The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การเคลื่อนที่ของอนุภาคใสนามแม่เหล็ก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by matdavit, 2017-06-03 00:16:42

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การเคลื่อนที่ของอนุภาคใสนามแม่เหล็ก

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การเคลื่อนที่ของอนุภาคใสนามแม่เหล็ก

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา ฟิสิกส์พนื้ ฐาน (ว 30101) .

ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2559 .

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 สนามของแรง เร่ือง การเคลอ่ื นทขี่ องอนภุ าคในสนามแมเ่ หล็ก .

จานวนเวลาทสี่ อน 2 คาบ/ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางสาวเอื้ออนุช เพียรขุนทด .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลียร์มีกระบวนการ

สบื เสาะหาความรสู้ ่อื สารส่งิ ท่ีเรยี นรแู้ ละนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์อย่างถกู ต้องและมคี ุณธรรม
ตัวช้ีวดั

ม.4-6/3 ทดลองและอธิบายความ สัมพันธ์ระหว่างแรงกับการเคล่ือนท่ีของอนุภาคในสนามแม่เหล็ก
และนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

2. สาระสาคญั
อนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าเคล่ือนท่ีผ่านไปในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก ถ้าทิศของความเร็วต้ังฉาก

ขนาดของแรงกระทาจะมีค่ามากท่ีสุด ถ้าเคล่ือนท่ีในแนวขนานกับทิศของสนามแม่เหล็กขนาดของแรงกระทา
จะเปน็ ศูนย์ แต่ถา้ อนภุ าคที่มีประจไุ ฟฟ้าหยุดนง่ิ ในบรเิ วณดังกลา่ ว กจ็ ะไม่มีแรงกระทาตอ่ อนภุ าคนั้น

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายหลกั การท่ีเกยี่ วกับผลของสนามแมเ่ หล็กต่อการเคลอ่ื นทข่ี องลาอเิ ล็กตรอนได้ (K)
2. สามารถคานวณหาปริมาณทเ่ี กี่ยวข้องกบั สนามแมเ่ หลก็ ได้ (P)
3. ทางานร่วมกบั ผู้อ่นื อย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรับความคิดเหน็ ของผู้อื่นได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
- การเคลื่อนทข่ี องอนุภาคในสนามแมเ่ หล็ก

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ (รูปแบบวงจรการเรียนรู้ 5E)
ขัน้ ที่ 1 ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น (Engagement Phase)
1.1 นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับการทดลองเร่ือง เส้นสนามแม่เหล็กมี

ลกั ษณะอยา่ งไร เพือ่ นาไปสู่การศึกษาเรอื่ ง สนามแมเ่ หล็ก และการเคล่อื นท่ีของประจุในสนามแม่เหล็ก
1.2 นักเรียนร่วมกันสนทนาว่า เมื่อมีประจุเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็ก ประจุจะมีลักษณะการ

เคลื่อนท่อี ยา่ งไร (ท้งิ ชว่ งให้นักเรยี นคดิ )
1.3 นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายวา่ เมื่อมปี ระจเุ คลอ่ื นท่ใี นสนามแมเ่ หล็กประจุจะมี

ลกั ษณะการเคล่อื นท่ีอย่างไร (เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงความคิดเหน็ โดยไม่เน้นถูกผิด)

1.4 แจ้งให้นกั เรียนทราบว่าจะได้ศึกษาเกีย่ วกบั เร่ือง การเคลือ่ นที่ของอนภุ าคใน

สนามแม่เหล็ก (มีภูมคิ ุม้ กนั ในตัวที่ดี : การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั กับสิง่ ทีก่ าลังจะเรยี น)

ข้นั ที่ 2 ข้ันสารวจและค้นพบ (Exploration Phase)
2.1 นกั เรียนสบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกบั การเคลื่อนทีข่ องประจใุ นสนามไฟฟ้า จากส่ือมลั ติมีเดีย จาก

เอกสารตา่ ง ๆ เชน่ ใบความรู้ ,หนังสอื เรยี น , อินเตอรเ์ น็ต เปน็ ต้น (นักเรยี นใช้คุณธรรมค่านยิ ม 12 ประการ
: ใฝห่ าความรู้ หมัน่ ศกึ ษาเล่าเรียนทง้ั ทางตรงและทางอ้อม)

2.2 นกั เรยี นทาใบงานที่ 9 และแบบฝึกทักษะท่ี 9 เรอื่ ง การเคลื่อนทีข่ องอนุภาคใน
สนามแม่เหลก็ (เงื่อนไขความรู้ : นักเรยี นนาความรูม้ าเช่ือมโยงเพือ่ ประกอบการวางแผนตอ่ งานท่ีไดร้ ับ
มอบหมาย)

ข้ันท่ี 3 ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป ( Explanation Phase)
3.1 นกั เรียนนาข้อมูลจากขนั้ การสารวจและค้นหา มาอภิปรายร่วมกับครู
3.2 นักเรียนร่วมซักถาม และครูอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับ การเคล่ือนที่ของอนุภาคใน

สนามแม่เหลก็ เพื่อใหน้ ักเรยี นสรุปสาระสาคญั ลงในสมุดจดบันทกึ
ขน้ั ท่ี 4 ขัน้ ขยายความรู้ (Expansion Phase)
4.1 นกั เรียนสนทนาซักถามครู และศึกษาเพ่ิมเติมเก่ียวกบั การเคลื่อนท่ีของอนภุ าคใน

สนามแม่เหล็ก จากหนงั สอื เรียนรายวิชาฟิสิกส์พน้ื ฐาน ใบความร้ทู ี่ 9 และแบบฝึกทักษะท่ี 9 เรือ่ ง การ
เคลอ่ื นที่ของอนุภาคในสนามแม่เหลก็ (นกั เรยี นใช้คุณธรรมค่านิยม 12 ประการ : มีสตริ ู้ตัว รู้คดิ ร้ทู า)

ข้ันที่ 5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation)
5.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน (เงื่อนไขคุณธรรม : นักเรียนมีความซ่อื สัตย์

ขยันหมัน่ เพียร มคี วามรบั ผิดชอบต่องานท่ไี ด้รับมอบหมาย)
5.2 ประเมินจากการทาใบงานท่ี 9 และแบบฝึกทักษะท่ี 9 เรื่อง การเคลื่อนทีข่ องอนภุ าคใน

สนามแมเ่ หลก็ (เงื่อนไขความรู้ : นกั เรยี นมคี วามรอบรู้ รอบคอบ สามารถนาความรู้มาประยุกต์ใช้ได้)

6. นวตั กรรมการศกึ ษา
6.1 ส่อื และอุปกรณก์ ารเรียนรู้
- หนังสอื เรียนรายวชิ า ฟิสกิ ส์พ้ืนฐาน ชนั้ ม. 4-6
- ใบความรู้ท่ี 9 เร่ือง การเคลื่อนท่ขี องอนุภาคในสนามแม่เหลก็
- ใบงานท่ี 9 เรือ่ ง การเคล่ือนท่ีของอนุภาคในสนามแม่เหล็ก
- แบบฝึกทักษะท่ี 9 เรอื่ ง การเคลอ่ื นที่ของอนุภาคในสนามแม่เหล็ก
- PowerPoint เร่ือง สนามของแรง
- สอื่ มัลติมเิ ดยี

6.2 แหล่งเรียนรู้
- ห้องสมดุ โรงเรยี น
- หนังสอื คมั ภีรฟ์ ิสิกส์โอเน็ต ม. 4 – 5 – 6
- ตะลยุ โจทย์ใหม่ วทิ ยาศาสตร์ฟสิ ิกส์ ม.ตน้
- http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/71/1/physics1.htm
- http://202.28.94.55/web/322103/2551/work1/g58/page.htm

7. การวัดและประเมินผล

การวดั ผล วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
ประเมนิ ผลดา้ น ใบงานที่ 9 เร่ือง การเคลือ่ นที่ ตอบคาถามถูกต้อง
ของอนภุ าคในสนามแม่เหลก็ รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป
1.ด้านความรคู้ วาม วดั จากการตอบคาถามใบงานท่ี 9
แบบฝึกทกั ษะท่ี 9 เร่อื ง การ ตอบคาถามถูกต้อง
เขา้ ใจ (K) เรอ่ื ง การเคลอ่ื นท่ีของอนภุ าคใน เคล่ือนที่ของอนภุ าคใน รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
สนามแม่เหล็ก
สนามแม่เหลก็ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ได้คะแนนในระดับ
เรียนรู้รายบุคคล 2 ขึ้นไป
2. ดา้ นทักษะ วัดจากการตอบคาถามแบบฝกึ

กระบวนการ (P) ทักษะท่ี 9 เรอื่ ง การเคลือ่ นที่ของ

อนภุ าคในสนามแมเ่ หลก็

3. ด้านคุณลักษณะ การสังเกตพฤติกรรม

ทพ่ี ึงประสงค์ (A)

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 80-100% ให้ ดีมาก
ระดับคะแนน 70-79% ให้ ดี
ระดับคะแนน 60-69% ให้ ปานกลาง
ระดับคะแนน 50-59 % ให้ พอใช้
ระดบั คะแนน 0 - 49% ให้ ปรบั ปรุง
ระดับคะแนน

แบบประเมินพฤตกิ รรมหลังเรยี น

รายการประเมิน คาอธบิ ายคณุ ภาพ
1. ความสนใจเรียน
ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
2. ความรับผิดชอบ
มคี วามกระตือรอื รน้ ใน มีความกระตอื รอื ร้นใน มคี วามกระตือรือรน้ ใน มีความกระตอื รือร้นใน
3. กลา้ แสดงออก
4. มรี ะเบยี บวนิ ยั การเรยี นดีมาก การเรยี นดีมากแตไ่ ม่ การเรยี นดีและสมา่ เสมอ การเรยี นดแี ตไ่ ม่
5. มีมนษุ ยส์ มั พันธท์ ด่ี ี
สมา่ เสมอ สมา่ เสมอ

ทางานท่ีไดร้ บั ทางานท่ีได้รับ ทางานทีไ่ ดร้ ับ ทางานท่ไี ด้รับ

มอบหมายดี มี มอบหมายดี มี มอบหมายดี มีความถกู มอบหมายพอใช้ มี

ความถูกตอ้ ง ตรง ความถกู ตอ้ ง ตอ้ งเป็นบางครง้ั ความถูกตอ้ งบ้าง

เวลา

กลา้ ตดั สนิ ใจแสดง กลา้ ตดั สนิ ใจแสดง กล้าตัดสนิ ใจแสดงความ ไมก่ ลา้ ตัดสินใจแสดง

ความคิดเหน็ ดีมาก ความคดิ เหน็ ดี คิดเหน็ เปน็ บางครั้ง ความคดิ เหน็ เปน็

ทางานเป็นระเบยี บ ทางานเปน็ ระเบยี บ ทางานเป็นระเบยี บแต่ ทางานไม่เปน็ ระเบยี บ

และถกู ต้องหมด และถูกตอ้ งบ้าง ไม่ถูกต้องบา้ ง และไม่ถกู ตอ้ งบ้าง

ชว่ ยเหลอื เพื่อนดมี าก ชว่ ยเหลือเพอ่ื นเปน็ ช่วยเหลือเพอ่ื นเป็น ไมช่ ่วยเหลอื เพื่อนเปน็

และพดู จาไพเราะ บางคร้งั และพูดจา บางครงั้ และพูดจาไม่ บางครง้ั และพูดจาไม่

ไพเราะ ไพเราะ ไพเราะ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้
5-8 ปรบั ปรงุ

8. การใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การจัดการเรียนรู้
8.1 ผู้สอนใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ประเด็น พอประมาณ มีเหตุผลที่ดี ภมู คิ ุ้มกนั ในตัวท่ดี ี

เนอ้ื หา - วิเคราะหห์ ลักสตู ร เน้ือหา - จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนให้ - มกี ารวางแผนและ

ออกแบบและจดั กิจกรรมให้ บรรลมุ าตรฐาน ผลการเรียนรู้ เตรยี มการสอน เพอื่ จัด

สอดคล้องกบั มาตรฐาน ผลการ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามท่ี กิจกรรมการเรยี นรูไ้ ด้ตรง

เรียนรู้ หลักสตู รทีก่ าหนด ตามแผนการจัดการเรยี นรู้

เวลา - จดั กจิ กรรมการเรียนการสอน - สอดคลอ้ งกบั รูปแบบกจิ กรรม - สามารถยดื หยนุ่ เวลาในแต่

บรรลตุ วั ช้ีวัด นกั เรียนปฏิบตั ิ หรือวธิ ีสอน ละกิจกรรมรวมถึงการสืบค้น

กิจกรรมไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ นอกเวลา

และเสรจ็ ตามเวลาท่ีกาหนด

สอื่ /แหล่ง - จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้ - เลือกใช้ส่ือไดเ้ หมาะสมกับผล - ครเู ตรยี มสื่อการสอนหรอื

เรียนรู้ ข้อมลู จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ และ การเรยี นรู้ เนอ้ื หา สาระการ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่

เตรียมใบความรู้ ใบงานให้ เรยี นรู้ เพื่อให้การจดั กิจกรรมการ สามารถให้ผู้อน่ื สอนแทนได้

พอเหมาะกับนกั เรียน เรียนร้บู รรลผุ ลตามจุดประสงค์ ในกรณีที่ไมเ่ ปน็ ไปตามแผน

วิธสี อน/ - เลือกวธิ ีสอนโดยการ - สอดคล้องกบั ความสามารถของ - มวี ิธกี ารสอนทหี่ ลากหลาย

กจิ กรรม สืบคน้ อภิปราย นาเสนอ ซง่ึ ผเู้ รียนและชน้ิ งานมีคุณภาพ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม

เหมาะสมกบั ความสามารถของ สภาพการณ์

ผูเ้ รยี นและใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรม

ได้เสร็จตามเวลา

การวัดผล - กาหนดเกณฑก์ ารวดั ผล - การวัดผลและประเมินผลต้อง - วางแผนตดิ ตาม

ประเมนิ ผล ประเมินผลให้สอดคล้องกับภาระ สอดคลอ้ งกับมาตรฐานและผล ประเมินผลการทางานของ

งานและผลการเรียนรู้ การเรียนรขู้ องหลักสูตร นกั เรยี นเป็นระยะๆอยา่ ง

ตอ่ เนอื่ ง

เงอ่ื นไขความรู้ - ครมู ีความรูใ้ นหลักสูตร เน้ือหาสาระ และกจิ กรรมการจัดการเรียนการสอน

- มีความร้ใู นการวิเคราะหผ์ ู้เรียน และรศู้ กั ยภาพของนกั เรยี น

- มีความรแู้ ละใช้สือ่ ในการจดั การเรียนการสอน

เง่ือนไข - มีความรบั ผิดชอบในการปฏบิ ัติหนา้ ทสี่ อน เข้าสอนตรงเวลา ปฏบิ ัติหน้าทส่ี อนเต็มเวลา เตรยี มการ

คุณธรรม สอน และใบความรู้/ใบงานประกอบการสอนลว่ งหนา้

- มคี วามเมตตา ให้ความเสมอภาค และยุติธรรมกบั นกั เรียนทุกคน

- มีความอดทน เสยี สละ ใฝร่ ู้

8.2 ผูเ้ รยี นมคี ุณลกั ษณะ “อยู่อยา่ งพอเพียง”

พอประมาณ มีเหตผุ ลทดี่ ี มภี ูมิคุ้มกันในตัวทด่ี ี

- นักเรียนรู้จกั บรหิ ารเวลาในการทา - มีความรู้ความเข้าใจในการ - มกี ารวางแผนในการสืบค้น
กิจกรรมในการเรียนการสอน เลอื กใช้เทคโนโลยใี นการ ขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ

- นกั เรยี นทากิจกรรมไดเ้ ต็มศักยภาพตนเอง สบื คน้ ขอ้ มูลและนาเสนอ - มีการวางแผนการทางานอย่าง

- ใช้สอื่ และแหล่งเรยี นร้ไู ด้เหมาะสมกบั - นาความรทู้ ่ีได้ไปปรับใชใ้ น รอบคอบดว้ ยความสามัคคจี นทา

กจิ กรรมการเรยี น การสอน ชีวิตประจาวัน ใหง้ านสาเร็จ

เงอ่ื นไขความรู้
- ความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับ การเคล่ือนทีข่ องอนภุ าคในสนามแม่เหลก็
- มีความรู้เกย่ี วกับการใช้เทคโนโลยใี นและแหลง่ การเรยี นร้เู พอ่ื การสืบคน้ ขอ้ มูล

เงือนไขคุณธรรม

- มคี วามรับผดิ ชอบในหน้าทไี่ ด้รบั มอบหมาย ทาช้ินงานด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง และเสรจ็ ตามเวลา

- มคี วามสามัคคใี นหมู่คณะ มวี ินัยเปน็ ผนู้ าและผตู้ ามท่ีดขี ณะปฏิบตั ิงานร่วมกัน
- ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยตามกระตอื รือรน้ สนใจ ตงั้ ใจ และใฝ่เรียนรู้

8.3 ผลลพั ธ์ KPA 4 มติ ิ ท่เี ก่ยี วข้องกบั การอยอู่ ย่างพอเพียง พร้อมต่อการเปล่ียนแปลงในดา้ นต่างๆ

ผลลัพธ์ สมดุลพร้อมต่อการเปล่ยี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ
ด้านความรู้
ด้านทกั ษะ ด้านวตั ถุ ด้านสงั คม ด้านส่งิ แวดล้อม ดา้ นวัฒนธรรม

ด้านค่านยิ ม - การใช้สื่อตา่ ง ๆ ในการ - นักเรยี นมคี วามรู้ - -

ศึกษาค้นควา้ และแก้ปัญหา เกีย่ วกับการวาง

เพ่ิมเติม แผนการทางาน

- ทักษะในการสืบคน้ ข้อมลู - นกั เรียนสามารถ - นกั เรยี นเลือก - มมี ารยาททีด่ ีในการ

- ทกั ษะการวเิ คราะห์ ทางานร่วมกบั ผู้อ่ืน แนวทางในการใช้ ทางานร่วมกับผู้อน่ื

แก้ปัญหา - ทักษะปฏสิ มั พันธ์ ทรพั ยากรธรรมช -

- ทักษะในการนาเสนอ กับบุคคลอนื่ าตเิ หมาะสม

ข้อมลู - ทกั ษะการฟงั ทดี่ ี ค้มุ ค่า

- ตระหนกั ถึงการใช้ - สามัคคี - - เหน็ ความสาคัญ

ประโยชน์ของส่ือ จาก - เออ้ื เฟือ้ เผ่ือแผ่ ของการทางานกลุ่ม

แหล่งเรียนรูต้ า่ ง ๆ อยา่ ง - ชว่ ยเหลือแบ่งปัน และยอมรบั ความ

คมุ้ ค่าและเกิดประโยชน์ - รบั ผิดชอบ คิดเหน็ ของคนอน่ื

สูงสุด - ตรงต่อเวลา

บนั ทึกหลงั การสอน

1. ผลการจัดการเรียนการสอน
1.1 การประเมินดา้ นความรู้

1.2 การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ

1.3 การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์

2. ปญั หาและอุปสรรค

3. แนวทางแกไ้ ข

ลงชื่อ
(นางสาวเอื้ออนุช เพียรขุนทด)
ครูผสู้ อนและบันทึก

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื
()

ใบความรูท้ ี่ 9
เรื่อง การเคลอ่ื นท่ีของอนุภาคใสนามแม่เหลก็

การเคลือ่ นที่ของอนภุ าคใสนามแม่เหล็ก

เมื่ออนภุ าคที่มีประจไุ ฟฟ้าเคลื่อนทเี่ ข้าไปในสนามแมเ่ หลก็ ปรากฏว่าทิศทางของอนภุ าคนจี้ ะเปลี่ยนไปจากเดิม
แสดงวา่ มีแรงเน่ืองจากสนามแม่เหล็กกระทาต่ออนุภาคทม่ี ปี ระจไุ ฟฟ้านี้

B B
x x x x x x x xFFx x x x x x x
x x x x xFx xFx x x x x x x x vq            

q vx x x x x x x x x x x x x x x 

xxxxxxxxxxxxxxx 
F 
xxxxxxxxxxxxxxx  F       
   FF      
       
        





xxxxxxxxxxxxxxx

รปู 1 อนุภาคทีม่ ีประจุ q เคล่ือนทเี่ ข้าไปในบริเวณทม่ี สี นามแมเ่ หล็ก

เมื่อ x หมายความว่า ทศิ ของสนามแมเ่ หล็ก  พงุ่ ตงั้ ฉากเข้าหาหนา้ กระดาษ
 หมายความวา่ ทิศของสนามแม่เหลก็ B พ่งุ ต้ังฉากออกจากหน้ากระดาษ
B

กาหนดให้อนุภาคมวล m มีประจุไฟฟ้า q เคล่ือนท่ีด้วยความเร็ว v เข้าไปในสนามแม่เหล็ก 
ปรากฏวา่ เกิดแรง F กระทาตอ่ ประจุเนื่องจากสนามแมเ่ หลก็ ซ่ึงอาจหาความสมั พนั ธไ์ ดจ้ าก B

F = q v x B

จากการ cross vector ไดว้ า่

F = qvBsin

เมื่อ F คือ แรงทีก่ ระทาต่อประจุ q มหี นว่ ยเป็น นวิ ตนั ( N )
q
v คอื ประจุไฟฟ้าบนอนุภาคท่ีเคลื่อนทผ่ี า่ นสนามแม่เหล็กมหี น่วยเป็น คลู อมบ์ ( C )
B
คือ ความเรว็ ของอนุภาค มีหนว่ ยเปน็ เมตรต่อวนิ าที ( m/s )

คือ สนามแม่เหลก็  มีหน่วยเปน็ เทสลา ( T )
 B
คอื มมุ ระหวา่ ง v กบั

เมื่ออนภุ าคทม่ี ีประจุไฟฟ้าเคล่ือนที่ในสนามแมเ่ หลก็ อาจแบ่งแนวการเคล่ือนท่ไี ด้ 3 ลักษณะดังนี้
1. เมื่ออนภุ าคทม่ี ีประจุเคลอ่ื นที่ตามทิศสนามแมเ่ หลก็ หรอื สวนทางกลับสนามแม่

เหล็ก (  = 0 หรือ  = 180 ) จะไม่เกดิ แรงกระทาต่ออนุภาคนี้ ( F = 0 ) ทางเดนิ ของอนุภาคเปน็
เส้นตรงด้วยความเรว็ คงที่ ดงั สมการตอ่ ไปน้ี

จาก F = qvBsin
จะไดว้ ่า F = qvBsin 0 ( sin 0= 0 )
F = 0
หรือ F = qvBsin 180 ( sin 180 = 0 )
F = 0

q

q

รปู 2 แนวการเคล่ือนท่ีของประจไุ ฟฟ้าเคล่อื นทีใ่ นทิศขนานกบั สนามแม่เหล็ก

2. เม่อื อนุภาคท่ีมีประจไุ ฟฟ้าเคลื่อนท่ตี ั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก ( = 90 ) แรงกระทาจะมีค่าสูงสุด
และทิศของแรงท่ีกระทาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจะมีทิศตั้งฉากกับกับทิศการเคลื่อนที่ตลอดเวลาจึงมีผลให้
อนภุ าคเคลอื่ นทเ่ี ป็นวงกลมหรอื สว่ นหน่ึงของวงกลมดว้ ยอตั ราเรว็ คงที่

จาก F = qvBsin
จะไดว้ า่ F = qvBsin 90 , เมอ่ื ( sin 90= 1 )
 F = qvB

x x x x Fx x x x x Bx x x x x x
x x x xFx x x x x x x x x x x
FF

xxxxxxxxxxxxxxx

q vx x x x x x x x x x x x x x x

xxxxxxxxxxxxxxx

xxxxxxxxxxxxxxx

รปู 3 แนวการเคลอื่ นท่ีของประจุไฟฟา้ ผา่ นสนามแม่เหล็กในทศิ ตง้ั ฉากกบั สนามแม่เหลก็

3. เมื่ออนภุ าคท่มี ปี ระจไุ ฟฟา้ เคลอื่ นทีท่ ามมุ  กบั สนามแมเ่ หล็ก จะได้ F=qvBsin โ ด ย

เกิดแรงท่ีกระทาต่ออนุภาคมีมุม  กับแนวการเคลื่อนท่ีของอนุภาคท่ีมีประจุเป็นผลให้ การเคลื่อนท่ีของ
อนุภาคท่ีมีประจจุ ะเป็นเกลียว

รปู 4 แนวการเคลอื่ นทีข่ องประจไุ ฟฟา้ ผ่านสนามแมเ่ หลก็ ในทิศทามมุ  กับสนามแมเ่ หลก็

ตัวอย่าง อิเล็กตรอนว่ิงด้วยความเร็ว 106 เมตรต่อวินาที เข้าไปในทิศต้ังฉากกับสนามแม่เหล็ก

สมา่ เสมอ 10-2 T เมอ่ื อิเลก็ ตรอนมปี ระจุ –1.6x10-19 C จงหาแรงท่สี นามแม่เหลก็ กระทาต่ออเิ ล็กตรอน

วิธีทา สิง่ ท่ีทราบค่าคอื q = 1.6x10-19 C , v = 106 m/s , B = 10-2 T

จาก FB = qvBsin

FB = (1.6x10-19)(106)(10-2)

 FB = 1.6x10-15 N

ตอบ แรงทส่ี นามแม่เหล็กกระทาต่ออเิ ล็กตรอนเท่ากบั 1.6x10-15 นวิ ตัน

ใบงานท่ี 9

วิชา ฟสิ กิ สพ์ ้ืนฐาน รหัสวชิ า ว 30101 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4

เรอื่ ง การเคล่ือนท่ีของอนุภาคใสนามแมเ่ หล็ก เวลา 2 คาบ

ชื่อ.....................................................................................ชนั้ ม. 4/.............เลขท่ี......................

คาชี้แจง เตมิ ข้อความหรือความหมายลงในชอ่ งวา่ งให้สมบูรณ์
1. แนวการเคลอ่ื นที่ของอนุภาคท่มี ีประจไุ ฟฟ้าเคล่ือนทใี่ นสนามแมเ่ หล็ก แบ่งไดเ้ ปน็ กี่ลักษณะ ได้แก่อะไรบ้าง
จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. จงบอกประโยชนข์ องการเบีย่ งเบนลาอเิ ล็กตรอนในสนามแม่เหล็ก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จงอธบิ ายหลักการท่ีเกี่ยวกับผลของสนามแมเ่ หล็กต่อการเคล่ือนท่ีของลาอิเล็กตรอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบฝกึ ทกั ษะที่ 9

วิชา ฟิสิกสพ์ ้นื ฐาน รหสั วิชา ว 30101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

เรอื่ ง การเคลอื่ นที่ของอนุภาคใสนามแม่เหลก็ เวลา 2 คาบ

ช่ือ.....................................................................................ช้ัน ม. 4/.............เลขท.ี่ .....................

คาชแ้ี จง เตมิ ขอ้ ความหรือความหมายลงในช่องวา่ งให้สมบูรณ์
1. อิเลก็ ตรอนวง่ิ ดว้ ยความเร็ว 106 เมตรตอ่ วินาที เข้าไปในสนามแมเ่ หล็กสม่าเสมอ 10-3 เทสลา

โดยทามุม 53 ตอ่ กัน จงหาแรงทีส่ นามแมเ่ หล็กกระทาต่ออเิ ล็กตรอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. อเิ ลก็ ตรอนว่ิงเขา้ ส่บู รเิ วณท่มี สี นามแมเ่ หล็กและสนามไฟฟ้าต้ังฉากกัน โดยมีทิศของการเคลือ่ น

ท่ีต้งั ฉากกบั สนามแมเ่ หล็กและสนามไฟฟ้า ถา้ ความเขม้ ของสนามแมเ่ หลก็ และสนามไฟฟา้ เทา่ กบั 2x10-4

เทสลาและ 4x102 โวลตต์ อ่ เมตร ตามลาดับ จงหาอัตราเรว็ ของอเิ ลก็ ตรอนท่ีสามารถเคล่ือนท่ใี นบริเวณนี้ได้

โดยไมเ่ บีย่ งเบนไปจากเดิม

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี 9

วิชา ฟสิ ิกสพ์ ืน้ ฐาน รหัสวิชา ว 30101 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
เวลา 2 คาบ
เร่ือง การเคลือ่ นท่ีของอนุภาคใสนามแม่เหลก็

คาชแี้ จง เติมขอ้ ความหรือความหมายลงในช่องวา่ งใหส้ มบูรณ์

1. อเิ ลก็ ตรอนวิ่งด้วยความเรว็ 106 เมตรต่อวนิ าที เข้าไปในสนามแมเ่ หลก็ สมา่ เสมอ 10-3 เทสลา

โดยทามมุ 53 ต่อกัน จงหาแรงที่สนามแมเ่ หลก็ กระทาต่ออเิ ล็กตรอน

วิธีทา สิ่งทที่ ราบค่าคือ q = 1.6x10-19 C , v = 106 m/s , B = 10-2 T

จาก FB = qvBsin

FB = (1.6x10-19)(106)(10-3)( sin 53)
FB = (1.6x10-19)(106)(10-3)( 4/5)

 FB = 1.28x10-16 N

ตอบ แรงทีส่ นามแม่เหล็กกระทาต่ออเิ ล็กตรอนเทา่ กับ 1.28x10-16 นวิ ตนั

2. อิเล็กตรอนวิ่งเขา้ สบู่ รเิ วณท่ีมสี นามแมเ่ หลก็ และสนามไฟฟา้ ตั้งฉากกนั โดยมีทิศของการเคลือ่ น

ท่ตี ้ังฉากกบั สนามแมเ่ หล็กและสนามไฟฟ้า ถ้าความเขม้ ของสนามแม่เหลก็ และสนามไฟฟา้ เท่ากบั 2x10-4

เทสลาและ 4x102 โวลตต์ ่อเมตร ตามลาดบั จงหาอัตราเรว็ ของอิเล็กตรอนทสี่ ามารถเคล่ือนทใ่ี นบรเิ วณนี้ได้

โดยไม่เบย่ี งเบนไปจากเดิม

วิธีทา แสดงว่า อิเล็กตรอนถูกแรงกระทา 2 แรง คือแรงจากสนามแม่เหล็กและแรงจากสนามไฟฟา้

แลว้ เคล่อื นท่เี ป็นเสน้ ตรงแนวเดิม แสดงวา่ ผลรวมของแรงทงั้ สองทก่ี ระทาต่ออเิ ล็กตรอนเปน็ ศูนย์

จาก F = 0
FB = FE
qvB = qE

จะไดว้ า่ v = E = 4x102 = 2x106 m/s
B 2x10-4

ตอบ อัตราเรว็ ของอิเล็กตรอน มีคา่ 2 x 106 เมตรตอ่ วินาที


Click to View FlipBook Version