยี นทำอะไรได


๓. แสวงหาความร้ใู หม


จนิ ตนาการ
สร้างสรรค์งานป้ันจาก



เกีย่ วกบั งานป้นั ดว้ ยดนิ นำ้ มนั



ดินนำ้ มนั หรือดนิ เหนียวโดย


หรือดนิ เหนียว


เน้นการถา่ ยทอดจินตนาการ


๔. นำความรเู้ กย่ี วกับวัสด





อปุ กรณ์มาสรา้ งสรรคง์ านป้ัน






ตามจินตนาการ







๕. สรา้ งสรรค์ ผ้เู รยี นร้อู ะไร
ทักษะการนำ งานพิมพ์ภาพ
๑. ทบทวนความร้เู ดมิ


งานพมิ พ์ภาพ การจัดภาพในงาน

ความรไู้ ปใช
้ ตามจินตนาการ
เกยี่ วกับงานพิมพภ์ าพ

โดยเนน้
พิมพภ์ าพ ควรจดั วาง

๒. เปรียบเทยี บผลงาน

การจัดวาง ตำแหน่งทเ่ี หมาะสม


พิมพ์ภาพตา่ ง ๆ

ตำแหนง่
ผเู้ รยี นทำอะไรได


๓. นำความร้แู ละประสบการณ์
ของสิ่งตา่ ง ๆ สร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพ



เกีย่ วกับการจัดวางตำแหน่ง
ในภาพ
โดยเน้นการจัดวางตำแหน่ง



ของสง่ิ ต่าง ๆ ในภาพมาจดั

ของส่ิงตา่ ง ๆ ในภาพ


ภาพในงานพิมพภ์ าพ







๖. ระบปุ ัญหา
ผเู้ รียนรู้อะไร
๑. ทกั ษะ

เขียนรายงาน
๑. ทบทวนความรูเ้ ดมิ


ในการจัด

ปญั หาในการการจัด

การรวบรวม บอกปัญหาในการ
เก่ียวกับงานทัศนศิลป์

องคป์ ระกอบ- องคป์ ระกอบศลิ ปแ์ ละ

ขอ้ มูล
จัดองคป์ ระกอบศลิ ป
์ ๒. เชอ่ื มโยงความรใู้ หมก่ ับ

ศลิ ป์ และการ การสื่อความหมาย

๒. ทักษะ และการสือ่
ประสบการณ์เกย่ี วกับการจดั
ส่ือความหมาย
ในงานทัศนศลิ ป
์ การนำความรู้ ความหมายในงาน องค์ประกอบศลิ ปแ์ ละการ

ในงานทัศนศิลป
์ ผู้เรียนทำอะไรได
้ ไปใช้
ทัศนศิลป์และบอก
ส่อื ความหมายในงานทัศนศลิ ป์

ของตนเอง ระบปุ ัญหาในการจดั


วธิ กี ารปรับปรุงงาน ๓. นำผลงานทัศนศิลป


และบอก
องค์ประกอบศิลป์และบอก
ให้ดขี น้ึ
ทีเ่ คยสร้างสรรค์ไว้แล้ว

วิธกี ารปรับปรงุ วิธีการปรับปรงุ งานให้ดขี น้ึ


มาสังเกตศึกษา

งานใหด้ ขี ึน้






แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศึกษา
131
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

ตวั ชวี้ ัด
ผเู้ รยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคิด
ช้นิ งาน/
แนวการจดั การเรียนร
ู้
ภาระงาน
เพือ่ พฒั นาทักษะการคดิ








๔. รวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกับ






การสงั เกตผลงานปัญหา






เกี่ยวกบั การจัดองค์ประกอบศิลป






และปญั หาเกยี่ วกบั การส่ือ




ความหมาย





๕. อธบิ ายเชอ่ื มโยงขอ้ มูล





จากการสงั เกต





๖. สรา้ งสรรคผ์ ลงานโดยใช





ขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าเขยี นรายงาน




เกีย่ วกบั ปญั หาในการจดั





องคป์ ระกอบศิลปแ์ ละการส่อื




ความหมายในงานทัศนศิลป์




ของตนเองและบอกวิธกี าร




ปรบั ปรุงงานให้ดขี ้ึน







๗. บรรยาย ผู้เรยี นรอู้ ะไร
ทกั ษะการให้ วาดภาพระบายสี ๑. รบั รแู้ ละรวบรวมข้อมลู


ประโยชน์และ ประโยชน์และคุณคา่ ของ เหตุผล
พร้อมเขยี น ประโยชน์และคณุ ค่าของงาน
คณุ คา่ ของ งานทศั นศลิ ปม์ ีผลตอ่ ชวี ิต

บรรยายประโยชน์ ทศั นศิลป์ทเ่ี กยี่ วกับชีวิตของ
งานทศั นศลิ ป์ ของคนในสงั คม
และคุณค่าของงาน
คนในสงั คม

ทีม่ ีผลต่อชีวิต ผ้เู รยี นทำอะไรได
้ ทัศนศิลปท์ ่มี ีผล
๒. ศกึ ษา คน้ หาการกระทำ
ของคนใน บอกประโยชน์และ
ตอ่ ชีวติ ของคน
และการยอมรับของคนใน
สงั คม
คณุ ค่าของงานทศั นศลิ ป

ในสังคม
สงั คมที่มผี ลต่องานทัศนศิลป์

ทมี่ ีผลตอ่ ชีวติ ของคน

๓. ตรวจสอบค้นหาเหตผุ ล

ในสงั คม
เชิงประจักษ์

๔. อธิบายใหค้ วามเหน็ ความ
สอดคลอ้ งของเหตุและผล

ท่ีแสดงใหเ้ ห็นประโยชน์และ
คุณคา่ ของงานทศั นศิลป์ทมี่

ผลต่อชวี ิตของคนในสังคม

๕. บอกประโยชน์ และคณุ คา่
ของงานที่ทศั นศลิ ปท์ มี่ ผี ลตอ่
ชีวติ ของคนในสงั คม

๖. วาดภาพระบายสพี ร้อม
เขยี นบรรยายใตภ้ าพเกยี่ วกับ
ประโยชน์และคณุ คา่ ของงาน
ทัศนศลิ ป์ที่มผี ลตอ่ ชวี ิตของ
คนในสังคม


132 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป


มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า


งานทัศนศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย
และสากล


ตวั ชว้ี ัด
ผเู้ รยี นรู้อะไร/ทำอะไรได
้ ทักษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจัดการเรียนร้

ภาระงาน
เพอื่ พัฒนาทกั ษะการคดิ


๑. ระบุ และ ผู้เรยี นรูอ้ ะไร

ทกั ษะการระบ
ุ การเขียนบรรยาย ๑. สังเกตลกั ษณะรูปแบบ
บรรยาย
ลักษณะรูปแบบของงาน
ทศั นศลิ ปใ์ นแหลง่ ของงานทัศนศิลปใ์ นแหล่ง
เกี่ยวกบั ลักษณะ

ทศั นศิลปใ์ นแหลง่ การเรียนร
ู้

การเรยี นรู้ หรือ
การเรยี นร้หู รือนิทรรศการ
รูปแบบของ หรือนทิ รรศการศลิ ปะ

นิทรรศการศลิ ปะ
ศิลปะ

งานทัศนศลิ ป์ ผูเ้ รยี นทำอะไรได


๒. บอกขอ้ มลู เกย่ี วกับลกั ษณะ
ในแหลง่
ระบุและบรรยายเกี่ยวกบั



รูปแบบของงานทศั นศลิ ป

เรียนรู้หรือ ลกั ษณะรูปแบบของงาน

ตามทสี่ งั เกต

นิทรรศการ ทัศนศิลปใ์ นแหลง่ เรียนร



๓. เช่ือมโยงข้อมลู จากการ
ศลิ ปะ
หรือนิทรรศการศลิ ปะได


สงั เกตกับประสบการณ์ที่ม





๔. ระบแุ ละเขียนบรรยาย





เกีย่ วกับลกั ษณะรปู แบบของ




งานทศั นศิลปใ์ นแหล่งเรยี นร






หรอื นทิ รรศการศิลปะ







๒. อภิปราย
ผู้เรียนรอู้ ะไร
๑. ทกั ษะ

วาดภาพและเขียน ๑. ศึกษางานทัศนศลิ ป


เกีย่ วกบั งาน งานทศั นศิลปท์ ่สี ะทอ้ น การสำรวจ
บรรยายภาพ
ท่ีสะท้อนวฒั นธรรมและ


ทัศนศลิ ป์
วฒั นธรรมและภูมิปญั ญา

๒. ทกั ษะ

ภูมิปัญญาในทอ้ งถนิ่ ให้เข้าใจ

ท่ีสะทอ้ น ในท้องถ่นิ
การตคี วาม

๒. รวบรวมข้อเท็จจรงิ และ

วฒั นธรรม ผเู้ รียนทำอะไรได
้ แสดงความคิดเห็นตอ่ งาน


และภูมปิ ัญญา

อภิปรายงานทัศนศลิ ป์

ทศั นศิลปท์ ีเ่ กยี่ วข้องกบั
ในทอ้ งถนิ่
ทส่ี ะท้อนวฒั นธรรมและ
วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญา

ภมู ิปัญญาในทอ้ งถ่ิน
ในท้องถนิ่

๓. เชื่อมโยงหาความหมาย
ของข้อมลู วฒั นธรรม

ทเี่ กยี่ วข้องกับงานทศั นศลิ ป์

๔. อภิปรายเกี่ยวกบั งาน

ทัศนศลิ ปท์ สี่ ะท้อนวัฒนธรรม


และภมู ปิ ัญญาในทอ้ งถนิ่

๕. นำเสนอผลงานการวาดภาพ
และเขยี นบรรยายภาพ


แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา
133
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

สาระที่ ๒ ดนตรี


มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และ
ประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน


ตัวช้ีวัด
ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทกั ษะการคดิ
ช้นิ งาน/
แนวการจดั การเรยี นรู้

ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทักษะการคิด


๑. ระบอุ งค-์ ผเู้ รียนรูอ้ ะไร

๑. ทักษะ

๑. วิเคราะห์และ ๑. ทบทวนความรู้เรื่อง

ประกอบดนตร

การสอื่ อารมณ์ของบทเพลง

การระบุ
อภิปรายองค์ประกอบ
องค์ประกอบดนตร

ในเพลงท่ใี ช้ ดว้ ยองคป์ ระกอบดนตรี ๒. ทกั ษะ
ของดนตรี
๒. สงั เกตและวิเคราะห

ในการส่ือ เบื้องตน้ เปน็ การสอ่ื
การนำความรู้ ๒. แผนภูม
ิ องค์ประกอบดนตรีในเพลงท่ี
อารมณ
์ ด้วยจงั หวะและทำนอง
ไปใช
้ องคป์ ระกอบของ ใชใ้ นการส่อื อารมณ์


ผเู้ รียนทำอะไรได

ดนตรที ่ีสือ่ อารมณ์ ๓. บอกขอ้ มูลเกีย่ วกบั

ระบอุ งคป์ ระกอบดนตร


ประเภทต่าง ๆ
ลักษณะขององคป์ ระกอบดนตร



ในเพลงทใ่ี ชใ้ นการสือ่ อารมณ์

ตามที่วเิ คราะห์ให้ไดม้ ากที่สุด





๔. เชื่อมโยงขอ้ มูลจากการ





สงั เกตและวเิ คราะหไ์ วก้ ับ




ความรแู้ ละประสบการณ





๕. สรุปเป็นแผนภูม





องค์ประกอบดนตรใี นเพลง






ทใี่ ช้สือ่ อารมณ์







๒. จำแนกลกั ษณะ

ผ้เู รยี นรู้อะไร
ทกั ษะ

แผนภมู ิการจำแนก
๑. ฟงั เพลงพร้อมท้ังสังเกต


ของเสยี ง
ลักษณะของเสยี งขบั รอ้ ง

การจำแนก

ลกั ษณะของเสยี ง เสยี งขับร้องและเสียงเคร่ือง
ขับร้องและ และเสยี งของวงดนตรี ประเภท
ขับร้องและเคร่ือง ดนตรี

เครื่องดนตร
ี ประเภทตา่ ง ๆ

ดนตรที อ่ี ยูใ่ น
๒. กำหนดเกณฑใ์ นการแยก
ท่ีอยใู่ น

ผู้เรียนทำอะไรได

วงดนตรีประเภท เสยี งขบั รอ้ งและเคร่อื งดนตร

วงดนตรี จำแนกลกั ษณะของเสียง


ตา่ ง ๆ
๓. จำแนกเสียงขับร้องและ
ประเภท
ขับร้องและเครือ่ งดนตร



เครื่องดนตรปี ระเภทต่าง ๆ
ตา่ ง ๆ
ท่ีอยู่ในวงดนตรปี ระเภท

ในบทเพลงทฟ่ี งั


ต่าง ๆ


๔. จัดกลุ่มลักษณะของเสยี ง




ขับร้องและเครอื่ งดนตรี





๕. อธิบายและสรุปผลการ




จำแนกลักษณะของเสยี งขบั ร้อง





และเคร่ืองดนตรีในวงดนตรี




ประเภทตา่ ง ๆ เปน็ แผนภูมิ




134 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพือ่ พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ตวั ช้ีวดั
ผู้เรียนรู้อะไร/ทำอะไรได
้ ทกั ษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจัดการเรียนรู

ภาระงาน
เพือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ


๓. อ่าน เขียน ผู้เรียนรอู้ ะไร

๑. ทักษะ
ทำแบบฝกึ การอา่ น

๑. ฟังเพลงและอา่ นโนต้


โนต้ ดนตรีไทย การอ่าน เขียนโน้ตดนตร
ี การระบุ
เขยี น โนต้ ดนตรี เพื่อทำความเขา้ ใจทำนอง


และสากล
ไทยและสากลเบ้ืองต้น ๒. ทกั ษะ
ไทยและสากล ๕ และจงั หวะ

๕ ระดับเสยี ง
ควรเร่ิมจากเครือ่ งหมาย การเชอื่ มโยง
ระดบั เสยี ง
๒. สงั เกตเคร่ืองหมายและ

และสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี

สญั ลักษณ์ทางดนตรี


ในบรรไดเสียง ๕ เสยี ง


๓. ให้ความรู้และพิจารณา


ผูเ้ รยี นทำอะไรได


ข้อมูลเก่ยี วกับสัญลักษณ



อา่ น เขียนเครื่องหมาย



ดนตรแี ละเคร่อื งหมายต่าง ๆ


และสญั ลกั ษณท์ างดนตรี



๔. ฝึกอ่านโนต้ ตามบทเพลงทฟี่ ัง


ไดแ้ ก่ บนั ได ๕ เสยี ง และ


๕. เชอื่ มโยงจากเสียงใน

โนต้ เพลงในบันได ๕ เสยี ง


บทเพลงสู่การอ่าน เขียนโน้ต




ดนตรีไทยและสากล





๕ ระดับเสียง







๔. ใชเ้ ครอื่ ง ผเู้ รยี นรู้อะไร
ทกั ษะ
เลน่ เคร่ืองดนตรี ๑. ทบทวนความรูใ้ นการใช้
ดนตรีบรรเลง การบรรเลงดนตร
ี การนำความร
ู้
ตามจงั หวะและ เคร่อื งดนตร

จังหวะและ ประกอบจงั หวะและทำนอง
ไปใช
้ ทำนอง
๒. เลอื กเคร่ืองดนตรีทชี่ อบ

ทำนอง
โดยใชเ้ ครอื่ งดนตรีเป็น


อยา่ งน้อย ๑ ชนิด


การนำทฤษฎดี นตร


๓. เลน่ เครอ่ื งดนตรีทเ่ี ลอื ก



ลงสู่การปฏิบตั


ให้เปน็ เพลงตามจังหวะและ

ผเู้ รียนทำอะไรได


ทำนอง


ใชเ้ ครอ่ื งดนตรบี รรเลง

๔. นำเสนอโดยเลน่ เครอ่ื ง

เพลงตามจังหวะและทำนอง


ดนตรีตามจงั หวะและทำนอง







๕. รอ้ งเพลงไทย ผ้เู รยี นรู้อะไร
๑. ทักษะ

การรอ้ งเพลงกลมุ่ ๑. ทบทวนความรู้เกีย่ วกับ


หรือเพลงสากล
การรอ้ งเพลงไทยในอตั รา การนำความร
ู้
และรายบุคคล
การร้องเพลง

หรอื เพลง
จงั หวะสองชั้น การร้อง ไปใช

๒. รว่ มกนั ฟงั บทเพลงว่ามี

ไทยสากล
เพลงสากลหรือไทยสากล

๒. ทกั ษะการ

องค์ประกอบดนตรีท่สี ำคญั
ทีเ่ หมาะสม
และการรอ้ งเพลงประสาน ประยุกตใ์ ช้

อะไรบ้าง

กบั วัย
เสียง
ความรู

๓. อภิปรายเกีย่ วกับบทเพลง

ผเู้ รยี นทำอะไรได


ว่ามอี งค์ประกอบดนตรอี ยา่ งไร



รอ้ งเพลงไทยหรอื เพลง

และสอื่ อารมณ์อะไรบ้าง


สากลหรอื เพลงไทยสากล

๔. ฝึกรอ้ งเพลงกลุ่ม


ไดเ้ หมาะสมกบั วัย


และรายบคุ คล







แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
135
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

ตวั ชี้วัด
ผเู้ รียนรู้อะไร/ทำอะไรได
้ ทกั ษะการคิด
ชน้ิ งาน/
แนวการจัดการเรยี นรู้

ภาระงาน
เพื่อพฒั นาทักษะการคดิ









๕. นำเสนอการร้องเพลง



รายกลุ่มและรายบุคคล







๖. ดน้ สดงา่ ย ๆ ผู้เรียนรอู้ ะไร
ทกั ษะการนำ การรอ้ งประโยค ๑. ทบทวนความรเู้ ก่ยี วกบั


โดยใช้ การด้นสดเปน็ พน้ื ฐาน

ความรู้ไปใช้
เพลงถาม-ตอบ

การดน้ สด

ประโยคเพลง ในการสร้างสรรคบ์ ทเพลง
โดยไม่มีการ

๒. ฝึกเขียนประโยคเพลง
แบบ
ถาม-ตอบ

ฝึกซอ้ ม
อย่างสัน้ ๆ และง่าย

ถาม-ตอบ
ผ้เู รยี นทำอะไรได


๓. สร้างสรรค์ประโยคเพลง


ดน้ สดประโยคเพลง



แบบถาม-ตอบ


ง่าย ๆ แบบถาม-ตอบอยา่ ง

๔. ด้นสดง่าย ๆ โดยใช้

ทันทีทนั ควนั โดยมกี าร



ประโยคเพลงแบบถาม-ตอบ


ฝกึ ซอ้ ม










๗. ใชด้ นตร

ผู้เรียนรู้อะไร
๑. ทักษะ

การบรรเลงดนตร

๑. ศึกษาเครื่องดนตร


ร่วมกับ การบรรเลงดนตรี การนำความร
ู้
จนิ ตนาการรว่ มกบั แต่ละประเภท สอ่ื อารมณ์
กิจกรรม
ประกอบกจิ กรรมนาฏศิลป์ ไปใช้
กิจกรรมนาฏศลิ ป
์ อะไรบ้าง

ในการ และการสร้างสรรคเ์ สียง ๒. ทักษะ
และการเลา่ เรือ่ ง
๒. สนทนาซกั ถามการสือ่
แสดงออก ประกอบการเล่าเร่ือง การประยุกตใ์ ช

อารมณข์ องดนตรีจาก
ตาม เป็นการสื่ออารมณต์ าม ความรู้
กิจกรรมที่แสดงออก

จนิ ตนาการ
จนิ ตนาการ
๓. เลอื กเครอื่ งดนตรที ่ีจะ
ผเู้ รยี นทำอะไรได
้ บรรเลงร่วมกบั กจิ กรรม

ใชด้ นตรีร่วมกบั กจิ กรรม

การแสดงออก

ในการแสดงออกตาม ๔. นำเสนอการบรรเลงดนตรี
จินตนาการ
ตามจนิ ตนาการรว่ มกับ
กจิ กรรมนาฏศลิ ป์และ

การเลา่ เร่อื ง


136 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรูเ้ พื่อพฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ

สาระท่ี ๒ ดนตรี


มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า
ของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย

และสากล


ตัวชี้วดั
ผเู้ รยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจัดการเรยี นร
ู้
ภาระงาน
เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ


๑. อธิบายความ ผูเ้ รียนรู้อะไร

๑. ทักษะ
รายงานเรื่อง

๑. กำหนดประเด็นความ
สมั พนั ธ์ บทเพลงและดนตรมี ี
การสำรวจ
ความสมั พันธ์ สัมพันธ์ระหวา่ งงานดนตร


ระหวา่ งดนตรี บทบาทและสัมพนั ธ์กับ
๒. ทักษะ
ระหว่างดนตรีกบั กับประเพณใี นท้องถิ่น

กับประเพณี ประเพณีในวฒั นธรรม
การรวบรวม

ประเพณใี น
๒. สำรวจและรวบรวมข้อมลู
ในวัฒนธรรม ตา่ ง ๆ เป็นภมู ิปญั ญา
ขอ้ มลู
วัฒนธรรมตา่ ง ๆ
บทเพลงและดนตรที ่มี ี
ตา่ ง ๆ
ทอ้ งถ่ินท่มี คี ุณคา่


บทบาทสำคัญและสมั พนั ธ



ผเู้ รยี นทำอะไรได


กบั ประเพณใี นวฒั นธรรมต่าง ๆ


อธิบายความสมั พันธ



๓. เชอ่ื มโยงความสัมพนั ธ์

ระหว่างดนตรกี บั ประเพณี



ระหว่างดนตรกี ับประเพณี



ในวัฒนธรรมตา่ ง ๆได


โดยใช้เหตุผล





๔. นำเสนอข้อเทจ็ จรงิ และ





แสดงความคิดเห็นเพิ่มเตมิ





๕. สรปุ และจัดทำรายงาน




อธิบายความสมั พันธร์ ะหวา่ ง




ดนตรกี ับประเพณ






ในวฒั นธรรมตา่ ง ๆ







๒. อธิบายคณุ คา่ ผู้เรียนรู้อะไร
๑. ทกั ษะ

การนำเสนอ

๑. กำหนดประเดน็ เกี่ยวกบั
ของดนตรี ดนตรีมีคุณค่าในฐานะ การสำรวจ
ผลงาน เช่น

คุณคา่ ของ ดนตรใี นฐานะ
ทม่ี าจาก มรดกทางวฒั นธรรม

๒. ทกั ษะ
จัดบอรด์ หรือ มรดกทางวัฒนธรรม


วฒั นธรรม
ทีค่ วรแก่การอนรุ กั ษ
์ การรวบรวม
นทิ รรศการ ฯลฯ
ทีค่ วรแกก่ ารอนุรกั ษ

ท่ีต่างกัน
ผู้เรยี นทำอะไรได
้ ขอ้ มลู
เรือ่ งคุณค่าของ ๒. รวบรวมขอ้ มูลและข้อเทจ็


อธบิ ายคุณคา่ ของดนตรี

ดนตรีทม่ี าจาก

จริงและความคดิ เห็นเกย่ี วกับ
ท่ีมาจากวฒั นธรรมที่ต่างกนั
วฒั นธรรมต่างกัน
ดนตรที ่ีมาจากวฒั นธรรมทต่ี า่ งกนั

๓. อภปิ รายคุณคา่ ของดนตรี


ทีม่ าจากวัฒนธรรมทต่ี ่างกนั

๔. นำเสนอการจดั บอร์ด

หรอื นทิ รรศการ เพอ่ื อธบิ าย
คุณค่าของดนตรที ่ีมาจาก


วัฒนธรรมที่ตา่ งกัน


แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา
137
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

สาระท่ี ๓ นาฏศลิ ป์


มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คณุ คา่ นาฏศิลป์ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคิดอย่างอสิ ระ ชื่นชม และประยกุ ต์
ใช้ในชวี ติ ประจำวัน


ตวั ช้วี ัด
ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคดิ
ชนิ้ งาน/
แนวการจัดการเรียนรู้

ภาระงาน
เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด


๑. บรรยาย
ผู้เรยี นรู้อะไร

ทักษะการ
๑. ผังมโนทัศน์ ๑. ชมการแสดงนาฏศิลป์
องคป์ ระกอบ องค์ประกอบของ

สรุปลงความ แสดงองคป์ ระกอบ เพือ่ เกบ็ ข้อมูลการสังเกต
นาฏศลิ ป์
นาฏศิลป์ อันประกอบดว้ ย เห็น
ของนาฏศิลป์
และพิจารณาองค์ประกอบ

จงั หวะ ทำนอง คำรอ้ ง


๒. การบรรยาย ของนาฏศิลป์ แลว้ จัดทำ


ภาษาท่า นาฏยศพั ท์และ
ความสำคัญและ ผงั มโนทศั น์ แสดงองค์ประกอบ


อุปกรณ

ลักษณะองค์ประกอบ

ของนาฏศิลป์ ไดแ้ ก่ จงั หวะ

ผเู้ รยี นทำอะไรได

ของนาฏศิลป

ทำนอง คำร้อง ภาษาท่า


บรรยายองค์ประกอบของ
อันประกอบด้วย นาฏยศัพท์ และอุปกรณ์


นาฏศลิ ป์อันประกอบด้วย


จังหวะ ทำนอง ๒. แบ่งกลุ่มผูเ้ รยี นตาม

จังหวะทำนอง คำร้อง
คำรอ้ ง ภาษาท่า ลกั ษณะขององค์ประกอบ


ภาษาท่า นาฏยศพั ท์ และ
นาฏยศพั ท์ และ ตา่ ง ๆ ทางนาฏศลิ ป์



อุปกรณ

อปุ กรณ
์ เพ่ือวเิ คราะหอ์ ภิปรายความ




สำคญั และลกั ษณะของ





องค์ประกอบนัน้ ๆ แล้ว




สง่ ตวั แทนกลุ่มออกไป





นำเสนอ โดยการบรรยาย






องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์





๓. สรุปและลงความเห็นเรอื่ ง




ความสำคญั และลกั ษณะหรือ




รปู แบบขององคป์ ระกอบทาง




นาฏศิลป์ พร้อมทง้ั เน้นยำ้ ให้




นำองคป์ ระกอบทางนาฏศลิ ป์




ไปใชใ้ นการจดั การแสดงเพื่อ




ใหก้ ารแสดงนน้ั ๆ สมบูรณ








138 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือพฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา

กลุม่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ

ตัวชว้ี ดั
ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจัดการเรียนรู้

ภาระงาน
เพือ่ พฒั นาทักษะการคิด


๒. แสดงทา่ ทาง
ผู้เรียนรูอ้ ะไร

๑. ทกั ษะ

๑. แสดงท่าทาง ๑. สรา้ งความตระหนักและ


ประกอบ หลักการประดษิ ฐ์ท่าทาง

การแปลความ
ประกอบเพลงหรอื
ความพรอ้ มใหผ้ ู้เรียน โดย


เพลงหรอื หรอื เรื่องราวตามความคิด

๒. ทักษะ
ท่าทางประกอบ ผสู้ อนใช้เทคนคิ ในการ
เรอื่ งราวตาม ของตนเอง
การตคี วาม
เรื่องราวตาม กระต้นุ เร้า เรยี กรอ้ งความ
ความคดิ
ผู้เรียนทำอะไรได
้ ๓. ทกั ษะ จินตนาการ
สนใจของผเู้ รยี น เชน่

ของตน
แสดงทา่ ทางประกอบ การนำความร
ู้
๒. แสดงผลงาน
เกม เพลง นิทาน ลีลาท่าทาง

เพลงหรือเรอื่ งราวตาม ไปใช้
การประดิษฐท์ ่าทาง

ทท่ี ำให้เกิดจนิ ตนาการ


ความคิดของตนไดอ้ ยา่ ง
ประกอบเพลงและ ๒. กำหนดเพลงและเรอ่ื งราว


เหมาะสม

เรอื่ งราวตามความ ให้รอ้ งเพลงพร้อมกัน และ



คดิ ของตน
แบง่ กล่มุ ระดมพลังความคดิ




รว่ มกันแปลความหมายของ




เพลงและตคี วามจากเรื่องราว




ที่กำหนด ใหเ้ กิดความร






ความเข้าใจเพอื่ นำมาใช






ในการประดิษฐ์ทา่ ทาง





๓. แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรา้ ง




สรรค์ผลงานการประดิษฐ์




ทา่ ทางประกอบเร่ืองราว โดย




ใชท้ กั ษะความรู้ความสามารถ




จากประสบการณ์ทาง





นาฏศิลป์ท่ีเรียนมา และ




ความร้ใู หม่ในขั้นตอนท่ี ๒




มาประยกุ ตใ์ ช้ไปใช





๔. รว่ มกันช่นื ชมและวพิ ากษ์




วจิ ารณผ์ ลงานการแสดงของ




กลมุ่ ตนเองและกลมุ่ เพือ่ น ๆ







๓. แสดงนาฏศลิ ป

ผเู้ รยี นรู้อะไร
ทักษะการ การแสดงนาฏศิลป
์ ๑. ทบทวนภาษาทา่
โดยเนน้
หลกั การแสดงนาฏศลิ ป์ ทำใหก้ ระจ่าง
ประเภทระบำ ฟ้อน

นาฎยศพั ท์ และประเภทของ
การใช้ภาษาทา่ ไทย ประเภทระบำ ฟอ้ น
และรำวงมาตรฐาน

การแสดงนาฏศิลป์ จากนัน้
และนาฏยศพั ท
์ และรำวงมาตรฐานทเี่ น้น
ท่เี นน้ การใช้ภาษา กำหนดชอื่ การแสดงประเภท
ในการสอ่ื การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท


ทา่ และนาฏยศัพท
์ ระบำ ฟ้อน และรำวง
ความหมาย ในการส่อื ความหมาย

ในการส่ือความหมาย มาตรฐาน เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นระบุ
และการ และการแสดงออก

และการแสดงออก
ส่งิ ทส่ี งสยั ในการแสดงทง้ั ๓
แสดงออก

ประเภท


แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา
139
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

ตัวชีว้ ดั
ผ้เู รียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได
้ ทักษะการคิด
ชิ้นงาน/
แนวการจัดการเรยี นร
ู้
ภาระงาน
เพ่ือพฒั นาทกั ษะการคิด



๒. แตล่ ะกลุ่มร่วมกัน
ผู้เรียนทำอะไรได


วิเคราะห์อภิปรายส่ิงที่สงสยั

ปฏบิ ตั กิ ารแสดงนาฏศลิ ป์

ในประเภทของการแสดง

ไทย ประเภทระบำ ฟอ้ น

แตล่ ะประเภท โดยการศึกษา

และรำวงมาตรฐานทเี่ นน้

สบื ค้น ทำทกุ วิธกี ารเพอื่

การใชภ้ าษาทา่ และ


คลคี่ ลายส่งิ ท่สี งสยั ให้กระจา่ ง

นาฏยศพั ทใ์ นการสื่อความ

เม่ือชดั เจนแล้วนำเสนอ



หมายและการแสดงออก


แลกเปลย่ี นกนั ใหท้ ุกคน




เขา้ ใจอยา่ งกระจ่างชดั เจน





๓. นำความรทู้ ่ีได้จากการ




วเิ คราะหแ์ ละอภปิ รายให้




กระจา่ งมาเช่ือมโยงกบั





ความรู้ใหม่ โดยการอธิบาย




และสาธติ วธิ กี ารนำเอา






นาฏยศพั ทแ์ ละภาษาท่า






มาใช้สอ่ื ความหมายและ





การแสดงออกในชดุ การแสดง




ประเภทดังกล่าว จากนน้ั





ฝกึ ปฏบิ ัตริ ะบำ ฟอ้ น และ




รำวงมาตรฐานอยา่ งลุะ ๑ ชุด





๔. รว่ มกันแสดงนาฏศิลป์




โดยเน้นการใชภ้ าษาท่าและ




นาฏยศัพทใ์ นการสอื่ ความ




หมายและการแสดงออก





๕. สรุปความรู้รว่ มกัน โดย




การเน้นย้ำความรูจ้ ากเร่อื ง




ภาษาทา่ และนาฏยศัพท





ไปใชใ้ นการสือ่ ความหมาย




การแสดงใหเ้ หมาะสม





ชัดเจน


















140 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา

กลุม่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ

ตัวช้ีวัด
ผ้เู รียนรู้อะไร/ทำอะไรได้
ทักษะการคดิ
ช้ินงาน/
แนวการจัดการเรยี นร
ู้
ภาระงาน
เพ่อื พัฒนาทักษะการคดิ


๔. มสี ่วนรว่ มใน ผู้เรียนรอู้ ะไร

๑. ทักษะ

การเขยี นเค้าโครง
๑. ทบทวนความรูเ้ ร่ืองการ
กลมุ่ กบั การ วธิ ีการเขยี นเคา้ โครงเรอ่ื ง การทำให้ เร่ืองหรอื บทละคร แสดงละคร โดยใหผ้ ู้เรยี นด


เขียนเค้าโครง หรอื บทละครสัน้ ๆ
กระจ่าง
สน้ั ๆ
วดี ทิ ศั นก์ ารแสดงละคร เพอื่
เร่อื งหรือบท ผูเ้ รยี นทำอะไรได้
๒. ทักษะกระบวน


เชอ่ื มโยงไปส่อู งคป์ ระกอบ
ละครสน้ั ๆ
ร่วมกันเขยี นเคา้ โครง การคดิ สรา้ งสรรค

ของละคร โดยเฉพาะเร่ือง

หรือบทละครส้นั ๆ


ของบทละคร จากนัน้ ศึกษา




ความร้เู ร่ืองวธิ กี ารเขยี น




เค้าโครงเร่ือง หรือบทละคร




ส้ัน ๆ





๒. แบ่งกลมุ่ ระดมพลัง





ความคดิ ชว่ ยกันสรา้ งสรรค์




ละครขึ้น โดยการกำหนดช่ือ




ละคร วางแผนและเขียน




เค้าโครงเรื่อง บทละครสน้ั ๆ





๓. แต่ละกลุ่มนำเสนอ





ผลงานการเขียนเค้าโครงเรอ่ื ง




หรอื บทละครสั้น เพือ่





แลกเปล่ียนกัน โดยการ






พิจารณาดจู ุดเด่น และ






ความเชอ่ื มโยงสอดคล้อง




ของเรอื่ ง พร้อมทง้ั ชว่ ยกัน





วพิ ากษว์ ิจารณ์และให






ขอ้ เสนอแนะเพ่ือให้ผลงาน





มีความสมบูรณ์เรียบร้อย





๔. แตล่ ะกล่มุ ร่วมกัน





ประเมนิ ผลงานทัง้ ของตนเอง




และผูอ้ ่ืน พร้อมทง้ั สรุป





ความรู้เรื่องวิธกี ารเขียน




เคา้ โครงเร่ือง หรอื บทละคร




สน้ั ท่ดี แี ละสง่ เสรมิ ใหผ้ ลงาน




ได้รบั การเผยแพร่ นำไปใชไ้ ด





ตอ่ ไป








แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา
141
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ


Click to View FlipBook Version