The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สถานการณ์โลกในยุคปัจจุบันน.หน่วยที่ 1 docx

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wichooda jinda, 2020-03-27 05:49:44

สถานการณ์โลกในยุคปัจจุบันน.หน่วยที่ 1 docx

สถานการณ์โลกในยุคปัจจุบันน.หน่วยที่ 1 docx

เอกสารการสอน

เรอ่ื ง คลื่นการเปลย่ี นแปลงในกระแสโลก
………………………..

คลน่ื การเปลย่ี นแปลงของสังคมโลก
คล่ืนการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกต้ังแต่อดีตจนถงึ ปัจจุบัน แบ่ง

ออกไดเ้ ป็น 5 ชว่ ง ดังน้ี
คลนื่ ลกู ท่ี 1 “สังคมเกษตรกรรม”

ปจั จัยแหง่ ยุค คือ ทด่ี ิน ผนู้ ำทำงสงั คมหรือผู้นำแห่งยุค คอื ผกู้ มุ
อำนำจทหำรพพื่อปกปอองปจั จัย แลหหำปัจจัยใหม่ให้สังคม พปนนยุคท่พี ่อค้ำจห
พปนน มิตรกบั ทหำรพพ่ือผลปรหโยชน์ของตนพอง

กำรปฏิวัติพกษตรกรรมพมื่อ 10,000 ปี
ในช่วงปลำยยุคหินใหม่ มนุษย์ได้พปลีย่ นวิถีชวี ติ จำก
กำรพร่รอ่ น ลำ่ สตั ว์ แลหพก็บพืชผลไมป้ ำ่ พปนนอำหำร มำ
พปนน กำรพริ่มพพำหปลูกแลหพล้ียงสัตว์ ตั้งหมูบ่ ำ้ นอำศัย
อยูพ่ ปนนหลักแหลง่ อำรยธรรมพรม่ิ แรกของมนุษย์จงึ พริ่ม
ปรำกฏขน้ึ พม่ือรำว 3,000 ปกี ่อนคริสตกำลในดนิ แดนพมโสโปพตพมยี แลหที่

รำบลุม่ แมน่ ำ้ อันอดุ มสมบูรณ์
ในบรพิ วณตหวนั ออกกลำง
พทคโนโลยดี ำ้ นกำรชลปรหทำน
ชว่ ยพพม่ิ ผลผลิตทำงกำรพกษตร
ทำให้พมโสโปพตพมียพติบโตข้ึน
พปนน นครรฐั ท่พี จรญิ รงุ่ พรือง
ในขณหที่อยี ปิ ตพ์ ปนนอำณำจักร
ทมี่ ีอำนำจ กำรปรหดษิ ฐ์
ตัวอกั ษร แลหควำมพชื่อในพทพพจ้ำพปนน ลกั ษณหสำคัญอีกปรหกำรหน่ึงของ
อำรยธรรมของคลนื่ ลูกที่หนง่ึ ทำให้ผู้ปกครองซึ่งพปนน กษตั รยิ ์หรอื นกั นักบวช
มีอำนำจดุจพทพพจ้ำ สำมำรถควบคมุ แรงงำน แลหทำใหป้ รหชำชนอุทศิ ตน

พพื่อควำมย่งิ ใหญ่ของอำณำจักร พช่น กำรสร้ำงพรี ำมิด รวมท้ังกำรขยำย
อำนำจไปในบรพิ วณใกลพ้ คียงจนพปนนจักรวรรดใิ นพวลำต่อมำ

อำรยธรรมโลกยุคแรกยงั พกดิ ข้ึนในแถบท่ีรำบลุ่มแม่น้ำสินธุ
ปัจจุบันคือ ปรหพทศปำกสี ถำน แลหที่รำบล่มุ แม่น้ำพหลืองหรือแม่น้ำฮวงโห
ในปรหพทศจนี พมือ่ รำว 2,000 ปีกอ่ นครสิ ตกำ ลกำรชลปรหทำนแลหกำร
ค้ำขำยรหหว่ำงพมืองในลุ่มแม่น้ำสินธุแลหพมโสโปพตพมยี ชว่ ยใหอ้ ำรยธรรมลุ่ม
แม่นำ้ สนิ ธุหรอื อำรยธรรมฮำรัปปำพจริญรงุ่ พรือง ก่อนทจ่ี หถูกชนพผำ่ อำรยัน
จำกทำงพหนือรกุ รำน แลหขยำยอำณำพขตจำกลมุ่ แมน่ ำ้ สินธุสู่ลมุ่ แม่น้ำคงคำ
พรอ้ มท้ังนำรหบบวรรณห แลหศำสนำพรำหมณ์-ฮนิ ดู พขำ้ มำสู่อินพดีย สว่ น
อำรยธรรมจีนอยู่ในลักษณหโดดพดีย่ ว พนอื่ งจำกสภำพภูมศิ ำสตรท์ ี่
ปรหกอบดว้ ยพทือกพขำ ทหพลทรำย แลหมหำสมุทร ชำวจีนพรยี กดนิ แดนของ
ตนว่ำ “อำณำจักรกลำง” ซ่ึงหมำยถงึ โลกท่ีพปนนรหพบียบแลหควำมม่นั คง
ส่วนดินแดนอืน่ ท่ีรำยล้อมจีน คือชนชำติทป่ี ่ำพถอ่ื นแลหวุ่นวำย พช่นพดยี วกบั
พมโสโปพตพมยี แลหอยี ปิ ต์ ผู้ปกครองจนี ทรงอ้ำงตนว่ำพปนน “โอรสแห่ง
สวรรค์” ท่ีลงมำปกครองโลกมนษุ ย์

ขณหพดียวกันในแถบพมดพิ ตอพร
พนยี นไดพ้ กิดอำรยธรรมที่พจริญขน้ึ จำก
กำรคำ้ ขำย กำรหัตถกรรมแลหกำร
แสวงหำอำณำนิคมพมื่อรำว 1,000 ปี
ก่อนคริสตกำล ชำวฟนิ ิพชยี พดินพรอื ค้ำขำย
แลหตงั้ อำณำนิคมรอบทหพลพมดพิ ตอพร
พนยี น ต่อมำรำว 500 ปกี อ่ นคริสตกำล นครรฐั กรีกแลหอำณำนคิ มของพวก
กรีกในแถบทหพลพมดพิ ตอพรพนียน พอพธนสแ์ ลหนครรัฐอน่ื ๆ บนคำบสมทุ รกรกี
กลำยพปนนศูนย์กลำงของกำรศึกษำแลหศลิ ปวทิ ยำกำรทม่ี ีควำมแตกต่ำงกัน
แตก่ รีกมมี รดกทำงวัฒนธรรมร่วมกนั พชน่ ภำษำ ศลิ ปวทิ ยำกำร แลห

วรรณคดี จุดพดน่ ของนครรฐั พอพธนส์ คอื กำรปกครองแบบปรหชำธปิ ไตย
โดยตรง (direct democracy) ซงึ่ พกดิ ขนึ้ พปนนครัง้ แรกของโลก

ในสมัยคลื่นลกู ทีห่ นง่ึ ซ่ึงพปนน ยุคของกำรพกษตรกรรมแลหกำรค้ำขำย
นี้ โลกมีควำมสลบั ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในรำว 500 ปีก่อนครสิ ตกำลจนถึง ค.ศ.
500 นักปรหวัติศำสตร์พรยี กช่วงพวลำดังกลำ่ ววำ่ “ยคุ คลำสสิค” (Classical
Age) อำรยธรรมต่ำงๆ
โดยพฉพำหกรกี โรมนั
พปอรพ์ ซยี จนี แลหอินพดยี
พรม่ิ ขยำยตวั ออกไปอย่ำง
กว้ำงขวำงดว้ ยกำรทำ
สงครำมแลหยึดครองดินแดน ทำให้ในสมัยคลน่ื ลูกทีห่ นง่ึ ซ่งึ พปนนยุคของกำร
พกษตรกรรมแลหกำรคำ้ ขำยน้ี โลกมคี วำมสลบั ซบั ซอ้ นยิ่งข้ึน

คลื่นลูกที่ 2 “สังคมอตุ สาหกรรม”
ปจั จัยแหง่ ยคุ คือ ทุน พครื่องมอื
สำคญั ในยคุ น้ี คือ พครื่องจกั ร
พคร่ืองกลตำ่ งๆ หลงั จำกท่ีมีกำร
คิดค้นสร้ำงพครื่องจักรไอนำ้
โลกกพ็ ขำ้ สู่สังคมอุตสำหกรรม มี
กำรสรำ้ งถนน แลห
สำธำรณปู โภคตำ่ งๆ กำร

พดนิ ทำงไปมำหำสกู่ ันของคนมีมำกขน้ึ พน่ืองจำกกำรคมนำคมสหดวกข้ึน
ภำษำทอ้ งถ่ินพร่ิมมีบทบำทน้อยลง ในขณหที่ผู้คนหนั มำพรียนรู้ทีจ่ หใช้
ภำษำสำกล พพ่ือง่ำยแลหมีปรหสทิ ธผิ ลในส่ือสำรรหหวำ่ งกันมำกขึ้น
ยุคนีพ้ ปนนยคุ ท่ีทหำรจหซ่อนอยู่หลังนำยทุน พ่อค้ำ นกั ธุรกิจ

พร่ิมต้นจำกกำรปฏิวตั ิอตุ สำหกรรม
ซึง่ มภี ูมิหลงั มำจำก “ยคุ แห่งแสงสว่ำงทำง
ปัญญำ” (Age of Enlightenment) หรือ
“ยคุ แหง่ พหตุผล” (Age of Reason) ใน
คริสตศ์ ตวรรษที่ 1 8 ท่พี ัฒนำมำจำก “กำร
ปฏวิ ตั ทิ ำงวิทยำศำสตร์” (Scientific
Revolution) ทีพ่ กดิ ข้ึนกอ่ นหน้ำนี้ ปญั ญำชนในยคุ นป้ี ฏิพสธควำมคิดควำม
พชอ่ื ท่พี กิดจำกศรัทธำในศำสนำของยุคกลำง นิยมกำรค้นหำควำมจริงโดย
หลักของพหตุแลหผล มองโลกในแงด่ ี พช่ือมนั่ ในควำมก้ำวหนำ้ ของมนุษย์ นำ
ควำมคดิ พชิงวิทยำศำสตร์ไปอธบิ ำยปัญหำสังคม จนนำไปสู่ควำมร้ทู ำงด้ำน
สังคมศำสตร์ นักปรชั ญำในยุคแห่งแสงสว่ำงทำงปัญญำที่สำคัญ ไดแ้ ก่
จอหน์ ลอ็ ค (Johnlock) วอลแตร์ (Vottaire) มองพตสกิพออ
(Montesquieu) แลหชอง ชำค รสุ โซ (Jean Jaque Rousseau)

ยุคจกั รวรรดินยิ มพกิดขึ้นไล่พล่ียกับกำรปฏิวตั ิอุตสำหกรรม โดยมไี อ
นำ้ แลหไฟฟำอ พปนนพลงั ขับ
พคลื่อนที่สำคัญ โดยมีอังกฤษ
แลหฝรัง่ พศสพปนน ผู้นำ ติดตำม
ด้วยสหรฐั อพมรกิ ำแลหพยอรมนี
ทม่ี ีควำมพจรญิ ร่งุ พรืองทำง
พศรษฐกิจ อนั ปรหกอบดว้ ยลัทธิ

อุตสำหกรรม ทนุ นยิ ม แลหชำตินยิ ม ในค.ศ. 1858 องั กฤษปกครองอินพดยี
อย่ำงพปนนทำงกำร หลังจำกครอบงำพศรษฐกิจของอนิ พดยี มำพปนนพวลำนำน ใน
ค.ศ. 1862 ฝร่งั พศสพขำ้ ครอบครองอนิ โดจีนโดยพรม่ิ จำกกำรยึดครอง
พวียดนำมตอนใต้ รหหว่ำง ค.ศ.1884-1885 มหำอำนำจจักรวรรดนิ ยิ ม
พบปหกนั ที่กรงุ พบอรล์ นิ พพ่ือตกลงแบง่ แอฟริกำออกพปนนส่วนๆ โดยไม่สนใจ
สิทธิของชนพื้นพมือง ใน ค.ศ. 1898 สหรฐั อพมริกำทำสงครำมกบั สพปน ได้
ครอบครองควิ บำแลหฟิลิปปินส์ แลหก้ำวขึน้ พปนน มหำอำนำจรหดบั โลก มผี ล
ตอ่ กำรพปลย่ี นแปลงศูนย์อำนำจแลหศนู ย์กลำงกำรพจริญพติบโตทำงพศรษฐกิจ
โดยข้ำมฝำกมหำสมุทรแอตแลนตกิ มำสหรฐั อพมริกำ

กำรปฏวิ ัติอุตสำหกรรม (Industrial Revolution) ตอนกลำง
ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 18 นบั พปนน พหตุกำรณ์สำคัญทำงพศรษฐกจิ สงั คม แลห
กำรพมืองของโลก กำรปฏวิ ตั ิอุตสำหกรรมได้นำไปสกู่ ำรให้ควำมสำคญั ใน

พร่ืองผลติ ผลแลหปรหสิทธภิ ำพของส่งิ ท่ีพรียกกว่ำ
“กำรทำลำยทส่ี ร้ำงสรรค์” ซง่ึ นำมำซ่ึงปัญหำ
ตำ่ งๆ หลำยปรหกำร ขณหพดียวกันกใ็ ห้ควำม
สหดวกสบำยแลหควำมพจริญกำ้ วหนำ้ แกม่ นุษย์
จวบจนทุกวนั น้ี แบบแผนกำรทำงำนในโรงงำน
ยงั พข้ำมำแทนท่ีอตุ สำหกรรมในครัวพรอื น (Domeotic System) ซึ่งตอ้ งนำ
งำนมำสง่ ให้แรงงำน อนั ทำให้รปู แบบของสนิ คำ้ แรงงำน แลหสถำนที่ทำงำน

พปลย่ี นแปลงไป โดยอำศยั พลังงำนแลหพทคโนโลยีใหม่ๆ อำทิ ถ่ำนหิน แลห
ไอนำ้ ในช่วงกำรปฏวิ ัตอิ ุตสำหกรรมครัง้ แรก มำพปนนพลังงำนไฟฟำอ พคมี แลห
น้ำมันในชว่ งปฏิวัติอตุ สำหกรรมครั้งที่ 2 รวมท้งั กำรปรหดิษฐค์ ดิ ค้น วทิ ยุ
โทรพลข โทรศพั ท์ แม้กรหทง่ั รหบบอิพล็กทรอนกิ ส์ในปจั จุบัน กำรปฏวิ ัติ
อุตสำหกรรมทีพ่ ปลย่ี นแปลงต่อรหบบกำรทำงำนสง่ ผลกรหทบต่อชีวติ มนุษย์
แทบทุกด้ำน

คล่นื ลูกท่ี 3 “สงั คมแห่งข้อมูล”
ปัจจัยแห่งยคุ คือข้อมูล พครื่องมอื แห่งยุค คือ IT สงิ่ ตำ่ งๆ ในยคุ น้ี

พปล่ยี นแปลงอย่ำงรวดพร็ว ผทู้ ี่พขำ้ ถึงข้อมูลกอ่ นจหได้พปรียบในกำรแข่งขนั
ตัวอยำ่ งงำ่ ยๆ พช่นใครที่ร้กู ่อนวำ่ ถนนจหตัดไปทำงไหน กจ็ หไปกว้ำนซื้อท่ีดนิ
แถบน้ันพพื่อพกง็ กำไร ซงึ่ ผลตอบแทนสูงกวำ่ กำรลงทุนทำธุรกจิ แบบดั้งพดิม
หลำยพทำ่ ตวั พสียอกี หรอื กำรท่ี Microsoft พตบิ โตแซงหน้ำ GE แลห บรษิ ทั
รถยนต์พคร่อื งจกั รยักษใ์ หญ่ในพวลำพพยี งไม่กปี่ ี พปนน ตน้

พปนนยคุ สมัยแห่งพทคโนโลยีรหดบั สูง พปนนคลื่นลูกใหม่ซึ่งแทนทค่ี ลน่ื
ลกู พก่ำท่ีกำลงั มีอทิ ธิพลต่อสงั คม พศรษฐกจิ แลหกำรพมืองของโลกปัจจุบัน
พร่ิมด้วยกำรปฏิวตั ิอุตสำหกรรมพหลก็ กล้ำ รถยนต์ แลหพครื่องบนิ ซงึ่ ขยำยตวั
พต็มทห่ี ลังสงครำมโลกคร้งั ที่ 2 รหหวำ่ ง ค.ศ. 1950-1970 ทำ่ มกลำง
ควำมขดั แย้งในยคุ สงครำมพย็น (ค.ศ. 1945-1991) แลหกำรปลดปลอ่ ย
ปรหพทศอำณำนคิ มต่ำงๆ ใหพ้ อกรำช หลำยปรหพทศพจริญข้ึนอยำ่ งรวดพร็ว
ทำ่ มกลำงพศรษฐกจิ โลกยุคโลกำวัตน์ทีต่ อ้ งพ่งึ พำกนั แลหกนั มำกกวำ่ แต่ก่อน
กำรล่มสลำยของคำ่ ยสังคมนิยมนบั พปนนจุดส้นิ สดุ ของสงครำมพยน็ ซ่ึงพกดิ ข้นึ
ไลพ่ ลี่ยกบั กำรปฏิวัตอิ ุตสำหกรรมครั้งท่ี 3 ซึง่ ไดแ้ ก่ รหบบคอมพิวพตอร์
สำรสนพทศ แต่นอกจำกกรหแสโลกำภวิ ัตน์แลว้ กำรก่อกำรร้ำยก็แพร่ขยำย
มำกขึ้นพชน่ กันในช่วงปลำยคริสต์ศตวรรษที่ 20 กำรก่อกำรร้ำยพปนน รูปแบบ
สงครำมท่พี ปดิ โอกำสให้กลุ่มคนจำนวนน้อยทีม่ ีอุดมกำรณแ์ น่วแน่ พข้ำโจมตี
ศนู ย์กลำงของชำติท่ีมอี ำนำจ แตม่ ีอุดมกำรณต์ ่ำงกนั ดงั พช่น กรณพี หตุกำรณ์
โศกนำฏกรรม 9/11 ท่ีอำคำรพวลิ ด์พทรดพ์ ซนพตอร์ ในนครนิวยอร์ก ถูกโจมตี
พมอ่ื วันท่ี 11 กันยำยน ค.ศ. 2001

ญป่ี ่นุ ฟื้นตวั ทำงพศรษฐกจิ ภำยหลังสงครำมโลกคร้ังที่ 2 ด้วยกำร
ผลติ สินค้ำอปุ โภคบรโิ ภค (Consumer Goods) แทนยโุ รปตหวันตกแลห
สหรัฐอพมริกำ ซ่งึ หันไปผลิตสนิ ค้ำปรหพภททุน (Capital Goods) ทใ่ี ช้
พทคโนโลยีรหดบั สูงทีซ่ บั ซ้อนมำกข้นึ พร่ือยๆ ต่อมำแรงงำนรำคำถูกในญป่ี ่นุ ไม่

มีอกี ต่อไป ญปี่ นุ่ จงึ ปรับตวั ไปสกู่ ำรผลิตท่ีใช้พครื่องจักพพม่ิ ขึ้น (Capital -
intensive Production) แลหปรบั กำรผลิตจำกสินคำ้ อุปโภคบริโภคไปสู่
สินค้ำปรหพภททุน

ตอ่ มำปรหพทศแก๊งท้ังส่ี (Gang of Four) ได้แก่ สงิ คโปร์ พกำหลี
ไต้หวัน แลหฮ่องกง พขำ้ แทนที่ญีป่ ุ่นในกำรผลิตสินคำ้ อปุ โภคบริโภค แลห
พปลี่ยนกำรผลติ พพ่ือทดแทนกำรนำพข้ำ (Import Substitution
Industrialization) มำพปนน กำรผลติ พพื่อกำรส่งออก (Export – oriented
Industrialization) กลมุ่ ปรหพทศแก๊งท้งั ส่ีได้รับปรหโยชน์จำกจำกกำรลงทุน
ของบรรษัทรหหว่ำงปรหพทศแลหได้ก้ำวไปสกู่ ล่มุ ปรหพทศอุตสำหกรรมใหม่
(Asian Nics) แลหในที่สดุ พม่ืออัตรำคำ่ จ้ำงมรี ำคำสูงข้ึน ปรหพทศพหลำ่ น้ีจงึ ได้
ปรับพปลี่ยนมำส่กู ำรผลิตที่ใช้พคร่อื งจักรพพม่ิ ขน้ึ ในทศวรรษ 1980

คล่ืนลูกที่ 4 “สงั คมแห่งเครอื ข่าย”

ยุคของธรุ กจิ พครือขำ่ ย ปัจจบุ นั
ตำ่ งปรหพทศมำกมำยธรุ กจิ พครือขำ่ ยพปนนที่
ยอมรบั พนอ่ื งจำกพปนนธุรกิจท่พี ปิดโอกำสให้
คนทกุ รหดับชั้นพข้ำมำศึกษำแลหสำมำรถ
ปรหสบควำมสำพรจ็ ได้ทว่ั ถึงกัน ณ จุดน้ีพอง
ทท่ี ำใหผ้ ม มองดูธุรกจิ พครือข่ำย ในมมุ มอง
ใหมๆ่ มุมมองของกำรกรหจำยรำยได้

กำรกรหจำยรำยได้ของธุรกจิ พครือข่ำยน้นั ไม่ธรรมดำ อยู่ท่ีพจตนำ
ของผู้ก่อตงั้ ว่ำอยำกใหม้ กี ำรกรหจำยแบบพน้นทก่ี ลุ่มไหน กลุ่มผ้บู รโิ ภค หรอื
กลมุ่ นักขำย สว่ นใหญใ่ นช่วงแรกๆของกำรพปิดตวั ธุรกิจแนวๆน้ี มกั จหพปนน
ธรุ กจิ ที่พน้นพครอื ข่ำยนกั ขำยพพรำหตรงนัน้ พองจหทำให้ ผูก้ ่อตง้ั ไดร้ บั
ผลปรหโยชน์สูงมำกในรหดบั หนึ่ง แต่ก็พกิดกำรตดั รำคำพหมือนกำรขำยของ
แข่งกนั ขนึ้ แข่งกันให้มำกกว่ำ ให้กรหจำยกวำ่ จนสุดทำ้ ยถงึ ตอนน้ี ถงึ ท่สี ดุ
แล้วคอื กำรกรหจำยรำยไดท้ ่ี 60% ของรำคำสินคำ้ ให้ผทู้ พ่ี ข้ำร่วมธรุ กิจ
สว่ นตัวผมคดิ วำ่ หำกมำกกวำ่ นี้ สนิ ค้ำทีบ่ รโิ ภค รำคำจหไม่สมนำ้ สมพนื้อกบั
คุณภำพแล้วนั่นพอง จึงกลำ่ วได้วำ่ ชว่ งพวลำแหง่ กำรสู้รบปรบมือกนั พร่อื งของ
กำรแบง่ จำ่ ยผลปรหโยชนน์ ้นั หมดไปแล้ว

พรำรูก้ ันมำโดยตลอดวำ่ กำรสื่อสำรพปนน ปจั จยั สำคัญในกำรดำรงชวี ติ
ของมนษุ ย์มำแตโ่ บรำณ พพรำหกำรส่ือสำรทำให้คนมีควำมรู้แลหโลกทศั น์ท่ี
กว้ำงขวำงขนึ้ แลกพปลีย่ นแลหพฒั นำรว่ มกัน จนกลำยพปนนกรหบวนกำรท่ที ำ
ให้สงั คมพจรญิ กำ้ วหน้ำอยำ่ งไมห่ ยดุ ยง้ั จนมำถงึ ยุคแห่งขอ้ มูลขำ่ วสำรใน
ปจั จุบันท่กี ำรสอื่ สำรของมนษุ ย์ไมพ่ พยี งแค่แลกพปลีย่ นกันซง่ึ ๆหน้ำ แต่ยงั ไป
ไกลถึงกำรสอ่ื สำรผำ่ นดำวพทียมพพ่ือควำมรวดพร็วแลหกรหจำยให้ครอบคลุม
พื้นที่กวำ้ ง

พทคโนโลยที ำให้คนมีควำมอดทนน้อยลง พนื่องจำก ควำมรวดพร็วที่
ได้รับจำกพทคโนโลยสี ่งผลใหม้ นุษย์มี
ขดี จำกัดในกำรรอตำ่ ลง ขณหพดียวกัน
ทำให้มนษุ ย์มีช่องทำงพพอ่ื ชว่ ยอำนวย
ควำมสหดวกพพิม่ ขน้ึ แลหยังช่วย
ปรหหยดั พวลำไดม้ ำกกวำ่ ช่องทำงกำ
รสื่อสำรในรปู แบบอนื่ นอกจำกนี้

พทคโนโลยยี งั มขี อ้ พสียทีพ่ ปรียบพสมอื นดำบสองคม ขอ้ มูลบำงปรหพภทไม่มี
กำรกลัน่ กรองก่อนนำพสนอ อำจสง่ ผลใหผ้ รู้ ับสำรจำนวนมำกหลงพชอ่ื โดย
ขำดกำรพิจำรณำ จำกปรหโยชนใ์ นควำมสหดวกแลหรวดพร็วของพทคโนโลยี
สำรสนพทศ สง่ ผลใหส้ อ่ื มวลชนจำนวนมำก พลือกนำพสนอข้อมูลผ่ำนรหบบ
ดังกล่ำวมำกขึ้น

1. คอมพวิ พตอร์มีบทบำทสำคัญมำก พพรำหพปนน พครื่องมือท่ีจหรับ
แลหแปลงข้อมูลไดอ้ ย่ำงรวดพรว็ แลหไม่ค่อยมีข้อจำกดั แลหนำมำใชส้ อ่ื สำร
ถึงกันในพวลำอนั รวดพรว็ ทกุ มุมโลก จงึ พปนนพครอื่ งมือสำคญั ในกำรแพร่ข้อมลู
ข่ำวสำรในยุคโลกำภวิ ตั น์

2. กำรไหลบ่ำของข้อมลู ข่ำวสำร วทิ ยำศำสตร์แลหพทคโนโลยี
มสี ่วนชว่ ยให้พศรษฐกจิ แลหสังคมพจริญก้ำวหน้ำ ทำใหโ้ ลกตหวันตกมง่ั ค่งั
ร่ำรวย ซึง่ มผี ลทำใหพ้ กิดกำรวิจยั แลหพฒั นำ พพอ่ื ศึกษำคน้ หำข่ำวสำรทพ่ี ปนน
ปรหโยชนอ์ ยำ่ งไม่หยดุ ยงั้ ก่อใหพ้ กิดปรำกฏกำรณท์ ี่พรียกว่ำ กำรไหลบำ่ ของ
ขำ่ วสำรขอ้ มลู

3. กำรพพิ่มขน้ึ ของแรงงำนดำ้ นขำ่ วสำรขอ้ มลู จำนวนมำกขึ้น
แรงงำนพหล่ำน้ี ได้แก่ ผ้ทู อ่ี ยู่ในวงกำรศกึ ษำ กำรคมนำคม กำรพมิ พ์ กำร
โฆษณำ ปรหชำสมั พันธ์ สอื่ สำรมวลชนทกุ ปรหพภท กำรพงิน กำรบัญชี
รวมทงั้ อุตสำหกรรมผลิตคอมพิวพตอรห์ รอื ชิน้ ส่วนคอมพวิ พตอร์ แลหงำนที่
พกี่ยวกับกำรนำพทคโนโลยมี ำจัดกำรกบั ข่ำวสำรทกุ ชนดิ กล่ำวกันวำ่ ปัจจุบัน

ในอพมริกำมแี รงงำนท่ีทำงำนดำ้ นขำ่ วสำรมำกกวำ่ รอ้ ยลห 50 ในขณหท่ี
แรงงำนพกษตรแลหอตุ สำหกรรมลดลงมำกกว่ำรอ้ ยลห 25

4. ควำมสำคัญของสถำบนั วจิ ัยแลหพัฒนำ กำรแสวงหำควำมรู้
แลหค้นหำคำตอบ รวมทงั้ กำรคำดหมำย

5. ล่วงหนำ้ จึงมีควำมสำคญั ยิ่ง กำรวิจัยแลหพฒั นำกลำยพปนนกลไก
สำคญั ในกำรแสวงหำขอ้ มลู ข่ำวสำรหรอื ควำมรใู้ หมพ่ พอื่ ปรหโยชนต์ ่อกำร
วำงแผนแลหตดั สนิ ในของนักธุรกจิ แลหนกั บรหิ ำร ปรหพทศที่พจริญทั้งหลำย
จงึ มักให้ควำมสำคัญแกก่ ำรวจิ ัยแลหพฒั นำ แลหมีกำรสนบั สนุนหรอื ใหท้ นุ
แกส่ ถำบนั วิจัยแลหพัฒนำอย่ำงมำก

6. รหบบพศรษฐกจิ ปรหสำนพปนนหน่ึงพดยี ว ทำให้พรมแดนแต่ลห
ปรหพทศไม่อำจขวำงกนั้ พลังทำงพศรษฐกิจ ยังพปล่ียนแปลงรำกฐำนจำก
รหบบอุตสำหกรรม มำพปนน รหบบพศรษฐกิจแบบฐำนขอ้ มลู ข่ำวสำร
(Information based economy) ซึง่ พกย่ี วข้องโดยตรงกบั กรหบวนกำรผลติ
จดั กำร แลหพผยแพร่ขำ่ วสำร ข่ำวสำรกลำยพปนน สินค้ำปรหพภทหนึ่ง

7. ชมุ ชนมคี วำมใกลช้ ดิ กนั ยง่ิ ขน้ึ พทคโนโลยีขำ่ วสำรทำใหม้ นุษย์ซง่ึ
อยหู่ ำ่ งไกลกนั พปนน พนั ไมล์ หรืออยู่กันคนลหมุมโลก สำมำรถตดิ ตอ่ ส่อื สำร
พูดคยุ กันได้ มนุษยใ์ นยุคน้ีสำมำรถรบั รู้ขำ่ วสำรพหตกุ ำรณท์ ุกชนิดทีพ่ กิดข้ึน
ในดินแดนทีห่ ่ำงไกลออกไป ทำใหม้ ีโลกทัศน์กว้ำงขึ้นแลหมผี ลต่อแนวคดิ
พก่ยี วกบั ชุมชน หม่บู ำ้ น ปรหพทศทีพ่ ปลี่ยนไปพปนนชมุ ชนโลก มนุษย์ทุกคน
ยอ่ มตรหหนกั ดีว่ำพหตุกำรณ์ท่ีพกิดขนึ้ ณ จดุ ใดจุดหนึ่งของโลกอำจมี
ผลกรหทบต่อโลกหรอื มนุษย์ทั้งโลกได้

คล่ืนลูกท่ี 5 ยุคทรัพย์สินทางปัญญา
“ทรัพย์สนิ ทำงปัญญำ” พปน น
“สทิ ธทิ ำงกฎหมำย” ทม่ี ีอยู่พหนือ“ผลงำน
กำรสร้ำงสรรค์ทำงปัญญำของบุคคล (บุคคล
ธรรมดำหรอื นิติบคุ คล) รวมท้ังกำรปรหดิษฐ์
(Invention) กำรออกแบบผลิตภณั ฑ์ทำง
อุตสำหกรรม (Industrial Design) พครื่องหมำยกำรค้ำแลหบรกิ ำร (Trade
and Service Marks) สิง่ บ่งชี้ทำงภูมศิ ำสตร์ (Geographical Indicati
ons) ควำมลบั ทำงกำรคำ้ (Trade Secret) กำรปรับปรงุ พันธ์ุพชื ใหม่ (New
Plant Variety) แลหกำรแสดงออกซงึ่ ควำมคดิ (Expression of Idea) ทคี่ น
ทวั่ ไปรูจ้ ักกนั ในชื่อวำ่ “ลขิ สิทธ์ิ (Copyright)” ซง่ึ งำนส่วนใหญ่สำมำรถ
นำไปใชป้ รหโยชน์ในทำงอุตสำหกรรม พำณชิ ยกรรม หรือพกษตรกรรม

บรรณานุกรม
ไทยรัฐออนไลน์. ประโยชนไ์ ร้พรมแดน “โลกเสมือน” ทไี่ ม่พรอ้ ม.2552.
[ออนไลน์] เข้าถงึ ไดจ้ าก

https://www.thairath.co.th/content/25838. สบื คน้ 24
มีนาคม 2563.
ววิ ัฒนาการและโลกทัศนข์ องแนวคิดยคุ ใหม่.[ออนไลน์] พขำ้ ถึงได้จำก
[email protected]

สืบคน้ 24 มีนำคม 2563.
สยำมอำรยห.2555. คล่ืนกำรพปลี่ยนแปลงของโลก 5 ลกู คลน่ื . [ออนไลน์]
เขา้ ถึงไดจ้ าก

https://siamaraya.com/home/2012/% . สืบค้น 24 มีนำคม
2563.


Click to View FlipBook Version